EP.13
EP.13
[มุมมองบุคคลที่ 3]
ปีเตอร์กำลังแกว่งตัวไปมาบนเปลที่เขาสร้างโดยใช้ใยของเขา ในขณะที่เกวนกำลังนั่งบนเปลที่เธอสร้างโดยใช้ใยของเธอเองเช่นกัน
ปีเตอร์ส่ายไปมาพลางพูดว่า “โอเค มาทบทวนเรื่องนี้กันอีกครั้ง ชั้นยกของหนักได้ถึง 15 ตันเลยนะ”
“แล้วชั้นก็ยกได้ 10 ตัน” เกวนตอบ
“ความเร็วสูงสุดของชั้นคือ 120” ปีเตอร์พูดขณะที่เกวนเดินตามเขาไป
“ของชั้น 150”
“พวกเรามีสัมผัสถึงอันตรายที่จะเตือนพวกเราถึงภัยคุกคามใดๆก็ตาม”
“นายไม่สามารถลืมใยออร์แกนิกที่ออกมาจากข้อมือของพวกเราได้”
“พวกเรามีความอดทนอย่างน่าเหลือเชื่อ แม้จะเคลื่อนไหวร่างกายไป 1 ชั่วโมงก็ยังไม่รู้สึกเหนื่อยเลย”
"ความทนทานของเรานั้นสูง แต่ยังไม่ถึงจุดที่เราจะไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงหากเกิดการบาดเจ็บสาหัส... ชั้นยังคงไม่เชื่อเลยว่านายสามารถปีนขึ้นไปที่เพดานแล้วทิ้งตัวตกลงมาแค่เพื่อทดสอบสิ่งนั้นจริงๆนะ ปีเตอร์"
ปีเตอร์ยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วตอบว่า “ทั้งหมดก็เพื่อวิทยาศาสตร์!”
“นายเกือบจะร้องไห้ออกมาเมื่อตอนที่นายลงจอดบนพื้น” เกวนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“เฮ้! พวกเราไม่พูดถึงเรื่องนั้นได้หรอก เรื่องนั้นมันเป็นอดีตไปแล้วและช่วยถูกลืมๆมันไปได้แล้ว… อย่างน้อยพวกเราก็ได้ค้นพบว่าพวกเรามีปัจจัยในการรักษาตัวและยังลืมเรื่องการปีนไต่กำแพงไม่ได้”
“ใช่ นายได้ค้นพบสิ่งที่ทำให้พวกเราติดอยู่กับผนังและอะไรอย่างนั้นแล้วหรือยัง”
"ไม่ แต่ถ้าให้เดา ชั้นคงเดาว่ามันน่าจะเกี่ยวกับไฟฟ้าสถิตย์ แต่พูดตรงๆมันก็ยังมีการถกเถียงกันอยู่"
"นั่นคือทั้งหมดที่พวกเรามีจนถึงตอนนี้ สิ่งเดียวที่พวกเราไม่ได้พูดซ้ำคือพวกเราหิวเมื่อพวกเราใช้ใยมากเกินไป แต่นั่นดูเหมือนจะง่ายและสมเหตุสมผล"
ปีเตอร์ถอนหายใจเมื่อได้ยินว่า “น่าผิดหวังจริงๆ ชั้นคิดว่าพวกเราจะมีพลังมากกว่านี้” ปีเตอร์เพียงแค่หลับตาและเริ่มโยกตัว
"ชั้นหมายถึง ชั้นคิดจริงๆ ว่าพวกเราน่าจะได้ความสามารถในการพรางตัวมาบ้าง มันดูคล้ายแมงมุมมาก ชั้นนึกภาพออกเลย ชั้นน่าจะเริ่มกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมและเริ่มหายตัวไปอย่างช้าๆ"
“เอ่อ ปีเตอร์ ?” เกวนร้องออกมาด้วยความกังวล
ปีเตอร์เพียงแค่ลืมตาขึ้นและมองดูเกวน "อะไรเหรอ ?"
ซึ่งมันทำให้เธอสะดุ้ง “โอ้ นายยังอยู่ที่นี่” เธอกล่าวพลางถอนหายใจโล่งอก “ดีจังเลย” จากนั้นเธอก็ชี้ไปทางเขาอย่างเก้ๆกังๆ
“แบบตอนนี้นายดูเหมือนจะมองเห็นได้ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่”
“อะไรนะ” ปีเตอร์ถามและยกมือขึ้น เขามองทะลุมือได้ “พระเจ้า ชั้นเปลี่ยนเป็นร่างล่องหนได้จริงๆ เจ๋งสุดๆ”
“เออ... แล้วนายทำมันได้ยังไง บางทีชั้นอาจจะทำได้เหมือนกัน” เกวนถามเพราะต้องการจะหายตัวด้วยเหมือนกัน
“ชั้นเองก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ชั้นคิดแค่ว่าชั้นนั้นกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมรอบตัวชั้น แต่ชั้นไม่ได้คิดที่จะหายตัวไป ชั้นแค่คิดที่จะกลายเป็นสวนหนึ่งเดียวกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวชั้น” ปีเตอร์พูดอธิบายกระบวนการคิดของเขา
เกวนหลับตาแน่นและเริ่มนึกถึงสิ่งที่ปีเตอร์บอกเธอ หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เธอก็มองผ่านตาข้างหนึ่งเพื่อดูว่ามันได้ผลหรือไม่ เธอเห็นว่านิ้วทั้งหมดของเธอหายไปแล้ว แต่มือและส่วนอื่น ๆ ของร่างกายของเธอยังคงมองเห็นได้
“โอ้ ชั้นก็ทำได้เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าชั้นจะยังต้องแก้ไขมันอีก ทำไมของนายถึงออกมาได้ไร้ที่ติเมื่อเทียบกับของชั้น มันดูไม่ยุติธรรมเลย”
“เธอพยายามมากเกินไป”
"อะไรนะ ?"
“เธอพยายามฝืนมัน เธอนั้นไม่สามารถบังคับตัวเองให้ล่องหนได้ แต่เธอต้องทำมันอย่างผ่อนคลาย ชั้นบอกไปแล้วว่าเธอต้องกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมของเธอ ไม่ใช่บังคับตัวเองให้เป็นหนึ่งเดียวกับมัน”
“นายกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไร นายนั้นเพิ่งค้นพบเกี่ยวกับมันเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้วเอง”
"ชั้นเดาว่าชั้นแค่ดีกว่า"
เกวนแค่เยาะเย้ยก่อนจะหลับตาลงเบาๆ และหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ปีเตอร์เห็นว่าเธอค่อยๆกลายเป็นร่างที่มองไม่เห็นอย่างช้าๆ แต่แน่นอน จนกระทั่งเธอหายไปจากสายตาของเขา
ปีเตอร์ยิ้มขณะที่ยังมองไม่เห็น “ขอแสดงความยินดีที่เธอได้เข้าร่วมคลับล่องหน ชั้นหวังว่าเธอจะสนุกกับการอยู่ที่นี่ ไม่มีอะไรให้ดูมากนัก แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่สนุกสนาน”
เกวนหัวเราะเยาะอีกครั้งเพื่อปลดการล่องหนของเธอ จากนั้นเธอก็เริ่มห้อยหัวลงจากชิงช้าของเธอ ในขณะที่กำลังแกว่ง เธอก็ถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“เฮ้ ปีเตอร์ ?”
"ว่าไง ?"
“นายคิดว่าพวกเราควรทำยังไงกับพลังเหล่านี้ ชั้นคิดว่าพวกเราควรทำอะไรที่สำคัญกับมัน แต่จริงๆแล้วชั้นกลัวนะ”
"มันชัดเจนอยู่แล้วใช่ไหมว่าพวกเราจะทำอะไรกับพวกมัน"
“เห้ย นายพูดถูก มันชัดเจนอยู่แล้ว…”
จากนั้นปีเตอร์และเกวนก็พูดพร้อมกัน
“พวกเราจะเป็นซูเปอร์วายร้าย”
“พวกเราจะเป็นซุปเปอร์ฮีโร่”
“อะไรนะ” เกวนพูดด้วยความตกใจเมื่อเธอหันไปมองปีเตอร์
“ล้อเล่นนะ ล้อเล่น มันชัดเจนว่าพวกเรากำลังจะใช้พลังของเราเพื่อช่วยเหลือผู้คน ชั้นหมายถึง มันชัดเจนสำหรับเธอเพราะว่าพ่อของเธอเป็นหัวหน้าตำรวจ จริงๆมันคงน่าเป็นห่วงถ้าเธอกลายเป็นคนร้ายจริงๆ
เพราะชั้นไม่คิดว่าลูกสาวของหัวหน้าตำรวจจะคบกับชั้นหากศีลธรรมของชั้นน่าสงสัย แถมด้วยพลังของชั้น ชั้นยังคงคิดว่าลุงเบ็นคงจะตีฉันถ้าเขารู้ว่าชั้นทำชั่วเมื่อชั้นมีพรสวรรค์นี้
หลังจากนั้นเขาจะบอกชั้นเสมอว่า..."
เกวนยิ้มเยาะเมื่อรู้ว่าเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรเมื่อได้ยินคำพูดโปรดของลุงเบ็น เกวนก็ร่วมพูดด้วยกับปีเตอร์
“พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง”
“เธอแน่ใจไหมว่าเธอนั้นพร้อมที่จะทำสิ่งนี้แล้ว เกวน นี่เป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ การออกไปต่อสู้และปกป้องผู้คนไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด พวกเรานั้นกำลังเสี่ยงชีวิตอยู่ตลอดเวลา และหากพวกเราออกไป พวกเราก็อาจเสี่ยงต่อชีวิตของคนอื่นๆด้วยเช่นกัน”
ท่าทีของเกวนเริ่มจริงจังขึ้น “ปกติแล้วนี่คงเป็นสิ่งที่ชั้นลังเลถ้าชั้นอยู่คนเดียว แต่ชั้นนั้นไม่ได้อยู่คนเดียว นายไม่คิดอย่างนั้นบ้างเหรอ ชั้นเชื่อว่าการที่ทุกคนคอยช่วยเหลือกันตลอดมาจะทำให้ทุกอย่างราบรื่น”
“ชั้นเดาว่านี่คงเป็นช่วงที่ทีมในฝันถือกำเนิดขึ้น ตอนนี้พวกเราต้องคิดอะไรบางอย่างที่สำคัญมากขึ้นมา... ชื่อฮีโร่และเครื่องแต่งกายของพวกเรา”
เกวนเพียงแค่มองเขาด้วยสายตาเรียบเฉย "จริงเหรอ ? นั่นคือสิ่งที่นายเชื่อว่าสำคัญที่สุดเหรอ"
“เฮ้ ชื่อเสียงมันสำคัญจริงๆ คนเราควรจะรู้สึกปลอดภัยได้ยังไงในเมื่อเรามีชุดห่วยๆกับชื่อห่วยๆ ลองนึกภาพว่าชีวิตตัวเองต้องตกอยู่ในมือโจร 8 ตาที่ใส่แค่เสื้อสเวตเตอร์กับกางเกงขาสั้นดูสิ”
"เอ่อ ชั้นคิดว่านายคงพูดถูก แต่ว่านั่นสำคัญที่สุดจริงๆ เหรอ ?"
“ไม่โง่หรอก ชั้นแค่ล้อเล่น พวกเราจำเป็นต้องควบคุมความสามารถของพงกเราและมีประสบการณ์กับมัน การออกไปหาผู้คนที่ปลอดภัยโดยไม่ได้เตรียมตัวหรือเตรียมในมาอย่างดีนั้นเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตาย โชคดีที่เพวกรามีปัญญาประดิษฐ์ที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ซึ่งพร้อมช่วยเหลือเราในทุกขั้นตอน”
จากนั้นปีเตอร์ก็ปลดการล่องหนของเขาออกและกระโดดลงมาจากเปลและลงไปที่เท้า จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่เกวนแล้วพูดว่า
“เตรียมตัวไว้ให้ดี เพราะการฝึกของเรากำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว”
โปรดติดตามตอนต่อไป.
_______________