ตอนที่ 300 ปาร์ตี้รอบกองไฟ?!

ตอนที่ 300 ปาร์ตี้รอบกองไฟ?!

“ไอ้บ้าหนวดเครา หัดใช้สมองของตัวเองคิดบ้างสิ!” สกายตวาดด้วยความโมโห ก่อนจะเตะโวลสแตกจนล้มลงกับพื้น

ร่างกายของสกายได้รับการปรับแต่งโดยพันธุกรรมของพวกอีเทอร์นอล ทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นทุกวินาที และถ้าหากไม่ได้ร่างกายที่แข็งแกร่งนี้ เธอก็คงไม่สามารถรับมือกับงานหนักขนาดนี้ได้

“เจ้าทำอะไรของเจ้า!” โวลสแตกพยายามลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล และหยิบขวานคู่ใจของตัวเองขึ้นมา แต่เมื่อเห็นร่างกายที่ดู ‘บอบบาง’ ของสกาย เขาก็ลังเลเล็กน้อยก่อนจะวางขวานลง

“โวลสแตก อย่าก่อเรื่อง เอริคคือพ่อของนาง” ธอร์เดินเข้ามาพูด “เป็นไปไม่ได้ที่เอริคจะส่งเดสทรอยเยอร์มาที่นี่ ในเมื่อสกายอยู่ที่นี่ เขาจะไม่ยอมให้ลูกสาวตัวเองตกอยู่ในอันตรายแน่นอน”

โวลสแต็กยังดูเหมือนจะไม่เชื่อ แต่เดสทรอยเยอร์ก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาถามเลย มันกระโดดข้ามกำแพงเข้ามา หน้ากากของมันเลื่อนเปิดออก และปล่อยเสาเพลิงพุ่งตรงไปยังพวกเขา

“ระวัง!” ทุกคนจากแอสการ์ดต่างรู้ถึงพลังมหาศาลของเดสทรอยเยอร์ พวกเขาจึงรีบกระโดดหลบทันที ส่วนธอร์เองก็กระโจนเข้าไปช่วยเจนที่กำลังตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

“อย่าทำสนามหญ้าฉันพังนะ! ฟิวเจอร์!” มีเพียงสกายที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ พร้อมกับยิ้มเยาะใส่คนที่กำลังวิ่งหนีกันอย่างวุ่นวาย

“รับทราบค่ะ คุณหนู” เสียงของฟิวเจอร์ดังขึ้นอย่างเหมาะเจาะ ทันใดนั้นพื้นสนามหญ้าก็ปรากฏเกราะพลังงานที่สว่างจ้า ขวางการโจมตีของเดสทรอยเยอร์ไว้ได้อย่างง่ายดาย

เหล่านักรบจากแอสการ์ดมองดูอยู่พักหนึ่ง และเมื่อเห็นว่าไม่มีการโจมตีตามมา พวกเขาก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างประหม่า

“ไม่น่าเชื่อเลยว่าโลกจะมีเทคโนโลยีแบบนี้” ซิฟซึ่งเป็นคนที่มีความรู้มากที่สุดในกลุ่มเอ่ยขึ้นขณะมองเกราะพลังงาน “แต่เดสทรอยเยอร์ยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด เกราะนี่คงอยู่ได้ไม่นาน”

“ฉันรู้!” สกายยักไหล่เดินตรงไปหาเดสทรอยเยอร์ ก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นทั้งสองข้างปล่อยคลื่นสั่นสะเทือนที่มองไม่เห็นออกไป แต่มันก็ไม่ได้ทำอันตรายใด ๆ ต่อเดสทรอยเยอร์เลย

“ไม่ได้ผลหรอก มันถูกสร้างจากอูรู” ซิฟชักดาบคู่ใจออกมา

สกายหันกลับมามองซิฟพร้อมรอยยิ้ม “ฉันไม่ได้คิดจะทำลายมันหรอก!”

“ว่าไงนะ?” ทั้งซิฟและคนอื่น ๆ ต่างตกใจ

“นี่มันบ้านฉัน ฉันไม่อยากให้มันพัง” สกายปรับความถี่ของคลื่นสั่นสะเทือน จนใต้ตัวเดสทรอยเยอร์ปรากฏประตูมิติขนาดใหญ่ดูดร่างของมันลงไปทันที “บ๊ายบาย!”

ทุกคนมองดูเดสทรอยเยอร์ที่หายไปด้วยความตกตะลึง โวลสแต็กถึงขั้นวิ่งไปที่สนามหญ้า กระโดดขึ้นลงจนพุงใหญ่ของเขาสั่น และมองสกายด้วยความไม่เชื่อ “เจ้าเป็นแม่มดหรือไง?”

“นายต่างหากที่เป็นแม่มด นี่คือวิทยาศาสตร์!” สกายพูดพร้อมกับถอนหายใจด้วยความรำคาญ เธอแทบอยากจะอธิบายทฤษฎีสตริงให้เขาฟัง แต่ก็สงสัยว่าหัวสมองทึบ ๆ ของเขาจะเข้าใจหรือเปล่า

“สกาย เจ้าส่งมันไปที่ไหน?” ธอร์ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง เพราะพอจะเข้าใจพลังของเธออยู่บ้าง

สกายชี้ขึ้นฟ้าและยักไหล่ “นอกอวกาศน่ะ ดูสิว่ามันจะกลับมาได้ยังไง”

“อย่าประมาทไป มันสามารถหาพวกเราเจอได้ นั่นหมายความว่าคนที่ควบคุมมันน่าจะอยู่ใกล้ ๆ นี้” ดร.อีริค เซลวิกที่เพิ่งยกอุปกรณ์ตรวจวัดออกมาพูดด้วยความเสียดายเมื่อเห็นสะพานสายรุ้งหายไปแล้ว

ซิฟและสามนักรบจากแอสการ์ดหันไปมองธอร์ ธอร์ลังเลก่อนจะมองไปที่เจน ทำให้ซิฟและคนอื่น ๆ ก็หันไปมองเจนตามธอร์ทันที

สกายพยักหน้าให้เจนอย่างให้กำลังใจ ขณะที่อีริค เซลวิกและเรดซึ่งยืนดูเหตุการณ์ต่างก็มองไปที่เจนโดยไม่รู้ตัว

ทันใดนั้นเจนก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคน

“มองฉันทำไม?” เจนหดคอเล็กน้อย พลางมองไปรอบ ๆ อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

เรดเดินเข้าไปตบบ่าธอร์ “เพื่อน ฉันไปแทนเอง”

สกายถึงกับกลอกตา นี่มันเวลาของตัวเอกแล้วนายจะเข้าไปยุ่งทำไม?! ทันใดนั้นสกายก็รีบเดินไปดึงเรดกลับมาทันที

ธอร์พยักหน้าขอบคุณเรดด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณนะสหาย แต่ครั้งนี้ไม่ต้องหรอก นี่เป็นการต่อสู้ของข้า ข้าต้องหาวิธีที่จะได้รับการยอมรับจากโยลเนียร์อีกครั้ง”

“ธอร์!” เจนเดินเข้าไปหาเขา จ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา แล้วเขย่งเท้าจูบเขาเบา ๆ ด้วยความรัก “ไปเถอะ! ไม่ว่านายจะเป็นเทพเจ้าหรือมนุษย์ ฉันก็รักนาย!”

ทันใดนั้นธอร์ราวกับได้รับพลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล “ข้าต้องทำได้แน่นอน!”

“แปะ ๆ” สกายปรบมือเรียกความสนใจของทุกคน ก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย “จริง ๆ แล้ว คุณพ่อยังมีแผนสำรองไว้อีก บางทีมันอาจช่วยให้นายยกค้อนสายฟ้าขึ้นมาได้อีกครั้ง”

“อะไรนะ? จริงเหรอ?” ธอร์ตื่นเต้นจนแทบจะกระโดด “ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมบอกข้าเลยในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา?”

สกายยักไหล่ด้วยท่าทีไร้เดียงสา “สองวันนี้นายก็เอาแต่ใช้เวลากับเจนนี่นา ไม่ได้คิดจะสนใจมันเลย ฉันจะบังคับนายไปทำไม?”

เจนรู้สึกกระอักกระอ่วน และก้มหน้าลงอย่างเงียบ ๆ

ส่วนธอร์ก็ไม่ได้สนใจสิ่งอื่นใดอีกแล้ว เขารีบถามอย่างกระตือรือร้นทันทีว่า “บอกข้าที วิธีอะไร?”

สกายกวาดตามองรอบ ๆ และพบว่าทุกคนกำลังมองมาที่เธอด้วยความคาดหวัง ทำให้เธอยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินนำไปยังอาคารที่อยู่ไม่ไกล “ตามฉันมา”

ที่นี่คือสนามฝึกจำลองที่เอริคสร้างขึ้น มันมีเทคโนโลยีการฝึกแบบเสมือนจริงครบครัน ซึ่งแผนสำรองที่เอริคทิ้งไว้ก็คือสิ่งนี้

“เข้าไปสิ” สกายเปิดประตูทางเข้าและพยักหน้าให้ธอร์ ธอร์ไม่ลังเลเลยสักนิด เดินเข้าไปท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวลของทุกคน

เมื่อประตูปิดลงอย่างช้า ๆ สกายก็เรียกฟิวเจอร์ออกมา “เปิดไฟล์ ‘แร็กนาร็อค’!”

. . .

ในขณะเดียวกันเหตุการณ์การพุ่งลงมาของสะพานสายรุ้งและการปรากฏตัวของเดสทรอยเยอร์ก็สร้างความวุ่นวายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะที่ย่านชานเมืองนิวยอร์กใกล้กับบ้านพักตากอากาศของสกาย ประธานบริษัทสกาย อินดัสตรีส์ ที่ทำให้ยากที่จะไม่มีใครสังเกตเห็น

โทนี่ สตาร์ค หรือไอรอนแมน เป็นคนแรกที่มาถึง เพราะบ้านเขาอยู่ใกล้มาก อีกทั้งชุดเกราะไอรอนแมนก็มีความคล่องตัวสูง ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็มาถึงแล้ว

คนที่สองคือแม็กนีโต หรือแม็ก เขามาเยือนนิวยอร์กตามคำเชิญเพื่อทดลองยกค้อนสายฟ้าของธอร์ หลังจากนั้นเขาก็พักอยู่ที่โรงเรียนเซเวียร์ ดังนั้นเขาจึงรีบมาทันทีเมื่อพบว่าบ้านของลูกสาวจากตัวเขาเองในจักรวาลคู่ขนานเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ โดยใช้ความสามารถเทเลพอร์ตของมนุษย์กลายพันธุ์ที่ชื่อบลิงค์มาส่งที่บ้านสกายในพริบตา

ต่อมาคือทีมแฟนแทสติกโฟร์ ซึ่งบินมาด้วยยานบินเทคโนโลยีขั้นสูงของพวกเขา

จากนั้นก็เป็นชีลด์และทีมอเวนเจอร์ส ชีลด์ที่กำลังอยู่ในช่วงปรับโครงสร้างภายใน มีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ จึงส่งมาเพียงโคลสันคนเดียว ขณะที่ทีมอเวนเจอร์สมากันครบ ยกเว้นแบล็กวิโดว์ที่กำลังปฏิบัติภารกิจ

ส่วนกลุ่มสุดท้ายก็คือกลุ่มพันธมิตรแห่งดวงดาว องค์กรระดับโลกที่เอริคผลักดันให้ก่อตั้งขึ้นเพื่อจัดการกับเหตุการณ์นอกโลก องค์กรนี้ยังอยู่ในช่วงพัฒนา แม้ผู้มีพลังพิเศษในองค์กรจะมีน้อย แต่พวกเขาก็มีอาวุธที่ล้ำสมัยที่สุด และฐานบัญชาการของพวกเขาก็อยู่ในนิวยอร์ก ดังนั้นพวกเขาจึงส่งทหารมาถึงอย่างรวดเร็ว

แต่เมื่อทั้งหมดมาถึงบ้านของสกาย พวกเขากลับต้องยืนงง เพราะสิ่งที่พวกเขาเห็นคือ . . .

งานปาร์ตี้รอบกองไฟ? มีดนตรี? มีเครื่องดื่ม?

ไหนล่ะเอเลี่ยนที่บอก?

โปรดติดตามตอนต่อไป …