ตอนที่แล้วบทที่ 6 มื้ออาหารและความใกล้ชิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 8 การค้าขายเพื่อเงิน

บทที่ 7 ความจริงที่โหดร้าย


ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาหลิวซี แต่สิ่งที่เขาได้ยินกลับเป็นเสียงตอบรับอัตโนมัติ:

“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาลองใหม่อีกครั้ง”

เสียงตอบรับอัตโนมัติทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วและพึมพำกับตัวเอง “แบตหมดหรือเปล่านะ? ออกไปข้างนอกก็ไม่รู้จักชาร์จแบต กลับมาต้องโดนบ่นแน่”

เขาวางโทรศัพท์ลง หยิบของที่ซื้อจากซูเปอร์มาร์เก็ตไปใส่ในตู้เย็นทีละชิ้น ก่อนจะกลับมานั่งที่โซฟาและรอหลิวซีกลับมา

ความกังวลที่เพิ่มขึ้น

เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ท้องฟ้าด้านนอกมืดสนิท ชายหนุ่มเริ่มไม่สบายใจ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหลายครั้ง แต่ลังเลจนไม่กล้ากดโทรออก ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหว เขาเปิดรายชื่อในโทรศัพท์และโทรหาเพื่อนสนิทของหลิวซี

“สวัสดีค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?” เสียงหญิงสาวดังมาจากอีกฝั่งสาย

“พวกเธอจะกลับกันเมื่อไหร่ครับ? ดึกแล้วนะ รีบกลับบ้านเถอะ” ชายหนุ่มถามด้วยความโล่งใจเมื่อโทรติด

“คุณพูดเรื่องอะไรคะ? หมายถึงอะไรรีบกลับบ้าน?” เสียงอีกฝั่งเต็มไปด้วยความสงสัย

ชายหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่เข้าใจ “ก็หลิวซีออกไปกับคุณไม่ใช่เหรอ? ผมหมายถึงให้พวกคุณรีบกลับมา”

หญิงสาวเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะตอบ “อ๋อ... อืม ฉันจะลองคุยกับหลิวซีดูนะคะ” จากนั้นเธอก็วางสายไปอย่างรวดเร็ว

ชายหนุ่มที่ยังอยากพูดคุยต่อทำได้เพียงถอนหายใจ วางโทรศัพท์ และนอนรอบนโซฟาโดยไม่รู้ตัว

เสียงรองเท้าส้นสูง

ขณะเคลิ้มหลับ ชายหนุ่มได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดัง “ตึก... ตึก...” เขาลืมตาขึ้นมองไปที่ประตู แต่พบว่ามันว่างเปล่า เสียงรองเท้าก็เงียบหายไป

เขาสะดุ้งและคิดว่าเป็นเพียงความฝัน จึงพยายามสลัดความง่วงและตั้งสติ แต่เมื่อมองไปที่ประตูอีกครั้ง เขาเห็นว่ามันปิดสนิทเหมือนเดิม

“ฝันไปจริง ๆ สินะ” เขาพึมพำพร้อมปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก

แต่ในขณะที่เขากำลังจะเดินไปล้างหน้า เสียงรองเท้าส้นสูงก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เสียงดูใกล้เข้ามา ชายหนุ่มตัวแข็งทื่อ เขาหันกลับไปมองที่ประตู และทันใดนั้นลูกบิดประตูก็ขยับ

การกลับมาของหลิวซี

ประตูเปิดออก เผยให้เห็นร่างของหลิวซียืนอยู่ที่หน้าประตู ชายหนุ่มถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะรีบหยิบรองเท้าแตะมาให้เธอ

“ใส่รองเท้าส้นสูงเดินทั้งคืน ต้องเมื่อยมากแน่ ๆ มาเปลี่ยนรองเท้าแตะเถอะ” เขาพูดพลางช่วยเธอถอดรองเท้าส้นสูงและเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะ หลิวซีนั่งลงและตอบเบา ๆ “ขอบคุณนะ วันนี้ฉันเหนื่อยจริง ๆ”

ชายหนุ่มมองเห็นว่าถุงน่องของหลิวซีมีรอยขาด เขาชี้ให้เธอเห็นและพูดว่า “รู้ตัวไหมว่าถุงน่องของคุณขาด?”

“ขาดก็ปล่อยให้มันขาดไป พรุ่งนี้ฉันค่อยซื้อใหม่” หลิวซีตอบพลางลุกขึ้นยืน เธอมองไปทางเขาและพูดต่อ “ฉันนึกว่านายกลับไปแล้วซะอีก”

“ผมไม่วางใจหรอกจนกว่าคุณจะกลับมาอย่างปลอดภัย” ชายหนุ่มพูดพร้อมเดินตามเธอเข้าไปในห้องนั่งเล่น

การปฏิเสธอย่างสุภาพ

“ฉันเหนื่อยแล้ว นายกลับไปก่อนเถอะ ฉันอยากนอนเร็ว” หลิวซีพูดพร้อมมองเขาด้วยแววตาจริงจัง

ชายหนุ่มพยายามต่อรอง “ดึกขนาดนี้แล้ว ผมจะกลับได้ยังไง?” เขาแสดงสีหน้าอ้อนวอนหวังจะได้อยู่ต่อ

หลิวซีที่กำลังจะโกรธกลับใจเย็นลง เธอถอนหายใจแล้วพูดว่า “งั้นก็นอนที่โซฟา ฉันจะไปนอนในห้องแล้ว”

ชายหนุ่มที่ได้ยินดังนั้นทำได้เพียงพยักหน้าอย่างอ่อนโยน ขณะที่หลิวซีเดินเข้าห้อง เธอปิดประตูและทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า

“ได้เลย ถ้ามีอะไรเรียกผมนะ” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะวิ่งกลับไปที่ห้องเพื่อหยิบผ้าห่มและปูเตียงเล็ก ๆ ในห้องนั่งเล่น

หลิวซีมองตามเขา เธอถอนหายใจเบา ๆ และกลับเข้าห้องของตัวเอง เมื่อประตูล็อกเรียบร้อย เธอถอดถุงน่องที่ฉีกขาดออกแล้วโยนลงถังขยะ

ถุงน่องที่ดูเหมือนจะขาดเพียงเล็กน้อย แต่ที่ต้นขากลับถูกดึงจนขาดออกมาอย่างชัดเจน ทำให้หลิวซียืนมองมันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์

การเผชิญหน้ากับความคิด

เธอนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง นิ่งเงียบและมองตัวเองในกระจก ใบหน้าที่งดงามแม้ไม่ได้แต่งหน้ากลับทำให้เธอหลุดเสียงหัวเราะเยาะตัวเองเบา ๆ พร้อมพูดพึมพำว่า “สวยไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย”

น้ำตาที่หลุดร่วงโดยไม่รู้ตัวถูกเช็ดออกอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู

“ผมสั่งกุ้งเครย์ฟิชมานะ อยากออกมากินด้วยกันไหม?” ชายหนุ่มพูดอย่างสดใสร่าเริง

หลิวซีรีบปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้น เธอพยายามปรับอารมณ์ให้ดูปกติก่อนจะเดินออกไป เธอตั้งใจจะพูดบางอย่างกับเขา

การพูดคุยในห้องนั่งเล่น

ชายหนุ่มวางกุ้งเครย์ฟิชที่แกะเปลือกแล้วลงบนจาน และพูดด้วยรอยยิ้ม “กินเยอะ ๆ นะ กุ้งเครย์ฟิชไม่ทำให้อ้วนนะ กินได้เต็มที่เลย”

หลิวซีหยิบกุ้งเครย์ฟิชใส่ปากแล้วเคี้ยว ก่อนจะเอ่ยถามว่า “ช่วงนี้งานคุณเป็นยังไงบ้าง? เงินเดือนขึ้นหรือเปล่า?”

คำถามนี้ทำให้ชายหนุ่มนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาก้มหน้าลงและตอบด้วยน้ำเสียงเบา ๆ “ขึ้นมานิดหน่อยครับ แต่ไม่เยอะนัก ตอนนี้รวมโบนัสก็ประมาณเดือนละ 9,000 หยวน”

“9,000 หยวนต่อเดือน... ในเมืองเซี่ยงไฮ้” หลิวซีถอนหายใจพร้อมก้มหน้าลง เธอไม่พูดอะไรต่อและเพียงกินกุ้งเครย์ฟิชเงียบ ๆ  ชายหนุ่มที่เห็นเธอนิ่งเงียบก็รู้สึกเจ็บปวดใจ เขาเงียบไปสักพักก่อนจะพูดว่า “ให้เวลาผมหน่อยนะ ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด ทุกสิ่งที่คนอื่นมี คุณจะต้องมีเหมือนกันในอนาคต”

หลิวซีพยักหน้าและตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “อย่าหักโหมจนเกินไปนะ” เธอเกือบจะพูดบางอย่าง

ออกมา แต่ตัดสินใจเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย

ชายหนุ่มหยิบบัตรธนาคารใบหนึ่งออกมาวางบนโต๊ะ “นี่เงิน 50,000 หยวน คุณเอาไปใช้ก่อนนะ ถ้าไม่พอค่อยบอกผม”

เสียง “ปัง!” ดังขึ้นเมื่อหลิวซีฟาดมือลงบนโต๊ะ เธอลุกขึ้นยืนและจ้องมองเขาด้วยความโกรธ “คุณคิดว่าฉันเป็นคนแบบไหน? ฉันมีมือมีเท้า ไม่จำเป็นต้องใช้เงินคุณ คุณกำลังดูถูกฉัน!”

ชายหนุ่มรีบอธิบายด้วยความตกใจ “ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น ผมแค่... อยากให้คุณใช้เงินที่ผมหามา”

หลิวซีมองเขาด้วยแววตาเย็นชา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ “กินเสร็จแล้วก็กลับไปเถอะ ฉันเหนื่อยและอยากพักผ่อน”

การจากลา

ชายหนุ่มมองหลิวซีที่เดินหายเข้าไปในห้องด้วยความรู้สึกผิด เขาพึมพำกับตัวเอง “แย่แล้ว... เธอโกรธจริง ๆ”

เขานั่งนิ่งอยู่สักพักก่อนจะเริ่มเก็บจานชามและทำความสะอาดบ้าน เขาถอนหายใจขณะเดินออกจากห้องพร้อมกับถุงขยะในมือ เขาปิดประตูเบา ๆ และเดินจากไปในความเงียบ

(จบบท)###

ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาหลิวซี แต่สิ่งที่เขาได้ยินกลับเป็นเสียงตอบรับอัตโนมัติ:

“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาลองใหม่อีกครั้ง”

เสียงตอบรับอัตโนมัติทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วและพึมพำกับตัวเอง “แบตหมดหรือเปล่านะ? ออกไปข้างนอกก็ไม่รู้จักชาร์จแบต กลับมาต้องโดนบ่นแน่”

เขาวางโทรศัพท์ลง หยิบของที่ซื้อจากซูเปอร์มาร์เก็ตไปใส่ในตู้เย็นทีละชิ้น ก่อนจะกลับมานั่งที่โซฟาและรอหลิวซีกลับมา

ความกังวลที่เพิ่มขึ้น

เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ท้องฟ้าด้านนอกมืดสนิท ชายหนุ่มเริ่มไม่สบายใจ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหลายครั้ง แต่ลังเลจนไม่กล้ากดโทรออก ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหว เขาเปิดรายชื่อในโทรศัพท์และโทรหาเพื่อนสนิทของหลิวซี

“สวัสดีค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?” เสียงหญิงสาวดังมาจากอีกฝั่งสาย

“พวกเธอจะกลับกันเมื่อไหร่ครับ? ดึกแล้วนะ รีบกลับบ้านเถอะ” ชายหนุ่มถามด้วยความโล่งใจเมื่อโทรติด

“คุณพูดเรื่องอะไรคะ? หมายถึงอะไรรีบกลับบ้าน?” เสียงอีกฝั่งเต็มไปด้วยความสงสัย

ชายหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่เข้าใจ “ก็หลิวซีออกไปกับคุณไม่ใช่เหรอ? ผมหมายถึงให้พวกคุณรีบกลับมา”

หญิงสาวเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะตอบ “อ๋อ... อืม ฉันจะลองคุยกับหลิวซีดูนะคะ” จากนั้นเธอก็วางสายไปอย่างรวดเร็ว

ชายหนุ่มที่ยังอยากพูดคุยต่อทำได้เพียงถอนหายใจ วางโทรศัพท์ และนอนรอบนโซฟาโดยไม่รู้ตัว

เสียงรองเท้าส้นสูง

ขณะเคลิ้มหลับ ชายหนุ่มได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดัง “ตึก... ตึก...” เขาลืมตาขึ้นมองไปที่ประตู แต่พบว่ามันว่างเปล่า เสียงรองเท้าก็เงียบหายไป

เขาสะดุ้งและคิดว่าเป็นเพียงความฝัน จึงพยายามสลัดความง่วงและตั้งสติ แต่เมื่อมองไปที่ประตูอีกครั้ง เขาเห็นว่ามันปิดสนิทเหมือนเดิม

“ฝันไปจริง ๆ สินะ” เขาพึมพำพร้อมปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก

แต่ในขณะที่เขากำลังจะเดินไปล้างหน้า เสียงรองเท้าส้นสูงก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เสียงดูใกล้เข้ามา ชายหนุ่มตัวแข็งทื่อ เขาหันกลับไปมองที่ประตู และทันใดนั้นลูกบิดประตูก็ขยับ

การกลับมาของหลิวซี

ประตูเปิดออก เผยให้เห็นร่างของหลิวซียืนอยู่ที่หน้าประตู ชายหนุ่มถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะรีบหยิบรองเท้าแตะมาให้เธอ

“ใส่รองเท้าส้นสูงเดินทั้งคืน ต้องเมื่อยมากแน่ ๆ มาเปลี่ยนรองเท้าแตะเถอะ” เขาพูดพลางช่วยเธอถอดรองเท้าส้นสูงและเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะ หลิวซีนั่งลงและตอบเบา ๆ “ขอบคุณนะ วันนี้ฉันเหนื่อยจริง ๆ”

ชายหนุ่มมองเห็นว่าถุงน่องของหลิวซีมีรอยขาด เขาชี้ให้เธอเห็นและพูดว่า “รู้ตัวไหมว่าถุงน่องของคุณขาด?”

“ขาดก็ปล่อยให้มันขาดไป พรุ่งนี้ฉันค่อยซื้อใหม่” หลิวซีตอบพลางลุกขึ้นยืน เธอมองไปทางเขาและพูดต่อ “ฉันนึกว่านายกลับไปแล้วซะอีก”

“ผมไม่วางใจหรอกจนกว่าคุณจะกลับมาอย่างปลอดภัย” ชายหนุ่มพูดพร้อมเดินตามเธอเข้าไปในห้องนั่งเล่น

การปฏิเสธอย่างสุภาพ

“ฉันเหนื่อยแล้ว นายกลับไปก่อนเถอะ ฉันอยากนอนเร็ว” หลิวซีพูดพร้อมมองเขาด้วยแววตาจริงจัง

ชายหนุ่มพยายามต่อรอง “ดึกขนาดนี้แล้ว ผมจะกลับได้ยังไง?” เขาแสดงสีหน้าอ้อนวอนหวังจะได้อยู่ต่อ

หลิวซีที่กำลังจะโกรธกลับใจเย็นลง เธอถอนหายใจแล้วพูดว่า “งั้นก็นอนที่โซฟา ฉันจะไปนอนในห้องแล้ว”

ชายหนุ่มที่ได้ยินดังนั้นทำได้เพียงพยักหน้าอย่างอ่อนโยน ขณะที่หลิวซีเดินเข้าห้อง เธอปิดประตูและทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า

“ได้เลย ถ้ามีอะไรเรียกผมนะ” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะวิ่งกลับไปที่ห้องเพื่อหยิบผ้าห่มและปูเตียงเล็ก ๆ ในห้องนั่งเล่น

หลิวซีมองตามเขา เธอถอนหายใจเบา ๆ และกลับเข้าห้องของตัวเอง เมื่อประตูล็อกเรียบร้อย เธอถอดถุงน่องที่ฉีกขาดออกแล้วโยนลงถังขยะ

ถุงน่องที่ดูเหมือนจะขาดเพียงเล็กน้อย แต่ที่ต้นขากลับถูกดึงจนขาดออกมาอย่างชัดเจน ทำให้หลิวซียืนมองมันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์

