บทที่ 69 กล่องวิวัฒนาการ

บทที่ 69 กล่องวิวัฒนาการ

“พี่หลิน มีอะไรให้ผมรับใช้ไหมครับ? ในฐานหย๋าเฉินแห่งนี้ ใครก็ตามที่หาเรื่องพี่ ก็เท่ากับหาเรื่องตระกูลสวีของผม” สวีเทียนเกอยืนข้างๆ หลินเซิน หันหน้าไปทางคนของตระกูลลู่

ผู้วิวัฒนาการที่สวีเทียนเกอพามา ก็เดินมาอยู่ข้างหลังทั้งสองคน เผชิญหน้ากับผู้วิวัฒนาการของตระกูลลู่

ลู่ฉิงและคนอื่นๆ ต่างก็งุนงง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเหมือนกับว่าพวกเขากำลังจะรังแกหลินเซิน แล้วสวีเทียนเกอมาช่วยหลินเซิน?

ตอนแรกพวกเขาคิดว่าสวีเทียนเกอมาหาเรื่องหลินเซิน เจิ้งเหยียนคิดไว้แล้วว่า ถ้าสวีเทียนเกอจะจัดการหลินเซิน เขาจะต้องห้ามลู่ฉิง ไม่ให้เธอเข้าไปยุ่ง

แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ สวีเทียนเกอไม่เพียงแต่ไม่หาเรื่องหลินเซิน ยังทำท่าทางเหมือน นี่พี่ชายผม พวกนายกล้าแตะต้องเขา ฉันจะสู้กับพวกนายให้ตายไปข้าง ทำให้เจิ้งเหยียนและคนอื่นๆ ตั้งรับไม่ทัน ไม่เข้าใจสถานการณ์

“พวกนาย…” ลู่ฉิงก็แปลกใจ มองสวีเทียนเกอ แล้วมองหลินเซิน ถึงได้เชื่อว่าที่หลินเซินบอกว่าที่จัดการเรียบร้อยแล้ว เป็นเรื่องจริง แต่ไม่รู้ว่าหลินเซินใช้วิธีไหน ถึงทำให้ตระกูลสวีหันมาปกป้องเขา มันช่างน่าฉงน

“ที่นี่ไม่มีอะไรแล้ว พวกนายไปทำธุระของพวกนายเถอะ” หลินเซินพูดกับสวีเทียนเกอ

“อ๋อ เข้าใจผิดนี่เอง งั้นก็ดี พวกนายไปก่อน ฉันมีเรื่องจะคุยกับพี่หลิน เดี๋ยวฉันตามไป” สวีเทียนเกอให้คนของเขากลับไปก่อน ส่วนตัวเขาอยู่ต่อ

“พวกเราก็ไปเถอะ” เจิ้งเหยียนกลัวว่าคนของตระกูลสวีจะชิงลงมือก่อน จึงรีบเร่งลู่ฉิง

“เธอไปเถอะ” หลินเซินพยักหน้าให้ลู่ฉิง

ลู่ฉิงเห็นว่าคนของตระกูลสวีกลับไปหมดแล้ว เหลือแค่สวีเทียนเกอ ก็เชื่อว่าสวีเทียนเกอไม่ได้เล่นละคร ดูเหมือนว่าเขากับหลินเซินจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจริงๆ

“หลินเซิน… ไว้เจอกันใหม่นะ…” ลู่ฉิงไม่รู้จะพูดอะไร ถอนหายใจ ขึ้นสัตว์ร้ายแพลตตินัม แล้วจากไปพร้อมกับเจิ้งเหยียน

หลังจากที่ลู่ฉิงและคนอื่นๆ ไปไกลแล้ว สวีเทียนเกอก็พูดกับหลินเซินด้วยเสียงเบาๆ ว่า “พี่หลิน มีคนพบกล่องวิวัฒนาการที่ทะเลสาบจินสุ่ย พวกเรากำลังจะไปที่นั่น ไม่คิดว่าจะเจอพี่ ไปด้วยกันไหม?”

“ที่นี่มีกล่องวิวัฒนาการด้วย?” หลินเซินประหลาดใจ

ตั้งแต่เจอเว่ยหวู่ฟู่และเทียนซิน หลินเซินก็ไม่ใช่คนที่ไม่รู้อะไรเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

กล่องวิวัฒนาการกับจุดวิวัฒนาการ ถือว่าเป็นสิ่งเดียวกัน เป็นจุดเริ่มต้นของการวิวัฒนาการบนดาวดวงนี้

ก่อนหน้านี้หลินเซินรู้แค่ว่าจุดวิวัฒนาการเป็นแหล่งแพร่เชื้อ ติดเชื้อ และวิวัฒนาการ มีคนพบกล่องวิวัฒนาการใกล้ๆ จุดวิวัฒนาการ แต่ส่วนใหญ่จะเสียหาย

จากข้อมูลที่ได้จากเทียนซินและเว่ยหวู่ฟู่ หลินเซินก็รู้ว่า จริงๆ แล้วกล่องวิวัฒนาการคือยานขนส่งในอวกาศ

เนื่องจากการเดินทางในอวกาศใช้เวลานาน สิ่งมีชีวิตจึงต้องจำศีลในยานขนส่ง เพื่อให้ผ่านช่วงเวลานั้นไป

แน่นอนว่า ยานขนส่งบางลำ ใช้สำหรับขนส่งสินค้า เช่น ไข่วิวัฒนาการ ก็ต้องใช้ยานขนส่งในการขนส่ง

กล่องวิวัฒนาการที่ตกลงมาทั่วโลกเมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน ก็คือยานขนส่งที่บรรทุกไข่วิวัฒนาการ ไม่รู้ว่ามาจากไหน และไม่รู้ว่าทำไมถึงตกลงมาบนดาวดวงนี้

ที่แน่ๆ คือ ยานอวกาศที่บรรทุกยานขนส่งเหล่านี้ ไม่ได้ตกบนดาวดวงนี้ น่าจะเกิดปัญหาอะไรบางอย่างในอวกาศ ทำให้ยานขนส่งกระจัดกระจาย

ยานขนส่งส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายในอวกาศ หลังจากตกลงมาบนโลก ไข่วิวัฒนาการที่อยู่ข้างในก็หลุดออกมา กลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อ จึงเกิดเป็นจุดวิวัฒนาการและเขตวิวัฒนาการที่คนทั่วไปรู้จัก

สิ่งที่เรียกว่าไข่ต้นกำเนิด ก็คือไข่วิวัฒนาการที่ขนส่งมาจากดาวดวงอื่น

ที่หลินเซินสงสัยคือ หลังจากเหตุการณ์เมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน ก็ไม่มียานขนส่งตกลงมาอีก ถ้าแถวฐานหย๋าเฉินมียานขนส่ง ก็น่าจะถูกค้นพบไปนานแล้ว ทำไมถึงเพิ่งมาเจอตอนนี้?

น่าจะมีสองกรณี กรณีแรก ยานขนส่งลำนี้อาจจะเป็นหนึ่งในยานที่ตกลงมาเมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน

แต่เพราะว่ายานขนส่งไม่ได้รับความเสียหาย ไข่วิวัฒนาการที่อยู่ข้างในจึงยังคงถูกปิดผนึก ไม่ได้กลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อ และเพราะว่ามันตกในที่ที่ค่อนข้างลับตา จึงไม่มีใครพบ

อีกกรณีหนึ่งคือ ยานขนส่งลำนี้อาจจะเพิ่งตกลงมา ไม่ใช่ชุดเดียวกับเมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน

“เห็ดปีศาจที่บุก มหาสมุทรผืนป่า จะเกี่ยวกับยานขนส่งลำนี้ไหม?” หลินเซินคิดแล้วก็รู้สึกว่าไม่น่าจะใช่  มหาสมุทรผืนป่ากับทะเลสาบจินสุ่ยอยู่คนละฝั่ง ถ้าเห็ดปีศาจที่บุก มหาสมุทรผืนป่าเกี่ยวข้องกับยานขนส่ง ยานขนส่งก็น่าจะอยู่ที่ มหาสมุทรผืนป่า

“สภาพดี? เสียหาย?” เว่ยหวู่ฟู่ก็นึกถึงเรื่องนี้ จึงถามสวีเทียนเกอ

“กล่องวิวัฒนาการสภาพดี” สวีเทียนเกอเข้าใจความหมายของเว่ยหวู่ฟู่ แต่เขาไม่รู้ว่ากล่องวิวัฒนาการคือยานขนส่ง

“พาไป” เว่ยหวู่ฟู่พูด

หลินเซินขมวดคิ้ว แต่ดูจากสีหน้าของเว่ยหวู่ฟู่แล้ว เหมือนว่าเขาจะต้องไปให้ได้

หลินเซินคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าให้สวีเทียนเกอ

“มีพี่หลินกับพี่เว่ย พวกสารเลวตระกูลลู่ก็ไม่มีหวังแล้ว กล่องวิวัฒนาการต้องเป็นของเรา ถ้าข้างในมีไข่ต้นกำเนิด ผมขอซื้อในราคาสูง ได้ไหม?” สวีเทียนเกอพูด

“ได้” เว่ยหวู่ฟู่ดูเหมือนจะไม่สนใจว่าในกล่องวิวัฒนาการจะมีไข่ต้นกำเนิดหรือไม่

สวีเทียนเกอดีใจมาก เขาไม่ลังเล ขึ้นสัตว์ขี่ แล้วนำทางไปข้างหน้า

หลินเซินและเว่ยหวู่ฟู่เรียกสัตว์ขี่ออกมา แล้วตามไป แต่น่าเสียดายที่พวกเขายังขี่ม้าเขาเหล็กอยู่ ตามสวีเทียนเกอไม่ทัน สวีเทียนเกอคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “พี่หลิน พี่เว่ย ผมไปก่อนนะ จะได้ไม่ให้ลูกน้องของผมเสียเปรียบตระกูลลู่ พวกพี่ตรงไปที่ทะเลสาบจินสุ่ยเลย ไปถึงที่นั่นก็เจอพวกเราแล้ว”

“ได้ นายไปก่อนเลย” หลินเซินมีเรื่องจะถามเว่ยหวู่ฟู่ แต่มีสวีเทียนเกออยู่ เขาเลยถามไม่ได้ แบบนี้ก็ดี

สวีเทียนเกอย้ำกับหลินเซินและเว่ยหวู่ฟู่ให้รีบไป แล้วก็ควบม้าออกไปอย่างรวดเร็ว

“เว่ยหวู่ฟู่ ทำไมต้องไป?” หลินเซินมองเว่ยหวู่ฟู่แล้วถาม

สถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ เว่ยหวู่ฟู่ก็น่าจะรู้ เห็ดปีศาจหมวกดำต้องแอบมองพวกเขาอยู่แน่ๆ ไม่ควรไปยุ่งเรื่องอื่น

เว่ยหวู่ฟู่พูดด้วยแววตามุ่งมั่น “กล่องวิวัฒนาการ --ไม่รู้ --ต้องตรวจสอบ --อันตราย --กำจัด”

หลินเซินเข้าใจความหมายของเว่ยหวู่ฟู่ ได้แต่ยิ้มแห้งๆ “นายไม่คิดบ้างเหรอว่า นายก็อันตรายเหมือนกัน?”

“พวกเรา --มีหน้าที่” เว่ยหวู่ฟู่คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ “นาย --กลับ --ฉัน --ไป”

“ฉันไปกับนายดีกว่า” หลินเซินดูสีหน้าของเว่ยหวู่ฟู่ ก็รู้ว่าห้ามไม่ได้

คิดๆ ดูแล้ว ทะเลสาบจินสุ่ยไม่ได้อยู่ไกลจากฐาน และไกลจาก มหาสมุทรผืนป่ามาก ถ้ามีอันตราย เขาก็น่าจะหนีกลับฐานได้ ไปดูกับเว่ยหวู่ฟู่ก็ได้ เขาเองก็ยังไม่เคยเห็นกล่องวิวัฒนาการมาก่อนเหมือนกัน

ถ้าในนั้นมีไข่ต้นกำเนิดก้าวข้ามขีดจำกัด เขาก็มีหวังเลื่อนขั้นเป็นระดับโลหะผสมแล้ว

เมื่อทั้งสองมาถึงทะเลสาบจินสุ่ย ก็เห็นคนของตระกูลลู่และตระกูลสวีอยู่ไกลๆ ที่แปลกคือ พวกเขาดูเหมือนจะไม่ทะเลาะกัน ทุกคนยืนอยู่ริมทะเลสาบ มองไปที่ผิวน้ำ

เมื่อเห็นหลินเซินและเว่ยหวู่ฟู่มา สวีเทียนเกอก็รีบเรียกพวกเขา

ผู้วิวัฒนาการของตระกูลลู่เห็นหลินเซินและเว่ยหวู่ฟู่ขี่ม้าเขาเหล็กมา ก็รู้สึกแปลกใจ

ทุกคนที่นี่รู้จักหลินเซิน ตระกูลหลินที่ฐานเสวียนเหนี่ยวไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับตระกูลลู่และตระกูลสวี ทำไมสวีเทียนเกอถึงทำดีกับคนสองคนนี้?

หลินเซินยืนอยู่ริมทะเลสาบ เห็นอุปกรณ์ประหลาดรูปวงรีลอยอยู่บนผิวน้ำที่ใสสะอาด เหมือนลูกรักบี้โลหะ สูงประมาณหนึ่งเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางไม่ถึงครึ่งเมตร มีวงแหวนคริสตัลที่เรืองแสง หมุนวนอยู่รอบๆ ดูลึกลับและไฮเทคมาก