076-077
บทที่ 076
076 คำสั่งซื้อที่หลั่งไหลเข้ามา
สำหรับคนที่ไม่ชอบเล่นมือถืออย่างอันหยาน การถูกระเบิดด้วยข้อความมากมายเป็นสิ่งที่เธอรับมือไม่ได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นเธอควรจะพิจารณาซื้อมือถือเพิ่มอีกสองเครื่องดีไหมนะ?
“ฮ่า~ ตอนนี้คิดมากเกินไปหรือเปล่าเนี่ย?”
อันหยานยิ้มแล้วกลับไปตอบข้อความของทุกคนต่อ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือ ระหว่างที่เธอตอบข้อความไปเรื่อยๆ ก็มีคนเพิ่มเธอเป็นเพื่อนใน WeChat ผ่านการแนะนำแบบปากต่อปากของเพื่อนๆ ทำให้หลังจากตอบข้อความลูกค้าชุดแรกเสร็จแล้ว เธอก็เห็นคำขอเป็นเพื่อนเพิ่มขึ้นอีกยี่สิบกว่าคน
เธอสำรวจดูอย่างละเอียด พบว่าพวกเขาเพิ่มเธอผ่านบัตร WeChat ที่ถูกแชร์โดยลูกค้ากลุ่มแรก เธอจึงเข้าใจทันที
ดังนั้น เธอจึงกดยอมรับอย่างรวดเร็ว
o( ̄▽ ̄)o ดีใจจริง ได้ลูกค้าใหม่อีกแล้ว!
ต่อจากนั้น อันหยานก็เหมือนผึ้งงานที่ขยันขันแข็ง เธอก็เริ่มงานตอบคำถามลูกค้ารอบใหม่ทางออนไลน์อีกครั้ง
ลูกค้าคือเงิน!
——
เช้าวันรุ่งขึ้น อันหยานก็ตื่นสายอย่างไม่ต้องสงสัย
ปกติเธอตื่นประมาณเจ็ดโมงเช้า แต่เช้านี้กว่าจะตื่นก็เป็นแปดโมงครึ่งแล้ว
ไม่มีทางช่วยจริงๆ เพราะเมื่อคืนเธอยุ่งกับมือถือจนดึก เมื่อเธอตอบข้อความทุกอย่างเสร็จก็เป็นเที่ยงคืนแล้ว
เมื่อเข้านอนดึก ก็ย่อมต้องตื่นสายเป็นธรรมดา นอกจากนี้เมื่อวานเธอยังทำงานทั้งวัน สมองและจิตใจของเธอก็อยู่ในสภาวะที่ทำงานหนักสูงสุด จึงเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ยากที่เธอนอนตื่นสาย
แม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้ทำงานตามเวลาแล้ว ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับการจัดการของเธอเอง แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่ต้องทำในวันนี้ อันหยานที่แต่เดิมตั้งใจจะนอนต่อนั้นก็ต้องตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ยุ่งเหยิง!
อันหยานรีบล้างหน้าล้างตา เปิดเตาแก๊สเพื่อทำข้าวต้มข้าวฟ่าง ในช่วงเวลาที่รอข้าวต้มนั้น เธอก็ไม่ปล่อยให้เสียเวลาไปเปล่าๆ เธอนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น จดบันทึกและจัดระเบียบข้อมูลลูกค้าที่สั่งซื้อของมาเมื่อคืน
เมื่อมองดูข้อมูลการสั่งซื้อที่เต็มไปสองแผ่นกระดาษ อันหยานก็อดคิดไม่ได้ว่ามีคนสั่งของเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?
เมื่อคืนเธอตอบข้อความไม่หยุด แชทหลายสิบช่องแชทสลับไปมาจนเธอเริ่มสับสนและเบลอ ตอบคำถาม รับเงิน และยืนยันข้อมูลการจัดส่งแบบอัตโนมัติ
คำถามของทุกคนมันเยอะเกินไป
ตลอดกระบวนการ เธอไม่มีเวลาเลยที่จะคำนวณว่ามีคนสั่งซื้อไปกี่คน เมื่อเธอตอบลูกค้าคนสุดท้ายเสร็จแล้วไม่มีข้อความใหม่เข้ามาอีก เธอก็ปิดมือถือและหลับไปทันที
ตอนนี้เมื่อเธอจัดระเบียบข้อมูลอย่างเป็นระเบียบแล้ว เธอก็ได้พบว่ามีคำสั่งซื้อทั้งหมดห้าสิบสองคำสั่ง
ในห้าสิบสองคำสั่งซื้อเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่เคยซื้อจากตลาดนัดกลางคืนและช่วยซื้อให้เพื่อนกับครอบครัว หรือบางคนก็สั่งซื้อใช้เองซ้ำอีก
แล้วก็มีลูกค้าเดิมที่แนะนำลูกค้าใหม่เข้ามาสั่งซื้ออีก นอกจากนี้ยังมีเพื่อนและครอบครัวของพวกเขาที่สั่งซื้อและแนะนำต่อ ทำให้เกิดห้าสิบสองคำสั่งซื้อเหล่านี้
ในคำสั่งซื้อทั้งหมด มีสิบชุดที่เป็นชุดเซตของขวัญสำหรับครอบครัว ยี่สิบเก้าชุดที่เป็นกล่องของขวัญแพคคู่ และสิบสามชุดที่เป็นถุงผ้าเล็ก
ดังนั้น เมื่อคำนวณแล้ว เธอขายสบู่กุหลาบไปทั้งหมดหนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดชุดในวันนี้เพียงวันเดียว ทำให้เธอมีรายได้ถึงหกพันห้าสิบหยวน
(⊙⊙)
เมื่อเห็นจำนวนเงินนี้ อันหยานก็ตกตะลึง
นี่เธอกำลังจะรวยใช่ไหม?
เมื่อคืนเธอขายสบู่กุหลาบหมดหนึ่งร้อยชุด ทำให้เธอมีรายได้ห้าพันหยวนในสองวัน ซึ่งถือว่าเป็นเงินก้อนแรกในชีวิตของเธอ
แต่ตอนนี้เธอกลับพบว่า เพียงแค่ใช้มือถือสองชั่วโมงเมื่อคืน เธอก็มีรายได้ถึงหกพันหยวนแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
แน่นอนว่าการขายออนไลน์นั้นช่างสดใสเหลือเกิน!
(จบบท)
…………………………………………………………………………………………………………
บทที่ 077
077 เรื่องจุกจิก
อันหยานเพียงแค่ทำการโปรโมตสินค้าเสริมความงามของตัวเอง แล้วทำการขยายตลาดในช่วงแรก หลังจากนั้นก็พึ่งพาลูกค้าเก่าและการแนะนำจากลูกค้าใหม่ ก็เพียงพอที่จะทำให้เธอนั่งอยู่บ้านและหาเงินได้แล้ว
เมื่อคิดถึงธุรกิจที่กำลังจะรุ่งเรืองในอนาคตที่จะถึง อันหยานก็รู้สึกตื่นเต้นและมั่นใจมากขึ้นในสิ่งที่เธอตั้งใจจะทำ
หลังจากสงบสติอารมณ์ได้สักพัก เธอก็เริ่มรู้สึกสงบลง
เธอเปิดดูรายชื่อเพื่อนใน WeChat สองวันก่อนเธอมีเพื่อนทั้งหมดหกสิบแปดคน แต่ตอนนี้มีมากกว่าหนึ่งร้อยสี่สิบคนแล้ว อัตราการเพิ่มนี้ถือว่าเร็วทีเดียว
“อนาคตช่างสดใส~”
อันหยานยิ้มกว้าง
หลังจากจัดระเบียบข้อมูลลูกค้าเรียบร้อย ข้าวต้มข้าวฟ่างบนเตาก็สุกพอดี อันหยานไม่รอช้า เธอเปิดถุงผักดองหยี่ฉวนและกินข้าวต้มข้าวฟ่างสองชามทันที
เมื่อวานตอนบ่ายเธอทำสบู่กุหลาบไปห้าสิบชิ้น แต่เธอตั้งใจจะเก็บไว้เป็นของฝาก เธอไม่ได้คิดเลยว่าจะขายหมดในคืนเดียว
ดังนั้นตอนนี้เธอไม่มีสินค้าเก็บสำรองเลย!
เมื่อคืนเธอรับคำสั่งซื้อทั้งหมด วันนี้บ่ายเธอต้องจัดส่งพัสดุให้ลูกค้า นอกจากนี้เธอยังต้องไปตลาดนัดกลางคืนอีก เพราะเธอได้บอกไว้ว่าจะเปิดบูธสามวันเป็นโปรโมชั่นเปิดร้าน
ทำงานก็ต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ อันหยานก็เข้าสู่ห้องปฏิบัติการของระบบอย่างมุ่งมั่นและเริ่มทำสบู่กุหลาบอย่างรวดเร็ว
จนถึงเวลาอาหารกลางวัน เมื่อท้องเริ่มร้อง อันหยานก็หยุดพัก
ตั้งแต่เก้าโมงเช้าจนถึงเที่ยงครึ่ง สามชั่วโมงครึ่งเธอทำสบู่กุหลาบไปสามชุด
แต่ละครั้งเธอทำหนึ่งร้อยชิ้นเป็นชุด และสามชุดก็รวมเป็นสามร้อยชิ้น
อันหยานคิดว่าสินค้าสำรองนี้น่าจะเพียงพอสำหรับใช้ในสองสามวัน
ไม่ว่าจะเพียงพอนานแค่ไหน วันนี้เธอก็ทำได้แค่นี้จริงๆ เพราะตอนบ่ายยังมีงานอื่นต้องทำอีก เธอไม่สามารถทำทุกอย่างคนเดียวได้ จึงต้องทำสินค้าสำรองในแต่ละวัน
อันหยานนำสบู่กุหลาบที่ทำเสร็จแล้วไปตากในสวน เมื่อต้องทำเป็นจำนวนมากเธอก็สังเกตว่าในบ้านขาดอุปกรณ์หลายอย่าง
เช่น ตะแกรงสำหรับตาก เธอมีตะแกรงกลมใหญ่แค่สามใบ ที่พ่อแม่เธอซื้อไว้มาตากสมุนไพรก่อนหน้านี้ ถ้าในอนาคตต้องทำสินค้าในปริมาณมากขึ้น สามตะแกรงนี้ไม่พอแน่นอน
อีกอย่างคือห้องสำหรับเก็บสินค้า
สบู่กุหลาบเมื่อบรรจุแล้วใช้พื้นที่มาก ตอนนี้เธอวางไว้ในห้องนั่งเล่น แต่เมื่อมีจำนวนมากขนาดนี้ พื้นที่ในห้องนั่งเล่นก็ดูแคบลงไปเลย
เธอคิดว่าแค่บ้านก็สามารถถเปิดโรงงานขนาดย่อมได้แล้ว แต่ถ้าในอนาคตมีคนเข้ามาในบ้าน ห้องนั่งเล่นคงเต็มไปด้วยสินค้า จนไม่สะดวกในการรับแขกอีกต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามีคนเข้ามาเยอะ สินค้าวางในห้องนั่งเล่นก็อาจถูกกระแทกกระเทือนหรือเสียหายได้
ดังนั้นเธอต้องมีห้องสำหรับเก็บสินค้าโดยเฉพาะ แม้ว่าจะมีห้องเก็บของในระบบ แต่ต้องคิดถึงวันข้างหน้า
เมื่อธุรกิจโรงงานขนาดย่อมเป็นไปด้วยดี อาจต้องส่งพัสดุให้ลูกค้าทุกวัน ถ้าเธอต้องขนสินค้าไปมาทุกครั้งที่ส่งพัสดุ มันจะยุ่งยากเกินไป
แม้ว่าการเก็บของในระบบจะประหยัดพื้นที่ แต่ในทางปฏิบัติมันเป็นไปได้ยาก ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องสูตรด้วย แม้จะถูกขโมยสูตรไป ก็ไม่มีใครทำสินค้าที่เหมือนกันได้ เธอจึงไม่กังวลในเรื่องนี้
(จบบท)
…………………………………………………………………………………………………………
บทที่ 078
078 ติดป้าย
สุดท้ายอันหยานก็คิดว่าเธอจำเป็นต้องเปิดห้องทำงานที่บ้านอีกห้องหนึ่ง ห้องปฏิบัติการของระบบนั้นมีผลของการช่วยเหลือในการทำงาน เธอจะต้องทำผลิตภัณฑ์เสริมความงามในห้องปฏิบัติการของระบบเท่านั้น แต่คนอื่นไม่รู้เรื่องนี้
เธอกลัวว่าในอนาคตคนรอบข้างจะอยากมาเยี่ยมหรือชมโรงงานของเธอ ถ้าไม่มีห้องทำงานที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย มันจะดูเหมือนโรงงานผิดกฎหมาย
อันหยานทำอาหารกลางวันไปพร้อมกับคิดในใจเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ เพราะมีเรื่องจุกจิกมากมาย เธอกลัวว่าจะลืมบางอย่าง
อาหารกลางวันยังคงเป็นบะหมี่หนึ่งชาม แต่เธอเพิ่มไข่ไปสองฟอง ทำให้ดูอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
“เสี่ยวอัน อยู่บ้านหรือเปล่า?”
เสียงของลุงเหลียงดังขึ้นจากนอกประตูสวน อันหยานรีบทานบะหมี่คำสุดท้ายแล้วรีบไปเปิดประตู
“คุณลุง ทานข้าวหรือยังคะ?”
เหลียงเจี้ยนเหวินยิ้มอย่างซื่อๆ และตอบว่า “ทานแล้วล่ะ ป้ายไม้ที่เธอสั่งทำเสร็จแล้วนะ ลุงเอามาให้ดู ดูให้หน่อยว่ามีอะไรต้องแก้ไขไหม?”
“ได้ค่ะ ขอบคุณคุณลุงมากนะคะ” อันหยานรีบเชิญเขาเข้ามาในสวน
เหลียงเจี้ยนเหวินยกป้ายไม้เข้าไปในสวนเล็ก ๆ อย่างระมัดระวังแล้ววางป้ายไม้นั้นไว้บนโต๊ะในห้องนั่งเล่น
มันเป็นป้ายไม้แบบตั้งตรง สีของไม้ดูเก่าเล็กน้อย ขอบและมุมไม่ได้เรียบจนทื่อ นี่คือสิ่งที่อันหยานต้องการ เพราะอยากให้ดูเป็นธรรมชาติและมีความดั้งเดิมมากกว่า
ที่มุมซ้ายบนของป้ายไม้แกะสลักดอกชบาหนึ่งดอก ตรงกลางป้ายเขียนด้วยตัวอักษรจีนสองตัวว่า “อันหยาน” อย่างสวยงาม มุมขวาล่างเขียนด้วยตัวอักษรจีนที่เล็กลงสองขนาดว่า “เม่ยเหยียนกงฟาง” ที่แปลว่า โรงงานเสริมความงาม
ดอกชบาและตัวอักษรทาด้วยสีทองอ่อนๆ ดูเหมือนเส้นด้ายทองคำที่วาดภาพอย่างประณีต สไตล์ทั้งหมดเรียบง่ายแต่มีความงดงาม
อันหยานตรวจดูอย่างละเอียดและรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ป้ายนี้ตรงกับสิ่งที่เธอจินตนาการไว้
ตอนนี้ป้ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอวางแผนที่จะติดป้ายทันที พอดีกับที่วันนี้เป็นวันสุดท้ายของกิจกรรมเปิดร้านที่เธอประกาศไปแล้ว การติดป้ายตอนนี้ก็เป็นการตอบสนองคำพูดที่เธอบอกไว้
แม้ซอยฝูหรงจะเป็นถนนเส้นเก่า แต่ก็ยังอยู่ในเขตเมืองหลัก ซึ่งห้ามจุดประทัด เธอจึงไม่ได้คิดจะทำให้ยิ่งใหญ่เกินไป เพราะเธอไม่ได้เปิดร้านค้าจริง ๆ
การติดป้ายเพียงเพื่อให้ธุรกิจออนไลน์มีที่อยู่จริงเท่านั้น
ดังนั้น อันหยานจึงขอให้ลุงเหลียงช่วยติดป้ายไม้ที่หน้าประตูสวนของเธอ
“เสี่ยวอัน ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เปิดร้านค้า แต่ก็ถือว่าเปิดธุรกิจแล้ว การเปิดร้านควรประดับประดาด้วยของที่แสดงความโชคดี ลุงขอแนะนำให้เธอติดผ้าสีแดงด้วย เพราะถือว่าเป็นธรรมเนียมที่ดี ซึ่งสืบทอดมาจากคนรุ่นเก่า”
เหลียงเจี้ยนเหวินมองอันหยานเหมือนหลานสาวแท้ ๆตนเอง ในฐานะผู้ใหญ่เขาย่อมหวังดีให้เธอประสบกับความเจริญรุ่งเรือง เห็นว่าอันหยานเปิดธุรกิจอย่างเรียบง่าย เขาจึงอยากช่วยปรับปรุงให้ดีขึ้น
“ที่บ้านลุงมีผ้าสีแดงพอดี เดี๋ยวลุงจะไปเอามาติดที่ป้ายให้”
พูดจบ เหลียงเจี้ยนเหวินก็ไม่รอให้อันหยานตอบกลับแล้วเดินกลับไปที่บ้านข้าง ๆ
อันหยานรู้สึกตลกมาก เธอยังไม่ได้บอกว่าไม่ต้องทำ แต่ดูเหมือนลุงเหลียงกลัวว่าเธอจะปฏิเสธ
เมื่อป้ายติดเรียบร้อยแล้ว ของขวัญเปิดร้านสำหรับเพื่อนบ้านก็ถึงเวลาที่จะต้องแจกจ่าย
อันหยานกลับไปที่ห้องนั่งเล่น หยิบสบู่กุหลาบที่บรรจุเมื่อวานใส่กล่องกระดาษ เตรียมพร้อมที่จะไปแจกให้เพื่อนบ้านแต่ละคน
“อ๊ะ ลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงกัน”
เมื่อเห็นถุงของขวัญ อันหยานก็นึกขึ้นได้ว่าแพ็คเกจที่มีอยู่ตอนนี้ไม่เพียงพอ เนื่องจากถุงผ้ามีราคาถูกกว่ากล่องของขวัญ ยิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งถูกลง และไม่กินเนื้อที่มากนัก
(จบบท)