064-066
บทที่ 064
064 ขายหมดเกลี้ยง
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
เหลียงหมิ่นมองชั้นวางของที่โล่งจนแทบไม่เหลืออะไรอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา "หมดแล้วเหรอ?"
อันหยานยิ้มบาง ๆ "ใช่ ขายหมดแล้วล่ะ"
พูดตามตรง เธอเองก็ไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์แบบนี้ เธอคิดไว้แค่ว่าคืนนี้น่าจะมีลูกค้าเก่ากลับมาซื้อเพิ่ม แต่ไม่ได้คิดว่าลูกค้าเก่าเหล่านั้นจะพาเพื่อนมาด้วยมากมายแบบนี้
อัตราการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้าสูงถึง 95% เลยทีเดียว
ส่วนที่เหลือเป็นการซื้อจากนักท่องเที่ยวและคนที่ผ่านไปมา
เหลียงหมิ่นถึงกับตื่นเต้นจนออกนอกหน้า "เรานี่สุดยอดจริง ๆ ขายหมดเร็วขนาดนี้!"
"ไปกันเถอะ เก็บแผงเสร็จแล้วไปกินปิ้งย่างกัน ฉันเลี้ยงเอง!"
อันหยานที่กำลังอารมณ์ดีสุด ๆ เพราะรายได้จากการขายสบู่กุหลาบทั้งหมด 100 ชิ้นในคืนนี้ รวมเป็นเงินถึง 5,000 หยวน
ห้าพันหยวนเชียวนะ!
เงินก้อนนี้อาจจะเป็นแค่ค่าชุดหรือต้นทุนเล็ก ๆ สำหรับใครบางคน แต่สำหรับเธอแล้ว มันเป็นเงินก้อนใหญ่
ในช่วงหลายปีที่เรียนมหาวิทยาลัย เธอทำงานพาร์ทไทม์มาโดยตลอด บางครั้งต้องทำหลายงานพร้อมกัน แต่ถึงอย่างนั้น บัญชีของเธอก็ไม่เคยมีเงินเกิน 3,000 หยวนเลย
นี่จึงเป็นเงินก้อนที่มากที่สุดในบัญชีของเธอในรอบหลายปี
"จริงเหรอ? งั้นคืนนี้ฉันจะจัดหนักเลยนะ พูดก็พูดเถอะ ฉันไม่ได้กินปิ้งย่างมานานแล้ว"
ดวงตาเหลียงหมิ่นเป็นประกาย รีบช่วยเก็บแผงอย่างกระตือรือร้น พอพูดถึงปิ้งย่างแล้วก็เริ่มรู้สึกอยากขึ้นมา
เหลียงหมิ่นที่จบจากโรงเรียนเฉพาะทางมีรายได้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 3,000 หยวน เธอไม่สามารถเปรียบเทียบกับบัณฑิตที่จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างอันหยานได้
ถึงแม้เธอจะได้รับการบรรจุเร็วกว่าอันหยานและมีสถานะทางการเงินที่ดีกว่าเล็กน้อย แต่เธอก็ยังเก็บเงินได้ไม่มากนัก
เงินเดือนของเธอส่วนใหญ่ถูกวางแผนใช้อย่างรอบคอบ เธอส่งเงินให้ครอบครัวเดือนละ 500 หยวน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ ไหนจะค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและในงานสังคมอื่น ๆ เงินเดือนของเธอจึงหมดลงอย่างรวดเร็ว
"คืนนี้ให้เธอได้กินจนพอใจเลย!" อันหยานพูดอย่างใจกว้าง
