ตอนที่แล้วตอนที่ 37 ป้ายประจำตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 39 อัจฉริยะรวมตัว อีกสามวันเปิดรับศิษย์

ตอนที่ 38 อัญเชิญอาวุโส


ตอนที่ 38 อัญเชิญอาวุโส

“จะออกมาหรือไม่? หรือเจ้าต้องการให้ข้าเชิญเจ้าออกมา?”

หลังจากที่สือฮ่าวและพรรคพวกทั้งสามเดินออกไป เฟิงชิงหยางก็เหลือบมองแหวนมี่หลงพลางเอ่ยอย่างเรียบเฉย

มู่ซุยเซียน เมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็ปรากฏกายออกมาจากในแหวน

ตอนนี้นางเป็นเพียงเศษวิญญาณอยู่เท่านั้น ทำให้ร่างของนางโปร่งแสงและล่องลอยอย่างไม่มั่นคง

“เจ้าต้องการอะไร?”

มู่ซุยเซียนสงสัยว่าท่านเจ้าสำนักลึกลับนี้ต้องการอะไรกัน

หลังจากที่ได้เห็นความน่ากลัวของสำนักชิงหยุน นางผู้มีความหยิ่งทะนงในฐานะมหาจักรพรรดิ ก็เริ่มเก็บงำความอวดดีของตนเองมากขึ้น เพราะรู้ดีว่าพวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้กับนางในตอนนี้

“ไม่ได้ต้องการอะไรมาก แค่ต้องการพูดคุยเรื่องหนึ่ง

ข้าจะให้โอกาสเจ้าครั้งหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตนเอง ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะคว้ามันได้หรือไม่

มาเป็นผู้อาวุโสของสำนักชิงหยุน เป็นเวลาแสนปี

เอาให้ถูกต้องกว่านี้ คือเจ้าต้องทำงานให้สำนักชิงหยุนโดยไม่รับค่าตอบแทนเป็นเวลาแสนปี

ค่าตอบแทนที่ข้าให้ คือการสร้างร่างใหม่ให้เจ้า เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

“แสนปี!”

ถึงแม้ว่านางจะเป็นถึงขอบเขตมหาจักรพรรดิ ก็ยังอดตะลึงไม่ได้ อายุขัยของมหาจักรพรรดิ มีสักกี่คนกันที่สามารถมีชีวิตได้ถึงแสนปี?

จะมีใครรู้ว่าอีกแสนปีข้างหน้า นางจะยังอยู่หรือไม่

แต่การสร้างร่างใหม่นั้น… สำหรับนางมันคือสิ่งที่ยากจะปฏิเสธได้

ตอนนี้นางเป็นเพียงเศษวิญญาณเท่านั้น การจะสร้างร่างใหม่ด้วยตัวเองนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย

เมื่อคิดเช่นนี้ มู่ซุยเซียนก็ไม่ลังเลอีกต่อไป แสนปีก็แสนปี!

นางตัดสินใจอย่างเด็ดขาด

“ต้องทำอย่างไร?”

“ง่ายมาก แค่ทำการลงนามสัญญาแห่งมหาวิถี ก็เพียงพอ”

นี่เป็นคำแนะนำจากระบบเดิมทีเขาต้องการให้ระบบจัดหาของดีๆ ที่จะใช้ควบคุมนางโดยตรง แต่สัญญาแห่งมหาวิถีนั้นเข้มงวดกว่าคำสาบานของมหาวิถีเสียอีก

หากใครผิดคำสัญญา โทษทัณฑ์จะรุนแรงถึงขั้นฟ้าผ่าจนร่างแตกเป็นเสี่ยงๆ ไม่เหลือแม้แต่เศษธุลี

“มาเถิด”

พวกเขาสื่อสารกับสวรรค์ด้วยพลังบ่มเพาะของตนเอง เฟิงชิงหยางเขียนสัญญาแห่งมหาวิถีและประทับนามของสำนักชิงหยุน ลงไปด้วยพลังจิตสำนึก

มู่ซุยเซียนตรวจสอบเนื้อหาและไม่พบสิ่งผิดปกติ จึงเขียนชื่อของนางด้วยพลังจิตสำนึกลงไปเช่นกัน

สัญญาสมบูรณ์

เนื้อหาของสัญญาระบุว่าสำนักชิงหยุนจะสร้างร่างใหม่ให้กับมู่ซุยเซียน และนางต้องทำงานให้สำนักชิงหยุนโดยไม่มีค่าตอบแทนเป็นเวลาแสนปี จากนั้นสัญญาจะสิ้นสุดลง

หากฝ่ายใดฝ่าฝืน จะถูกลงโทษจนถึงขั้นวิญญาณสูญสลาย เฟิงชิงหยางหัวเราะเย้ยหยันต่อข้อกำหนดนี้

สำนักชิงหยุนเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ สวรรค์เองยังต้องหลบทางให้

แต่เหตุผลที่เขายอมทำเช่นนี้ก็เพราะต้องการให้มู่ซุยเซียนมาเป็นแรงงานอันมีค่านั่นเอง

ด้วยสถานะของนางในระดับมหาจักรพรรดิ การเป็นเพียงผู้อาวุโสในสำนักชิงหยุนก็ยังพอจะยอมรับได้ แม้จะเป็นเพียงผู้อาวุโสสายใน แต่นางสามารถสอนศิษย์สายในได้แน่นอน

“ดีแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าจะสร้างร่างให้เจ้าใหม่”

“ระบบ นำบัวศักดิ์สิทธิ์ออกมา”

เฟิงชิงหยางชี้ไปที่มู่ซุยเซียน แล้วทันใดนั้นแสงสว่างเจิดจ้าก็ส่องประกายออกมา รากบัวที่ปรากฏก็ติดเข้ากับร่างของมู่ซุยเซียน จากนั้นมันก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ จนสร้างร่างกายใหม่ขึ้นมาแทนที่เดิม

ในสายตาของมู่ซุยเซียน มันเป็นเพียงการที่เฟิงชิงหยางสะบัดมืออย่างไม่ใส่ใจ แต่ร่างกายใหม่ก็ปรากฏขึ้นบนร่างนางอย่างสมบูรณ์

ชุบชีวิตคนตาย คืนเนื้อหนังมังสา!

มันคือการสร้างสรรค์ที่เทียบเท่ากับการโค่นล้มสวรรค์!

ความสามารถระดับนี้ ท่านเจ้าสำนักเป็นใครกันแน่!

“เสร็จแล้ว นี่คือ กายาบัวศักดิ์สิทธิ์ ที่ข้าประทานให้เจ้า จำไว้ว่าข้ามอบให้ได้ก็ย่อมสามารถริบคืนได้

ส่วนสัญญาแห่งมหาวิถีนั้น เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวมันหรือ?”

“…ขอบคุณท่านเจ้าสำนัก!”

มู่ซุยเซียนก้มศีรษะด้วยความเคารพ ไม่มีความเย่อหยิ่งเหลืออยู่ในน้ำเสียงอีกต่อไป

เมื่อถูกเฟิงชิงหยางข่มขู่ มู่ซุยเซียนก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากกล่าวขอบคุณเท่านั้น

เขาเป็นมีด นางเป็นปลา

เมื่อการสร้างร่างเสร็จสิ้น มู่ซุยเซียนก็ปรากฏในรูปแบบเนื้อหนังอีกครั้ง สวมชุดกระโปรงยาวสีเขียวเข้ม นางลองสัมผัสดูและพบว่าร่างกายนี้มาพร้อมกับพลังในตัว นี่มันเกินกว่าที่คาดคิดไว้!

นางลองใช้พลังและพบว่าตอนนี้สามารถควบคุมพลังได้แค่ระดับปราชญ์เท่านั้น นั่นก็เพราะก่อนหน้านี้นางมีเพียงเศษวิญญาณ

แต่ขอบเขตมหาจักรพรรดิของนางยังคงอยู่ ร่างใหม่นี้เพียงแค่ทำให้นางกำลังฟื้นฟูพลัง และการกลับสู่ขอบเขตมหาจักรพรรดิก็ไม่ใช่เรื่องยาก

“ลงไปเถิด จากนี้ไปเจ้าคือผู้อาวุโสสายในของสำนักชิงหยุนของข้า

ทำตัวให้ดี ข้าจะเลือกวันที่เหมาะสมสำหรับเปิดเขารับศิษย์”

หลังจากมู่ซุยเซียนจากไป เฟิงชิงหยางก็เปิดหน้าต่างระบบอีกครั้ง

รางวัลจากครั้งที่แล้วเหลืออยู่ บัตรอัญเชิญห้าใบ ที่ยังไม่ได้ใช้ ให้ตายเถอะ อีกไม่นานก็จะเปิดเขารับศิษย์แล้ว จำเป็นต้องมีผู้แข็งแกร่งมากกว่านี้

“ต้องได้ระดับทอง ต้องได้ของดี!”

“ระบบ ใช้บัตรอัญเชิญทั้งหมด!”

เมื่อเฟิงชิงหยางใช้บัตรอัญเชิญทั้งหมด ระบบก็เริ่มทำการสุ่ม

【“บัตรอัญเชิญสีเงินใช้งานสำเร็จ… กำลังสุ่ม… ขอแสดงความยินดีที่นายท่าน สุ่มได้ผู้อาวุโสสายนอกขอบเขตเบิกฟ้าขั้นสูงสุด มู่เทียน”】

【“บัตรอัญเชิญสีเงินใช้งานสำเร็จ… กำลังสุ่ม… ขอแสดงความยินดีที่นายท่านสุ่มได้ผู้อาวุโสสายนอกขอบเขตเบิกฟ้าขั้นสูงสุด มู่เฟิง”】

【“บัตรอัญเชิญสีเงินใช้งานสำเร็จ… กำลังสุ่ม… ขอแสดงความยินดีที่นายท่านได้สุ่มได้ผู้อาวุโสสายในขอบเขตกึ่งปราชญ์ หลัวเฉิน”】

【“บัตรอัญเชิญสีเงินใช้งานสำเร็จ… กำลังสุ่ม… ขอแสดงความยินดีที่นายท่านได้สุ่มได้ผู้อาวุโสฝ่ายคุมกฎ ขอบเขตปราชญ์ขั้นสูงสุด หลัวอู่เต้า”】

【“บัตรอัญเชิญสีเงินใช้งานสำเร็จ… กำลังสุ่ม… ขอแสดงความยินดีที่นายท่านได้สุ่มได้ผู้อาวุโสประจำหอคำภีร์ ขอบเขตปราชญ์ขั้นสูงสุด เนี่ยห่ายหลง”】

【“สุ่มเสร็จสิ้น กำลังทำการเรียก”】

“เหวอ! ในที่สุดก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ”

“หนึ่งขอบเขตกึ่งปราชญ์ สองขอบเขตปราชญ์ขั้นสูงสุด”

อาวุโสสายนอกสองท่าน และอีกหนึ่งอาวุโสสายใน ยังมีหนึ่งอาวุโสคุมกฎ และอีกหนึ่งอาวุโสหอคำภีร์”

“เรียบร้อย สามารถเสริมรากฐานของสำนักต่อได้แล้ว!

เฟิงชิงหยางเปิดดูข้อมูลของตัวเอง

【“เจ้าสำนัก: เฟิงชิงหยาง

พลังบ่มเพาะ: ขอบเขตผู้ไร้มลทินขั้นต้น

ศิษย์: สือฮ่าว หลินไป๋ ฮวาชิงหยู

ร่างกาย: กายาเทพเอกะจักรวาล”】

【“ผู้แข็งแกร่งของสำนัก:

บรรพชนหลี่ชิงหยุน: ขอบเขตมหาจักรพรรดิ

ผู้อาวุโสคุ้มกันหวังเสวียน: ขอบเขตเบิกฟ้าขั้นสูงสุด

อาวุโสสายนอก: เย่ไป๋ มู่เทียน มู่เฟิง: ขอบเขตเบิกฟ้าขั้นสูงสุด

ผู้คุ้มกันห้าท่าน: ขอบเขตผู้ไร้มลทิน”】

【“อาวุโสสายใน: มู่ซุยเซียน-ขอบเขตปราชญ์

หลัวเฉิน-ขอบเขตกรึ่งปราชญ์

อาวุโสคุมกฏหลัวอู่เต้า: ขอบเขตปราชญ์ขั้นสูงสุด

อาวุโสหอคำภีร์เนี่ยห่ายหลง: ขอบเขตปราชญ์ขั้นสูงสุด”】

【“สำนัก: สำนักชิงหยุน

ระดับหนึ่ง (9000/10000)”】

【“นายท่านยังต้องพัฒนาสำนักต่อไป เพื่อให้กลายเป็นสำนักเทพอันดับหนึ่งของมหาจักรวาลในอนาคต”】

“เหวอ! ระบบ ทำไมต้องเร่งขนาดนี้”

“ใช้เวลาไม่นาน สำนักชิงหยุนก็แข็งแกร่งขนาดนี้แล้ว!”

ตอนนี้เฟิงชิงหยางไม่กล้าโอ้อวดเกินไป แต่การที่จะเป็นสำนักอันดับหนึ่งของโลกหวงหวู่นั้น เขาคิดว่าอาจจะเหลือเพียงแค่การเสริมทัพผู้แข็งแกร่งระดับสูงและการฝึกฝนศิษย์เท่านั้น

เพียงแค่ให้เวลาเขาอีกนิด สำนักชิงหยุนก็จะสามารถขยายอำนาจไปทั่วทั้งห้าภูมิภาคและหกสิบห้าแคว้นได้โดยไม่ยากเย็น

ข้างนอกหอชิงหยุนมีอาวุโสที่ระบบได้เรียกมาจากการอัญเชิญปรากฏตัว

“สองขอบเขตปราชญ์ขั้นสูงสุด หนึ่งขอบเขตกึ่งปราชญ์”

มู่ซุยเซียนเงยหน้าขึ้นแล้วคิดในใจ

ในใจนางคิดว่า สำนักชิงหยุนนี้ก็จริงๆ ไม่ธรรมดาเลย มีความแข็งแกร่งขนาดนี้ ถ้ามุ่งมั่นก็สามารถยึดครองภาคตะวันออกได้แน่นอน

“ศิษย์น้อง อย่าตกใจไป นี่คืออาวุโสจากสำนักชิงหยุนของเรา”

สือฮ่าวบอกกับฮวาชิงหยูด้วยเสียงเบาๆ และอธิบายว่า

“ผู้แข็งแกร่งของสำนักชิงหยุนส่วนใหญ่ยังคงหลับไหลหรือเดินทางอยู่โลกภายนอกอยู่ ตอนนี้ที่สำนักจะลงมือจริงๆ เพื่อเริ่มเปิดสำนักและรับศิษย์ใหม่ จึงทำให้ต้องมีการมาถึงของพวกเขาทีละคน”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด