ตอนที่ 35 รวมกำลังสังหารปีศาจ มู่ซุยเซียนลงมือ
ตอนที่ 35 รวมกำลังสังหารปีศาจ มู่ซุยเซียนลงมือ
"บัดซบ! กระบี่วิญญาณของข้านั้นบิ่นไปหมดแล้ว!"
"เจ้าหนู เจ้าพูดอะไรกัน! จอบของข้าฟาดจนควันขึ้นแล้ว!"
"จอบของเจ้ามีแค่ควันขึ้น? กระบี่ของข้าพังไปสองเล่มแล้ว
ต่างหาก!"
เหล่าศิษย์จากทุกสำนักภายในซากปรักหักพังล้วนตาลุกเป็นไฟ ขยับกระบี่ขึ้นลง ฟาดฟันไม่หยุดหย่อน แม้กระทั่งไม่กระพริบตา
แต่ว่าเหล่าปีศาจพวกนี้ช่างมีจำนวนมหาศาล ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่จำนวนของพวกเขากลับลดลงเรื่อยๆ ศิษย์มากกว่าครึ่งได้ล้มตายไปแล้ว
เหล่าปีศาจนี้ยากจะสังหาร หากไม่จัดการให้สิ้นชีพในครั้งเดียว พวกมันจะฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว
"เพลงกระบี่บัวมรกต!"
"บัวมรกตนำทาง!"
หลินไป๋ถือกระบี่บัวมรกตไล่ฟาดฟันเหล่าปีศาจอย่างบ้าคลั่งเลือดสดสาดกระเซ็นจนเสื้อผ้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน
ทว่าเมื่อพลังวิญญาณภายในร่างค่อยๆหมดไป เรี่ยวแรงของเขาก็เริ่มถดถอย
"ไม่ไหวแล้ว ศิษย์พี่! พวกปีศาจเหล่านี้มีมากเกินไป หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ สุดท้ายพวกเราต้องพ่ายแพ้แน่นอน!"
เขาผู้ใฝ่ฝันจะก้าวล้ำเหนือมหาจักรพรรดิ จะมาพ่ายแพ้ในที่แห่งนี้ได้อย่างไร
"เจ้าปกป้องศิษย์น้องหญิงให้ดี ข้าจะรีบกลับมา"
สือฮ่าวที่กำลังมัวแต่สังหารเหล่าปีศาจอยู่ เมื่อได้ยินคำของ ศิษย์น้องก็หันมาตะโกน ก่อนจะซัดหมัดเดียวสังหารปีศาจ สิบกว่าตัวที่ขวางหน้า และเร่งมุ่งหน้ากลับไปยังที่ศิษย์น้องชายหญิง
อีกด้านหนึ่ง
หวังเถิงฟันกระบี่ออกไป ก่อนที่ปีศาจสิบกว่าตัวจะถูกทำลายจนหมดสิ้น แล้วก็มีปีศาจจำนวนมากตามเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง
"แม่นางเจี่ย พี่มู่!"
"ถึงเวลานี้แล้ว รีบใช้ไพ่ตายช่วยชีวิตเถิด!"
เขาไม่ถนัดการสู้รบระยะยาวนัก เขาถนัดกับการใช้กลยุทธ์การโจมตีอย่างรวดเร็ว หรือการ ตัดสินใจให้จบในคราวเดียว
เคยกล่าวไว้ว่า “สวรรค์หากไร้ซึ่งข้า หวังเถิง มหาวิถีทั้งหกจะแปดเปื้อนด้วยรัตติกาลนิรันดร์!”
หวังเถิงตะโกนแล้วจากนั้นก็หยิบม้วนม้วนหนึ่งออกมาจาก
แหวนเก็บสมบัติ
ม้วนสีแดงเพลิงนั้นบรรจุพลังการโจมตีของขอบเขตกึ่งปราชญ์ ม้วนแผ่นนี้ลอยขึ้นไปในอากาศแล้วปลดปล่อยพลังออกมา
พร้อมเสียงระเบิดดังสนั่น เสียงระเบิดทำให้ปีศาจพันตัวถูกบดขยี้ทันที
เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ขึ้น!
เจี่ยเมิ่งซินจากแดนศักดิ์สิทธิ์หลานเย่ และมู่ฟานจากแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชิงเห็นดังนั้น ก็หยิบไพ่ตายช่วยชีวิตของตัวเองออกมา
พวกเขาทราบดีว่า หากยังคงถูกกดดันเช่นนี้ต่อไป พวกเขาจะเสียท่าในที่สุด ศิษย์จากสำนักของตนเองเริ่มมีบาดเจ็บ จึงไม่สามารถรอได้อีกต่อไป
เจี่ยเมิ่งซินถอดป้ายหยกจากคอ ส่วนมู่ฟานก็หยิบม้วนม้วนหนึ่งที่เหมือนกับของหวังเถิง
เช่นเดียวกับหวังเทิง ทั้งสองได้ไพ่ตายช่วยชีวิตจากขอบเขตกึ่งปราชญ์จากสำนักของตน พลังการโจมตีทั้งหมดนั้นมีพลังเต็มที่ของขอบเขตกึ่งปราชญ์
เมื่อพลังวิญญาณอันมหาศาลถูกปลดปล่อยออกมาปีศาจหลายพันตัวถูกสังหารพร้อมเสียงร้องอันแปลกประหลาด ก่อนที่จะถูกเคลียร์จนหมดสิ้น
เหลือเพียงกลุ่มเล็กๆ ที่ยังคงอยู่ก็ถูกทุกคนร่วมมือ กันฆ่าจนหมดสิ้น
จนในที่สุดทุกคนก็หยุดพัก หยุดหายใจ พากันโล่งอกที่ยัง มีชีวิตรอดมาได้
การสังหารที่โหดร้าย พี่น้องจากหลายสำนักเสียชีวิตไป
เกินครึ่ง
"ฮีม...เหนื่อยจนตายเลยพวกปีศาจพวกนี้....ในที่สุดก็ถูก จัดการจนหมดสิ้น!"
"ใช่...ต้องขอบคุณคนของแดนศักดิ์สิทธิ์พวกเขาที่ใช้พลังเต็มที่"
หลายคนล้มตัวนั่งลงทันที ร่างกายอ่อนล้า หายใจหอบ
สือฮ่าวและคนอื่นๆ ก็ถอนหายใจยาว
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เข้าร่วมการต่อสู้ที่โหดร้ายเช่น
นี้ ทั้งตื่นเต้นและตกใจ
ภายในพื้นที่นั้นเต็มไปด้วยซากศพ สายเลือดไหลเป็นแม่น้ำ
ทุกคนเสนอให้ฝังศพของศิษย์เหล่านั้นไว้ตรงนั้น โดยทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกัน
ภายในนี้หรือจะมีศิษย์จากสำนักของตนบ้าง ถ้าไม่ใช่ในเขตนี้ที่เต็มไปด้วยอันตรายที่ไม่ยอมปล่อยแม้แต่กระดูกของเหยื่อ พวกเขาคงไม่สนใจเลย
"พวกเจ้าไม่เป็นไรใช่มั้ย?"
"ข้าไม่เป็นไรศิษย์พี่ อ้อ...เลือดที่ตัวข้าเนี่ย เป็นของคนอื่น ที่กระเด็นมามากกว่า"
"ข้าก็ไม่เป็นไร ศิษย์พี่"
หลังจากหายใจหนักๆเสร็จแล้ว ฮวาชิงหยูก็กล่าว
ตอนนี้นางได้ทราบแล้วว่า สิ่งที่ท่านผู้อาวุโสได้กล่าวถึงศิษย์พี่ทั้งสองของนางว่าไม่ธรรมดานั้น หมายถึงอะไร
ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!
หนึ่งประดุจเทพสงคราม ทุกหมัดที่ทุ่มลงไปสามารถกำจัดปีศาจได้เป็นกลุ่มใหญ่ อีกหนึ่งดุจเทพกระบี่ทุกกระบี่ที่ฟันก็สามารถสังหารปีศาจได้อย่างแม่นยำ!
ส่วนนางนั้น เนื่องจากขาดวิธีฝึกฝนที่เหมาะสม จึงไม่สามารถปลดปล่อยพลังของกายาฟีนิกซ์ศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้อย่างเต็มที่
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พลังของกลุ่มใหญ่ๆ ยังคงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ประสบวิกฤติใดๆ
พวกเขามีรากฐานที่มั่นคง วิธีฝึกหลากหลาย โอสถรักษาและสมุนไพรล้ำค่ารวมถึงเครือข่ายที่ซับซ้อน
แล้วพรสวรรค์ของเจ้าจะมีประโยชน์อย่างไร? หากปราศจากวิธีฝึกฝน โอสถและคนคอยสนับสนุน ก็ยากที่จะไปถึงจุดนั้น
คิดว่าแค่ฝึกฝนสิบปีแล้วจะสามารถแซงหน้าได้หรือ? อย่าได้ฝันเลย!
(เว้นแต่จะเป็นผู้ที่โชคดีอย่างยิ่ง!)
“ฮ่าฮ่า พี่สือ การต่อสู้ในครั้งนี้สนุกจริงๆ”
หวังเถิงเดินมาปะป่ายบ่าของสือฮ่าว ชายหนุ่มทั้งสองที่มีอุดมการณ์เดียวกัน วันนี้ได้ร่วมมือกันทำให้มันสำเร็จกำจัดปีศาจรักษาธรรม!
"จริงๆ สนุกสุดๆ!"
"แต่ข้าจะไม่เทียบกับเจ้าหรอกนะ เจ้าบ้าบิ่น ใช้ไพ่ตายจัดการปีศาจไปตั้งมากมาย"
สือฮ่าวยังจำได้ที่หวังเถิงพูดกับเขาก่อนหน้านี้อยากจะเทียบกันว่าใครสังหารปีศาจได้มากกว่า
แต่มันจะไปเทียบกันได้อย่างไรล่ะ ไพ่ตายลับเจ้านั่นแค่เปิดใช้ก็ฆ่าไปได้ตั้งพันตัว แต่ไพ่ตายลับก็เป็นพลังของคนอื่นนั่นแหละ
"ฮ่าๆ ข้าพูดเล่นน่า"
ในขณะที่พวกเขากำลังจะจากไป ความเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีก
เมฆสีเลือดบนฟ้าถูกความมืดปกคลุมไปหมด ทั่วทั้งพื้นที่กลายเป็นความมืด
"เกิดอะไรขึ้น!"
"ไม่สิ ไม่นะ ยังมีปีศาจอยู่หรือ อะไรของมันอีกแล้ว!"
หลังจากการต่อสู้ ทุกคนต่างก็หมดแรง
"เจี๊ยก เจี๊ยก เจี๊ยก!"
"สามารถทำลายกองทัพปีศาจของข้าได้ น่าสนใจดี“
"ข้าชอบกินพวกเจ้าพวกที่เป็นอัจฉริยะเหล่านี้ที่สุด เจี๊ยก เจี้
ยก เจี๊ยก"
มีปีศาจขนาดยักษ์ตัวหนึ่งที่มีเขายาวสองข้างปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า
"แม่งเอ๊ย! นี่มันสัตว์ประหลาดอะไรกัน!"
"โธ่เว้ย นี่มันราชาปีศาจ ชีวิตข้าจบแล้ว!
ผู้คนต่างตกใจหวาดกลัว พยายามหนีจากที่นี่ เพราะพลังของปีศาจนั้นเหลือล้นเกินกว่าที่พวกเขาจะต้านทานได้
แต่ทว่าภายในแดนลับแห่งนี้ พวกเขาจะหนีไปที่ไหนได้เล่า?
หากคำนวณตามเวลาแล้ว ทางออกของแดนลับคงจะต้องใช้เวลาถึงหนึ่งวันก่อนที่จะเปิดอีกครั้ง
"แม่นางเจี่ย พี่มู่ รีบลงมือเถิด!"
หวังเถิงกล่าวจบก็รีบหยิบม้วนปีกออกมาอีกครั้ง เพราะพลังของปีศาจตนนี้รุนแรงเกินไป สูงกว่าปีศาจก่อนหน้านี้ที่พวกเขาเพิ่งต่อสู้มานับร้อยเท่า
ได้ยินคำพูดของหวังเถิง ทั้งสามคนจึงร่วมกันมือกัน
ม้วนปีกสีแดงเพลิง เครื่องรางหยก และม้วนปึกสีน้ำเงิน ต่างก็ถูกส่งไปยังปีศาจที่อยู่บนท้องฟ้า
หลังจากเสียงระเบิดอันดังกังวาน พวกเขาก็เห็นว่า ปีศาจตนนั้น
ยังคงไม่เป็นอะไรเลย
"ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเจ้ามาทำให้ข้าคันอยู่หรือ?"
"แม่เจ้า! หรือว่าจะเป็นราชาปีศาจในขอบเขตปราชญ์?!"
"คราวนี้เสร็จแล้ว!"
หวังเถิงกล่าวออกมาด้วยความสิ้นหวัง เหตุใดในแดนลับแห่งนี้ถึงมีราชาปีศาจขอบเขตปราชญ์ได้กัน!
พลังของปีศาจนี้ยังไม่เสถียร บ่งบอกว่าไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ก็ยังไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะสามารถต้านทานได้
"ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมดก่อน แล้วค่อยไปอาละวาดในดินแดนภาคตะวันออก!"
ราชาปีศาจเริ่มลงมือ เพียงแค่ยืนอยู่ แต่ผู้คนข้างล่างก็เริ่ม ร้องคร่ำครวญทันที
"อ๊ะ! มือข้า! ขาข้า!"
ผู้ที่พลังต่ำกว่าถูกมวลพลังปีศาจละลายร่างกายไปหมด
"ชิงหยู เปิดจิตสำนึกของเจ้า"
ในขณะที่ฮวาชิงหยูไม่รู้จะทำเช่นไร ในขณะที่ตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนก คำพูดของผู้อาวุโสในแหวนของนาง ก็ได้ดังขึ้น นางจึงปล่อยจิตสำนึกให้เปิดออก เศษวิญญาณของมู่สุ่ยเซียนได้เข้าไป
การกระทำนี้มีราคาต้องจ่าย แต่เนื่องจากนางได้ใช้โอสถศักดิ์สิทธิ์ก่อนหน้านี้ จึงยังสามารถรับมือได้
เมื่อเห็นว่าฮวาชิงหยูและพรรคพวกกำลังจะถูกฆ่า นางจึงไม่อาจนิ่งดูดายได้อีกต่อไป
"ขอยืมกระบี่บัวมรกตใช้สักครู่"
มู่สุ่ยเชียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีใครปฏิเสธิได้
"หือ? ศิษย์น้องเจ้าจะ...?"
หลินไป่ยังอยากพูดอะไร แต่เมื่อเห็นแววตาอันเยือกเย็นของ ศิษย์น้อง ก็รีบส่งกระบี่บัวมรกตไปให้ทันที
จากนั้นในขณะที่สายตาของสือฮ่าว หวังเถิง และผู้อื่นเต็มไปด้วยความตกตะลึง นางก็พุ่งไปยังราชาปีศาจบน ท้องฟ้า