เหลียงหมิ่นหัวเราะตาหยี "ขอบคุณมากค่ะ คุณนายเศรษฐีอัน"
ตอนสองทุ่มครึ่ง ทั้งสองคนเก็บแผงเสร็จเรียบร้อย
เหลียงหมิ่นยังคงนึกถึงภาพบรรยากาศอันคึกคักเมื่อครู่ด้วยความเสียดาย "เฮ้อ ถ้ารู้ว่าคืนนี้จะขายดีขนาดนี้ เราน่าจะเตรียมสบู่กุหลาบมาให้เยอะกว่านี้นะ เสียดายจริง ๆ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ตลาดกลางคืนคนเยอะที่สุดแท้ ๆ แต่เราดันเก็บแผงไปซะก่อน"
รู้สึกเหมือนพลาดรายได้ไปเยอะ จนเธอรู้สึกว่าแม้แต่ปิ้งย่างที่ตั้งใจจะกินก็ยังไม่อร่อยเท่าเดิม
แต่อันหยานกลับมีท่าทีใจเย็น เห็นเหลียงหมิ่นทำหน้าเสียดายก็พูดปลอบ "ช่างเถอะน่า ลูกค้าไม่ได้หายไปไหนหรอก เราบอกพวกเขาไปแล้วว่าพรุ่งนี้จะมาขายอีก คืนนี้ใครที่ไม่ได้ซื้อ เดี๋ยวพรุ่งนี้เขาก็กลับมาเองแหละ
ฉันมั่นใจในสบู่กุหลาบของเรา ถ้าใครได้ลองใช้ ยังไงก็ต้องกลับมาซื้อซ้ำ แล้วพวกเขาก็จะช่วยแนะนำลูกค้าใหม่ ๆ ให้เราอีก ถ้าสินค้าดี ก็ไม่ต้องกลัวไม่มีลูกค้า"
"อืม เธอพูดถูก คืนนี้ที่ยังไม่ได้ขายก็ต้องขายได้ในวันพรุ่งนี้แน่ ๆ" เหลียงหมิ่นไม่ได้โลภอะไรนัก เธอแค่อยากให้เพื่อนรักของเธอได้กำไรเยอะ ๆ
อันหยานเข็นรถสามล้อไปพร้อมรอยยิ้ม "แค่สองวันได้เงินตั้งห้าพันหยวน สำหรับฉันนี่ถือว่าเยอะมากแล้วนะ เมื่อก่อนแค่คิดยังไม่กล้าคิดเลย"
(จบตอน)
…………………………………………………………………………………………………………
บทที่ 065
065 ความในใจ
อันหยานเป็นคนที่ไม่ได้มีความทะเยอทะยานอะไรเป็นพิเศษ เหตุผลที่เธอทำงานหนักอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยมาตลอดหลายปีนี้ ก็เพียงเพราะสถานการณ์บังคับเท่านั้น
ถ้าหากเลือกได้ เธออยากเป็นแค่เด็กผู้หญิงที่ถูกพ่อแม่ประคับประคองไว้ในอุ้งมือไปตลอดชีวิต แต่ความจริงไม่อนุญาต เธอต้องดิ้นรนเพื่ออยู่รอด หากไม่ทำเช่นนั้น เธอจะพึ่งพาใครได้ล่ะ?
ตอนนี้ที่เธอเริ่มมุ่งมั่นและทะเยอทะยานมากขึ้น ก็เป็นเพราะถูกบังคับโดยสถานการณ์ เธอไม่อยากจากไปตั้งแต่อายุยังน้อย
เธออยากประสบความสำเร็จ อยากมีชีวิตที่มีศักดิ์ศรีและงดงาม เธอไม่อยากเป็นตัวเปรียบเทียบกับใคร เธอแค่อยากมีชีวิตในแบบของตัวเองให้เปล่งประกาย
ชีวิตทั้งสองแบบล้วนเป็นความจริง แต่ถ้าสามารถเลือกได้ ใครจะอยากใช้ชีวิตอย่างอึดอัดและต้องทนทุกข์จนตาย?
ถึงแม้เธอจะเป็นคนที่ชอบใช้ชีวิตเรียบง่าย แต่เธอก็ไม่อยากเป็นแบบนั้น!
เหลียงหมิ่นฟังคำพูดของเพื่อนรักแล้วพยักหน้าอย่างจริงจัง "เธอพูดถูก คนเราต้องรู้จักพอใจในสิ่งที่มี แม่ฉันก็พูดเสมอว่าถ้าคนเราละโมบโลภมากเกินไป มันจะบั่นทอนโชคของตัวเอง เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว
ในเมื่อสบู่กุหลาบขายดีขนาดนี้ พรุ่งนี้เธอทำเพิ่มอีกหน่อยสิ เผื่อยอดขายพรุ่งนี้จะทำลายสถิติอีกครั้ง"
"ได้ พรุ่งนี้ฉันจะทำเพิ่มอีกชุด"
อันหยานเห็นด้วยทันที เธอไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าสบู่กุหลาบ 100 ชิ้นจะขายหมดภายในสองวัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอยังเคยกังวลว่าจะทำภารกิจเสร็จไม่ทันด้วยซ้ำ
ความกังวลทั้งหมดกลับกลายเป็นเรื่องที่เธอคิดมากไปเอง เธอควรจะมีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของตัวเองให้มากกว่านี้
"ไปกันเถอะ ไปกินปิ้งย่างกัน!" เหลียงหมิ่นตะโกนอย่างมีความสุข
ย่านตอนใต้ของเฉิงตู
ในวิลล่าหรูหราที่ตกแต่งอย่างงดงาม กลุ่มชายหญิงวัยหนุ่มสาวกำลังจัดปาร์ตี้กันอย่างคึกคัก
"ม่านม่าน เธอซื้อของที่อันหยานทำจริงเหรอ?" จางเจียซินเดินเข้ามาถามสวี่ม่านด้วยความอยากรู้
สวี่ม่านถือแก้วไวน์แดงในมือ ตอบกลับด้วยท่าทีไม่แยแส "ซื้อสิ แค่ไม่กี่สิบหยวนเอง ไม่ใช่ของล้ำค่าราคาเป็นล้านสักหน่อย ฉันจะต้องลังเลอะไร?"
จางเจียซินฝืนยิ้มออกมา "ก็จริงนะ ยัยอันหยานนั่นจนขนาดนั้น เธอจะทำของดีได้ยังไง ฉันก็แค่อยากรู้น่ะ~"
"ฮึ! เธอเองก็รู้ว่ายัยนั่นจะทำของดีอะไรได้ แล้วจะสงสัยไปทำไม"
สวี่ม่านพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก ก่อนจะจิบไวน์แดงแล้วคลี่ยิ้มเย้ยหยัน
"แต่เธอกล้าดีนะ คนจนไม่มีอะไรแบบเธอก็ยังกล้าคิดจะทำผลิตภัณฑ์บำรุงผิว? คิดว่ามันเป็นเรื่องง่าย ๆ หรือไง?
ไม่ดูเลยว่าบริษัทเครื่องสำอางจริง ๆ เขาลงทุนไปเท่าไหร่ทั้งแรงคนและเงินทุน มีแค่เธอคนเดียว ยังจะกล้าหวังพัฒนาสินค้าได้สำเร็จ?"
จางเจียซินรีบสนับสนุนความคิดนั้น "ใช่! บางคนก็แค่ฝันเฟื่องไปวัน ๆ ฉันว่าของที่เธอทำมันไม่มีทางใช้ได้จริงหรอก ถ้ามันใช้ได้จริง ผู้บริหารบริษัทเครื่องสำอางจะยังต้องเปิดบริษัทอยู่ทำไมกัน?"
"นั่นแหละ เราคอยดูต่อไปก็พอ บางทีไม่ต้องทำอะไรเลย คนที่ซื้อของเธอก็คงไปฟ้องร้องเธอก่อนแล้ว" สวี่ม่านหัวเราะเยาะ
จางเจียซินหัวเราะตาม รู้สึกสะใจเป็นพิเศษ ก่อนจะถามต่อ "แล้วของที่เธอซื้อมาล่ะ?"
"ฉันให้เด็กพนักงานต้อนรับที่บริษัทไปแล้ว บอกให้เธอเอาไปลองใช้ดูคืนนี้"
สวี่ม่านตอบอย่างไม่ใส่ใจ ของที่อันหยานทำ เธอไม่มีวันใช้กับตัวเองเด็ดขาด
จางเจียซินครุ่นคิด "ถ้าเกิดมันใช้ได้ผลจริงล่ะ?"
สวี่ม่านถึงกับเบิกตากว้าง "ไม่มีทาง!"
"ฉันแค่สมมติเท่านั้นเอง ฉันก็ไม่เชื่อว่าเธอจะทำอะไรดีๆได้หรอก ถ้าเธอมีความสามารถขนาดนั้น ชีวิตของเธอคงดีขึ้นนานแล้ว ไม่ต้องรอถึงตอนนี้ ฉันแค่คิดว่าถ้าเกิดของที่เธอทำมันใช้ได้ผลกลาง ๆ ไม่ดีไม่แย่ เธอก็อาจจะทำธุรกิจต่อไปได้ในอนาคตน่ะ"
(จบตอน)
…………………………………………………………………………………………………………
บทที่ 066
066 ส่งของ 1
จางเจียซินเหลือบมองไปที่สวี่ม่านอย่างลับๆ คำพูดที่ออกมาจากปากเธอแฝงไปด้วยการยั่วยุ เมื่อเห็นสีหน้าของสวี่ม่านที่ดูแย่ขึ้นทันที ใจของจางเจียซินก็รู้สึกพอใจขึ้นมา
‘สู้กันเลย! ให้พวกเธอสู้กันจนถึงตายไปข้างนึงเลยก็ยิ่งดี! ทั้งสองคนจะได้บาดเจ็บทั้งคู่!’
อันหยานเป็นนังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่น่ารังเกียจ แต่ยัยคุณหนูที่เอาแต่ใจคนนี้ก็น่ารำคาญไม่แพ้กัน ใช่แค่อาศัยว่าบ้านมีเงินหน่อยเท่านั้น กลับมองคนอื่นเหมือนเหนือกว่าตลอดเวลา น่าหมั่นไส้ชะมัด
สวี่ม่านก็แค่โชคดีเท่านั้นที่เกิดในครอบครัวร่ำรวย ถ้าไม่ได้เกิดในตระกูลสวี่ จะเหลืออะไรให้เธออวดเบ่งอีก?
ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นว่าตระกูลสวี่มีฐานะดีและมีเส้นสายมากมาย เธอจะไม่ทำตัวเหมือนสาวใช้แบบนี้เพื่อเอาใจหรอก
เมื่อฟังจางเจียซินพูดจบ สวี่ม่านก็หัวเราะเย็นๆ และพูดด้วยความมั่นใจว่า "ไม่ว่าเธอจะทำได้ดีแค่ไหน ฉันก็จะทำให้เธอไม่ได้ในสิ่งที่เป็น!"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มุมปากของจางเจียซินก็โค้งขึ้นเล็กน้อย ใจของเธอยิ่งรู้สึกอิ่มเอมมากขึ้น มองไปที่สวี่ม่านด้วยสายตาที่แฝงความดูถูก
‘โง่จริง’
เป็นคุณหนูของตระกูลร่ำรวยแล้วไง? ก็ยังถูกฉันหลอกใช้ได้ง่ายๆ ไม่เสียแรงที่เกิดมาอย่างดี แต่สมองก็ไม่ต่างจากหมู
แต่ก็ดีเหมือนกันที่โง่แบบนี้ จะได้ใช้ให้ไปต่อสู้กับศัตรูแทนเรา หลายๆ เรื่องที่ฉันทำไม่ได้ แต่สำหรับสวี่ม่านแล้ว มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย
ดังนั้น ฉันต้องใช้ประโยชน์จากสวี่ม่านให้เต็มที่
——
ในเวลาเดียวกัน พัสดุห้าอันที่อันหยานส่งออกไปในเมืองเดียวกัน ก็ได้ถูกส่งไปถึงมือผู้รับแล้ว
ฟางเชี่ยนกำลังทานอาหารเย็นในโรงอาหารของโรงพยาบาล ก็ได้รับพัสดุที่อันหยานส่งมา เธอหยิบมันกลับไปที่ห้องพักของพวกเธอ
วันนี้เป็นเวรของเธอพอดี เลยต้องใช้ที่อยู่ของโรงพยาบาล แม้ว่าจะไม่ใช่เวร แต่เธอก็แทบไม่ได้อยู่ที่อพาร์ตเมนต์เลย ตั้งแต่มาฝึกงานที่โรงพยาบาล เธอก็แทบจะใช้ชีวิตที่นี่อยู่แล้ว
ฟางเชี่ยนกับอันหยานเป็นนักศึกษาสาขาเดียวกัน ผลการเรียนก็พอๆ กัน ที่ฟางเชี่ยนได้มาฝึกงานที่ห้องยาในโรงพยาบาลระดับสามนี้ ก็เพราะว่าครอบครัวฟางมีเส้นสาย ใช้เส้นนิดหน่อยถึงได้เข้ามา
ครอบครัวฟางทำธุรกิจเครื่องมือแพทย์ ในเมืองหรงเฉิงก็ถือว่ามีชื่อเสียงเล็กน้อย สำหรับอันหยานแล้ว ครอบครัวฟางก็ถือว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะดี
ตอนนี้ ในห้องพักพนักงานยังมีเภสัชกรอีกสามคนที่กำลังเล่นมือถืออยู่ เวลานี้เป็นเวลาพักผ่อนของทุกคน
ในช่วงเวลาทำงานในห้องยา ทุกคนจะไม่สามารถเล่นมือถือได้อย่างอิสระ ต้องเป็นในห้องพักเท่านั้นที่ทุกคนจะสามารถทำอะไรได้ตามใจมากขึ้น
ฟางเชี่ยนนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง ใช้มีดเล็กๆ แกะพัสดุออก เห็นกล่องบรรจุภัณฑ์สวยงาม เธอก็มีสีหน้าแสดงความชื่นชม
เสี่ยวอันของเธอมีรสนิยมดีจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงว่าของข้างในจะเป็นยังไง แค่กล่องบรรจุภัณฑ์ที่เลือกมาก็ถูกใจแล้ว
"โอ๊ะ? เชี่ยนเชี่ยน นี่เธอซื้ออะไรดีๆ มาหรอ?"
หลี่ผิงที่นั่งข้างๆ กำลังจะไปห้องน้ำ แต่เผอิญเห็นกล่องบรรจุภัณฑ์สวยงามในมือของฟางเชี่ยน ก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย
ผู้หญิงสองคนที่นั่งอีกฝั่ง เมื่อได้ยินหลี่ผิงพูด ก็เงยหน้ามองฟางเชี่ยนเช่นกัน
ว่ากันว่าเมื่อผู้หญิงสามคนรวมตัวกันก็ไม่ต่างจากละครเวที ที่ห้องยานี้มีแต่ผู้หญิง งานของพวกเธอก็น่าเบื่อ ไม่ได้มีสีสันมากมายเหมือนอาชีพอื่นๆ ดังนั้นมีอะไรนิดๆหน่อยๆ ทุกคนก็ชอบที่จะมาร่วมสนุกกัน
"ซื้อมาทำอะไรเหรอ?"
"หรือว่าในเถาเป่ามีส่วนลดอะไรหรือเปล่า?"
เห็นทุกคนสงสัย ฟางเชี่ยนก็ยิ้มตอบ "ไม่ได้ซื้อมาจากออนไลน์หรอก เป็นของเพื่อนสนิทที่มหาลัย เธอกำลังเริ่มธุรกิจเอง เปิดร้านแฮนด์เมด ขายพวกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวน่ะ"
(จบตอน)