ตอนที่แล้วตอนที่ 19 การสมรู้ร่วมคิดของสำนักต่างๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21 เริ่มศึกใหญ่

ตอนที่ 20 ศึกใหญ่กำลังจะมาถึง


ตอนที่ 20 ศึกใหญ่กำลังจะมาถึง

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทั่วทั้งแคว้นหลิงโจวปั่นป่วน

สามขั้วอำนาจใหญ่ของแคว้นหลิงโจว สำนักเทียนจี สิบสำนักใหญ่ชั้นนำ และอีกยี่สิบกว่าสำนักชั้นหนึ่งต่างพากันเคลื่อนไหว

เรียกได้ว่าแทบทุกสำนักใหญ่ในแคว้นหลิงโจวต่างเข้าร่วมในกองทัพกำจัดสำนักชิงหยุน

ชื่อเสียงของสำนักชิงหยุนที่เคยไม่โด่งดังกลับกลายเป็นที่รู้จักในชั่วข้ามคืน

เหตุการณ์งานประลองแลกเปลี่ยนในวันนั้นก็ถูกเปิดเผยออกมา

ศิษย์ของสำนักชิงหยุนคนหนึ่งสามารถเอาชนะผู้มีพรสวรรค์สิบกว่าคนได้ แม้จะมีระดับการบ่มเพาะที่ต่ำกว่าคู่ต่อสู้

ผู้บ่มเพาะขอบเขตเบิกฟ้าจากสำนักชิงหยุนกวาดล้างผู้แข็งแกร่งจากหลากหลายสำนัก

สำนักศักดิ์สิทธิ์จากภาคกลาง ตำหนักหยกขจี ปกป้องสำนักชิงหยุน

สำนักชิงหยุนสังหารผู้อาวุโสสำนักเทียนจี

ข่าวสำคัญเหล่านี้แต่ละข่าวผลักดันให้สำนักชิงหยุนขึ้นมาเป็นที่จับตามองอย่างสูงสุด

ณ เมืองซวนเย่

“สำนักชิงหยุนก็กล้าเกินไปแล้ว ท้าทายทุกสำนักใหญ่ในแคว้นหลิงโจวแบบนี้?”

“ไม่ใช่แค่กล้า แบบนี้สำนักชิงหยุนคงต้องเผชิญกับการทดสอบครั้งใหญ่แล้ว”

“ไม่รู้ว่าสำนักชิงหยุนจะมีแผนอะไรรับมือ พวกเขามีผู้แข็งแกร่งขอบเขตเบิกฟ้า ซึ่งเกือบจะเทียบเคียงกับแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว คงต้องใช้กำลังของแดนศักดิ์สิทธิ์ถึงจะสามารถทำลายสำนักระดับนี่ได้”

“ไม่แน่หรอก อย่าลืมว่าหนึ่งในนั้นคือสำนักเทียนจี ซึ่งถือว่าแข่งแกร่งที่สุดในแคว้นหลิงโจว ได้ยินว่าแม้แต่สำนักหลักที่อยู่ภาคกลางก็ยังส่งยอดฝีมือมา”

ภายในโรงเตี๊ยม ผู้คนเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยถึงศึกครั้งนี้

ณ บ่อนพนัน

“มาๆ เปิดแล้ว เปิดแล้ว!”

“สำนักชิงหยุน ปะทะ สำนักใหญ่ ตอนนี้อัตราต่อรองอยู่ที่ 1:10”

“ข้าเดิมพัน ข้าเดิมพัน!”

“ข้าเดิมพันสำนักใหญ่ชนะ หนึ่งหมื่นศิลาวิญญาณ”

“ลองเสี่ยงดวงกันดู ถ้าเปลี่ยนจากลูกสาวคนงามเป็นศรีภรรยาสักคน มาฝากเต็มกระเป๋า คืนพรุ่งนี้จัดหนัก!”

“พี่ชาย! ท่านเป็นลูกค้าประจำเลยนะ ท่านคิดอะไรอยู่ ถึงได้กล้าเดิมพันให้สำนักชิงหยุนชนะ ช่างกล้าเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ดูท่าเจ้าจะเสียลูกสาวงามคนโปรดไป และต้องนอนในตรอกเสียแล้ว!”

……

ณ เมืองเทียนอู่

ตระกูลหลินกลายเป็นเป้าสายตาของทุกคน ต่างเฝ้ารอดูความล้มเหลวของพวกเขา

ไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากข่าวที่ว่าตระกูลหลินได้ประกาศเป็นตระกูลภายใต้อาณัติของสำนักชิงหยุน และในตอนนี้ข่าวใหญ่นั้นได้ผลักดันให้ตระกูลหลินตกอยู่ในภาวะที่ถูกเพ่งเล็งอย่างหนัก

“คิดว่าตระกูลหลินเกาะต้นไม้ใหญ่ได้แล้ว คราวนี้คงดีแล้ว แต่ดูเหมือนต้นไม้ใหญ่นั้นจะพังทลาย คาดว่าตระกูลหลินคงไม่พ้นโดนลูกหลงไปด้วย”

“ใช่แล้ว น่าเสียดาย พวกเขาเพิ่งจะก้าวขึ้นมาเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองนี้ กลับต้องโชคร้ายเสียแล้ว”

“เฮ้อ…ในการแข่งขันของพวกขั้วอำนาจใหญ่ ผู้ที่ต้องตายอย่างอนาถใจที่สุดมักจะเป็นพวกอำนาจเล็กๆ เช่นพวกเรา เราควรเตรียมตัวไว้ให้พร้อม อย่าให้ไฟสงครามลามมาถึงตัว”

ณ คฤหาสน์ตระกูลหลิน

“ท่านผู้นำตระกูล สั่งการเถิด! ศิษย์ของเราที่อยู่ในระดับแก่นทองคำขึ้นไปทุกคนได้เตรียมพร้อมแล้ว”

เมื่อสิ้นเสียงของผู้อาวุโส ผู้นำตระกูลหลินจ้านก็เดินขึ้นไปข้างหน้า

“ทุกท่าน สำนักหลักของเราใกล้จะทำศึกกับบรรดาสำนักใหญ่แล้ว ในฐานะตระกูลใต้อาณัติ เราไม่อาจนิ่งเฉยดูดายได้

ยิ่งไปกว่านั้น บุตรชายของข้าหลินไป๋เป็นศิษย์สายตรงของท่านเจ้าสำนัก และสำนักชิงหยุนยังเคยช่วยชีวิตตระกูลหลินของเราเอาไว้

ศึกครั้งนี้ ต่อให้ต้องตายไปพร้อมกัน ตระกูลหลินของข้าก็จะไม่มีวันถอยแม้แต่ก้าวเดียว!

พวกเจ้าเกรงกลัวหรือไม่!”

“ไม่กลัว!”

“ไม่กลัว!”

“ไม่กลัว!”

ความฮึกเหิมเร่าร้อนดั่งไฟที่ลุกไหม้

“เตรียมเคลื่อนทัพสู่สำนักชิงหยุน!”

ตระกูลหลิน ซึ่งเป็นตระกูลชั้นนำ ประกาศสู่ภายนอกว่าพวกเขาจะเดินทางไปยังสำนักชิงหยุน สาบานว่าจะปกป้องสำนักหลักของพวกเขาด้วยชีวิต

นี่คือขุมกำลังแรกที่ยืนเคียงข้างสำนักชิงหยุน และน่าจะเป็นขุมกำลังเดียวที่กล้าทำเช่นนี้ด้วย

…..

ณ สำนักชิงหยุน

เฟิงชิงหยางกำลังตกปลาอย่างสบายอารมณ์

เขาได้สร้างบ่อน้ำเล็กๆขึ้นที่ลานกว้างบริเวณหลังเขา

ทิวทัศน์งดงาม ทั้งเสียงนกร้องขับขานและดอกไม้นานาพรรณเบ่งบานหอมหวาน

ฉินหรั่วเสวี่ยยืนอยู่ข้างๆ คอยยกชาและเทน้ำอย่างนอบน้อม

หลังจากที่นางทำความสะอาดตัวเองและเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ความงามของฉินหรั่วเสวี่ยก็ยิ่งเปล่งประกายมากขึ้น ผิวพรรณขาวเนียนละเอียด มองดูอ่อนใสอมชมพูเมื่อแสงแดดอ่อนสาดส่องกระทบใบหน้า

“ได้ปลาแล้ว! ฮ่าๆ!”

“คืนนี้จะทำปลาย่างกินกัน”

หลังจากรออย่างใจเย็นเป็นครึ่งวัน เฟิงชิงหยางก็สามารถตกปลาได้เป็นตัวแรกของวันนี้

เมื่อปลาถูกใส่ลงในถัง เขาก็เหวี่ยงเบ็ดต่ออย่างไม่รีบร้อน

ระหว่างที่เบื่อหน่าย เฟิงชิงหยางจึงเปิดระบบขึ้นมาดู

【เจ้าสำนัก: เฟิงชิงหยาง

ระดับ: ขอบเขตผู้ไร้มลทินขั้นต้น

ศิษย์: สือฮ่าว หลินไป๋

ร่างกาย: กายาเทพเอกะจักรวาล】

【ผู้แข็งแกร่งของสำนัก:

บรรพชนหลี่ชิงหยุน: ขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุด

ผู้คุ้มกันหวังเจี้ยน: ขอบเขตผู้ไร้มลทินขั้นต้น

ผู้อาวุโสนอกเย่ไป๋: ขอบเขตเบิกฟ้าขั้นสูงสุด】

【สำนัก: สำนักชิงหยุน

ระดับ 1 (3500/10000)】

“อืม? แต้มสำนักเพิ่มขึ้นอีกสองพันแล้ว?”

เขาจำได้ว่า เมื่อครั้งที่รับตระกูลหลินเข้าเป็นกองกำลังสาขา แต้มสำนักเพิ่มขึ้นเพียงหนึ่งพัน รวมเป็นหนึ่งพันห้าร้อย แล้วอีกสองพันแต้มนี้มาจากที่ไหนกัน?

“ท่านอาจารย์! ท่านอาจารย์!”

สือฮ่าวในชุดเครื่องแบบของสำนักรีบวิ่งมาหาอย่างตื่นเต้น

“ใจเย็น ใจเย็นเถอะ!”

“อาจารย์สอนไว้อย่างไร? เมื่อเจอเรื่องใหญ่ใจเย็นต้องเย็น เข้าใจหรือไม่? ดูสิว่าเจ้าทำให้ปลาของข้าตกใจหนีไปหมดแล้ว”

“ไม่ใช่เช่นนั้น ท่านอาจารย์ ตอนนี้ทั้งแคว้นหลิงโจวกำลังจะปั่นป่วนไปหมดแล้ว!

เหล่าตระกูลและสำนักใหญ่ทั้งหลาย ด้วยการนำของสำนักเทียนจี ได้ทำการประกาศจะมาปราบปรามสำนักชิงหยุนของพวกเรา

ข้ายังได้ยินมาว่า สำนักเทียนจีจากภาคกลางส่งผู้แข็งแกร่งมาด้วย”

สือฮ่าวรีบพูดออกมารวดเดียวด้วยความตื่นตระหนก

“ข้ายังคิดว่าแผ่นฟ้าจะถล่มลงมาซะอีก ที่แท้ก็เรื่องเล็กๆแค่นี้เอง”

เฟิงชิงหยางตอบอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนหันกลับไปตกปลาต่อ ดูเหมือนว่าเรื่องใหญ่เหล่านี้จะไม่สำคัญเท่าปลาของเขาเลย

แต่เขาก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดแต้มสำนักถึงเพิ่มขึ้น — ชื่อเสียงของสำนักชิงหยุนกำลังแพร่กระจายออกไป จึงทำให้แต้มสำนักพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

“แค่พวกขี้ประติ๋วพวกนั้น ใส่ใจไปทำไม? แค่ปัดออกไปก็พอ

คงดีกว่ามาคิดว่าจะใส่เครื่องปรุงอะไรกับปลาที่จะกินคืนนี้ซะอีก”

“ว่าแต่เจ้ามีอะไรอีกหรือ?”

เห็นสือฮ่าวยังยืนอยู่ไม่ไป เฟิงชิงหยางก็ถามขึ้น

“เอ่อ…ท่านอาจารย์…แต่ว่า…เอ่อ…ไม่มีอะไรแล้วขอรับ!”

“ไม่มีอะไรก็ไปบ่มเพาะซะ! เข้าสู่แดนลับศักดิ์สิทธิ์นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด”

“ขอรับ ท่านอาจารย์”

ในที่สุดก็ไม่มีใครมารบกวนเขาตกปลาแล้ว ส่วนการปราบปรามของเหล่าสำนักต่างๆและการมาของสำนักเทียนจีจากภาคกลางหรือ?

แค่ส่งบรรพชนขอบเขตมหาจักรพรรดิออกไปก็ขยี้พวกนั้นได้หมด

คิดจริงๆหรือว่า บรรพชนขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดที่ประจำอยู่ในสำนักถูกวางไว้เพื่อประดับเท่านั้น?

ฉินหรั่วเสวี่ยที่ยืนฟังบทสนทนาระหว่างเฟิงชิงหยางกับสือฮ่าว ยิ่งทำให้เคารพท่านเจ้าสำนักมากยิ่งขึ้น นางรู้สึกทึ่งในความกล้าหาญของท่านเจ้าสำนัก และแววตาของนางก็เต็มไปด้วยความชื่นชม

ความลึกลับของสำนักชิงหยุนและท่านเจ้าสำนักที่มาจากขุมพลังอันยิ่งใหญ่มาจากที่ใดกัน?

หรือนี่อาจเป็นสำนักอันทรงอำนาจจากดินแดนภาคกลาง?

อย่างไรก็ตาม ด้วยท่านเจ้าสำนักที่ทระนงตนเหนือโลก ไม่เห็นสำนักเหล่านั้นอยู่ในสายตา นางก็มีหวังที่จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!

ณ เมืองปักฟ้า

เหล่าผู้อาวุโสและเจ้าสำนักเทียนจี ยืนเข้าแถวอย่างนอบน้อมเหมือนกำลังรอคอยใครบางคน

เรือรบขนาดใหญ่ลำหนึ่งล่องมาจากข้ามแดน และหยุดลงที่นอกเมืองปักฟ้า

ชายชราผู้สง่างามลงมาจากเรือรบ

“ท่านผู้อาวุโส! ในที่สุดท่านก็มาถึง!”

เจ้าสำนักสำนักเทียนจีรีบก้าวไปต้อนรับ

“เจ้าคือเจ้าสำนักของสาขาที่นี่หรือ?

เล่ารายละเอียดมาให้ข้าฟังหน่อย เกิดอะไรขึ้นบ้าง”

ก่อนมาเขาได้รับรายงานคร่าวๆ แล้วว่ามีขุมพลังหนึ่งสังหารผู้อาวุโสสาขาของพวกเขา และยังประกาศว่าจะกวาดล้างสาขาที่นี่ ซึ่งสาขาไม่สามารถจัดการได้ จึงได้ส่งรายงานไปยังสำนักหลัก

สำนักหลักโกรธมาก จึงส่งเขามา

“ท่านผู้อาวุโส ขุมพลังนั้นเรียกว่าสำนักชิงหยุน เป็นขุมพลังระดับจักรพรรดิเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ข้าสงสัยว่าพวกเขาอาจได้รับมรดกของมหาจักรพรรดิ”

“โอ้! ใช่แล้ว! พวกเขายังมีความเกี่ยวข้องกับขุมอำนาจศักดิ์สิทธิ์ของภาคกลางตำหนักหยกขจีอีกด้วย”

เจ้าสำนักสาขาอธิบายทุกอย่างโดยละเอียด

“มรดกของมหาจักรพรรดิ!”

ชายชรารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที

“แต่เรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับขุมอำนาจศักดิ์สิทธิ์อื่น มันค่อนข้างยุ่งยากอยู่นะ”

“งั้นข้าจะใช้ยันต์สื่อสารให้พวกเขาไปสอบถามกับตำหนักหยกขจีก่อนก่อนก็แล้วกัน”

4 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด