ตอนที่แล้วบทที่ 148: ความ​สับสนของนายพล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 150: ปะทะกับนายพลมู่หรงอีกครั้ง!

บทที่ 149: มื้ออาหาร​ที่เเปลกประหลาด​!


บทที่ 149: มื้ออาหาร​ที่เเปลกประหลาด​!

ในสายตาของมู่หรงจิน ลูกสาวของเขาเป็นเด็กสาวที่มีปัญหาทางจิตใจมาตั้งแต่เด็ก

ตอนซินซินยังเล็ก เธอเห็นแม่เสียชีวิตต่อหน้าต่อตา, นับตั้งแต่นั้นมาซินซินก็กลายเป็นคนเงียบขรึม และไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบคนแปลกหน้า

แม้แต่กับพี่ชายและพ่อ ซินซินก็ไม่ค่อยพูดคุยด้วย

อย่างที่มู่หรงจินบอก ทุกครั้งที่เขาพยายามคุยกับลูกสาว ซินซินจะตอบแค่ไม่กี่คำเเละการสนทนาก็จบลงอย่างรวดเร็ว​มาก

แต่วันนี้ มู่​ห​รง​ซินซินกลับเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็นมาตลอดสิบกว่าปี

ถึงแม้มู่​ห​รง​ซินซินจะยังคงทำหน้านิ่ง ไม่ยิ้มแย้ม แต่เธอกลับพูดมากขึ้นกว่าเดิม…โดยเฉพาะกับเซียวซิงหยู

อาหารที่เซียวซิงหยูเอื้อมไม่ถึง เธอจะคีบใส่ชามให้ แถมยังพูดคุยอย่างเจื้อยเเจ้ว

แค่ไม่กี่วินาทีที่มู่หรงจินเหม่อ มู่​ห​รง​ซินซินก็พูดกับเซียวซิงหยูไปไม่ต่ำกว่ายี่สิบประโยคเเล้ว!

ยี่สิบประโยคเนี่ยนะ?

มู่หรงจินต้องคุยกับซินซินถึงยี่สิบครั้ง ถึงจะได้ยินลูกสาวพูดครบยี่สิบประโยค

“หยางซั่ว ตามพ่อมาที่ห้องทำงานหน่อย” มู่หรงจินเรียกมู่หรงหยางซั่วเข้าไปคุยกันสองคน เหลือเซียวซิงหยูกับซินซินอยู่ที่โต๊ะอาหาร

“พ่อ เรียกผมมาคุยทำไม…ทำตัวลึกลับจัง”

“ไอ้ลูกชาย บอกพ่อมาหน่อยซิ ทำไมน้องสาวของแกถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้? อยู่ที่วิทยาลัยชิงหลงแค่ไม่กี่วัน นิสัยเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ?” หยางซั่วเกาหัว ทำหน้ามึนงง

“นิสัยน้องผมไม่ได้เปลี่ยนไปนี่ครับ”

“ที่วิทยาลัยชิงหลง เธอก็ยังเหมือนเดิม ไม่คุยกับเพื่อนหรืออาจารย์ ไม่มีเพื่อนคบสักคน…”

หลังจากมู่ห​รง​หยางซั่วบ่นจบ มู่หรงจินก็ถามต่ออย่างร้อนใจ

“แล้วทำไมซินซินถึงคุยกับเซียวซิงหยูมากมายขนาดนั้นล่ะ? คุยกับพ่อยังไม่เคยเกินสองประโยคเลย แต่กับเซียวซิงหยู แค่ตอนคีบอาหารให้ ก็คุยกันไปตั้งยี่สิบกว่าประโยคเเลว!”

“พ่อ หึงรึไง?”

“นี่แกกล้าแซวพ่อเหรอ!”

มู่หรงจินไม่ได้หึง แค่รู้สึกงงกับการเปลี่ยนไปของลูกสาว

“พ่อ เมื่อกี้ที่โต๊ะอาหารพ่อก็เห็นแล้ว น้องสาวปฏิบัติกับเซียวซิงหยูไม่เหมือนกับผู้ชายคนอื่น”

“หมายความว่ายังไง?”

มู่หรงหยางซั่วกลอกตามองบน แล้วพูดเสียงเบา “ก็หมายความว่าน้องชอบเซียวซิงหยูน่ะสิ!”

“ชอบ? หรือว่า…” สีหน้าของมู่หรงจินเปลี่ยนไปทันที

“พ่อก็เคยผ่านช่วงนี้มาแล้ว เรื่องความรักของหนุ่มสาว พ่อย่อมรู้ดีกว่าผม” มู่หรงหยางซั่วพูดพลางขยิบตาให้พ่อ

ไม่นาน พ่อลูกก็เดินออกจากห้องทำงาน เเล้วกลับมาที่โต๊ะอาหาร

“คุณอาครับ ขอบคุณที่ให้โอกาสผมมาที่บ้านนะครับ”

“เซียว​ซิง​หยู​ ฉันมีคำถามจะถามนายหน่อย”

จู่​ๆบรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้นมาจนเซียวซิงหยูรู้สึกหายใจไม่ออก

“แปลกจัง หลังจากออกจากห้องทำงาน ท่าทีของคุณอามู่หรงก็เปลี่ยนไปเยอะเลย”

ตอนแรก มู่หรงจินปฏิบัติกับเซียวซิงหยูเหมือนเพื่อนของลูก และชื่นชมในพรสวรรค์ของเขา

แต่ตอนนี้ มู่หรงจินกลับมองเซียวซิงหยูเหมือนลูกเขยที่กำลังมาสู่ขอลูกสาว

แม่ยายมองลูกเขย ยิ่งมองยิ่งชอบ…เเต่พ่อตามองลูกเขย ยิ่งมองยิ่งไม่ชอบ

“เธอ…บ้านเธอมีกี่คน?”

“พ่อแม่ทำงานอะไร?”

“ปู่ย่าตายายทำอาชีพอะไร?”

“ทวดเป็นปรมาจารย์​อสูรกี่ดาว?”

มู่หรงจินถามรัวเป็นชุด เหมือนตำรวจที่กำลังสอบสวนประวัติของผู้ต้องสงสัย

“พ่อ เซียวซิงหยูเป็นเพื่อนผมนะ พ่อจะไปซักประวัติเขาทำไม? ไม่เห็นจำเป็นเลย”

“แกเงียบไปเลย เเกเป็นพ่อฉันหรอ?”

“ครับๆ” มู่หรงหยางซั่วได้แต่ส่งสายตาขอโทษไปให้เซียวซิงหยู

“เซียวซิงหยู อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง ตอบคำถามฉันมา!”

ทันใดนั้น ซินซินก็พูดขึ้น “พ่อ อย่าไปกดดันเขาเลย”

“อ่า…ก็ได้ๆ พ่อไม่กดดันแล้ว ฮ่าๆ”

เซียวซิงหยูเลิกคิ้ว เเล้วคิดในใจ “นี่มันคนกลัวลูกสาวนี่นา!”

เเต่ด้วยมารยาท เซียวซิงหยูจึงต้องตอบคำถามของมู่หรงจิน

เเละหลังจากรู้ภูมิหลังของเซียวซิงหยูแล้ว มู่หรงจินก็เริ่มครุ่นคิด

“เจ้าหนูนี่เป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีเส้นสาย…กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ล้วนแต่มาจากพรสวรรค์ของตัวเอง”

“ถึงแม้ฉันจะไม่ได้สนใจภูมิหลังครอบครัวของลูกเขย แต่เจ้าหนูนี่ไม่มีอะไรเลย ถ้าซินซินแต่งงานไป จะลำบากหรือเปล่านะ?”

นี่คือความคิดของพ่อทุกคน พวกเขาไม่อยากให้ลูกสาวแต่งงาน และมักจะมีอคติกับลูกเขย

“ซินซิน พ่อเธอมองฉันแปลกๆ เขาจะคว้ามีดมาฟันฉันไหมเนี่ย?”

ซินซินยังคงคีบอาหารใส่ชามให้เซียวซิงหยู

“นายกินอีกหน่อยสิ”

“ฉันอิ่มแล้ว”

“ฉันคีบให้ นายไม่กินเหรอ?”

“เอ่อ…กินๆ ผมกินครับ”

เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินอายุรวมกันยังไม่ถึงสี่สิบ แต่กลับมีวิธีการอยู่ร่วมกันเหมือนคู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันมานาน

มู่หรงจินมองเห็นทุกอย่าง ทันใดนั้น​สายตาของเขา​ก็ค่อยๆอ่อนโยนลง

“ต้องยอมรับเลยว่า ซินซินดูร่าเริงขึ้นมากเวลาอยู่กับเจ้าหนูนี่”

สิ่งที่มู่หรงจินสนใจ ไม่ใช่ความสำเร็จในอนาคตของซินซิน หรือการสืบทอดตำแหน่งของเขา แต่เป็นความสุขของเธอต่างหาก

ดูเหมือนว่าเฉพาะเวลาอยู่กับเซียวซิงหยูเท่านั้น ซินซินถึงจะหลุดพ้นจากภาวะอึมครึม​ และใช้ชีวิตเหมือนเด็กสาววัยรุ่นทั่วไป

“ซินซิน ฉันอิ่มเเล้วจริงๆนะ ท้องจะแตกแล้ว”

“ห้ามกินเหลือ”

“ฉันกินไม่ไหวแล้วจริงๆนะ ขอร้องล่ะ อย่าให้ฉันกินอีกเลย”

“กินทิ้งขว้างมันไม่ดีนะ”

ทันใดนั้น​ เซียวซิงหยูก็นึกทางรอดออก

“ฉันรู้ว่ากินทิ้งขว้างมันไม่ดี เเต่เธอยกโทษให้ฉันครั้งนี้เถอะนะ เดี๋ยว​หลังสอบกลางภาคเสร็จ ฉันจะพาเธอไปเลี้ยงหนังเอง”

คำพูด​นี้ทำให้ทุกคนบนโต๊าะเงียบกริบ

มู่หรงจินและมู่​ห​รง​หยางซั่วหันมามองมู่​ห​รง​ซินซินโดยพร้อมเพรียง​กัน

ไม่กี่วินาทีต่อมา มู่​ห​รง​ซินซินก็พูดขึ้น

“ตกลง”

เซียวซิงหยูถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เยี่ยม! ในที่สุดก็ไม่ต้องกินต่อแล้ว ท้องฉันจะระเบิดอยู่แล้วเนี่ย”

มู่หรงจินและมู่​ห​รง​หยางซั่วมองหน้ากัน พวกเขา​ต่างทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

พ่อลูกคู่นี้ตกใจด้วยเหตุผลสามข้อ

หนึ่ง มู่​ห​รง​ซินซินไม่เคยไปดูหนังที่โรงหนัง

สอง มู่​ห​รง​ซินซินไม่เคยรับนัดผู้ชายคนไหน

สาม มู่หรงซินซินตกลงไปดูหนังกับเซียวซิงหยู!

หนุ่มสาววัยรุ่น นัดกันไปดูหนังสองต่อสอง…แบบนี้ไม่เรียกว่าเดตแล้วจะเรียกว่าอะไร?

“พี่หยางซั่ว พี่มองผมแบบนั้นทำไม?”

“เซียว​ซิงหยู นายเจ๋งมาก, นายคือคนที่เจ๋งที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา!” มู่​ห​รง​หยางซั่วมองเซียวซิงหยูด้วยความนับถือ

“หมอนี่ทำให้น้องสาวฉันไปดูหนังด้วยได้...นับว่าไม่ธรรมดา​เลยจริงๆ!”

“ไม่คิดเลยว่าคนที่ดูซื่อๆบื้อๆที่แท้ก็เป็นจอมเจ้าเล่ห์…ไว้มีโอกาส ฉันต้องขอเทคนิคจีบสาวจากหมอนี่บ้างแล้ว!”

ทั้งหมดนี้คือความคิดของหยางซั่วที่ชื่นชมเซียวซิงหยูจากใจจริง

…………………..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด