บทที่ 932 จี้

บทที่ 932 จี้

“ขอโทษนะ  ท่านพี่สาว! แต่ตอนนี้เราควรทำภารกิจให้เสร็จสิ้นก่อนค่อยพูดเรื่องนี้…”

เรย์ลินโบกมือเบา ๆ ก่อนที่ ประตูมิติ อีกบานจะปรากฏขึ้นตรงหน้า

——ขอบเขตแห่งพลังมังกร!

——เวทลูกไฟ!

อีซาเบลก้าวผ่านประตูมิติ และทันทีที่ปรากฏตัว เธอได้ยินเสียงความวุ่นวายและเสียงร้องโกรธเกรี้ยวรอบตัวโดยไม่เสียเวลา เธอเรียกใช้พลังสายเลือดและเวทมนตร์ที่ถูกเสริมไว้ในดาบมังกรแดงของเธอทันที

ตูม!

พลังจิตจากขอบเขตแห่งมังกรระดับตำนานพร้อมกับเปลวไฟอันร้อนแรงปะทุออกมาทันที ส่งผลให้โจรสลัดที่อยู่รอบ ๆ ร้องโหยหวนก่อนจะกระเด็นไปทั่วร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยไหม้เกรียม

ส่วนโจรสลัดที่อยู่ไกลออกไปต่างก็ร้องกรีดกราดด้วยความหวาดกลัว บางคนถึงกับทรุดตัวลงกับพื้น—พลังจิตของมังกรเป็นสิ่งที่ไร้ทางต้านทานสำหรับผู้ที่มีพลังต่ำกว่า พวกเขาทำได้เพียงยอมจำนนต่อการฆ่าฟันของศัตรู

อันที่จริงแล้ว พลังจิตของมังกรโตเต็มวัย ก็ถือว่าเป็นพลังธรรมดา แต่หากเป็นมังกรยุคโบราณหรือมังกรระดับตำนาน พลังจิตเพียงอย่างเดียวก็สามารถจัดการกับผู้มีพลังระดับสูงส่วนใหญ่ได้ แม้แต่ผู้มีระดับตำนานยังต้องได้รับผลกระทบมหาศาล

“ประตูมิติ? พ่อมดขั้นสูง? และผู้ครอบครองสายเลือดมังกร!”

พระสังฆราชแห่งเทพแห่งการฆาตกรรมร้องออกมาด้วยความตกใจ ขณะที่แสงสว่างหลากหลายสีสันเริ่มเปล่งประกายออกมาจากร่างของเขา

ทันทีที่เขาเห็นเรย์ลินก้าวผ่านประตูมิติตามมา นัยน์ตาของเขาก็หดแคบลงด้วยความตื่นตระหนก “เป็นเจ้า! เจ้าทะลุระดับพ่อมดขั้นสูงแล้วหรือ?”

“เจ้าพูดมากเกินไป…”

เรย์ลินปรายตามองพระสังฆราชด้วยความเย็นชา ก่อนจะยิง เวทอาร์เคน ที่เตรียมไว้ในมือออกไปทันที

——เวทสลายขั้นสูง!

เสียงระเบิดดังสนั่นไล่เรียงเป็นระลอก ขณะที่แสงเวทมนตร์รอบตัวพระสังฆราชแตกกระจายออก สิ่งของเวทมนตร์ต่าง ๆ บนตัวเขาก็เริ่มสลายไปทีละชิ้น ตั้งแต่แหวนบนมือ สร้อยคอ จนถึงเสื้อผ้าหรูหราบนตัวของเขา

ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

ในที่สุดวัตถุเวทมนตร์ทั้งหมดบนร่างพระสังฆราชก็ระเบิดออก ทำให้เขาต้องเปลือยกายโดยสิ้นเชิง

“เวทสลายระดับ 9? พ่อมดระดับ 19 ขึ้นไป?” หรือไม่ พระสังฆราชที่อยู่ในสภาพเลอะเทอะเต็มไปด้วยความตกใจไม่สนใจแม้แต่ภาพลักษณ์ของตนเอง

การที่เรย์ลินสามารถเลื่อนขั้นเป็น พ่อมดขั้นสูง ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีนั้นเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อสำหรับเขาอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น การเลื่อนขั้นจนเกือบแตะระดับตำนานในเวลาอันสั้นยิ่งทำให้เขาสับสน

แต่มันคือพลังของเวทสลายที่ทำให้เขาช็อกจนพูดไม่ออก เพราะเขาไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าเรย์ลินทำได้อย่างไร

“นี่แหละคือพลังของอาร์เคน…”

เรย์ลินถอนหายใจในใจขณะมองพระสังฆราชที่เหลือเพียงร่างเปลือยล่อนจ้อน แม้พระสังฆราชจะเป็น นักบวชขั้นสูง ที่มีระดับพลังอย่างน้อย 17 และเต็มไปด้วยอาวุธเวทมนตร์ขั้นสูงมากมาย แต่ด้วยพลังของอาชีพ อาร์เคนเมจ เรย์ลินสามารถข้ามข้อจำกัดของช่องเก็บเวทและเครือข่ายเวทมนตร์ได้

ตราบใดที่มีพลังอาร์เคนเพียงพอและแบบแผนเวทมนตร์ที่เหมาะสม เวทมนตร์ใด ๆ ที่ต่ำกว่าระดับตำนานก็สามารถร่ายได้สำเร็จ แม้จะต้องแลกด้วยต้นทุนที่สูงก็ตามที

ตัวอย่างเช่น เวทระดับ 9 อย่าง "เวทสลายขั้นสูง" นั้น เป็นเวทที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับผู้ใช้พลังเวทโดยเฉพาะ ด้วยความสามารถในการเจาะจงเป้าหมายอย่างรุนแรงจนสิ่งของเวทมนตร์ใด ๆ ที่ต่ำกว่าระดับตำนานจะพังทลายลงทันทีภายใต้อิทธิพลของเวทนี้

สามารถกล่าวได้ว่า เวทอาร์เคน เช่นนี้เป็นเหมือนศัตรูที่แท้จริงของเหล่าพ่อมด พลังสำคัญส่วนใหญ่ของพ่อมดขึ้นอยู่กับวัตถุเวทมนตร์ของพวกเขา และเมื่อสิ่งเหล่านั้นถูกปลดออก มันคือการโจมตีที่ถึงขั้นทำลายล้าง

ไม่ต้องพูดถึงว่าทรัพยากรและวัสดุที่พ่อมดได้สะสมอย่างยากลำบาก รวมถึงวัตถุเวทมนตร์ที่สร้างขึ้นมาด้วยความอุตสาหะ เมื่อถูกทำลายจนสูญสิ้น นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้พ่อมดบางคนถึงกับกระอักเลือด

ดั่งเช่นกรณีของพระสังฆราชในตอนนี้

เดิมที ด้วยทรัพยากรมากมายที่เขามีในครอบครอง ทั้งเวทมนตร์และอุปกรณ์ช่วยหลบหนีจำนวนมาก แม้แต่การโจมตีแบบจู่โจมของเรย์ลินครั้งนี้ก็ไม่น่าจะสามารถสังหารเขาได้โดยตรง

แต่ตอนนี้ การเตรียมการทั้งหมดของเขาถูกทำลายจนหมดสิ้นด้วยเวทของเรย์ลิน และทุกอย่างที่เคยมีประโยชน์ก็สูญเสียความสามารถไปโดยสิ้นเชิง

ในขณะเดียวกัน พระสังฆราชขั้นสูงส่วนใหญ่มักจะเน้นเวทมนตร์ประเภทเพิ่มพลังและรักษา มีเพียงไม่กี่เวทเท่านั้นที่สามารถใช้โจมตีได้อย่างรุนแรง

เรียกได้ว่า เพียงแค่ เวทสลายขั้นสูง ที่เรย์ลินใช้ก่อนหน้านี้ ก็ได้ทำลายพลังส่วนใหญ่ของพระสังฆราชลงจนแทบไม่เหลืออะไร

“บ้าจริง... เจ้าทำได้อย่างไรถึงเลื่อนขั้นเร็วขนาดนี้?”

พระสังฆราชกล่าวด้วยใบหน้าซีดเซียว นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดที่ขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะประเมินพลังของเรย์ลินสูงแค่ไหน เขาก็ไม่เคยคิดว่าเรย์ลินในตอนนี้จะเข้าใกล้ระดับตำนานแล้ว

และเพราะความผิดพลาดครั้งใหญ่เช่นนี้ ทำให้เขาต้องพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง

“นี่เป็นเพียงผลกระทบของเวทสลายขั้นสูงเท่านั้น หากเป็นเวทระดับตำนานอย่าง เวทสลายขั้นสูงสุด มันจะเป็นฝันร้ายของพ่อมดระดับตำนานทุกคน ไม่เพียงแต่วัตถุเวทมนตร์ระดับตำนาน แม้แต่ของวิเศษก็อาจถูกทำลายได้…”

นัยน์ตาของเรย์ลินเต็มไปด้วยความหลงใหลและความปรารถนา ก่อนจะหันไปมองพระสังฆราชด้วยสายตาจับจ้อง

“เจ้า... เจ้าจะทำอะไร?”

จนถึงตอนนี้ ความกลัวต่อเรย์ลินไม่ได้มีอยู่ในจิตใจของพระสังฆราช มีเพียงความเสียใจที่เขาไม่ได้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะเผชิญหน้ากับศัตรู

“ข้าจะทำอะไรน่ะหรือ? นี่ควรจะเป็นคำถามที่ข้าต้องถามเจ้าเสียมากกว่า ท่านพระสังฆราช!”

เรย์ลินกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา ขณะที่อีซาเบลปล่อย ลมหายใจมังกร ออกมาอีกครั้ง เผาผลาญนักฆ่าระดับสูงหลายคนจนเหลือเพียงเถ้าถ่าน

พระสังฆราชที่เห็นภาพดังกล่าวในที่สุดก็ไม่อาจซ่อนความเจ็บใจได้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสั่นไหว

นักฆ่าระดับสูงเหล่านี้คือกำลังสำคัญที่เขาได้ฝึกฝนมาด้วยความอุตสาหะ แม้ว่าจะยังด้อยกว่าผู้ที่เคยลอบโจมตีเรย์ลินก่อนหน้านี้ แต่ทุกคนล้วนเป็นนักฆ่าฝีมือดี

แต่ตอนนี้ พวกเขาได้ล้มตายเกลื่อนกลาดไปหมด ทำให้ความพยายามตลอดหลายปีของเขาถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง

ด้วยเกราะป้องกันของ มังกรสายเลือด ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว รวมถึงดาบยาวมังกรแดงระดับตำนานของอีซาเบล นักฆ่าเหล่านี้ที่ใช้กริชเสริมเวทขั้นสูงก็ไม่อาจเทียบเคียงได้ และมีเพียงจุดจบคือถูกสังหารในพริบตา

ในขณะเดียวกัน กลุ่มโจรสลัด เสือสีชาด ของเรย์ลินและโจรสลัดฝ่ายพระสังฆราชก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงความต่างชั้น

โจรสลัดชั้นต่ำที่ถูกเกณฑ์มาอย่างเร่งด่วนไม่สามารถต่อกรกับกลุ่มนักรบที่เชี่ยวชาญของเรย์ลินได้ เสียงการต่อสู้ดังสนั่นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แม้แต่เรือรบหลักก็ถูกล้อมไว้โดยเรือโจรสลัด

ในสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะสิ้นหวังเช่นนี้ เรย์ลินยังคงแสดงท่าทีสงบนิ่งและมั่นใจในตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม

“ท่านพระสังฆราช! ข้าไม่เคยมีความขัดแย้งใด ๆ กับวิหารของพวกท่านมาก่อน แต่การที่พวกท่านแสดงเจตนาร้ายต่อพวกข้าในครั้งนี้ ข้าคิดว่าท่านน่าจะมีคำอธิบายให้ข้าได้หรือไม่?”

เรย์ลินมองตรงไปยังอีกฝ่าย ขณะที่แสงจากชิปในดวงตาของเขาเรืองรองอย่างต่อเนื่อง

พระสังฆราชคนนี้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากนักบวชคนอื่น ๆ อย่างมาก

แม้ว่าเรย์ลินจะเคยพบ นักบวชขั้นสูง มาหลายคนแล้ว เช่น ซวนา นักบวชแห่งเหรียญทองคำของ เทพีแห่งความมั่งคั่ง ซึ่งประจำอยู่บนเกาะฟาโอราน แต่พระสังฆราชแห่ง เทพแห่งการฆาตกรรม คนนี้กลับให้ความรู้สึกแปลกประหลาดและแตกต่างอย่างชัดเจน

[ติ๊ง! ตรวจพบพลังงานผิดปกติภายในเป้าหมาย!]

ชิปได้แสดงผลการสแกนร่างกายขึ้นต่อหน้าเรย์ลิน บนภาพจำลองโปร่งใสนั้นเต็มไปด้วยจุดสีแดงเข้มจำนวนมากที่ดูแปลกประหลาดและน่ากลัว

“เป็นไปตามคาด... พลังงานแปลกปลอมนี้กำลังทำให้เกิดมลภาวะสินะ?”

เรย์ลินครุ่นคิดอยู่ในใจ “และที่สำคัญ มลภาวะนี้ยังเป็นพลังงานที่มาจากพลังเทพเจ้าอีกด้วย!”

จากมุมมองของเรย์ลิน แสงศักดิ์สิทธิ์ที่ควรเป็นเอกลักษณ์ของ พระสังฆราชขั้นสูง ตอนนี้กลับถูกทำลายจนบิดเบี้ยวอย่างสิ้นเชิง

ไม่ว่าจะเป็นพลังระดับต่ำหรือพลังเทพระดับสูง สิ่งสำคัญที่สุดคือความบริสุทธิ์ของพลัง แต่สิ่งที่เรย์ลินเห็นตอนนี้คือโครงสร้างพลังที่ถูกบิดเบือนและปนเปื้อน

“หรือว่าเทพแห่งการฆาตกรรมจะถึงขั้นเสียสติไปแล้ว? แม้แต่นักบวชของตัวเองก็ยังไม่ใส่ใจ... และพลังบิดเบี้ยวนี้…”

ความเย็นยะเยือกแผ่กระจายในใจของเรย์ลิน

ตามตำนานกล่าวว่า ซีริค เทพแห่งการฆาตกรรม ซึ่งเป็นผู้ทรงพลังระดับสูงสุด ได้เริ่มแสดงอาการคลุ้มคลั่งอย่างชัดเจน จนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงตนเองให้ใกล้เคียงกับ ปีศาจแห่งความโกลาหล และอาณาจักรเทพของเขาก็กำลังมีแนวโน้มจะล่มสลายลงสู่ หุบเหว

และสิ่งที่สามารถก่อให้เกิดผลกระทบเช่นนี้ได้ คงมีเพียง เงาแห่งการบิดเบือน เท่านั้น!

“ไม่เสียทีที่เป็นพ่อมดระดับแปดในยุคโบราณ แม้จะล่มสลายไปแล้ว ก็ยังสร้างปัญหาใหญ่ให้กับศัตรูได้ขนาดนี้...”

เรย์ลินอดถอนหายใจในใจไม่ได้

“หืม?” พระสังฆราชขยับเปลือกตาเล็กน้อย ในสถานการณ์นี้ ท่าทีของเรย์ลินดูเหมือนจะอ่อนข้อ

“เรื่องนี้... ข้าสามารถอธิบายได้...” พระสังฆราชพยายามหาเหตุผลด้วยน้ำเสียงมั่นใจ เนื่องจากเบื้องหลังของเขาคือ เทพเจ้าผู้ทรงพลังระดับสูง การที่เรย์ลินจะหวาดกลัวจึงเป็นเรื่องที่เขามองว่าสมเหตุสมผล

“แผนการใช้กำลังล้มเหลวแล้ว แต่หากสามารถดึงตัวอีกฝ่ายเข้าสู่ฝ่ายของข้า และทำให้เขาศรัทธาต่อเทพเจ้าของเราได้ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว...”

แสงสีแดงเข้มค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในดวงตาของพระสังฆราช ก่อนที่เขาจะผ่อนคลายมือลง ซึ่งในนั้นกำลังถือจี้ชิ้นเล็กอยู่แน่น

“นี่แหละจังหวะ!”

แสงในดวงตาของเรย์ลินเปล่งประกาย ขณะที่คลื่นพลังงานในมิติที่มองไม่เห็นพุ่งเข้าใส่ พร้อมกับแสงเจิดจ้าที่พุ่งวาบออกมา

“อะไร!?”

พระสังฆราชรู้สึกตกใจ ก่อนจะสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่รุนแรงจากข้อมือ

เพล้ง!

มือขวาของเขาหลุดตกลงบนพื้นเรือ เลือดสีแดงสดไหลอาบ และจี้รูปปั้นเทพเจ้าขนาดเล็กกลิ้งตกลงมาด้วย

“เขาไม่มีเจตนายอมจำนนเลยสักนิด!”

พระสังฆราชจ้องมองเรย์ลินด้วยสายตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ก่อนจะยื่นมือซ้ายไปจับหัวใจของตนเอง

“สายเกินไปแล้ว… นิ้วมรณะ!”

เรย์ลินถอนหายใจ ขณะที่แสงสีดำจากมือของเขาพุ่งเข้าสู่หน้าผากของพระสังฆราช แสงในดวงตาของเขาดับมืดลงทันที

โครม!

ร่างของพระสังฆราชล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง และนำไปสู่การล่มสลายของกองโจรสลัดฝ่ายเขา

สำหรับงานจัดการพวกเหล่าทหารปลายแถวนั้น ลูกน้องของเรย์ลินจะเป็นผู้ดูแล ขณะที่เรย์ลินก้าวไปยืนข้างมือที่หลุดของพระสังฆราช ก่อนจะหยิบจี้เล็ก ๆ ขึ้นมา พร้อมแสดงสีหน้าครุ่นคิด

“นี่คือเวทอัญเชิญเทพ? วัสดุของมันแปลกประหลาดมาก ถึงขนาดทนทานต่อเวทสลายขั้นสูงได้…”

เรย์ลินพิจารณาจี้ในมืออย่างละเอียด มันมีลักษณะเล็กและถูกแกะสลักเป็นรูปปั้นเทพเจ้า ขณะที่สายโซ่เงินบาง ๆ ร้อยผ่านและเปล่งประกายแสงสว่างเรืองรอง…

...........