บทที่ 150: ปะทะกับนายพลมู่หรงอีกครั้ง!
บทที่ 150: ปะทะกับนายพลมู่หรงอีกครั้ง!
หลังอาหารเย็น แม่บ้านก็ได้นำผลไม้มาเสิร์ฟ
ตอนนี้ในทีวี นักข่าวกำลังสัมภาษณ์จักรพรรดินีซ่างกวนหลาน
ในฐานะประมุขของประเทศ ซ่างกวนหลานต้องพบปะกับนักข่าวทุกวัน
หน้ากล้อง ซ่างกวนหลานจะพูดจาด้วยท่าทางองอาจ ปลุกระดมให้ประชาชนเชื่อมั่นในอนาคตอันสดใสของประเทศ
“คงไม่มีใครรู้หรอก ว่าเบื้องหลังผู้หญิงที่ดูรักชาติรักประชาชนคนนี้ แท้จริงแล้วเป็นมังกรดำที่กระหายเลือด!” เซียวซิงหยูคิดในใจขณะมองหน้าจอทีวี
“เซียวซิงหยู ฉันมีเรื่องสงสัยเรื่องหนึ่ง”
ทันใดนั้น มู่หรงจินก็เอ่ยขึ้นมา
“อะไรหรอครับคุณอา?”
“เธออายุแค่นี้ เพิ่งสอบเข้าวิทยาลัยชิงหลงได้ไม่นาน…เเต่ทำไมถึงได้เป็นแพทย์พิเศษของกิลด์นภาได้ล่ะ?”
มู่หรงจินเห็นท่าทีของลูกสาวที่มีต่อเซียวซิงหยูแล้ว เเละเขาเองก็เริ่มรู้สึกดีกับเด็กคนนี้อยู่บ้าง
แต่ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ความรักและการแต่งงาน จำเป็นต้องมีอำนาจและอิทธิพลมาค้ำจุน
ตระกูลมู่หรงเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของประเทศ ซินซินเป็นลูกสาวที่มู่หรงจินรักมากที่สุด…ดังนั้น มาตรฐานในการเลือกคู่ครองของลูกสาวจึงสูงมาก ถึงแม้เซียวซิงหยูจะไม่มีภูมิหลัง แต่เขาก็ต้องมีความสามารถที่โดดเด่น
“คุณอาครับ ผมมีความสามารถด้านการแพทย์อยู่บ้าง…กิลด์นภาจึงรับผมเป็นเเพทย์พิเศษครับ”
“ฮ่าๆๆ เธอนี่พูดอะไรตลกๆเก่งจังเลยนะ!” มู่หรงจินหัวเราะลั่น
“คุณอาไม่เชื่อผมเหรอครับ?”
“เเพทย์พิเศษเป็นบุคลากรที่หายากของกิลด์ปรมาจารย์อสูรทุกกิลด์ ถ้าเธอแค่มีความรู้ด้านการแพทย์เเค่เล็กน้อย กิลด์นภาจะสนใจเธอได้ยังไง?”
“คุณอาคิดว่าผมใช้เส้นสาย ถึงได้เป็นแพทย์พิเศษของกิลด์นภางั้นเหรอครับ?” เซียวซิงหยูเดาความคิดของมู่หรงจินออก
“ฉันให้คนไปสืบมาแล้ว เธอสนิทกับฉินเยี่ยนหรัน ลูกสาวประธานกิลด์นภามากเลยนะ!”
เมื่อมู่หรงจินพูดถึงฉินเยี่ยนหรัน ซินซินที่เงียบอยู่นานก็พลันหันมามองเซียวซิงหยูอย่างตั้งใจ
“ฉินเยี่ยนหรันเป็นพี่สาวบุญธรรมของผม ความสัมพันธ์ของเราเป็นแค่พี่น้อง”
“ซิงหยู ถ้าน้องสาวฉันกับฉินเยี่ยนหรันตกน้ำพร้อมกัน นายจะช่วยใครก่อน?” มู่หรงหยางซั่วโพร่งถามขึ้นมาทันที
“ช่วยซินซิน”
คำตอบของเซียวซิงหยู ทำให้พ่อลูกพอใจมาก
เเต่มู่หรงซินซินกลับอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ทำไม?”
“พี่เยี่ยนหรันเคยบอกผมว่า เธอเป็นแชมป์ว่ายน้ำของเมืองหลงอิ๋น…เเค่ตกน้ำคงไม่เป็นไรหรอกครับ”
“ซิงหยู แกไม่ต้องอธิบายก็ได้!” มู่หรงหยางซั่วทำหน้าเหยเกกับความซื่อของเซียวซิงหยู
“เอาล่ะๆทำไมถึงพูดเรื่องว่ายน้ำไปได้…ซิงหยู ฉันถามเธออยู่ เธอใช้เส้นสายหรือเปล่า?” มู่หรงจินรีบพูดแทรกบรรยากาศมาคุทันที
เซียวซิงหยูยังเด็ก คงมีประสบการณ์รักษาสัตว์อสูรมาไม่กี่ตัว นอกจากนี้ยังไม่เคยเรียนวิชาแพทย์อย่างเป็นระบบ…มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะได้เป็นแพทย์พิเศษของกิลด์ปรมาจารย์อสูรระดับนั้น
“คุณอาครับ ไม่ว่าผมจะอธิบายยังไง คุณอาก็คงยังสงสัยอยู่ดี งั้นเอาแบบนี้ดีกว่า เรามาให้ข้อเท็จจริงเป็นเครื่องพิสูจน์กัน”
“เธอจะพิสูจน์ยังไง…”
เซียวซิงหยูลุกขึ้นยืน ดวงตาของเขาเป็นประกายกร้าว
“คุณอาเป็นนายพลเรือที่ใช้ชีวิตอยู่กลางทะเล”
“แต่ทะเลไม่ใช่แค่บ้าน แต่ยังเป็นสนามรบของทหารเรือด้วย”
“ทุกครั้งที่มีสัตว์อสูรบุก ทหารเรือต้องเรียกสัตว์อสูรออกมาต่อสู้ในทะเล, เเละผิวของสัตว์อสูรที่แช่อยู่ในน้ำทะเลเป็นเวลานาน พอขึ้นมาบนบกก็ต้องเจอกับแสงแดด จนอาจจะทำให้เกิดโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง เรียกว่าโรคผิวกระดองแตก”
“เธอรู้จักโรคผิวกระดองแตกด้วยงั้นหรือ?” มู่หรงจินเอ่ยด้วยความประหลาดใจ
เซียวซิงหยูยิ้มบางๆ แล้วพูดต่อ
“สัตว์อสูรที่เป็นโรคผิวกระดองแตก ผิวหนังจะมีเเผลรูปร่างเหมือนกระดองเต่า”
“นานๆไป แผลพวกนี้ก็จะหายยาก เเละมันก็จะทำให้สัตว์อสูรรู้สึกคันและเจ็บปวด”
“ยิ่งเป็นหนัก ก็จะทำให้ระบบการแข็งตัวของเลือดแย่ลง…เเค่เป็นแผลเล็กน้อยก็อาจจะเกิดอาการเลือดไหลไม่หยุดจนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้”
คำพูดของเซียวซิงหยู ทำให้มู่หรงจินตกตะลึงอย่างมาก
“ใช่ เธอพูดถูก โรคผิวกระดองแตกเป็นโรคที่สร้างความหนักใจให้กับกองทหารเรือมากที่สุด”
“อย่างที่เธอบอก โรคนี้ทำให้เลือดของสัตว์อสูรแข็งตัวยากและรักษาไม่หาย…จากสถิติ ที่กองบัญชาการของเราเก็บมา สัตว์อสูร 99% ของกองทัพเรือต่างก็เป็นโรคผิวกระดองแตกนี้”
“เเละถ้าตัวใหนเป็นหนัก มันก็จะทำให้ประสิทธิภาพการต่อสู้ลดลง 20-30%”
เมื่อได้ยินข้อมูลนี้, เซียวซิงหยูก็เริ่มยกยิ้มอย่างมีเลศนัย
“คุณอาครับ ตอนนี้ยังไม่มียารักษาโรคผิวกระดองแตกออกมาขายใช่ไหมครับ?”
มู่หรงจินถอนหายใจ พอนึกถึงเรื่องนี้ใบหน้าของเขาก็เริ่มดำคล้ำด้วยความกังวล
“ใช่ หน่วยแพทย์ระดับสูงสุดของประเทศได้ทำการศึกษาวิจัยเรื่องนี้มาสามสิบสี่สิบปีแล้ว…เเต่พวกเขาก็ยังหายารักษาไม่ได้”
“ผมมียารักษาโรคนี้” เซียวซิงหยูพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“นายว่าไงนะ?” มู่หรงจินขมวดคิ้วพร้อมถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“ผมมียารักษาโรคผิวกระดองแตก”
“ซิงหยู อย่าไปคุยโม้ต่อหน้าพ่อฉันนะ ถ้าบอกว่าล้อเล่น…พ่อฉันจะอัดนายจริงๆนะ!” มู่หรงหยางซั่วกระซิบเตือน
“พี่หยางซั่ว พี่ก็รู้นิสัยผม ถ้าผมกล้าพูด มันก็แสดงว่าผมมียารักษาจริงๆ”
หลังจากพูดจบ เซียวซิงหยูก็ล้วงกระเป๋าเเล้วหยิบขวดแก้วสีฟ้าใบเล็กออกมา
ถึงแม้ฝาขวดจะปิดสนิท แต่มันก็ยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆของสมุนไพรลอยออกมา
“คุณอาครับ นี่คือยารักษาโรคผิวกระดองแตกที่ผมคิดค้นขึ้น ชื่อว่าเซรั่มสมุนไพรสีฟ้าบำรุงผิวพลังงานสูง”
“พลังงานสูง บำรุงผิว สมุนไพร…” เเค่มู่หรงจินพยายามอ่านชื่อยา ก็เกือบจะกลายเป็นคนพูดติดอ่าง
“ถ้างั้นเรียกสั้นๆ ว่าเซรั่มสมุนไพรสีฟ้าก็ได้ครับ”
“ไอ้ยาขวดเล็กๆสีฟ้านี่จะสามารถรักษาโรคผิวกระดองแตกได้จริงๆเหรอ?”
“คุณอาสามารถลองเอาไปใช้ได้เลยครับ”
มู่หรงจินพยักหน้า แล้วพาทุกคนไปที่สวนหลังบ้าน
ในสวนนี้มีเเม่น้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่
มู่หรงจินเรียกผู้ติดตามคนหนึ่งมา เเละเขาคือหนึ่งในหัวหน้าหน่วยของกองบัญชาการ ชื่อหลิวซานตง
“หลิวซานตง เรียกสัตว์อสูรของนายออกมา”
“ครับ!”
หลิวซานตงเปิดตราอสูรประจำตัว จากนั้นแสงวาบหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
กรรรร!!!!
ในสระน้ำตอนนี้มีสิงโตทะเลตัวใหญ่ปรากฏขึ้น ฟันแหลมคมของอสูรตัวนี้มีลมหมุนวนอยู่รอบๆ
อสูรพายุเขี้ยวพิโรธ…นี่คือชื่อของสิงโตทะเลตัวนี้ เเละมันอยู่ระดับเหนือธรรมชาติ (ขั้นที่ 3)
ยามค่ำคืนที่แสงจันทร์ส่องสว่าง มันจึงทำให้ทุกคนสามารถมองเห็นผิวหนังของมันได้อย่างชัดเจน
ผิวหนังของมันแห้งแตก เลือดไหลซิบๆตามรอยเเตก ย้อมน้ำในสระจนกลายเป็นสีแดงเลือด
อสูรพายุเขี้ยวพิโรธนี้มีท่าทางอ่อนล้า ดวงตาเลื่อนลอย มันดูเหมือนมันจะทรมานจากโรคผิวกระดองแตกมานานมาก
มู่หรงจินตบไหล่เซียวซิงหยูเเล้วพูดว่า “เจ้าหนู ฉันจะรอดูว่ายาขวดเล็กสีฟ้าในมือของเธอจะเป็นยาวิเศษ หรือยาปลอมกันแน่!”
…………………..