ตอนที่แล้วตอนที่ 304 การลงทะเบียนเข้าเมืองของมนุษย์ต่างดาว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 306 แล้วเราจะรออะไรกันอยู่ล่ะ? ไปหาเขากันเลย!

ตอนที่ 305 ภาพลวงตา!


ตอนที่ 305 ภาพลวงตา!

การลงทะเบียนมนุษย์ต่างดาวสำหรับการเข้าโลก เป็นข้อเสนอที่ริเริ่มโดยพันธมิตรแห่งดวงดาว และผ่านการอนุมัติจากคณะมนตรีความมั่นคงโลก และได้รับการลงมติผ่านโดยองค์การสหประชาชาติ

พันธมิตรแห่งดวงดาวที่ก่อตั้งใหม่ มีบุคลากรที่หลากหลายและความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่กลับไม่มีฮีโร่ที่โดดเด่น หรือบทบาทที่ชัดเจนเลย แม้ว่าจะอ้างว่ารับมือกับปัญหาเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว แต่ข้อมูลเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวกลับอยู่ในมือของหน่วยชีลด์และองค์กรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำให้เกิดความล่าช้าและไม่มีข้อมูลสำคัญที่เป็นประโยชน์อะไรเลย

ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ผู้อำนวยการที่เจ้าเล่ห์ของหน่วยชีลด์จึงเสนอให้พันธมิตรแห่งดวงดาวยื่นขอ ‘มาตรการจัดการการลงทะเบียนมนุษย์ต่างดาว’ ต่อองค์การสหประชาชาติ ซึ่งผู้บริหารของพันธมิตรแห่งดวงดาวก็เล็งเห็นประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น จึงส่งแผนนี้ขึ้นไปอย่างเร่งด่วนทันที

ส่วนคณะมนตรีความมั่นคงโลกก็อนุมัติแผนดังกล่าวอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายผู้อำนวยการหน่วยชีลด์กลับใช้อุบายทำให้พันธมิตรแห่งดวงดาวละทิ้งภารกิจดั้งเดิมไป ด้วยเหตุนี้เองคณะมนตรีความมั่นคงโลกที่รู้สึกถูกหลอก จึงมอบหมายภารกิจดังกล่าวให้หน่วยชีลด์แทน

ส่วนทางพันธมิตรแห่งดวงดาวก็เพิ่งตระหนักว่าพวกเขาตกหลุมพรางของหน่วยชีลด์ นี่เป็นแผนทั้งหมดของฟิวรี่ที่เจ้าเล่ห์ ซึ่งใช้ความขัดแย้งภายในพันธมิตรแห่งดวงดาวเพื่อสร้างประโยชน์ให้หน่วยชีลด์ของตัวเอง

จากเหตุการณ์นี้ พันธมิตรแห่งดวงดาวจึงเริ่มคิดว่าพวกเขาจำเป็นต้องมีผู้นำที่แข็งแกร่ง ฉลาด และทรงอำนาจ ซึ่งฮีโร่อย่างไอรอนแมน ดร.ดูม ศาสตราจารย์เอ็กซ์ และสกาย ต่างก็เป็นตัวเลือกในรายชื่อผู้นำที่พวกเขาพิจารณา แต่ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจ หน่วยชีลด์ก็เริ่มภารกิจ ‘การลงทะเบียนมนุษย์ต่างดาว’ ครั้งแรกไปแล้ว

กลุ่มเทพแอสการ์ดทั้งสี่คน ได้แก่ ซิฟ โวลสแต็ก แฟนดรัล และโฮเกน ถูกบันทึกไว้เป็นรายชื่อแรกในทะเบียนมนุษย์ต่างดาว ซึ่งในตอนนี้มีเพียงสี่รายชื่อเท่านั้น

ข้อมูลที่ลงทะเบียนไม่ได้มีแค่ส่วนสูงและน้ำหนัก แต่ยังรวมถึงความสามารถ สภาพร่างกาย การประเมินจิตใจ เชื้อชาติ ข้อมูลเกี่ยวกับถิ่นกำเนิด และข้อมูลอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้แต่ละคนมีแฟ้มข้อมูลที่หนาเป็นเล่ม

ดังนั้นเพื่อป้องกันการปกปิดข้อมูล หน่วยชีลด์จึงได้เชิญโทนี่ สตาร์คมาเป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิค และสร้างอุปกรณ์ตรวจจับหลากหลายชนิด ทั้งนี้หน่วยชีลด์ก็ต้องยอมแลกบางสิ่งเพื่อให้ได้อุปกรณ์เหล่านี้ แต่สิ่งที่พวกเขาแลกมานั้นไม่มีใครทราบถึงข้อตกลงลับดังกล่าว

การตรวจสอบทั้งหมดใช้เวลาทั้งวัน แม้แต่ซิฟที่ปกติจะสุขุมเยือกเย็นก็เริ่มไม่พอใจ หากไม่ใช่เพราะความกังวลเกี่ยวกับธอร์ พวกเขาอาจจะเริ่มการต่อสู้แล้ว

เมื่อกลุ่มเทพแอสการ์ดกลับมาที่นิวยอร์กพร้อมกับ ‘บัตรประจำตัวชั่วคราว’ จากหน่วยชีลด์ พวกเขาก็พบว่าเดสทรอยเยอร์ที่เป็นอาวุธวิเศษของแอสการ์ดได้หายไปแล้ว

ในที่สุด พวกเขาก็ต้องกลับไปที่คฤหาสน์ของสกายเพื่อขอความช่วยเหลือจากธอร์ แต่กลับพบว่าธอร์อยู่ในสภาพที่แย่ยิ่งกว่าพวกเขาซะอีก

ธอร์ผ่านการฝึกในสนามฝึกจำลอง ซึ่งทำให้เขาได้สัมผัสกับเหตุการณ์อันโหดร้ายเหมือนจริง เช่น การล่มสลายของแอสการ์ด เหตุการณ์แร็กนาร็อค การเสียชีวิตของโอดินและฟริกกา รวมถึงการล่มสลายของเก้าโลก ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดสร้างความเจ็บปวดอย่างลึกซึ้งในจิตใจของเขา

ทำให้ธอร์ที่ถูกกระตุ้นด้วยความโศกเศร้า ความโกรธ และความรู้สึกผิด จนสุดท้ายเขาเข้าสู่สภาพที่ไร้เรี่ยวแรงและหมดกำลังใจ

ซิฟและอีกสามคนพยายามหาวิธีช่วย แต่พวกเขาก็ไม่มีความคิดใด ๆ ที่จะแก้ปัญหาได้ เพราะสิ่งที่ธอร์เผชิญมานั้นร้ายแรงเกินกว่าจะมีสิ่งใดมากระตุ้นให้เขาต่อสู้ได้อีก

ในขณะเดียวกัน โลกิก็พยายามหลบหนีโดยพาเจนไปยังสถานที่ต่าง ๆ บนโลก โดยไม่มีเส้นทางที่แน่นอน ทำให้การไล่ล่าของสกายเต็มไปด้วยความยากลำบากและความโกรธแค้นของเธอเพิ่มมากขึ้นทุกที

“โลกิอยู่ที่ไหน?” สกายมองไปรอบ ๆ และเห็นเพียงน้ำแข็งและหิมะปกคลุมเต็มไปหมด ฝูงเพนกวินในระยะไกลจ้องมองเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็นปนหวาดกลัว ทำให้สกายพึมพำด้วยความหงุดหงิดทันที “ตอนแรกก็ขั้วโลกเหนือ คราวนี้เป็นขั้วโลกใต้ เขากำลังเที่ยวเล่นอยู่หรือไง?”

“คุณหนู เขาอยู่ที่เทือกเขาหิมาลัยค่ะ . . .” เสียงของฟิวเจอร์ถูกปรับให้ต่ำลง พร้อมกับน้ำเสียงที่นุ่มนวลและดนตรีเบา ๆ ในพื้นหลังเพื่อบรรเทาอารมณ์โกรธของสกาย

ซึ่งวิธีนี้ได้ผล สกายสงบลงอย่างรวดเร็ว เธอนั่งขัดสมาธิ ยกมือทั้งสองข้างประคองใบหน้า คิ้วขมวดเล็กน้อยเต็มไปด้วยความคิด ตอนนี้เธอกำลังพยายามคิดให้ได้ว่าโลกิกำลังทำสิ่งนี้เพื่ออะไรกันแน่

“ฟิวเจอร์ ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของมิติ” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอขอให้ตรวจสอบเรื่องนี้

หลังจากความเงียบไปหลายวินาที ฟิวเจอร์ก็ตอบด้วยน้ำแฝงไปด้วยความเสียดายเล็กน้อย “คุณหนู นอกจากคลื่นพลังมิติจากการเคลื่อนย้ายของคุณหนู ฉันไม่พบการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เลยค่ะ”

“หมายความว่าโลกิไม่ได้ใช้การเทเลพอร์ต ถ้าอย่างนั้นเขาทำได้อย่างไร? ทำไมเขาถึงเคลื่อนที่ได้เร็วการเปิดประตูมิติของฉันเสียอีก!” สกายหลับตาลง ครุ่นคิดถึงพลังของโลกิ

“เวทมนตร์? โลกิใช้เวทมนตร์ เรื่องนี้แน่นอน แล้วเขาใช้เวทมนตร์แบบไหน? อืม . . . ไม่ใช่แน่ คุณพ่อเคยบอกว่า มิติเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของโลกนี้ ต่อให้ใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้าย ก็ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงมิติในรูปแบบหนึ่งอยู่ดี! โลกิจะเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงมิติไม่ได้!”

เมื่อสกายจมอยู่ในความคิด ภูเขาน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ก็กลับมาสงบอีกครั้ง เหลือเพียงเสียงลมหนาวที่พัดหวีดหวิว และเสียงร้องของฝูงเพนกวิน ก่อนที่เพนกวินตัวหนึ่งที่กล้าหาญกว่าตัวอื่นจะเดินเข้ามาใกล้เธอด้วยความอยากรู้อยากเห็น และหมุนวนรอบตัวเธอเหมือนกำลังสำรวจ

“ไม่ใช้พลังมิติ แต่สามารถเดินทางรอบโลกได้ในพริบตา? ความเร็วสูง? เหมือนแฟลช? เป็นไปไม่ได้!” สกายส่ายหัวแรงจนเพนกวินที่เข้ามาใกล้ตกใจร้องเสียงดังลั่น ก่อนลื่นไถลไปกับพื้นน้ำแข็ง

สกายอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนถอนหายใจแล้วเอนตัวนอนลง “อะไรกันเนี่ย! แค่ตามหามนุษย์ต่างดาวตัวเดียว ยังหาไม่เจออีกเหรอเนี้ย นี่มันเรื่องล้อเล่นหรือเปล่า!”

“เดี๋ยวก่อนนะ!” สกายลุกขึ้นมานั่งทันที ก่อนที่ทันใดนั้นภาพความทรงจำหนึ่งจะผุดขึ้นในหัว มันเป็นภาพของโลกิที่เคยหลอกเธอด้วยภาพลวงตาและลักพาตัวเจนไป “ภาพลวงตา! ใช่แล้ว ภาพลวงตา!”

โปรดติดตามตอนต่อไป …

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด