ตอนที่แล้วบทที่ 44  กลับมาพร้อมความสำเร็จ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 46  จะฆ่าหรือฝังดี

บทที่ 45  หาเงินเมื่อมีโอกาส!


ย่าหลี่มองดูลูกชายและหลานๆ ด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุขพร้อมกับฟังเรื่องราว

เงินที่ได้มาครั้งนี้ อย่างน้อยก็เพียงพอให้หลานชายคนโตไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเรียนในปีหน้า

ไหนจะผ้าใหม่ที่ซื้อมาอีก เมื่อถึงปีใหม่ บ้านก็จะได้มีอะไรเพิ่มความสุขเข้ามา

ชีวิตช่วงนี้เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ!

หลี่เหล่าซือหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบสร้อยเงินออกมาจากอกเสื้อ พร้อมกับกุญแจทองคำอันเล็กที่มีลวดลายละเอียดอ่อน

“แม่ ข้าแลกสร้อยนี้มาด้วยหนังจิ้งจอก ข้าไม่ได้อยู่งานครบรอบร้อยวันของฟู่หนิวเอ๋อร์…”

เขากลัวว่าย่าหลี่จะตำหนิเขา เพราะกุญแจนี้ราคาแพงถึงห้าหรือหกตำลึงเงิน

แต่เขาลืมไปว่าคนที่รักเจียอินที่สุดในบ้านก็คือย่าหลี่

ย่าหลี่หยิบกุญแจทองมาแขวนที่คอของหลานสาว พร้อมกับเอ่ยชมไม่ขาดปาก

“กุญแจที่ฮูหยินซุนให้มาคราวก่อนมันดูแพงเกินไป ย่าไม่กล้าให้ฟู่หนิวเอ๋อร์ใส่เลย เจ้าซื้อมาคราวนี้กำลังดี ใส่แล้วดูน่ารักจริงๆ! ท่านพ่อของเจ้ารู้จักเลือกของจริงๆ!”

เจียอินเองก็ดูชอบใจ นางยื่นมือออกไปขอให้บิดาอุ้ม จากนั้นก็ทิ้งน้ำลายใส่หน้าเขาอย่างไร้เดียงสา

หลี่เหล่าซือรู้สึกหวานจนเหมือนน้ำผึ้งราดใจ  หัวเราะเสียงดัง

เดือนหนึ่งที่เดินทางผ่านความเหนื่อยล้าและยากลำบากทั้งหมด ก็เพื่อช่วงเวลานี้

ความเหน็ดเหนื่อยทั้งหมดมลายหายไปเมื่อเห็นรอยยิ้มของมารดาและสัมผัสน้ำลายของลูกสาว

เจียอี้รีบหยิบหมวกหลากสีออกมาจากอกเสื้อ

“น้องสาว น้องสาว ดูนี่สิ! พี่รองซื้อมาฝาก เจ้าว่ามันสวยไหม? ชอบหรือเปล่า?”

หมวกใบนี้ทำจากผ้าหลากสีเย็บต่อกัน แต่ละส่วนปักรูปสัตว์เล็กๆ ดูสมจริงและน่ารักมาก

เจียอินพยายามเอามือหยิบหมวกใส่หัวตัวเอง ทว่าหมวกกลับปิดหน้าจนมิด ทำให้ทุกคนในครอบครัวหัวเราะ

เจียอี้รีบช่วยใส่ให้ และเจียอินก็ยืนบิดตัวเล็กน้อยด้วยความดีใจอย่างยิ่ง

แน่นอน เจียอี้ก็ไม่รอดจากการโดนน้ำลายเจียอินทาทั่วหน้าเช่นกัน...

ในช่วงที่เสียงหัวเราะดังทั่วบ้าน ชาวบ้านที่ได้ยินความคึกคักก็เข้ามาสอดรู้

ไม่มีใครได้เดินทางออกนอกหมู่บ้าน พวกเขาจึงอยากรู้เรื่องราวของโลกภายนอก

ครอบครัวหลี่รีบจัดเก็บของและต้อนรับด้วยน้ำชาอุ่นๆ

เจียอินถูกอุ้มกลับเข้าบ้าน ส่วนเถาหงอิงกับจ้าวอวี้หรูพากันเข้าครัวเพื่อทำอาหาร

หลี่เหล่าซือและเจียอี้นั้น หลังจากเดินทางมาก็ได้เรียนรู้การทำงานและการพูดคุยกับผู้คนมากมาย

เวลานี้ พวกเขาพูดคุยกับชาวบ้านอย่างคล่องแคล่ว เรื่องที่ควรเล่าก็เล่า เรื่องที่ไม่ควรพูดก็ปิดปากสนิท

ย่าหลี่ที่นั่งฟังอยู่ในห้อง ยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความพอใจ

นางก้มลงจูบหลานสาวเบาๆ แล้วพึมพำ

“พ่อเจ้ากับพี่ๆ ของเจ้าต่างก็เจริญขึ้นเรื่อยๆ แม้ย่าจะหลับตาลาโลกตอนนี้ก็ไม่เสียใจเลย”

เจียอินรีบกอดคอของย่าแน่น นางยังโตไม่พอ ย่าจะจากไปไม่ได้ ใครจะเป็นเพื่อนขโมยกินของอร่อยกับนางเล่า!

ไม่รู้ว่าย่าหลี่เข้าใจความคิดของหลานสาวหรือไม่ นางหัวเราะเบาๆ และลูบหลังนางไปมา

พอเจอจุดจั๊กจี้ เจียอินก็หดตัวบิดไปมา ท่ามกลางเสียงหัวเราะของย่า

โชคร้ายมักไม่มาเดี่ยว แต่เรื่องดีมักมาเป็นคู่

หลังจากหลี่เหล่าซือและเจียอี้กลับมาบ้านได้ไม่นาน วันต่อมาเจียเหรินก็กลับมาด้วย

ครอบครัวหลี่ได้รวมตัวกันอย่างพร้อมหน้า เป็นการกลับมาพบกันที่หายาก

ย่าหลี่ตั้งใจกวาดลานหิมะในลานบ้าน หยิบเนื้อแช่แข็งที่เก็บไว้ตั้งนานสองชั่งออกมา และเรียกสะใภ้ทุกคนมาทำขนมปังกับเกี๊ยว

แม้เนื้อที่มีจะหนักสองชั่ง แต่ด้วยจำนวนคนในบ้านมาก จึงต้องเติมกะหล่ำปลีลงไปอีกเยอะ

เถาหงอิงและจ้าวอวี้หรูต่างทำงานในครัวอย่างขยันขันแข็งโดยไม่หยุดมือ

ขณะที่อู๋ชุ่ยฮวานั่งเติมฟืนในเตาไฟ พลางบ่นด่าลูกชายคนโตและคนรองไปเรื่อย แต่ไม่มีใครใส่ใจ

สองสะใภ้แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เพราะไม่อยากให้อารมณ์เสียกับคนอย่างนาง

บรรยากาศความสุขในบ้านเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในโลก

หลี่เหล่าซือและเจียอี้กินอิ่มดื่มอุ่นและหลับสนิท เสียงกรนดังจนทั่วบ้าน

พวกเขานอนหลับยาวจนถึงเที่ยงวันในวันถัดมา...

เจียซีและเจียอันวิ่งวนไปมาอย่างกระวนกระวาย รอคอยให้พี่ชาย ที่กลับมาบอกเล่าเรื่องราวใหม่ๆ ที่ได้พบเจอระหว่างเดินทาง แม้แต่เจียฮวนที่ปกติซื่อสัตย์และเรียบร้อยก็ยังเข้ามาในบ้านถึงสองรอบ

ย่าหลี่มองดูหลานๆ ด้วยความขบขันและบอกพวกเขาอย่าซน พร้อมทั้งระวังไม่ให้ไปปลุกสองวีรบุรุษที่เพิ่งกลับมาจากการเดินทางไกล

เจียอินสวมเสื้อแจ็คเก็ตลายดอกไม้กับกางเกง ยืดตัวนอนอยู่บนคัง  พยายามคลานไปข้างหน้าเหมือนหนอนผีเสื้อ ด้วยท่าทางเก้งก้างและใบหน้ากลมๆ แดงระเรื่อเพราะออกแรงจนหมดแรง นางดึงดูดความสนใจจากสองพี่ชายตัวน้อยที่ยืนปรบมือเชียร์อยู่ข้างๆ

“โอ้! น้องสาวคลานแบบนี้ไม่ได้นะ ต้องยื่นมือออกไป!”

“ไม่ๆ มันต้องใช้แรงที่ขา!”

เจียอินกลอกตา พลางขบเหงือกของตัวเองด้วยความขุ่นเคืองในใจ ข้านี่นะ เป็นถึงหญิงสาวยุคใหม่ที่ต้องให้เด็กน้อยสองคนมาสอนวิธีคลาน มันน่าอายเสียจริง!

ย่าหลี่ที่เข้าใจนิสัยหลานสาวดี พอเห็นว่าเจียอินหยุดขยับ ก็รีบอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ปลอบโยนพร้อมกลั้นขำ

“โอ๊ย หลานย่าคลานเพิ่มมาอีกตั้งฟุตหนึ่งแล้ว อีกไม่นานก็จะคลานเป็นแล้วล่ะ แต่ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้นะ ค่อยๆ เรียนรู้ไป อย่ารีบร้อน นั่งพักหน่อยนะ ให้พี่ชายสองคนเล่นกับเจ้าเถอะ”

ย่าหลี่หยิบผ้าห่มจากกล่องพับให้สูงพอเหมาะ แล้ววางเจียอินนั่งพิงบนหลังของผ้าห่มนั้น พร้อมใช้หมอนเปลือกข้าววางข้างซ้ายและขวาเพื่อกันไม่ให้นางล้ม

เจียซีและเจียอันที่ปกติโดนห้ามไม่ให้ยุ่งกับน้องสาว แต่วันนี้กลับถูก "สั่ง" ให้มาเล่นกับน้อง ทั้งสองพี่ชายดีใจกันยกใหญ่

เจียซีลงนอนคว่ำทำตัวเป็น "ม้าใหญ่" ส่วนเจียอันช่วยจับเจียอินนั่งอยู่บนหลังม้า เด็กหญิงหัวเราะคิกคัก โบกมืออ้วนกลมอย่างสนุกสนานราวกับกำลังขี่ม้าจริงๆ

เสียงหัวเราะและความร่าเริงของพี่น้องทั้งสามทำให้บรรยากาศในบ้านสดใส

ในตอนนั้น หลี่เหล่าซือที่เพิ่งตื่นขึ้นมาพูดขึ้นมา

“แม  พี่หลิวกำลังจะเดินทางไปยังเมืองหลวงอีกครั้งในอีกครึ่งเดือน ข้าอยากขอร่วมเดินทางไปด้วยอีกสักรอบ ไม่ใช่แค่หาเงินได้เยอะ แต่ถ้าอยู่บ้านเฉยๆ ก็คงเปล่าประโยชน์ ข้าจะพาเจียอี้ไปด้วย และพวกเราก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายระหว่างทาง”

ย่าหลี่รู้สึกไม่อยากให้ลูกหลานลำบาก โดยเฉพาะเพิ่งกลับมาถึงบ้านเมื่อวานนี้เอง

“เดี๋ยวแม่คิดดูก่อนนะ”

หลี่เหล่าซือไม่กล้าพูดอะไรต่อ เมื่อเห็นลูกสาวหัวเราะดีใจอยู่บนหลังม้าเล่น เขาจึงเข้าไปอุ้มลูกสาวขึ้นมา เจียอินก็จุ๊บพ่ออย่างแรงจนหนวดที่แก้มของเขาทำให้ใบหน้าอ้วนๆ ของเด็กหญิงแดงแจ๋

ย่าหลี่รีบแย่งหลานสาวสุดที่รักมากอดไว้ พลางผลักลูกชายออกไป

“ไปๆ ไปนั่งที่เรือนข้างๆ ปู่จ้าวกับคนอื่นๆ อยากคุยกับเจ้าและเจียอี้”

หลี่เหล่าซือจึงเดินออกไปพร้อมรอยยิ้ม เจียซีและเจียอันก็รีบตามพ่อออกไปด้วย บ้านจึงเงียบลงทันที

ย่าหลี่จัดการเก็บกวาดคังที่ยุ่งเหยิงไปด้วยของเล่น พลางบ่นกับหลานสาวในอ้อมแขน

“พ่อเจ้าช่างอยู่นิ่งไม่ได้เลย พอออกไปข้างนอกทีก็หายหน้าหายตา เพิ่งจะกลับมาก็จะออกไปอีกแล้ว”

ขณะที่บ่นอยู่นั้น ย่าหลี่ก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างจนต้องอุทานด้วยความตกใจ

“โอ้ย! ฟู่หนิวเอ๋อร์ เจ้ามีของดีอีกแล้วใช่ไหม? เอามาทีละอย่างได้ไหม ย่าน่ะหัวใจจะวาย!”

เจียอินยกมืออ้วนปิดหน้าตัวเอง พลางทำท่าปิดหูเหมือนไม่ได้ยินคำบ่นของย่า

ข้าก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ แต่ครอบครัวเรายังจนเกินไป! ก่อนที่พ่อจะไปเมืองหลวง ข้าต้องรีบหาเงินให้ได้มากกว่านี้!

4.7 3 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด