ตอนที่ 49 ศิษย์สายนอก ลุยศึก!

ตอนที่ 49 ศิษย์สายนอก ลุยศึก!

“คลื่นอสูร?”

“ใช่แล้ว ท่านเจ้าสำนัก

ป่ามารอสูรได้เกิดการปะทุ ส่งผลให้คลื่นอสูรกวาดล้างไปทั่วทั้งสี่แคว้น รวมถึงแคว้นหลิงโจวของเราด้วย

ด่านป้องกันของแคว้นหลิงโจวอย่างเมืองปักฟ้าใกล้จะต้านทานไม่ไหวแล้ว ขณะนี้ตระกูลเย่แห่งเมืองปักฟ้าได้ส่งจดหมายขอความช่วยเหลือไปยังขุมอำนาจต่างๆในแคว้นหลิงโจว”

หลังกล่าวจบ เย่ไป๋หยิบจดหมายที่เปื้อนเลือดออกมาจากกระเป๋า และส่งให้เฟิงชิงหยาง

เฟิงชิงหยางเพียงยื่นมือออกไป จดหมายก็บินเข้ามาอยู่ในมือของเขา

เมื่อเปิดอ่าน เนื้อหาในจดหมายเขียนว่า:

“เรียนท่านเจ้าสำนักชิงหยุน ข้าคือเย่หวู่ ผู้นำตระกูลเย่แห่งเมืองปักฟ้า

วันนี้ในยามเช้า ป่ามารอสูรเกิดความปั่นป่วน ตามมาด้วยเหล่าอสูรและราชาอสูรนับไม่ถ้วนที่บุกจู่โจมเมืองปักฟ้า

แม้พวกเราจะร่วมกันปกป้องอย่างสุดกำลัง แต่ด้วยความต่างชั้นของพลัง ข้าหวั่นเกรงว่าไม่นาน เมืองจะต้องพินาศ

เมืองปักฟ้านับเป็นด่านป้องกันสำคัญของแคว้นหลิงโจว หากเมืองนี้ล่มสลาย เหล่าอสูรจะบุกเข้าสู่แคว้นหลิงโจว และอาจซ้ำรอยโศกนาฏกรรมเมื่อปี เทียนอู่ 88481

ข้าขอความกรุณาให้สำนักชิงหยุนส่งผู้แข็งแกร่งมาช่วยเหลือโดยเร็ว

ด้วยความเคารพ

เย่หวู่ ผู้นำตระกูลเย่แห่งเมืองปักฟ้า”

“เมืองปักฟ้า…ป่ามารอสูร…”

[“ติ๊ง! ออกภารกิจใหม่: คลื่นอสูรโจมตี ในฐานะสำนักจ้าวแคว้นหลิงโจว จะปล่อยให้เหตุการณ์นี้ผ่านไปได้อย่างไร? แคว้นหลิงโจวอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักชิงหยุน สิ่งใดจากภายนอกไม่อาจล่วงล้ำได้!”]

[“โปรดส่งผู้อาวุโสและศิษย์ไปยังพื้นที่เพื่อช่วยเหลือชาวเมืองในแคว้นหลิงโจว ขจัดภัยอสูร และเผยแพร่ชื่อเสียงของสำนักไปทั่วทุกมุม”]

[“หากสำเร็จจะได้รับรางวัลมหาศาล พร้อมปลดล็อกระบบ ห้างสรรพสินค้าแต้มชื่อเสียง และ การสุ่มแต้มชื่อเสียง”]

[“นายท่าน ท่านคงไม่อยากเห็นแคว้นหลิงโจวที่อยู่ภายใต้การปกครองของสำนักชิงหยุนต้องพังพินาศใช่หรือไม่?”]

“ถูกต้องแล้ว เจ้าระบบ!”

แม้ไม่มีรางวัล เขาก็ต้องส่งคนไปช่วยอยู่ดี

ไม่ใช่เพราะความใจบุญ แต่เพราะ นี่คือเรื่องของหลักการ

ศิษย์ส่วนใหญ่ของสำนักชิงหยุนมาจากแคว้นหลิงโจว หากบ้านเกิดของพวกเขาถูกทำลาย ศิษย์ย่อมกระวนกระวาย

อีกทั้งนี่ถือเป็นโอกาสดีสำหรับการฝึกฝนศิษย์ และยังได้รางวัลพร้อมปลดล็อกระบบพิเศษอีกด้วย

หนึ่งภารกิจนี้คุ้มค่ายิ่งกว่าใดๆ

เมื่อคิดได้ดังนั้น เฟิงชิงหยางจึงใช้พลังจิตสำนึกแจ้งเรียกผู้อาวุโสสายในสองคนให้มายังหอชิงหยุน

มู่ซุยเซียน และ หลัวเฉิน เมื่อได้รับข่าวสาร ต่างรีบเร่งมุ่งหน้ามายังหอชิงหยุนทันที

ในฐานะผู้อาวุโสสายใน แม้พวกเขามักจะใช้ชีวิตอย่างสงบ แต่ครั้งนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกแรงบ้าง

“ขอคารวะท่านเจ้าสำนัก”

สองผู้อาวุโสในชุดเครื่องแบบยืนอยู่ในท้องพระโรง มองเฟิงชิงหยางบนบัลลังก์ด้วยความเคารพ

“ป่ามารอสูรในแคว้นหลิงโจวได้เกิดคลื่นอสูร ข้าสั่งให้พวกเจ้าทั้งสอง นำศิษย์สายนอกทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังเมืองปักฟ้า เพื่อกำจัดอสูรเหล่านั้น”

“คลื่นอสูร?”

มู่ซุยเซียนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนพยักหน้าในใจ

“รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก”

หลังจากรับคำสั่ง ทั้งสองก็จากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใดเพิ่มเติม

ณที่ศิษย์สายนอกของสำนักชิงหยุน

ข่าวอันน่าตกตะลึงแพร่สะพัดออกมาอย่างรวดเร็ว

หอภารกิจของสำนักประกาศภารกิจสำคัญ:

“คลื่นอสูรกำลังถล่มแคว้นหลิงโจว สำนักชิงหยุนออกคำสั่งให้ผู้อาวุโสสายในนำศิษย์สายนอกทั้งหมดเข้าร่วมศึกนี้”

รางวัลสำหรับการล่าอสูร:

สังหารอสูรระดับหนึ่ง: 1 แต้มผลงาน

สังหารอสูรระดับสอง: 10 แต้มผลงาน

สังหารอสูรระดับสาม: 100 แต้มผลงาน

สังหารอสูรระดับสี่: 500 แต้มผลงาน

สังหารอสูรระดับห้า: 1,000 แต้มผลงาน

ภารกิจนี้ไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้เพื่อปกป้องแคว้นหลิงโจวเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำหรับศิษย์สายนอกทุกคนในการสะสมแต้มผลงานเพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากรและยกระดับตนเอง

เสียงฮือฮาดังไปทั่ว ทุกคนตื่นเต้นกับโอกาสนี้ แม้จะต้องเผชิญกับอันตราย แต่รางวัลที่ยั่วยวนก็เพียงพอที่จะกระตุ้นจิตวิญญาณนักสู้ในตัวพวกเขา

เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของเหล่าศิษย์ และเพิ่มรางวัลจากการฝึกฝน เฟิงชิงหยางตัดสินใจเพิ่มแต้มผลงานให้กับภารกิจครั้งนี้

ยิ่งสังหารอสูรได้มากและมีระดับสูงเท่าใด ยิ่งได้รับแต้มผลงานมากขึ้น

แต้มผลงานเหล่านี้สามารถใช้แลกเปลี่ยนสิ่งของต่างๆ ในสำนักได้

“โว้! ในที่สุดแต้มผลงานก็หาได้แล้ว!”

“คลื่นอสูรกำลังถล่มแคว้นหลิงโจว?”

“งานใหญ่มาแล้ว รีบไปบอกศิษย์พี่เร็วเข้า!”

ณ พรรคระเบิดฟ้า

“พี่น้องทั้งหลาย ถึงเวลาแสดงฝีมือของพวกเราแล้ว!”

“ที่เขาว่ากันว่า เลี้ยงทหารไว้พันวัน ใช้ในวันเดียว พวกเราในฐานะพรรคอันดับหนึ่งของศิษย์สายนอก จะทำให้สำนักต้องเสียชื่อไม่ได้!”

“พรรคระเบิดฟ้า ลุย!”

ชิงเยี่ยนลุกขึ้นกล่าวเสียงดัง

ในเวลาเดียวกัน พรรคหลงเหมินที่นำโดยหลงอ้าวเทียน และพรรคเทียนอู่ที่นำโดยหลัวอู่ ต่างก็ออกคำสั่งเรียกรวมสมาชิกเพื่อเข้าร่วมภารกิจ

แม้กระทั่งศิษย์พี่อย่างฉินหานและหนิงเหยียน ที่อยู่ระหว่างปิดด่านบ่มเพาะ ก็ออกจากการปิดด่านเพื่อเข้าร่วมศึกครั้งนี้

“คลื่นอสูรกล้ามารุกรานแคว้นหลิงโจวของพวกเรา?”

ในสายตาของพวกเขา อสูรเหล่านี้คือทรัพยากร เป็นแต้มผลงาน เป็นโอกาสทองของพวกเขา

ไม่นานนัก ศิษย์สายนอกทั้งหมดได้รวมตัวกันภายใต้การเรียกของผู้อาวุโสสายนอก

เหล่าศิษย์ยืนเรียงรายอย่างเป็นระเบียบในลานกว้างของศิษย์สายนอก

“ได้ยินว่าครั้งนี้ผู้นำทีมคือผู้อาวุโสสายในสองท่าน”

“ใช่แล้ว ผู้อาวุโสสายนอกของเรายังแข็งแกร่งขนาดนี้ ผู้อาวุโสสายในจะยิ่งแข็งแกร่งขนาดไหน?”

“ไม่รู้สิ ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ข้าอยู่อันดับเก้าในกระดานแล้ว อีกไม่นานกระดานอันดับจะถูกกำหนด ข้าก็จะได้เลื่อนเข้าสู่ศิษย์สายในแล้ว ฮ่าๆๆ”

“เงียบหน่อย ศิษย์พี่! ผู้อาวุโสมาแล้ว!”

หญิงสาวคนหนึ่งในชุดผู้อาวุโสสายใน และชายวัยกลางคนอีกหนึ่งคน เดินมายังหน้าศิษย์ทั้งหมด

“ข้าคือ มู่ซุยเซียน ผู้อาวุโสสายใน และท่านนี้คือ หลัวเฉิน ผู้อาวุโสสายใน

ครั้งนี้ พวกเราจะเป็นผู้นำศิษย์ทุกคนไปทำภารกิจ”

“ว้าว! ผู้อาวุโสมู่ซุยเซียนงดงามดุจเซียนสวรรค์!”

“ไม่ได้! ข้าต้องเข้าเป็นศิษย์ในให้ได้ ไม่ใช่เพื่ออะไร แต่เพื่อความชุ่มชื่นใจ!”

“ภารกิจครั้งนี้เป็นคำสั่งโดยตรงจากท่านเจ้าสำนัก จะต้องไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่น้อย”

“เหล่าศิษย์ จงปกป้องบ้านเกิดของพวกเจ้า!”

“เอาล่ะ เลิกพูดให้มากความ ออกเดินทางได้!”

มู่ซุยเซียนกล่าวจบก็หมุนตัวเดินขึ้น เรือรบชิงหยุน เหล่าศิษย์ทั้งหลายต่างทยอยขึ้นเรืออย่างเป็นระเบียบ…

….

หลังจากจดหมายขอความช่วยเหลือจากตระกูลเย่ถูกส่งออกไป

เหล่าขุมอำนาจต่างๆในแคว้นหลิงโจวต่างตอบสนองทันที

พวกเขาส่งทั้งผู้แข็งแกร่งและศิษย์เข้าร่วมภารกิจในครั้งนี้

บรรยากาศคล้ายกับตอนที่เหล่าขุมอำนาจร่วมกันโจมตีสำนักชิงหยุนเมื่อครั้งก่อน แต่ครั้งนี้ยิ่งใหญ่และจริงจังกว่า

ขุมอำนาจชั้นนำและระดับหนึ่ง รวมถึงขุมอำนาจระดับสองและสาม ต่างก็ส่งศิษย์และผู้อาวุโสเข้าร่วม

นี่คือสงครามป้องกันแคว้นหลิงโจว ทุกคนต่างรู้ดีว่าหากด่านป้องกันล่มสลาย ไม่มีใครจะรอดพ้นจากภัยครั้งนี้ได้

กองเรือรบจำนวนมหาศาล รวมตัวกันจากทุกทิศทาง และมุ่งหน้าไปยังเมืองปักฟ้า

ณ เมืองซวนเย่

เหล่าผู้ฝึกตนสายกระบี่นับไม่ถ้วนมารวมตัวกัน

พวกเขาตัดสินใจเดินทางไปยังเมืองปักฟ้าด้วยตัวเอง เพื่อร่วมป้องกันคลื่นอสูร

“ใครบอกว่าผู้บ่มเพาะกระบี่ไร้หัวใจ? เมื่อวิกฤตมาถึง พวกเราจะยืนหยัดที่เมืองปักฟ้า!”

ณ เมืองเทียนอู่

ผู้นำตระกูลจ้าว ซึ่งเป็นขุมอำนาจใหม่ระดับหนึ่ง ได้รวบรวมเหล่าศิษย์และผู้อาวุโสทั้งหมดในตระกูล ออกเดินทางไปยังเมืองปักฟ้า

ณ เมืองฝูเซิง

เหล่าผู้ฝึกตนอิสระจำนวนมากมารวมตัวกันที่หน้าจวนเจ้าเมือง

ภายใต้การนำของเจ้าเมือง พวกเขาตัดสินใจเข้าร่วมปกป้องแคว้นหลิงโจว

ณ เมืองหลางเย่

“ท่านทั้งหลาย นี่คือศึกตัดสินเป็นตายของแคว้นหลิงโจว ใครที่ไม่กลัวตายตามข้ามา!”

ในยามที่ชีวิตต้องเผชิญกับความเป็นความตาย คนที่มองข้ามความกลัวนั้นได้ มิใช่คนธรรมดา แต่คือผู้ที่ยึดมั่นในเกียรติ หรือมีหน้าที่ที่ไม่อาจละเลยได้

…..