บทที่ 268 เผ่ามาร...ไม่คู่ควร!
หลงหลี่ซิงมองเทพมารด้วยแววตาเย้ยหยันยิ่งกว่าเดิม ดวงตาอันแหลมคมของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน และยังแฝงความรังเกียจที่ลึกล้ำต่อสถานที่แห่งนั้น
“โง่เง่าสิ้นดี! ข้าจะบอกให้เจ้ารู้เดี๋ยวนี้! ต่อให้เจ้าทำลายแดนสวรรค์ทั้งหมด เจ้าก็ไม่มีวันได้เข้าสู่โลกนั้น เพราะเผ่ามาร…ไม่มีค่าคู่ควร!”
คำพูดของหลงหลี่ซิง ชัดเจนว่าไม่เพียงเต็มไปด้วยการเสียดสี แต่ยังจงใจเจาะจงไปที่จุดอ่อนที่ทำให้เทพมารแทบเสียสติ โดยเฉพาะคำว่า “ไม่คู่ควร” นั้น ราวกับมีดที่ปักลึกลงไปในจิตใจของเทพมารจนมันไม่อาจทนได้อีกต่อไป!
เพียงชั่วพริบตา ความบ้าคลั่งของเทพมารก็ระเบิดออกมา พลังมารท่วมท้นทั่วทั้งโลก ดวงตาสีดำสนิทของมันปรากฏแสงสีแดงเลือดอันน่าขนลุก ร่างกายของมันเริ่มบิดเบี้ยวและกลายพันธุ์ไปอย่างน่ากลัว
“หุบปาก! หุบปาก!”
เสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นดังก้องไปทั่วทุกทิศ คลื่นลมกรรโชกรุนแรงปะทะออกมาจากตัวมัน ขณะที่หลุมดำบนท้องฟ้าก็ค่อยๆขยายตัวออกอย่างไม่หยุดยั้ง…
ฉากนี้ตกอยู่ในสายตาของทั้งสามคนอย่างชัดเจน จินเป่าเอ๋อรีบยกมือขึ้นทันที แสงสีชมพูอ่อนเปล่งประกายรอบตัวนาง ก่อกำเนิดเป็นเกราะป้องกันที่ขวางลมพายุเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ
ส่วนอีกสองคนที่เหลือ ก็ลดท่าทีเย้ยหยันลง ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมในทันที
ในชั่วพริบตา ทั้งสองลงมือพร้อมกัน ดวงตาที่เย็นยะเยือกของพวกเขาแสดงความไม่แยแสและอำมหิตเหนือทุกสรรพสิ่ง พลังที่แผ่ซ่านออกมาช่างหนักหน่วงและไร้ปรานี!
พลังสีทองและสีดำหมุนวนเข้าหากัน พุ่งตรงไปยังเทพมารที่ร่างกายบิดเบี้ยวและเปลี่ยนรูปร่างอย่างต่อเนื่อง!
จินเป่าเอ๋อถึงกับเปลี่ยนสีหน้า ดวงตาเบิกกว้าง นางกำหมัดแน่นจนรู้สึกถึงความกดดันจากพลังอันมหาศาลที่ทำให้นางหวาดหวั่น
แม้ว่านางจะรู้ดีว่าการร่วมมือของทั้งสองคนนี้จะทรงพลังมากเพียงใด แต่นางก็ไม่คิดว่ามันจะแข็งแกร่งจนถึงขั้นนี้ ถึงขนาดทำให้นางเองสั่นสะท้านไปทั้งร่าง!
พลังสูงสุดของมหามรรค!
นางพ่นลมหายใจออกมาเบาๆพยายามข่มความคิดฟุ้งซ่านที่พลุ่งพล่านในใจลง นางมั่นใจว่าสักวันหนึ่ง นางก็จะไปถึงจุดนั้นได้เช่นกัน!
และในขณะนั้นเอง…
“โฮ!!!” เสียงคำรามกึกก้องดังขึ้น!
ณ จุดปะทะกลางอากาศ เสียงคำรามของมังกรดังขึ้นพร้อมเพรียงกัน!
มังกรดำขนาดมหึมาสองตัวปรากฏตัวขึ้นฉับพลัน เกล็ดสีดำมันวาวอันเย็นเยียบแผ่รัศมีอำนาจเหนือทุกสิ่งในอากาศ
ดวงตาสีม่วงเข้มอันลึกล้ำและเยือกเย็นเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและเจตนาฆ่า พลังแห่งราชันผู้ครองโลกที่แผ่ออกมาทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนถูกกดดันจนแทบหายใจไม่ออก!
แต่หากมองให้ดีจะเห็นความแตกต่างระหว่างทั้งสองตัว มังกรตัวซ้าย แม้ว่าจะแสดงแววตาเย็นชา แต่กลับแฝงความเย้ยหยันและหยิ่งผยองเอาไว้เล็กน้อย
ขณะที่มังกรตัวขวา แม้สีหน้าจะเรียบเฉย แต่กลับแสดงความทรงเกียรติและพลังอำนาจออกมาอย่างชัดเจนในทุกอิริยาบถ!
พลังทั้งสามสายปะทะกันอย่างรุนแรงในอากาศ เสียงระเบิดดังสนั่นจนฟ้าสะท้าน พายุสายฟ้าฟาดกระหน่ำ ขณะที่พื้นดินด้านล่างสั่นสะเทือนอย่างหนัก!
จินเป่าเอ๋อได้สติกลับมา นางกดความหวาดกลัวและแรงกดดันในใจลง รีบพุ่งตัวไปหยิบกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ตกอยู่ก่อนหน้านี้…
แต่ทันทีที่มือของนางกำลังจะสัมผัสกล่อง พลังงานที่คุ้นเคยและทรงพลังบางอย่างแผ่ออกมาจากภายใน นางชะงักไปชั่วขณะ และในตอนนั้นเอง เสียงกระซิบที่แผ่วเบาและยาวนานก็ดังขึ้นข้างหูนาง ร่างเงาหนึ่งปรากฏขึ้นบนฟากฟ้า แต่ไม่มีใครสังเกตเห็น!
“อืม ปรากฏตัวแล้วสินะ…”
พร้อมกับเสียงนั้น กล่องก็เปิดออกเองทันที วัตถุโปร่งใสขนาดเท่าไข่ไก่รูปทรงรีปรากฏขึ้น เปล่งแสงอ่อนๆออกมา
ราวกับมันรู้สึกถึงการมีอยู่ของจินเป่าเอ๋อ ไข่ใสค่อยๆลอยขึ้น ก่อนจะเคลื่อนตัวเข้าสู่มือของนางโดยอัตโนมัติ…
จินเป่าเอ๋อขมวดคิ้วมองวัตถุในมือ นางกำลังจะวางมันกลับเข้าไปในกล่อง แต่เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง
“อย่า…อย่าปล่อยมือ! เจ้าก็มาที่นี่เพื่อค้นหาพลังของมังกรดำใช่หรือไม่ สิ่งนี้สามารถทำให้พวกมันทั้งสองหลอมรวมกันจนกลายเป็นร่างสมบูรณ์ได้!”
นางได้ยินดังนั้นก็หยุดชะงักทันที มองวัตถุนั้นด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะถามเสียงระแวดระวัง
“เจ้าเป็นใคร ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้า”
ท้ายที่สุดแล้ว มารร้ายเจ้าเล่ห์นัก นางไม่อาจแน่ใจได้ว่านี่ไม่ใช่แผนการของมัน!
เสียงนั้นเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“จะเชื่อหรือไม่ก็เรื่องของเจ้า! เจ้าก็มาที่นี่เพื่อสิ่งนี้ไม่ใช่หรือ เพียงแค่ให้มังกรทั้งสองหยดเลือดหัวใจลงบนสิ่งนี้ มันจะทำให้พวกมันหลอมรวมกัน! ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ อีกหนึ่งก้านธูป เจ้าก็จะออกจากที่นี่ได้โดยสมบูรณ์!”
เมื่อพูดจบ เสียงนั้นก็เงียบไปอีกครั้ง จินเป่าเอ๋อรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ราวกับเสียงนั้นดูเหมือนจะหงุดหงิดอย่างมาก…หรือว่านางทำให้มันโกรธ
อีกด้านหนึ่ง เงาร่างนั้นหายไปจากฟากฟ้า ก่อนจะปรากฏตัวเหนือสนามทดสอบ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ พลางบ่นพึมพำกับตัวเอง
“ใครมันอยากหลอกเจ้า! ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนขอร้องไว้ ข้าก็ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้นักหรอก! นังผู้หญิงน่ารำคาญ! ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าเล่นทำลายเขี้ยวงูพิษของข้า ข้าจะต้องหาอสูรตัวใหม่มาขู่พวกกระต่ายน้อยพวกนั้นหรือไง! น่ารำคาญจริงๆ!”
ชายผู้นั้นพูดพลางร่างกายก็ค่อยๆ จางหายไป…
ในขณะเดียวกัน จินเป่าเอ๋อยังไม่รู้เลยว่าคนผู้นั้นคือเจ้าของสนามทดสอบ แม้ว่านางจะยังสงสัยเสียงที่ได้ยิน แต่ในเมื่ออีกฝ่ายรู้เป้าหมายของนางชัดเจน มันก็คงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมารร้ายอย่างแน่นอน
ลองเสี่ยงดูก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย! ท้ายที่สุด… เวลาของนางเหลือเพียงแค่หนึ่งก้านธูปเท่านั้น!
