EP.9
EP.9
[มุมมองของปีเตอร์]
หลังจากที่ชั้นตั้งค่าทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชั้นก็มองไปที่โทรศัพท์ที่ชั้นถืออยู่ในมือและถามออกไปดังๆว่า "เป็นยังไงบ้าง อาร์นี่ เธอเข้าถึงโทรศัพท์ของชั้นได้ไหม"
จากนั้นโลโก้แมงมุมก็ปรากฏบนหน้าจอ และเสียงของอาร์นี่ก็ดังขึ้นในไม่ช้า
ชั้นพยักหน้ารับ ดีจังเลย แล้วชั้นก็ตระหนักได้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว "บ้าเอ๊ย เกวน ตอนนี้มันดึกแล้ว พวกเราต้องกลับบ้านแล้ว น่าเสียดาย แต่ชั้นยังได้เพิ่มอาร์นี่ในโทรศัพท์ของเธอด้วย ตำแหน่งของคุณนั้นอยู่รองจากชั้นเท่านั้น ดังนั้นเธอคงมองว่าเธอนั้นเป็นคนสำคัญมาก"
เกวนหยุดสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่และดูเวลา “นายพูดถูก พ่อจะฆ่าพวกเราถ้าพวกเรากลับบ้านดึกขนาดนี้ เฮ้ ชั้นนั้นนึกภาพพ่อเครียดกับเงินที่พวกเราพึ่งได้รับออกแล้ว”
ได้ยินแบบนี้ชั้นก็เริ่มตกใจทันทีว่า “โอ้ไม่”
เกวนมองมาที่ฉันด้วยความกังวล "นายหมายความว่ายังไง"
“พวกเราตื่นเต้นกับเงินและการค้นพบของพวกเราจนลืมบอกพวกเขา เมื่อพวกเขาได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับจำนวนเงินที่ไม่คาดคิดและไม่สามารถอธิบายได้ พวกเขาจะต้องวิตกกังวลมาก”
เกวนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ "บ้าเอ๊ย"
“บ้าจริง”
พวกเราต่างมองหน้ากันก่อนจะคว้าสิ่งของที่ได้มาและวิ่งออกจากที่ซ่อน พวกเราทั้งคู่ขึ้นจักรยานและปั่นจักรยานออกไปจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ชั้นกำลังพาเกวนกลับบ้าน ชั้นได้หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วสั่ง AI ใหม่ล่าสุดของชั้นว่า "อาร์นี่ทำให้ที่ซ่อนอยู่ในโหมดซ่อนตัว"
ชั้นไม่สงสัยเลยว่ามันทำอย่างที่ชั้นบอกหรือเปล่า หลังจากที่ชั้นทำสำเร็จแล้ว ไฟและส่วนอื่นๆทั้งหมดควรจะปิดลง ส่วนฐานไฟควรจะครอบคลุมทุกอย่าง
พวกเรามาถึงหน้าบ้านของเกวนอย่างรวดเร็ว เธอเข้ามาและจูบแก้มชั้นซึ่งทำให้ชั้นหน้าแดง จากนั้นเธอก็วิ่งเข้าไปข้างในด้วยความเขินอายหรืออาจจะไม่อยากให้พ่อของเธอตื่นตระหนก ชั้นคงไม่มีวันรู้
เมื่อเห็นว่าเธอเข้ามาข้างในแล้ว ชั้นจึงเริ่มปั่นจักรยานออกไปเพื่อกลับไปหาป้าเมย์และลุงเบ็น ขณะที่ชั้นกำลังปั่นจักรยาน ชั้นก็นึกถึงการจูบของเธอ
'มันแปลกไหมที่ชั้นชอบอะไรแบบนี้ พวกเราอายุ 12 ทั้งคู่ ดังนั้นมันไม่น่าจะแปลก แต่ชั้นอายุมากกว่าทางจิตใจ พระเจ้า ชั้นรู้ว่าเธอชอบชั้น เพราะชั้นไม่ได้โง่ขนาดที่จะไม่รู้ว่าเธอมีความรู้สึกต่อชั้น
แต่ชั้นลังเลเพราะอายุทางจิตใจของชั้น... หวังว่าจะไม่มีเอฟบีไอข้ามมิติที่คอยตามล่าผู้กลับชาติมาเกิดใหม่นะ แต่เอาจริงๆแล้วชั้นจะทำอย่างไรดี ความรู้สึกที่ชั้นมีต่อเธอกำลังพัฒนาเช่นกัน... อายุจิตใจของชั้นนั้นไม่น่าจะสำคัญ
นี่เป็นชีวิตใหม่ของชี่น ตอนนี้ชี่นเป็นปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เด็กชายวัย 12 ปีจากเมืองควีนส์ และจะเป็นสไปเดอร์แมนเพื่อนบ้านแสนดีในอนาคต ชั้นรู้สึกเหมือนกำลังทำให้เรื่องต่างๆ ซับซ้อนเกินไป ทั้งที่ไม่ควรเกิดขึ้น
ขณะที่ชั้นกำลังครุ่นคิดอยู่ ชั้นก็ตระหนักได้ในไม่ช้าว่าชั้นได้กลับถึงบ้านได้ค่อนข้างเร็ว ชั้นเดินเข้าไปข้างในด้วยความกังวล และก็เป็นอย่างที่ชั้นกลัว... พวกเขาแสดงอาการเกินเหตุ
ป้าเมย์นั่งร้องไห้อยู่บนที่นั่ง ขณะที่ลุงเบ็นกำลังลูบหลังเธอเพื่อปลอบใจ
[มุมมองบุคคลที่ 3]
ปีเตอร์มองดูทุกสิ่งด้วยรอยยิ้มเหนื่อยล้า และทันทีที่เขาเข้ามา เขาก็ประกาศว่า "ผมกลับบ้านแล้ว"
“ปีเตอร์ เธอทำอะไรลงไป เงินทั้งหมดนั่นมันมาจากไหน” ป้าเมย์ถาม
'ชั้นต้องเตือนอาร์นี่ให้ตั้งบัญชีธนาคารลับไว้ใช้ในอนาคต' ปีเตอร์คิดขณะถอนหายใจและหยิบโทรศัพท์ออกมา
จากนั้นเขาก็หยิบผลงานวิจัยของเขาและสิ่งที่เขาเสนอให้นอร์แมนขึ้นมา "ผมกับเกวนได้ไปขายสิทธิบัตรของพวกเราให้กับคุณออสบอร์น ความคิดของผมกับเกวนมันยอดเยี่ยมมากจนเขาซื้อทุกอย่างมาในราคา 1 ล้านเหรียญ โดยแบ่งให้ผม 500,000 เหรียญ และอีก 500,000 เหรียญให้กับเกวน
แต่นั่นยังไม่ใช่ข่าวดี ข่าวดีก็คือนี่มันเป็นรายได้แบบรายปี เนื่องจากราคาขายมันได้มาก คุณออสบอร์นจึงคิดว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผล
ตอนนี้ทุกๆปี เกวนและผมจะได้รับเงิน 500,000 ดอลลาร์ ดังนั้นพวกคุณลุงคุณป้าไม่ต้องกังวลเรื่องเงินมากนัก ผมรู้ว่าพวกคุณมีปัญหาในการจ่ายบิลมากแค่ไหน ดังนั้นผมเลยคิดว่าจะช่วยพวกคุณและคิดค้นอะไรบางอย่างขึ้นมา
และเราก็มาถึงที่นี่แล้ว”
น้ำตาไหลรินออกมาเงียบๆบนใบหน้าของป้าเมย์ ขณะที่ลุงเบ็นลุกขึ้นและดึงปีเตอร์เข้ามากอดแน่น
“เธอไม่ควรวิตกกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายของพวกเราเลย เด็กในวัยเดียวกับเธอนั้นควรจะกังวลแค่เรื่องความสนุกสนานและการเรียนเท่านั้น ลุงอยากให้เธอสัญญาอะไรบางอย่างกับลุง ลุงนี่นอยากให้เธอสัญญาว่าจะหยุดกังวลเรื่องของผู้ใหญ่ที่ไม่ควรวิตกกังวลและสนุกไปกับชีวิต”
“แต่ว่า…” ปีเตอร์เริ่มจะประท้วง แต่ลุงเบ็นกลับขัดจังหวะเขา
“สัญญากับลุงนะปีเตอร์” ลุงเบ็นกล่าว
ปีเตอร์ส่ายหัว “ขอโทษครับ ผมสัญญาอะไรกับลุงไม่ได้ ผมนั้นสัญญาได้แต่มันคงโกหกลุงแน่ เพราะผมเป็นห่วงพวกลุงเสมอ แถมใครบอกว่าผมไม่สนุกละ ผมนั้นสนุกกับเวลาที่ได้ค้นคว้าไอเดียต่างๆกับเกวน และแค่ไอเดียพวกนี้มันทำเงินได้ก็เท่านั้น” ปีเตอร์พูดในส่วนสุดท้ายด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“เห้ย หลานพูดถูกนะว่าบางครั้งเธอก็ฉลาดเกินกว่าจะดีสำหรับตัวเธอเอง นี่คือ 1 ในตัวอย่างเหล่านั้น และขอชี้แจงให้ชัดเจนว่าพวกเรานั้นไม่ได้แตะเงินนั้น เงินนั้นจะถูกนำไปเข้ากองทุนการศึกษาของเธอโดยตรง”
“นี่ลุงได้ฟังสิ่งที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ไหม ว่าผมนั้นจะได้รับเงินจำนวนนั้นทุกปี ซึ่งหมายความว่าแม้ว่าพวกลุงจะเก็บเงินที่จำเป็นไว้ ผมนั้นก็จะยังมีเงินเหลืออยู่มาก ดังนั้น แทนที่จะเก็บไว้เฉยๆในธนาคาร พวกลุงควรใช้มันและทำให้ชีวิตของพวกเราทุกคนง่ายขึ้น”
“เธอเป็นเด็กหัวดื้อมากนะรู้ไหม” ลุงเบ็นกล่าว
ปีเตอร์ยิ้มกว้างให้เขา “ผมจะพูดอะไรได้ล่ะ การดื้อรั้นเป็นลักษณะนิสัยของพาร์กเกอร์และเป็นวิถีชีวิต”
ทั้งคู่ต่างหัวเราะกับเรื่องนั้น จากนั้นจึงนั่งลงและเริ่มพูดคุยกันอย่างจริงจังเกี่ยวกับอนาคตของพวกเขาและสิ่งที่พวกเขาจะทำกับเงินจำนวนนั้น
ปีเตอร์ต้องกดดันพวกเขาอย่างหนักเพื่อให้พวกเขาใช้มัน แม้ว่าพวกเขาจะยอมตกลงอย่างไม่เต็มใจ แต่พวกเขายอมตกลงก็ต่อเมื่อปีเตอร์ขู่ว่าจะถอนเงินทั้งหมดนั้นและเผามันต่อหน้าพวกเขา
พวกเขายังคงพูดคุยกันต่อจนดึกจนกระทั่งรับประทานอาหารเย็นและเข้านอน
ขณะที่อยู่ในห้องของเขา ปีเตอร์ก็กำลังคุยโทรศัพท์กับอาร์นี่
“ชั้นอยากให้เธอสร้างบัญชีธนาคารที่ไม่สามารถติดตามได้ สร้างบัญชีปลอมเพื่อที่เมื่อโอนเงินไปแล้วจะได้ไม่พบข้อมูลว่าเงินนั้นไปอยู่ในบัญชีไหน”
ขณะที่ปีเตอร์กำลังให้คำแนะนำเพิ่มเติมแก่อารัคนิด เขาก็ได้ยินเสียงก้อนกรวดกระทบกับหน้าต่างของเขา
ปีเตอร์ถอนหายใจแล้วลุกขึ้นและเปิดหน้าต่าง และเขาก็พบร่างนึงที่ค่อยๆเริ่มปีนขึ้นไปด้านข้างของอาคาร และด้วยความช่วยเหลือของปีเตอร์ เธอก็สามารถเข้าไปข้างในได้
ปีเตอร์เพียงมองดูเธอด้วยความหงุดหงิด “อีกแล้วเหรอ ?”
ร่างนั้นเพียงพยักหน้าพร้อมกับก้มหัวลงเล็กน้อย
ปีเตอร์ถอนหายใจก่อนจะลูบหัวเธอ “เอ็มเจ สัปดาห์นี้พ่อของคุณใช้ความรุนแรงเมื่อเมาเป็นครั้งที่ 3 แล้วนะ ชั้นกำลังจะไปที่นั่นและทำบางอย่างด้วยตัวเองอยู่พอดี”
เอ็มเจกระซิบเบาๆว่า "ชั้นของค้างคืนด้วยได้ไหม"
ปีเตอร์แค่เยาะเย้ย “ทำไมเธอต้องถามชั้นด้วยละ เธอรู้ดีว่าคำตอบคือใช่เสมอ แต่ชั้นสาบานนะเอ็มเจ ถ้าชั้นเห็นเธอมีรอยฟกช้ำ...” ปีเตอร์พูดไม่ทันจบประโยคก็ปล่อยให้ภัยคุกคามลอยนวลไป เอ็มเจเข้าใจข้อความนั้นดีและยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับความกังวลของปีเตอร์
ปีเตอร์กลับมาที่เตียงอีกครั้ง ในขณะที่เอ็มเจเดินตามเขาไปและนอนหลับโดยที่นอนแนบชิดกับเขา
ปีเตอร์เพียงมองดูเธอที่กำลังกอดเขาและถอนหายใจเงียบๆ ก่อนจะเข้านอนเช่นกัน
โปรดติดตามตอนต่อไป.
_______________