บทที่ 143: เจียงเสวี่ยโหรวผู้ลึกลับ
บทที่ 143: เจียงเสวี่ยโหรวผู้ลึกลับ (ตอนฟรี)
สายตาของผู้คนต่างจับจ้องไปที่ลี่เจียงเหอ ที่กำลังโค้งคำนับขอโทษเซียวซิงหยูด้วยสีหน้าแหยๆ
"ท่านเซียว พวกเราแสดงความจริงใจในการขอโทษแล้วนะครับ"
"เเล้วผมก็รับรองว่ากลับไปจะสั่งสอนไอ้ลูกไม่รักดีคนนี้ให้เข็ดหลาบ!"
"ดังนั้น…."
"เอาล่ะ…ไสหัวไปได้เเล้ว" เซียวซิงหยูยกยิ้มเย็น
เเละลี่เจียงเหอก็ไม่กล้าโกรธแม้แต่น้อย
ยิ่งเมื่อได้ยินคำว่า "ไสหัวไป" เขาก็ยิ่งรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
"เจ้าพวกโง่, ไม่ได้ยินที่ท่านเซียวพูดรึไง!?" ลี่เจียงเหอรีบตะโกน
เหล่าลูกน้องมองหน้ากัน จากนั้นก็พร้อมใจกันวิ่งออกไปนอกประตูอย่างรวดเร็ว
สุดท้าย เป็นลี่เจียงเหอที่เเทบจะโค้ลคำนับตลอดเวลาที่เดอนออกไปจากหอเทียนจี
………
หลังจากที่คนของกิลด์พายุออกไปหมดแล้ว บรรยากาศในงานก็ยิ่งอึมครึมยิ่งขึ้นไปอีก
ตอนนี้แขกทุกคนล้วนกลั้นหายใจ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงสักเเอะ
ถึงแม้ว่าแขกเหล่านี้จะเป็นคนมีชื่อเสียงในเมืองหลงอิ๋น แต่พวกเขาก็ยังไม่คู่ควรแม้แต่จะเช็ดรองเท้าให้ลี่เจียงเหอ
แต่ลี่เจียงเหอในตอนนี้ ไม่มีค่าอะไรเลยเมื่อเทียบกับเซียวซิงหยู
ด้วยพลังอำนาจของป้ายวิญญาณจักรพรรดิ แขกทุกคนล้วนหน้าซีดเผือด…เพราะแรงกดดันของป้ายเล็กๆนี้
เซียวซิงหยูเก็บป้ายวิญญาณจักรพรรดิ, กวาดมองแขกทุกคนด้วยสายตาเฉื่อยชา
"พวกคุณอยากมีชีวิตรอดใหม?"
ทุกคนพยักหน้ารัวๆ เหมือนลูกไก่จิกอาหาร
"ถ้าอยากมีชีวิตรอด พวกคุณก็น่าจะรู้ว่าต้องทำยังไงนะ"
คนฉลาดคุยกับคนฉลาด ย่อมไม่ต้องพูดให้มากความ
เซียวซิงหยูไม่ต้องอธิบายอะไรมาก แขกทุกคนก็ล้วนเข้าใจดี
"เซียวซิงหยู? ใครกัน…ผมไม่รู้จักมาก่อน"
"งานประมูล? งานประมูลอะไร? ผมไม่เคยได้ยินเลย"
"มีคนแขนหักเหรอ? ไม่รู้เรื่องเลย~"
"ป้ายวิญญาณจักรพรรดิ? ไม่เคยเห็นเลยนะ"
"วันนี้อากาศดีจังเลย…ไปๆๆ ไปดื่มกันดีกว่า!"
แขกในงานทยอยกันออกไป ราวกับว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ที่หอเทียนจีไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
กองกำลังวิญญาณจักรพรรดิ คือองครักษ์ข้างกายของจักรพรรดินีซ่างกวนหลาน
ไม่ว่าป้ายวิญญาณจักรพรรดิและผู้ถือป้ายจะปรากฏตัวที่ใด นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังปฏิบัติภารกิจลับ
ดังนั้นมันจึงมีกฎอยู่ว่า:
เมื่อเห็นป้ายวิญญาณจักรพรรดิก็เหมือนเห็นจักรพรรดินี, เเละเมื่อเห็นคนของกองกำลังวิญญาณจักรพรรดิ ให้ทำเหมือนไม่เคยพบหน้า
เเละความหมายก็ตรงตามตัวอักษร ป้ายวิญญาณจักรพรรดิมีอำนาจเทียบเท่าจักรพรรดินี, นอกจากนี้ใครก็ตามที่พบเจอคนของกองกำลังวิญญาณจักรพรรดิ จะต้องทำเป็นไม่รู้จัก
ด้วยกฎข้อนี้ แขกทุกคนจึงต้องลืมเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ที่หอเทียนจี เพื่อรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้
เเละต่อให้ลืมไม่ได้ ก็ต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับสุดยอด!
…….
ในห้องจัดงานตอนนี้เหลือเพียงเซียวซิงหยู ฉินเยี่ยนหรัน และเจียงเสวี่ยโหรว
ข้างนอกหน้าต่างมืดมิด แสงจันทร์ส่องสว่างราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้แต่ระลอกคลื่นเล็กๆก็มองไม่เห็น
"พี่เยี่ยนหรัน สติหลุดไปเเล้วหรอครับ?"
ตอนนี้ฉินเยี่ยนหรันตาค้าง เพราะตกใจจนสติเเทบหลุด
หลังจากตั้งสติได้ ฉินเยี่ยนหรันก็จับมือเซียวซิงหยูเเล้วถามอย่างตื่นเต้น
"น้องซิงหยู ป้ายวิญญาณจักรพรรดิอยู่ในมือเธอ..มันมาจากใหน!?”
“เธอไปขโมยใครมารึเปล่า…ของแบบนี้มันขโมยไม่ได้นะ!”
ฉินเยี่ยนหรันตกใจมาก เพราะการขโมยป้ายวิญญาณจักรพรรดิถือเป็นโทษประหารเท่านั้น
"พี่เยี่ยนหรัน พี่คิดมากไปแล้วครับ ป้ายนี้ท่านจักรพรรดินีมอบให้ผมเองกับมือเลย"
"จักรพรรดินี…มอบให้เธอ?" ฉินเยี่ยนหรันทำท่าเหมือนไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
"ผมพูดความจริง ถ้าพี่ไม่เชื่อ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว" เซียวซิงหยูยักไหล่เเล้วยิ้มอย่างจนใจ
…..
ย้อนกลับไปในคืนนั้น
เซียวซิงหยูถูกซ่างกวนหลานเรียกเข้าพบที่พระราชวัง
หลังจากพูดคุยกัน เซียวซิงหยูก็ตกลงที่จะเป็นคนของซ่างกวนหลาน เเละจงรักภักดีต่อเธอตลอดไป
ก่อนออกจากพระราชวัง ซ่างกวนหลานได้เรียกเซียวซิงหยูไว้ แล้วสอดป้ายวิญญาณจักรพรรดิเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของเขา
"ท่านจักรพรรดินี นี่มัน…"
"การเป็นปรมาจารย์อสูรระดับเจ็ดดาวขึ้นไป เป็นหนึ่งในเงื่อนไขการเป็นสมาชิกของกองกำลังวิญญาณจักรพรรดิ"
"ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะยังไม่ถึงระดับนั้น, แต่ฉันก็จะมอบป้ายนี้ให้เธอไว้ก่อน เพื่อเป็นสัญลักษณ์คนของกองกำลังวิญญาณจักรพรรดิ"
"เธอเป็นคนไม่มีภูมิหลัง นั่นเป็นข้อดีสำหรับฉัน แต่เป็นข้อเสียสำหรับตัวเธอเอง"
"ป้ายวิญญาณจักรพรรดิจะช่วยขจัดอุปสรรคต่างๆ และปกป้องเธอในช่วงที่ยังเรียนอยู่ที่วิทยาลัย"
"ขอบคุณท่านจักรพรรดินี!"
"ไม่เป็นไร"
"เอาล่ะ ข้าหวังว่าครั้งต่อไปที่เธอมาที่นี่ เธอจะมาในฐานะสมาชิกกองกำลังวิญญาณจักรพรรดิอย่างเป็นทางการนะ" ซ่างกวนหลานพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่กลับทรงพลังอย่างมาก
คำพูดนี้สามารถสรุปได้ว่าซ่างกวนหลานกำลังรอการเติบโตของเซียวซิงหยูอยู่
เธอมีความคาดหวังกับเด็กหนุ่มคนนี้อย่างบอกไม่ถูก เธอหวังว่าสักวันหนึ่ง เขาจะเป็นดาบที่คมที่สุดในมือของเธอ
……
กลับมา ณ ปัจจุบัน
"คุณเซียว ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนสนิทของจักรพรรดินี"
"ไม่สิ ฉันพูดผิดไป ฉันควรเรียกคุณว่าท่านเซียว" เจียงเสวี่ยโหรวแสดงความเคารพและชื่นชมเซียวซิงหยูมากขึ้น
"หอหน้าหอเจียง พวกเราเป็นเพื่อนกัน อย่าทำเป็นทางการเพราะป้ายนั่นเลย"
"ถ้าคุณคิดว่าฉันเป็นเพื่อนจริงๆ ต่อไปเรียกฉันว่าเสวี่ยโหรวได้ไหม?"
เจียงเสวี่ยโหรวคือนางฟ้าอันดับหนึ่งของเมืองหลงอิ๋น ชายหนุ่มมากมายในเมืองนี้ต่างหมายปองเธอ
เเต่ตอนนี้ เจียงเสวี่ยโหรวกลับมายืนอยู่ตรงหน้าเซียวซิงหยู ดวงตาแสนหวานของเธอกะพริบปริบๆราวกับกำลังรอการตอบรับจากชายที่เธอชื่นชอบ
เซียวซิงหยูยื่นมือออกไปจับมือเจียงเสวี่ยโหรว
"เสวี่ยโหรว"
"งั้นฉันจะเรียกคุณว่า…ซิงหยู นะ?"
"ตามใจเธอเลย"
"น้องซิงหยู ไปจับมือผู้หญิงง่ายๆเเบบนี้ได้ยังไง…ปล่อยเลยนะ!" ฉินเยี่ยนหรันเริ่มหึงเล็กน้อย เธอจึงดึงเซียวซิงหยูออกมา
"เสวี่ยโหรว เรื่องวันนี้…"
"ไม่ต้องห่วง ความทรงจำในคืนนี้ ฉันจะโยนทิ้งไปหมดแล้ว ฉันจะแค่ว่าเธอชื่อเซียวซิงหยู เป็นเพื่อนที่ฉันรู้สึกถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็น ส่วนป้ายอะไรนั่น…ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน"
"ขอบคุณมากเสวี่ยโหรว แล้วเจอกันใหม่"
หลังจากพูดจบ, เซียวซิงหยูและฉินเยี่ยนหรันก็ออกจากหอเทียนจีไป
…..
ณ ขณะนี้, เหลือเพียงเจียงเสวี่ยโหรวอยู่คนเดียวในห้องจัดงาน
กริ๊งงงงง!!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
เจียงเสวี่ยโหรวยืนรับโทรศัพท์ข้างหน้าต่าง มองลงไปที่ถนนด้านล่างซึ่งฉินเยี่ยนหรันกำลังควงแขนเซียวซิงหยูเดินเล่นไปตามถนน
จากมุมนี้ เจียงเสวี่ยโหรวสามารถมองเห็นหลังของเซียวซิงหยูที่ค่อยๆเดินจากไป
"ฮัลโหล"
"ชุยเสวี่ย เจอนายน้อยของเรารึยัง?"
"เจอแล้ว เขาโตเป็นผู้ใหญ่กว่าที่ฉันคิด"
"ตอนนี้นายน้อยยังไม่มีกำลังมากพอ, ที่ฐานของเราในเมืองหลงอิ๋นมีแค่เธอคนเดียว…เธอต้องดูแลเขาให้ดี"
"เขามีป้ายวิญญาณจักรพรรดิ จะต้องให้ฉันดูแลอีกเหรอ?" เจียงเสวี่ยโหรวยิ้มแห้งๆ
"ป้ายวิญญาณจักรพรรดิ!? นายน้อยไปพัวพันกับซ่างกวนหลานได้ยังไงเนี่ย!?"
"ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลัง ฉันจะดูแลเขาเอง ฉันวางสายก่อนนะ"
หลังจากเจียงเสวี่ยโหรววางสาย เธอก็พิงตัวอยู่ที่ขอบหน้าต่าง มองตามหลังของเซียวซิงหยูที่หายลับไป
…..
"น้องซิงหยู เป็นอะไรรึเปล่า?"
ตรงหัวมุมถนน
เซียวซิงหยูหยุดเดิน เเล้วหันกลับไปมองหอเทียนจี
เพราะระยะทางที่ห่างไกล ทำให้หอเทียนจีดูเล็กลงจนมองเห็นเหมือนเม็ดข้าวเล็กๆ
"เจียงเสวี่ยโหรว…เธอเป็นใครกันแน่?"
เซียวซิงหยูเป็นคนช่างสังเกต, เมื่อป้ายวิญญาณจักรพรรดิปรากฏขึ้น แขกทุกคนรวมถึงฉินเยี่ยนหรันต่างก็หวาดกลัว
แต่เจียงเสวี่ยโหรวที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างชัดเจน กลับไม่แสดงอาการตกใจหรือหวาดกลัวเลยเเม้เเต่น้อย…สิ่งนี้มันผิดปกติอย่างมาก
ครืนนนน!!!
ทันใดนั้น, เสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้น
"น้องซิงหยู ฝนจะตกแล้ว…เราไปกันเถอะ"
"อืม"
……………………..