นางเงยหน้าขึ้นมองการต่อสู้อันดุเดือดของทั้งสามคน ซึ่งดูไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ นางไม่อาจรอช้าได้อีกแล้ว!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางก็ไม่ลังเลที่จะพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ขณะกำลังคิดหาวิธีที่จะให้สองคนนั้นหยดเลือดหัวใจลงบนวัตถุนี้
ทันใดนั้น หางตาของนางเหลือบไปเห็นบางสิ่งที่กำลังกระพริบเคลื่อนไหว…
เมื่อนางหันไปมองตามสัญชาตญาณ ก็สบเข้ากับหลุมดำที่แผ่กลิ่นอายอันตรายออกมา!
ดวงตาของนางหรี่ลงเล็กน้อย ความสงสัยแวบผ่านในแววตาสีดำสนิทนั้น ทำไมนางถึงรู้สึกว่าหลุมดำนั้นเหมือนจะใหญ่ขึ้นกว่าก่อนหน้านี้
ในตอนนั้นเอง หลุมดำขยับตัวเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างกะทันหัน! เพียงพริบตาเดียวก็เลื่อนเข้ามาใกล้ถึงระยะสองเมตรจากทั้งสามคน!
จินเป่าเอ๋อเห็นดังนั้น สีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันที พลันตระหนักถึงบางสิ่ง นางหันมองไปยังตำแหน่งที่ทั้งสามกำลังต่อสู้กันกลางอากาศ
ความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างพลุ่งพล่านขึ้นในใจ และสีหน้าของนางก็ยิ่งแย่ลง!
หลุมดำ... กำลังแอบเคลื่อนเข้ามาใกล้พวกเขา!
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัว นางมองไปยังตำแหน่งที่สามคนกำลังต่อสู้อีกครั้ง ไม่นานก็สังเกตได้ว่ามารร้ายกำลังพยายามดึงหลงหลี่ซิงและหลงเจี้ยนให้เข้าใกล้หลุมดำโดยเจตนา และทั้งสองคนก็ดูเหมือนจะไม่ทันสังเกตถึงสิ่งที่กำลังเคลื่อนเข้ามาข้างหลังพวกเขา!
สำหรับนางเอง หากไม่ใช่เพราะต้องการเข้าใกล้ทั้งสองคนเพื่อเก็บเลือดหัวใจ นางก็คงยากที่จะสังเกตเห็นหลุมดำที่เคลื่อนตัวเข้ามา! เพราะหลุมดำนี้มีลักษณะคล้ายกระจกโปร่งแสง ด้านหลังของมันเป็นเพียงความว่างเปล่า และหากมองจากด้านข้างก็เหมือนเพียงเส้นดำบางๆท่ามกลางพายุพลังที่ฟาดฟันอยู่รอบตัว ใครจะไปสังเกตเห็นมันได้ง่ายๆ!
เมื่อคิดเช่นนี้ นางก็ตัดสินใจเตรียมส่งเสียงเตือนทั้งสองคนทันที แต่ในจังหวะที่นางหันศีรษะกลับมา ก็สบเข้ากับดวงตาสีดำสนิทอันโหดเหี้ยมที่เต็มไปด้วยความอำมหิต!
ในขณะเดียวกันนั้น แรงกดดันมหาศาลก็ถาโถมลงมา ทำให้นางขยับตัวไม่ได้ ร่างกายเหมือนถูกตรึงไว้ในที่เดิม ริมฝีปากที่กำลังจะอ้ากล่าวบางสิ่งกลับแข็งค้างอยู่ และไม่อาจเปล่งเสียงใดๆออกมาได้เลย...
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้สีหน้าของนางยิ่งซีดเผือด หัวใจเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น!
นางพยายามดิ้นรน แต่ก็ไร้ประโยชน์ เนื่องจากช่องว่างของพลังระหว่างนางกับอีกฝ่ายนั้นมากเกินไป!
เป็นเทพมารหรือ! นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายกำลังจับตาดูนางอยู่ตลอดเวลาอย่างนั้นหรือ เพราะกลัวว่านางจะทำลายแผนการของมัน
น่ารังเกียจ! หรือก่อนหน้านี้ที่นางสามารถสลายแรงกดดันของมันได้ก็คือแผนการของมันเอง เพื่อหลอกให้นางวางใจ!