บทที่ 476 ดัลซิมปะทะเหล่าอเวนเจอร์ส

บทที่ 476 ดัลซิมปะทะเหล่าอเวนเจอร์ส

“ถ้ารู้ว่าเหล้าพวกนี้จะหกหมดแบบนี้ ตอนนั้นฉันน่าจะดื่มให้มากกว่านี้หน่อย”

โทนี่มองเหล้าที่หกกระจายอยู่บนพื้น ก่อนจะยิ้มมุมปากเล็กน้อย พลางเลิกคิ้วขึ้นพูด

“ผมว่าตอนนี้ควรจะห่วงเรื่องไอ้ตัวประหลาดหน้าตาแปลก ๆ ตรงหน้านี่มากกว่า เลิกไปห่วงเหล้าเสียของคุณเถอะ”

สตีฟพูดแทรกขึ้น ใบหน้าเคร่งเครียดขณะมองดัลซิมอยู่ตรงหน้า เพื่อตัดบทเรื่องเหล้าของโทนี่

ในฐานะสมาชิกอเวนเจอร์ส และเป็นหนึ่งในกำลังหลักอย่างธอร์ สตีฟรู้ดีถึงพละกำลังของธอร์ แม้กระทั่งเทียบเท่ากับฮัลค์เลยทีเดียว

ทว่า ธอร์ผู้ทรงพลังกลับถูกชายรูปร่างสูงผอมตรงหน้า ตบกระเด็นไปเพียงแค่ครั้งเดียว

แน่นอนว่า ความประมาทของธอร์เองก็มีส่วน แต่สิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นถึงอันตรายของชายที่ดีโอเรียกว่า ‘ดัลซิม’ คนนี้อย่างชัดเจน

“งั้นเหรอ ก็เป็นอีกคนที่ใช้พลังคล้าย ๆ กับมิสเตอร์แฟนตาสติกงั้นสิ?”

ฮอว์คอายจ้องมองแขนที่ยืดออกไปของดัลซิม เขาเปรียบเทียบความสามารถนี้กับมิสเตอร์แฟนตาสติก รี๊ด ริชาร์ดส์ ผู้สามารถยืดแขนและร่างกายได้อย่างอิสระ โดยสัญชาตญาณ

“อย่าเอาความสามารถของดัลซิมไปเปรียบเทียบกับพวกโชคดีที่กลายพันธุ์แบบนั้นเลย”

ดีโอแสดงสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะพูดออกมาเมื่อได้ยินฮอว์คอายพูดเช่นนั้น

“ดัลซิมเป็นโยคีเพียงคนเดียวที่บรรลุขั้นสูงสุดแห่งศาสตร์โยคะโบราณของอินเดีย ด้วยวิชาโยคะอันล้ำลึก เขาสามารถกำจัดไขมันในร่างกายได้อย่างหมดจด ร่างกายยืดหยุ่นราวกับยาง กล้ามเนื้อแข็งแกร่งทรงพลัง และเชี่ยวชาญวิชาลับต่าง ๆ ของโยคะ แม้แต่ในเก้าอเวจี เขาก็ยังโดดเด่นเป็นพิเศษ”

“แน่ใจแล้ว นี่มันเก้าอเวจีจริง ๆ ใช่ไหม?”

เมื่อได้ยินดีโอพูด โดยเฉพาะคำว่า ‘เก้าอเวจี’ สีหน้าของนาตาชาเปลี่ยนไป เป็นสีหน้าที่บอกว่า ‘อย่างที่คิด’ ชัดเจนมาก

ปัง——

ดีโอดีดตัวลุกพรวดจากใต้ตู้เหล้า

แม้พลังโจมตีของดัลซิมจะรุนแรง แต่ก็ยังไม่สามารถทำร้ายธอร์ได้อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม จากแรงปะทะ ธอร์รับรู้ได้ว่าชายผอมสูงตรงหน้าไม่ได้อ่อนแออย่างที่เห็น ตรงกันข้าม เขากลับเป็นคู่ต่อสู้ที่อันตราย ธอร์ต้องระวังตัวอย่างยิ่ง

ธอร์กำโยเนียร์แน่น สายฟ้าฟาดล้อมรอบตัวเขา กลิ่นเหล้าแรง ๆ จากตัวที่เมาสุรา ส่งกลิ่นฉุนออกมา

แต่ธอร์ไม่สนใจกลิ่นเหล้า เขามองดัลซิมตาไม่กระพริบ แล้วเอ่ยเสียงทุ้มต่ำว่า “เจ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเคารพ ต่อจากนี้ข้าจะไม่ประมาท และจะใช้พลังทั้งหมดต่อสู้กับเจ้า”

“……”

เมื่อได้ยินธอร์พูด ดัลซิมจึงหดแขนลง แล้วประนมมือไหว้เบา ๆ

ชั่วพริบตาเดียว ดัลซิมก็ไขว่ห้างนั่งพับเพียบ ร่างกายค่อย ๆ ลอยขึ้นอย่างช้า ๆ เหมือนมีพลังลึกลับคอยประคอง ลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ

【โยคะลอยฟ้า】——พลังอัศจรรย์ที่ดัลซิมค้นพบจากการฝึกโยคะและการนั่งสมาธิอย่างยาวนาน

“ด็อกเตอร์ คุณก็ฝึกโยคะ ทำได้ระดับนั้นไหม?”

โทนี่หันไปถามแบนเนอร์ด้วยความประหลาดใจ สายตาจับจ้องดัลซิมที่ลอยอยู่กลางอากาศ ท่าโยคะงดงามสมบูรณ์แบบ

เพื่อระงับอารมณ์โกรธ แบนเนอร์เคยใช้เวลาอยู่ที่อินเดีย ฝึกโยคะและนั่งสมาธิเพื่อสงบจิตใจ

“ถ้าผมทำได้แบบนั้นล่ะก็ คงไม่ต้องมาห่วงเรื่องฮัลค์อีกแล้วล่ะครับ”

แบนเนอร์ดันแว่นขึ้นเล็กน้อย ส่ายหน้าเหนื่อยอ่อน หลังจากได้ยินคำถามของโทนี่

“อาจจะเป็นเพราะโยคะที่เขาใช้กับที่ผมเรียนมานั้น มันคนละแบบกันเลยก็ได้ อย่างน้อย ๆ ฤๅษีอินเดียที่สอนโยคะผมก็ไม่ได้บอกว่า พอฝึกโยคะแล้วจะลอยได้กลางอากาศนี่นา”

เหล่าอเวนเจอร์สต่างตกตะลึงกับท่าทางลอยตัวแปลกประหลาดของดัลซิม

แต่ความประหลาดใจนั้นมาเร็วไปหน่อย ดัลซิมที่ลอยอยู่กลางอากาศค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น มองไปยังธอร์ ด้วยพลังของ【โยคะลอยฟ้า】 กะโหลกศีรษะที่คล้องคอก็ลอยขึ้นอย่างไร้แรงโน้มถ่วง ดัลซิมหายใจเข้าลึก ๆ แก้มทั้งสองข้างพองออกอย่างน่าประหลาด แล้วในชั่วพริบตาต่อมา เปลวเพลิงสีร้อนแรงก็พุ่งออกมาจากปากเขา

【เปลวเพลิงโยคะ】——ดัลซิมใช้พลังจากพระเจ้าแห่งไฟ อัคนี ปล่อยลูกไฟทรงพลังและควบคุมเปลวเพลิงโจมตีศัตรู

เปลวเพลิงที่พุ่งออกมาจากปากของดัลซิมไม่เพียงแต่พุ่งใส่ธอร์เท่านั้น แต่ยังพุ่งไปยังที่ที่เหล่าอเวนเจอร์สอยู่ด้วย

เผชิญกับเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ เหล่าอเวนเจอร์สต่างหลบหลีกด้วยสัญชาตญาณ

เนื่องจากมาร่วมงานปาร์ตี้ เหล่าอเวนเจอร์สจึงแต่งตัวกันเบาบาง แม้แต่ นาตาชา ที่ระมัดระวังตัวที่สุด ก็มีเพียงปืนพกไม่กี่กระบอกที่มีพลังทำลายจำกัดไว้ป้องกันตัว

“ดูสิ น่าสมเพชจริง ๆ สตีฟ…”

ดีโอหันไปมองกัปตันอเมริกาที่กำลังหลบหนีอย่างวุ่นวาย ริมฝีปากเผยรอยยิ้มเยาะเย้ย

“เหมือนตอนที่นายฝึกฝนเลย จริง ๆ แล้วตำแหน่งนี้ควรเป็นของฉัน แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันได้พบกับพลังที่เหมาะสมและทรงพลังกว่าแล้ว…”

ทันทีที่พูดจบ ร่างของดีโอวาบหายไป พุ่งไปหาอาโปด้วยความเร็วสูงสุด

“ระวังตัวไว้ อาซิง”

ตั้งแต่ดีโอปรากฏตัว สตีฟก็จับตามองเขาไม่กระพริบ เห็นดีโอขยับตัว สตีฟจึงรีบตะโกนเตือนทันที

“ฝ่ามือยูไลท่าที่หนึ่ง——ปฐมแสงธรรม!”

แสงนุ่มนวลดุจรัศมีพระพุทธเจ้าโอบล้อมมือสีทองอร่ามที่ปรากฏเบื้องหน้าอาซิง มือสีทองนั้นยกขึ้นปิดกั้นดีโอไว้

อาซิงเตรียมตัวรับมือกับศัตรูตรงหน้า ท่าทางระมัดระวัง พร้อมรับมือทุกสถานการณ์

“ดูท่าแผนการจะติดขัดเล็กน้อยสินะ”

ดีโอหยุดนิ่ง มองอาซิงและเหล่าอเวนเจอร์สที่เตรียมรับมือ ใบหน้ายังคงเรียบเฉย “แต่ทั้งหมดก็ยังอยู่ในแผนของฉัน”

“ดัลซิม!”

ทันทีที่ดีโอพูดจบ ดัลซิมที่ลอยอยู่กลางอากาศชูมือขึ้น ในพริบตาเดียวเปลวเพลิงอันดุร้ายก็ลุกโชนโอบล้อมแขนของเขา

【นรกโยคะ】

ดวงตาของดัลซิมเปล่งประกาย เขาเหวี่ยงแขนไปมา เปลวเพลิงบนแขนที่ยืดหยุ่นและเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างอิสระ ในพริบตาเดียวก็กลายเป็นการโจมตีอันตราย

เหล่าอเวนเจอร์สต้องรีบหลบหลีกเปลวเพลิงที่แผดเผาและพุ่งเข้าใส่ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไป

【โยคะเพลิง】

ดัลซิมใช้จังหวะที่อเวนเจอร์สหลบหนี พ่นเปลวเพลิงลงสู่พื้น เปลวเพลิงน่าสะพรึงกลัวเหล่านั้นอยู่ใต้อำนาจของเขา ในทันใดก็ลุกลามไปทั่วพื้น แยกเหล่าอเวนเจอร์สออกจากกัน

【โยคะเคลื่อนย้าย】

ดัลซิมใช้เปลวเพลิงกระจายเหล่าอเวนเจอร์สออกจากกัน ร่างกายพลันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วปรากฏขึ้นหลังธอร์ในทันที คว้าไหล่ของธอร์ด้วยแขนยาว บิดอย่างแปลกประหลาดจนเหวี่ยงธอร์ที่เผลอเรอเข้าไปในกองไฟในพริบตา

“ออกมาเถอะ ไอ้พวกชอบซ่อนตัว!”

เปลวไฟของดัลซิมอาจเป็นภัยคุกคามต่ออเวนเจอร์สคนอื่น ๆ แต่ดูเหมือนจะไม่สร้างความเสียหายให้ธอร์มากนัก ธอร์สลัดเสื้อผ้าที่ถูกไฟไหม้ทิ้ง กระโจนออกมาจากเปลวเพลิง ยกโยเนียร์ขึ้น ตะโกนด้วยความเดือดดาล

“มาสู้กันแบบตัวต่อตัว!”

ธอร์เดือดพล่านเพราะการโจมตีของดัลซิมอย่างที่สุด

อีกด้านหนึ่ง ดัลซิมที่โจมตีเสร็จแล้ว ยังคงยึดมั่นในสไตล์การต่อสู้แบบโจมตีแล้วหนี ด้วยความสามารถในการเคลื่อนไหวที่เหนือชั้น เขาเคลื่อนที่ไปมาระหว่างเหล่าอเวนเจอร์ส แม้จะเป็นเพียงคนเดียว แต่ก็ทำให้เหล่าอเวนเจอร์สโลกเหนื่อยล้าจนแทบจะรับมือไม่ไหว

“คราวนี้พอจบเรื่องแล้ว ผมต้องไปถามโยคีอินเดียคนนั้นให้ได้ ว่าโยคะที่สอนผมมานั้นมีปัญหาอะไรกันแน่”

ในสภาพปกติ หรือสภาพของมนุษย์ธรรมดา พลังการต่อสู้ของแบนเนอร์อ่อนแออย่างน่าประหลาดใจ ด้วยความช่วยเหลือของนาตาชา เขาจึงหลบหลีกการโจมตีด้วยแขนยาวของดัลซิมไปได้อย่างหวุดหวิด

แบนเนอร์เริ่มสงสัยว่าตัวเองเรียนโยคะปลอมมาหรือเปล่า หรือว่า…เขาอยากเรียนโยคะแบบดัลซิมมากกว่า

“เรื่องโยคะไว้คุยกันทีหลัง”

ขณะที่มือถือปืน นาตาชา อดีตสุดยอดสายลับของชีลด์ เผชิญหน้ากับการโจมตีประหลาดที่คาดเดาไม่ได้ของดัลซิม ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังรู้สึกลำบากอยู่ดี

ขณะคว้าแบนเนอร์ที่อยู่ข้างกาย หลบเลี่ยงเปลวไฟที่แผ่ปกคลุมทั่วทั้งชั้น แล้วรีบหลบเข้าไปในที่ปลอดภัย

“สัญญากับฉันเถอะค่ะ ด็อกเตอร์ อย่ากลายเป็นสีเขียวเด็ดขาด”

นาตาชาไม่เพียงต้องรับมือกับการโจมตีของดัลซิม เธอยังต้องคอยระวังตัวแบนเนอร์อีกด้วย

“ผมจะพยายามครับ แต่…ผมรับประกันไม่ได้ว่าถ้าสถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่านี้ ฮัลค์จะยังคงนิ่งอยู่ได้”

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ถ้าแบนเนอร์เผชิญกับอันตรายที่รับมือไม่ได้ หรือชีวิตตกอยู่ในภาวะคับขัน ฮัลค์ก็จะปรากฏตัวออกมาทันที

“จาร์วิส…จาร์วิส…”

ขณะหลบอยู่หลังเคาน์เตอร์บาร์เพื่อหนีเปลวไฟอันตราย โทนี่พยายามติดต่อจาร์วิสอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็เงียบสนิท

“ปัญหาเริ่มผิดพลาดไปตั้งแต่ตรงไหนกัน?”

การโจมตีของดีโอและดัลซิม รวมถึงปัญหาของจาร์วิส ทำให้โทนี่คิดอะไรไม่ค่อยออก หัวปั่นไปหมด

แต่ก่อนที่โทนี่จะได้คิดอะไรให้กระจ่าง ความร้อนแผ่ซ่านพร้อมกับความบิดเบี้ยว ร่างของดัลซิมที่ลอยอยู่กลางอากาศก็ปรากฏเหนือหัวโทนี่ เขามองลงมาที่โทนี่ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้เคาน์เตอร์บาร์ ใบหน้าผอมแห้งยังคงแสดงสีหน้าเมตตาเหมือนเดิม “ถึงเวลาหลุดพ้นแล้ว โทนี่ สตาร์ค!”

ดัลซิมยกแขนสูงขึ้น ร่างกายบิดเบี้ยวอย่างน่าสะพรึง พุ่งเข้าใส่โทนี่อย่างรุนแรง

ปัง!

แขนอันยาวเหยียดของดัลซิมกำลังจะตกใส่โทนี่อยู่แล้ว

แต่ในจังหวะนั้น จากด้านหลังโทนี่ เสียงดังสนั่นหวั่นไหวกึกก้อง ร่างกายขนาดมหึมาหนักอึ้งของเดอะติง หรือมนุษย์หิน พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

มันพังกำแพงเข้ามา ขว้างกำแพงสูงที่ถืออยู่ขึ้นไปกลางอากาศใส่ดัลซิม เบนมองสภาพห้องที่ย่ำแย่ ยกมือขึ้นลูบหน้าผากพลางพูดว่า “ดูเหมือนฉันจะพลาดอะไรไปเยอะเลย ไม่ใช่แค่ปาร์ตี้…”

“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”

มิสเตอร์แฟนตาสติก หรือรี๊ด เดินเข้ามาจากรูที่เบนทุบ เห็นเปลวไฟลุกไหม้ไปทั่วทั้งชั้น เขาย่นคิ้วถามโทนี่

เนื่องจากไม่รู้ว่าซูซานเป็นตายร้ายดีอย่างไร รี๊ดจึงไม่สนใจที่จะไปร่วมปาร์ตี้ของอเวนเจอร์ส

ถ้าไม่ใช่เพราะได้ยินเสียงการต่อสู้ดังมาจากตึกอเวนเจอร์ส และรู้สึกถึงบางอย่างผิดปกติ เขาคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดการต่อสู้ขึ้น

“นี่มันฝีมือจอนนี่แน่ ๆ หรือเปล่า?!”

รี๊ดมองเปลวไฟ และนึกถึงจอนนี่สตอร์ม หรือฮิวแมนทอร์ช ทันที

“ถ้าเป็นอย่างนั้น ปัญหาก็อาจจะง่ายขึ้นหน่อย”

โทนี่ถึงกับผวา แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เขาหันไปมองชั้นที่ถูกเปลวไฟกั้นไว้ และเงาของดัลซิมที่ปรากฏขึ้นเป็นพัก ๆ

โทนี่หน้าเครียดบอกว่า “จริง ๆ แล้วพวกเรากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่ยุ่งยากและน่ารำคาญมาก จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากแฟนแทสติกโฟร์”

ระหว่างที่พูด สายตาของโทนี่ก็เหลือบมองหาอาซิงและอาโปอยู่กลางเปลวไฟบ่อย ๆ

โทนี่ไม่ได้ลืมเลยว่า เป้าหมายของดีโอและพวกนั้นตั้งแต่แรกก็คืออาโป ผู้ที่จุติมาจากเซียนจากเผิงไหล

“ถ้าพวกเราช่วยได้ ก็ยินดีเลยครับ”

ด้วยนิสัยของริชาร์ด ต่อคำขอร้องของโทนี่ เป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิเสธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้แฟนแทสติกโฟร์ยังต้องให้เหล่าอเวนเจอร์สช่วยสืบข่าวของซูซานอยู่

ดังนั้น เมื่อได้ยินคำพูดของโทนี่ ไม่มีความลังเลใด ๆ เดอะติงที่เป็นหินก็ยกเท้าหนัก ๆ ของตัวเอง วิ่งเข้าไปในกองไฟที่กำลังลุกโชนอยู่ตรงหน้า

เปลวไฟของดัลซิมแม้จะอันตราย แต่สำหรับเบนที่ร่างกายห่อหุ้มด้วยหิน ก็แทบไม่มีผลอะไร

……

“กัปตัน รับไว้!”

การเข้าร่วมของริชาร์ดและเบน นับเป็นโอกาสสำคัญสำหรับเหล่าอเวนเจอร์สที่กำลังตกอยู่ในอันตราย

ด้วยความแข็งแกร่งในการป้องกันของตัวเอง เบนไม่สนใจเปลวไฟที่ดัลซิมพ่นลงพื้น ร่างกายของเขาเคลื่อนที่ราวกับเดินบนพื้นราบผ่านกองไฟอันตรายไปทีละน้อย

เบนเห็นโล่ของสตีฟที่วางอยู่มุมห้อง คว้าขึ้นมาแล้วขว้างไปทางกัปตันอเมริกา

ปัง——

แม้เบนขว้างโล่ห์ออกไป แต่เขากลับมองข้ามพละกำลังมหาศาลของตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง พลังที่เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดามากนัก

ด้วยพละกำลังมหาศาลนั้น โล่ห์พุ่งดุจกระสุนปืนใหญ่ตรงมายังที่สตีฟยืนอยู่ แรงปะทะมหาศาลขนาดนั้น แม้สตีฟที่ได้รับการเสริมพลังจากเซรุ่มซูเปอร์โซลเจอร์ก็ยังรับมือได้ยาก

“ผมมาแล้ว!”

โชคดีที่มิสเตอร์แฟนตาสติก รี๊ดสังเกตเห็นเหตุการณ์นั้นทัน เขาจึงยืดแขนออกไป ใช้ความยืดหยุ่นของร่างกายรับโล่ห์ที่พุ่งเข้ามา

แต่จังหวะนั้นเอง เงาของดัลซิมก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับความผิดปกติของอากาศ ตรงจุดที่โล่ห์กำลังพุ่งไป เห็นรี๊ดยื่นแขนออกไป เขาก็ยื่นแขนออกไปคว้าโล่ห์เช่นกัน

“อะไรกัน?!”

รี๊ดที่ยืนอยู่ข้างโทนี่ เมื่อเห็นดัลซิมที่มีความสามารถยืดแขนได้เหมือนตนเอง ก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“ระวัง!”

ส่วนโทนี่อีกฝั่ง เมื่อเห็นทั้งสองยื่นแขนออกไปพร้อมกัน ก็รีบตะโกนเตือนทันที

(จบตอน)