การเผชิญหน้ากับความคิด

เธอนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง นิ่งเงียบและมองตัวเองในกระจก ใบหน้าที่งดงามแม้ไม่ได้แต่งหน้ากลับทำให้เธอหลุดเสียงหัวเราะเยาะตัวเองเบา ๆ พร้อมพูดพึมพำว่า “สวยไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย”

น้ำตาที่หลุดร่วงโดยไม่รู้ตัวถูกเช็ดออกอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู

“ผมสั่งกุ้งเครย์ฟิชมานะ อยากออกมากินด้วยกันไหม?” ชายหนุ่มพูดอย่างสดใสร่าเริง

หลิวซีรีบปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้น เธอพยายามปรับอารมณ์ให้ดูปกติก่อนจะเดินออกไป เธอตั้งใจจะพูดบางอย่างกับเขา

การพูดคุยในห้องนั่งเล่น

ชายหนุ่มวางกุ้งเครย์ฟิชที่แกะเปลือกแล้วลงบนจาน และพูดด้วยรอยยิ้ม “กินเยอะ ๆ นะ กุ้งเครย์ฟิชไม่ทำให้อ้วนนะ กินได้เต็มที่เลย”

หลิวซีหยิบกุ้งเครย์ฟิชใส่ปากแล้วเคี้ยว ก่อนจะเอ่ยถามว่า “ช่วงนี้งานคุณเป็นยังไงบ้าง? เงินเดือนขึ้นหรือเปล่า?”

คำถามนี้ทำให้ชายหนุ่มนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาก้มหน้าลงและตอบด้วยน้ำเสียงเบา ๆ “ขึ้นมานิดหน่อยครับ แต่ไม่เยอะนัก ตอนนี้รวมโบนัสก็ประมาณเดือนละ 9,000 หยวน”

“9,000 หยวนต่อเดือน... ในเมืองเซี่ยงไฮ้” หลิวซีถอนหายใจพร้อมก้มหน้าลง เธอไม่พูดอะไรต่อและเพียงกินกุ้งเครย์ฟิชเงียบ ๆ  ชายหนุ่มที่เห็นเธอนิ่งเงียบก็รู้สึกเจ็บปวดใจ เขาเงียบไปสักพักก่อนจะพูดว่า “ให้เวลาผมหน่อยนะ ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด ทุกสิ่งที่คนอื่นมี คุณจะต้องมีเหมือนกันในอนาคต”

หลิวซีพยักหน้าและตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “อย่าหักโหมจนเกินไปนะ” เธอเกือบจะพูดบางอย่าง

ออกมา แต่ตัดสินใจเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย

ชายหนุ่มหยิบบัตรธนาคารใบหนึ่งออกมาวางบนโต๊ะ “นี่เงิน 50,000 หยวน คุณเอาไปใช้ก่อนนะ ถ้าไม่พอค่อยบอกผม”

เสียง “ปัง!” ดังขึ้นเมื่อหลิวซีฟาดมือลงบนโต๊ะ เธอลุกขึ้นยืนและจ้องมองเขาด้วยความโกรธ “คุณคิดว่าฉันเป็นคนแบบไหน? ฉันมีมือมีเท้า ไม่จำเป็นต้องใช้เงินคุณ คุณกำลังดูถูกฉัน!”

ชายหนุ่มรีบอธิบายด้วยความตกใจ “ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น ผมแค่... อยากให้คุณใช้เงินที่ผมหามา”

หลิวซีมองเขาด้วยแววตาเย็นชา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ “กินเสร็จแล้วก็กลับไปเถอะ ฉันเหนื่อยและอยากพักผ่อน”

การจากลา

ชายหนุ่มมองหลิวซีที่เดินหายเข้าไปในห้องด้วยความรู้สึกผิด เขาพึมพำกับตัวเอง “แย่แล้ว... เธอโกรธจริง ๆ”

เขานั่งนิ่งอยู่สักพักก่อนจะเริ่มเก็บจานชามและทำความสะอาดบ้าน เขาถอนหายใจขณะเดินออกจากห้องพร้อมกับถุงขยะในมือ เขาปิดประตูเบา ๆ และเดินจากไปในความเงียบ

(จบบท)###

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด