ตอนที่แล้วบทที่ 266 คริสตัลสีม่วง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 268 เผ่ามาร...ไม่คู่ควร!

บทที่ 267 บนเส้นทางแห่งมหามรรค สมควรได้รับการขนานนามว่าเทพ!


จินเป่าเอ๋อไม่ได้สนใจว่าตัวเองจะถูกเปิดเผยตัวตนหรือไม่ ในตอนนี้นางให้ความสำคัญกับทิศทางที่มารร้ายกำลังหลบหนีไปมากกว่า… ซึ่งก็คือจุดที่นางอยู่ตอนแรก!

สนามรบเซียนและมาร!

ความรู้สึกเหมือนจะถูกขับไล่ออกไปจากสถานที่นั้นทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นางแทบจะบินตามอีกฝ่ายไปโดยไม่ทันคิด…

ทั้งกลุ่มบินด้วยความเร็วสูง แม้ว่าระยะทางที่ควรจะใช้เวลาเดินทางหนึ่งถึงสองวันก็สามารถย่นให้เหลือเพียงเจ็ดถึงแปดชั่วโมงเท่านั้น!

โชคดีที่ร่างกายของพวกเขาแข็งแกร่งเพียงพอ จึงไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้า!

จนกระทั่งพวกเขามองเห็นช่องว่างสีดำสนิทและลึกลับที่ลอยอยู่ในท้องฟ้าด้านหน้าแต่ไกล ใบหน้าของแต่ละคนก็เริ่มแสดงความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

ในตอนนี้ ผู้ที่อยู่ในสถานการณ์นี้มีเพียงหลงหลี่ซิง หลงเจี้ยน จินเป่าเอ๋อ และเทพมาร…

พลังมืดหยุดนิ่ง จากนั้นจึงค่อยๆก่อตัวเป็นร่างสูงสง่า กลิ่นอายอันชั่วร้ายแผ่ออกมาจากตัวมัน ดวงตาดำสนิทลึกลับน่ากลัวจ้องมองทั้งสามคนพร้อมกับหัวเราะออกมา!

“ฮ่า! ฮ่า!”

เสียงหัวเราะนั้นเหมือนคนหายใจไม่ออก แถมยังแหบแห้ง ทำให้คนฟังรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง!

หลงหลี่ซิงขมวดคิ้ว ในดวงตาสีม่วงของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจและเจตนาฆ่า!

“เสียงน่ารำคาญ! หุบปากซะ!”

สิ้นคำพูด เขาก็พุ่งเข้าใส่ทันที พลังมหามรรคก่อร่างเป็นใบมีดพุ่งลงมาอย่างรุนแรง กระแทกใส่มารร้ายอย่างจัง!

แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น จากเดิมที่เขากับมารร้ายต่อสู้กันสูสีไม่มีใครได้เปรียบ แต่คราวนี้เขากลับโจมตีพลาดเป้า ร่างของอีกฝ่ายพลันแปรเปลี่ยนเป็นหมอกและปรากฏตัวอีกครั้งด้านหลังเขาในชั่วพริบตา…

“ไป! ตาย! ซะ!”

ในขณะที่พูด เทพมารก็ยื่นมือขวาออกไปอย่างรวดเร็ว! พลังที่แฝงด้วยพลังมารรุนแรงระเบิดขึ้นที่ด้านหลังศีรษะของหลงหลี่ซิง ทำให้เขาปลิวกระเด็นออกไปในทันที!

เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากจนจินเป่าเอ๋อมองไม่ทัน รู้ตัวอีกทีหลงหลี่ซิงก็หายไปแล้ว…

ความแตกต่างอย่างใหญ่หลวงนี้ทำให้ดวงตาของนางหดเล็กลงอย่างตกใจ และในชั่ววินาทีนั้นนางก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ใบหน้าของนางเย็นชาและจริงจังขึ้นทันที!

มารร้ายตั้งใจแสร้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อซ่อนพลังเอาไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อรอให้ถึงจังหวะนี้อย่างนั้นหรือ แต่ทำไมล่ะ

“แกร๊ง…”

เสียงโลหะกระทบพื้นดังขึ้นอย่างชัดเจนในสนามรบที่ว่างเปล่า!

จินเป่าเอ๋อก้มมองลงไป สายตาจับจ้องไปที่กล่องเล็กทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ตกอยู่บนพื้น นางจำได้! นั่นคือกล่องที่นางเคยนำออกมาจากห้องลับของตระกูลฝานหยิน แต่ไม่รู้ว่ามันหายไปตอนไหน

ที่แท้… มันถูกหลงหลี่ซิงเอาไปหรือ

เทพมารดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตเห็นกล่องนั้น สายตาอันโหดเหี้ยมของมันกวาดมองหลงเจี้ยนและจินเป่าเอ๋อไปมา ราวกับกำลังเลือกเป้าหมายถัดไปที่จะโจมตี

สุดท้าย อาจเป็นเพราะจินเป่าเอ๋อดูอ่อนแอเกินไป สายตาของมันจึงหยุดลงที่หลงเจี้ยน เสียงหัวเราะประหลาดดังขึ้นอีกครั้ง คำพูดที่หยิ่งยโสทำให้ผู้ฟังรู้สึกรำคาญเป็นพิเศษ!

“เทพมังกร…ฮึ! ก็แค่สัตว์เดรัจฉานที่โชคดีเท่านั้น! คิดจริง ๆ เหรอว่าเจ้าจะชนะข้าได้ ฮะฮะ…”

หลังจากพูดจบ เสียงหัวเราะที่เหมือนคนหายใจไม่ออกก็ดังขึ้นอีกครั้ง!

หลงเจี้ยนได้ยินเสียงนั้น สายตาเย็นชาของเขากลับดูสงบนิ่งกว่าเดิม ต่างจากหลงหลี่ซิงที่แสดงความดุดันออกมา เขามีความเยือกเย็นและสุขุมมากกว่าเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู

สิ่งที่เขาใส่ใจคือการวิเคราะห์และวางแผน หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงเอ่ยปากพูดในที่สุด

“เจ้าวางแผนทุกอย่าง เพียงเพื่อให้เผ่ามารยึดครองแดนสวรรค์หรือ ข้าไม่คิดเช่นนั้น! จุดประสงค์ที่แท้จริงของเจ้าคืออะไรกันแน่”

ชัดเจนว่าเทพมารร้ายไม่เข้าใจสุภาษิตที่ว่า "ตัวร้ายมักพ่ายแพ้เพราะพูดมากเกินไป"

เมื่อได้ยินคำถามของหลงเจี้ยน เสียงหัวเราะของมันกลับยิ่งดังขึ้นและเปี่ยมไปด้วยความบ้าคลั่ง หมอกดำที่ล้อมรอบตัวมันสั่นไหวราวกับได้ยินเรื่องตลกที่สุดในโลก!

น้ำเสียงของมันเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน!

“เพื่อเผ่ามารหรือ ฮ่าๆๆ! ก็แค่หุ่นเชิดที่ถูกใช้ประโยชน์เท่านั้น! สิ่งที่ข้าต้องการคือพลัง! อายุขัยอันยืนยาว! และการเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในจุดสูงสุด!”

ทันใดนั้น เสียงหัวเราะของมันก็หยุดลงอย่างกระทันหัน! น้ำเสียงของมันเริ่มเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ราวกับว่าร่างกายของมันกำลังต่อสู้กับมารร้ายที่น่ากลัวอยู่ภายใน

มันแสดงความโกรธและความอดทนที่กำลังถูกผลักดันจนถึงขีดสุด!

“แต่! บนเส้นทางแห่งสวรรค์ ล้วนมีแต่เซียน! และบนเส้นทางแห่งมหามรรคเท่านั้นจึงจะกลายเป็นเทพได้! ข้าเรียกตัวเองว่าเทพมาร แต่กลับไม่อาจสัมผัสพลังแห่งมหามรรคได้เลย! ทำไม!ทำไมกันล่ะ!”

คำพูดสุดท้ายของมันเปล่งออกมาด้วยเสียงแหลมคม ราวกับเสียงคำรามของมารในจิตใจที่เดือดพล่าน โกรธเกรี้ยว และเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด!

จินเป่าเอ๋อไม่ได้พูดอะไร แต่ใบหน้าของนางก็ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว ความจริงที่ว่าบนมหามรรคเท่านั้นถึงจะเป็นเทพได้นั้น เพิ่งจะกระจ่างชัดแก่นางในตอนนี้เอง

เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางก็มองไปทางหลงเจี้ยนโดยไม่รู้ตัว ระดับพลังของเขาในตอนนี้ก็คือจุดสูงสุดของมหามรรคไม่ใช่หรือ

เทพมารดูเหมือนจะรับรู้ความคิดของจินเป่าเอ๋อ ดวงตาสีดำสนิทของมันเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและความหมกมุ่นคลั่งไคล้!

เสียงพูดของมันบ่งบอกถึงความบ้าคลั่งที่ไร้ขอบเขต!

“ในเมื่อเส้นทางมหามรรคไม่แยแสและทอดทิ้งเผ่ามาร ข้าจะใช้แดนสวรรค์ทั้งหมดเป็นเครื่องสังเวย เพื่อสร้างสวรรค์ของเผ่ามารด้วยมือข้าเอง! ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อกลายเป็นเทพ!”

เมื่อหลงเจี้ยนได้ยินเช่นนั้น เขาขมวดคิ้ว ดวงตาฉายแววตกใจเล็กน้อย แต่ไม่นานเขาก็เชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆเข้าด้วยกัน

ใบหน้าของเขาเผยความรู้สึกประชดประชันและเหยียดหยามออกมาเล็กน้อย

“เจ้าต้องการไปยังโลกนั้น ฮึ…”

เหมือนไม่คาดคิดเลยว่าการกระทำทั้งหมดที่อีกฝ่ายทุ่มเทมานั้น แท้จริงแล้วก็เพื่อให้ได้พลังที่จะไปยังโลกนั้น

ช่างน่าขันเสียจริง แม้แต่คนเยือกเย็นอย่างหลงเจี้ยนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมา

ในขณะนี้ หลงจเจี้ยนดูราวกับเทพเจ้าที่แท้จริง เยือกเย็น เป็นกลาง และสูงส่ง สายตาที่มองเทพมารเต็มไปด้วยความเย็นชาและความดูถูก

เหมือนมองมดตัวหนึ่งที่ไม่มีความหมาย! เขาไม่ลังเลที่จะทำลายความหวังทั้งหมดของอีกฝ่าย และฉีกความจริงอันโหดร้ายออกมา

“ด้วยพลังของเจ้า แม้จะใช้พลังทั้งหมดของแดนสวรรค์เพื่อไปยังโลกนั้นและกลายเป็นเทพ แต่เจ้าก็จะเป็นได้เพียงเทพชั้นต่ำเท่านั้น!”

มารร้ายดูเหมือนไม่คาดคิดว่าหลงเจี้ยนจะพูดเช่นนั้น ดวงตาสีดำสนิทของมันจ้องมองเขานิ่งไปชั่วขณะ ราวกับว่าสติหลุดลอยไปในความว่างเปล่าเพียงไม่กี่วินาที

ก่อนที่มันจะดึงสติกลับมา สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความกระหายเลือดมากยิ่งขึ้น!

แววตาคลั่งไคล้และหมกมุ่นยังคงไม่จางหาย มันจ้องหลงเจี้ยนด้วยดวงตาเบิกกว้าง เต็มไปด้วยความอิจฉาและความสุขอันบ้าคลั่ง!

“เจ้ามันเคยไปยังที่แห่งนั้นใช่หรือไม่!”

หลงเจี้ยนไม่ได้ตอบคำถามของมัน สายตาของเขายังคงเย็นชาและไร้ความปรานี ราวกับกำลังมองคนบ้าที่พูดจาเพ้อเจ้ออยู่ตรงหน้า

“ฮึ! เจ้าทำทั้งหมดนี้เพียงเพื่อไปยังสถานที่ที่เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว และยังคิดจะใช้ข้าเป็นโล่ให้เจ้าหรือ”

เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธดังขึ้นจากพื้นเบื้องล่าง จินเป่าเอ๋อหันไปมองตามเสียงนั้น ก็พบว่าหลงหลี่ซิงที่เพิ่งสลบไปก่อนหน้านี้ ค่อยๆลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

พลังแห่งความมุ่งร้ายก่อตัวเป็นพายุวนหมุนรอบตัวเขา ปลดปล่อยความโกรธแค้นออกมาอย่างรุนแรง!

เทพมารรู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินคำพูดของหลงหลี่ซิง สีหน้าของมันกลับยิ่งบิดเบี้ยว เต็มไปด้วยความโกรธและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน คล้ายกับแฟนคลับคลั่งไคล้ที่ปกป้องไอดอลของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง!

“หุบปาก! พวกเจ้าเข้าใจอะไร! ข้าที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้กลับไม่อาจแม้แต่จะย่างกรายเข้าใกล้ประตูแห่งโลกนั้นได้ แต่พวกเจ้า… พวกเจ้ากลับสามารถเข้าใจพลังแห่งมหามรรคและเข้าสู่ที่นั่นได้! ข้าไม่ยอม! ข้าที่ควรเป็นเหมือนพวกเจ้า ทำไมถึงต้องถูกกีดกัน!”

ท่าทีบ้าคลั่งจนแทบขาดสติของมันทำให้จินเป่าเอ๋อถึงกับหวาดหวั่น รู้สึกหัวใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้

แต่ถึงแม้นางจะรับรู้ถึงความคลั่งแค้นของเทพมาร นางก็ไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกแบบนั้นได้อย่างแท้จริง เพราะแม้นางจะปรารถนาที่จะเข้มแข็งขึ้น แต่นางก็ไม่เคยคิดอยากได้สิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง

หากสถานที่ที่พวกเขาพูดถึงนั้นเป็นสถานที่ที่นางไม่อาจไปได้ นางก็ยอมรับโดยไม่ขัดขืน ท้ายที่สุดแล้วนางก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง

แต่ถึงอย่างนั้น ความอยากรู้อยากเห็นก็ยังผุดขึ้นในใจนางโดยไม่รู้ตัว…

สถานที่แบบนั้น… มันคือโลกแบบไหนกันแน่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด