ตอนที่แล้วตอนที่ 1 อัญเชิญบรรพชน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่3 สร้างสำนักชิงหยุนขึ้นใหม่

ตอนที่ 2 กระดูกจักรพรรดิ-สือฮ่าว


ตอนที่ 2 กระดูกจักรพรรดิ-สือฮ่าว

“ท่านเจ้าสำนัก อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย มันเป็นอดีตไปแล้ว”

“ตอนนี้ ภายใต้การนำของท่านแล้ว ข้ามั่นใจว่า สำนักชิงหยุนจะสามารถฟื้นคืนความรุ่งเรืองในอดีตได้อีกครั้ง และจะเกินกว่านั้นอย่างแน่นอน”

หลี่ชิงหยุนไม่ได้สนใจที่เฟิงชิงหยางเรียกเขาว่า “แก่” เพราะในเส้นทางแห่งการบ่มเพาะ ผู้มีความสามารถย่อมได้รับความเคารพ แม้ท่านเจ้าสำนักจะมีเพียงพลังบ่มเพาะอยู่ขอบเขตแปรวิญญาณ แต่สัญชาตญาณของเขากลับรับรู้ถึงอันตรายที่น่าสะพรึงกลัวจากท่านเจ้าสำนักผู้นี้

“ท่านเจ้าสำนัก ข้าขอตัวก่อน หากท่านมีเรื่องใด ก็เพียงแค่สั่งข้าได้ทุกเมื่อ” กล่าวจบ หลี่ชิงหยุนก็หายไปจากที่นั่นโดยไม่ทิ้งร่องรอย

ที่นั้นเหลือเพียงเฟิงชิงหยางและซากปรักหักพังรอบๆตัวเขา

“เริ่มต้นการอัญเชิญผู้อาวุโสในขอบเขตมหาจักรพรรดิแล้วหรือ? แล้วจากนั้นก็ไร้คู่แข่ง?”

“เอาล่ะๆ ไม่อยากคิดต่อแล้ว”

“มีผู้อาวุโสระดับมหาจักรพรรดิอยู่ข้างกาย ก็ไม่ใช่ว่า สำนักชิงหยุน จะสามารถทะยานขึ้นได้ทันทีหรือ?”

โลกหวงหวู่ มีขุมพลังอำนาจมากมาย แบ่งออกเป็นห้าภูมิภาคและแต่ละภูมิภาคมีสิบสามแคว้น ซึ่งในนั้นภาคกลางคือภาคที่แข็งแกร่งที่สุด มีตระกูลมหาจักรพรรดิและดินแดนศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก ปกครองโดยผู้มีอำนาจสูงสุด ผู้แข็งแกร่งเยี่ยงผู้ข้ามแม่น้ำข้ามทะเลก็ยังมีมาก ส่วนเขาอยู่ในภาคตะวันออกชึ่งเป็นภูมิภาคที่อ่อนแอที่สุด พลังอำนาจที่แข็งแกร่งสุดในภูมิภาคนี้มีแค่ห้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

กล่าวได้ว่าไม่กลัวสิ่งใดแล้ว

ตอนนี้เหลือแค่การฟื้นฟูสำนัก หากไม่เช่นนั้น สำนักมหาจักรพรรดิในสภาพนี้ คงจะทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะไม่น้อย แน่นอนว่าพวกเขาต้องมีความกล้าที่จะทำเช่นนั้นเสียก่อน

ขณะที่เฟิงชิงหยางกำลังจะใช้บัตรสร้างสำนัก

【“ติ๊ง, ในฐานะสำนักเทพอันดับหนึ่งของมหาจักรวาลในอนาคต จะไม่มีศิษย์ได้อย่างไร?”】

【“ประกาศภารกิจ รับสมัครศิษย์อัจฉริยะ 1 คน, ทำภารกิจสำเร็จจะได้รับรางวัล”】

【“ตรวจพบศิษย์อัจฉริยะที่ได้รับบาดเจ็บ, โปรดให้นายท่านเดินทางไปรับเขาเข้าสำนักโดยเร็ว”】

เฟิงชิงหยางที่กำลังทำการเคลื่อนไหวในมือหยุดชะงัก “ศิษย์อัจฉริยะที่ได้รับบาดเจ็บ? มันสุดยอดขนาดนี้เลยเหรอ! เพิ่งประกาศภารกิจไป ศิษย์ก็มาเคาะประตูเองแล้วเหรอ?”

“ต้องรอใช้บัตรสร้างสำนักทีหลังแล้วล่ะ”

ที่เทือกเขาชิงหยุนข้างล่าง หน้าประตูสำนักชิงหยุน

ชายหนุ่มในชุดดำคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีอย่างเร่งรีบ เขาหันไปมองหลังตลอดเวลา ก็เห็นเงาร่างของคนใส่ชุดดำสี่ห้าคนที่ค่อยๆ ใกล้เข้ามา

เขามีสายตาที่คมกล้า กำดาบไว้แน่น และคิดจะหันกลับไปสู้ แต่ผ้าพันแผลที่พันไว้ที่หน้าอกกลับซึมเลือดออกเรื่อยๆ

ในที่สุดเนื่องจากบาดแผลที่หนักหนา เขาก็หยุดเดิน

“พวกเจ้าเป็นคนที่ลุงส่งมารึ?”

กลุ่มคนในชุดดำเห็นเขาหยุดก็หยุดตาม

“ฮ่าฮ่าฮ่า, สือฮ่าว ยังไงเจ้าก็ต้องตาย ถึงรู้ไปก็ไม่เป็นไร!”

ชายในชุดดำดึงผ้าคลุมออก เปิดเผยใบหน้าที่คุ้นเคยออกมา

ตาของสือฮ่าว่าหรี่เล็กลง ในตอนนี้ชายทั้งห้าคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าก็คือผู้คุ้มกันส่วนตัวของลุงเขา

ใช่แล้ว เขาควรจะคาดเดาได้ตั้งแต่แรก เพียงแต่ว่าไม่คิดเลยว่าลุงผู้ที่เคยรักและเอ็นดูเขาจะโหดร้ายถึงขนาดนี้ ถึงขั้นตัดความสัมพันธ์จนหมดสิ้น!

ตระกูลสือคือหนึ่งในอำนาจใหญ่ที่สุดในแคว้นหลิงโจว ที่ได้รับพรจากสวรรค์และอัจฉริยะที่มีคุณสมบัติพิเศษถึงสองคน

หนึ่งคือ “เนตรคู่ลึกลับ” และอีกหนึ่งคือ “กระดูกจักรพรรดิ”

เขาคือผู้ที่มีกระดูกจักรพรรดิ ถือเป็นอัจฉริยะตั้งแต่เกิด การฝึกฝนไม่มีอุปสรรคจนสามารถก้าวเข้าสู่ระดับสูงได้อย่างแน่นอน ส่วนลูกพี่ลูกน้องของเขาซึ่งเป็นบุตรชายของลุงก็มีเนตรคู่ลึกลับ ทั้งสองคนเกิดในตระกูลหลัก

เขาจำได้ว่าหลายวันที่ผ่านมา ลุงได้หลอกเขาไป และบังคับให้เอากระดูกจักรพรรดิของเขาไปถ่ายโอนให้กับลูกพี่ลูกน้อง และทำลายพลังบ่มเพาะของเขา จนทำให้เขาต้องหลบหนีออกมา แต่เขายังพอมีโชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ภักดีตระกูล และหนีรอดมาได้

ถึงแม้จะหนีห่างจากตระกูลสือไกลหลายพันลี้แล้ว แต่ลุงยังส่งคนไล่ล่าตามมาจนถึงที่นี่

“เอาละ ดูท่านายน้อยสือฮ่าวคงไม่มีคำฝากฝังใดๆแล้ว สามารถไปสู่ทางสงบได้อย่างสบายใจแล้ว”

“ช่างชั่วร้ายจริงๆ!”

“พวกเจ้าขุดกระดูกจักรพรรดิของข้าแล้ว ยังส่งคนติดตามไล่ล่าฆ่าข้าทั่วทุกสารทิศเชียวหรือ!”

“ถ้า ข้าสือฮ่าวไม่ตาย ข้าจะคิดบัญชีกับพวกเจ้าทั้งบนฟ้าและในนรก!”

“ฮ่าฮ่า พี่ใหญ่ อย่าเสียเวลาไปคุยกับเขาเลย ผู้ที่เป็นแค่ขยะยังกล้ามาพูดว่าจะคิดบัญชีกับข้าหรือ?”

“ฮึๆๆ! ท่านอัจฉริยะ สือฮ่าวน้อย น่าสนใจจริงๆ”

“ไม่รู้ว่าการฆ่าอัจฉริยะมันเป็นอย่างไร วันนี้เจ้ามีโชคได้เป็นอัจฉริยะคนแรกที่ตายใต้ดาบของข้า เฒ่าหลิน”

เฒ่าหลินยังทำท่าทางเย้ยหยัน ลิ้นของเขากวาดไปที่คมดาบ

“รอเดี๋ยว ข้าลืมบอกเรื่องสำคัญให้เจ้ารู้ไปแล้ว นายน้อยสือฮ่าว”

“เมื่อเจ้าไร้กระดูกจักรพรรดิของเจ้าแล้ว นายน้อยผู้นั้นได้เดินทางไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในภาคกลางและเป็นที่โปรดปรานจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ถูกแต่งตั้งให้เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ หากไม่มีอะไรผิดพลาด เขาจะเป็นผู้นำแดนศักดิ์สิทธิ์ในอนาคต”

“ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นไง สือฮ่าวน้อย เจ้าสามารถตายอย่างสงบแล้ว”

“ชายชราหลินผู้นี้ไม่เพียงแค่ฆ่า ยังทำลายจิตใจอีก ฮ่าฮ่าฮ่า!”

“ทุกท่านดูเหมือนจะขำกันดี มีอะไรดีๆ บอกกับข้าสักหน่อย”

ในขณะที่สือฮ่าวกำลังจะกลายเป็นวิญญาณใต้คมดาบ ลมเปลี่ยนทิศมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเฟิงชิงหยางมาถึงที่เกิดเหตุทันที

“ไม่ดีแล้ว สถานการณ์เปลี่ยนไป ตาเฒ่าหลินควรลงมือเดี๋ยวนี้”

ตอนนี้พึ่งรู้สึกตัวที่จะลงมือ แต่ก็สายเกินไปแล้ว ศัตรูมักจะตายเพราะพูดมากเกินไป

เฟิงชิงหยางยกมือหนึ่งและใช้พลังตบตาเฒ่าหลินให้ปลิวไปข้างหลัง ช่วยชีวิตสือฮ่าวที่กำลังรอความตาย

“หนุ่มน้อย ดูจากคุณสมบัติของเจ้าก็ดูไม่ธรรมดา เจ้ากับสำนักของข้ามีโชคชะตาผูกพันอยู่ เจ้าอยากเข้าร่วมสำนักของข้าหรือไม่ ข้าจะปกป้องเจ้าให้ปลอดภัย”

สือฮ่าวได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นไปมอง ทันใดนั้นก็เห็นชายหนุ่มในชุดขาวยืนอยู่ข้างเขา มือไขว้หลัง รูปร่างทั้งหมดของเขาเต็มไปด้วยพลังลึกลับ และแม้แต่ดวงตาที่เคยหมดหวังก็กลับมามีแสงแห่งชีวิตอีกครั้ง

“ท่านผู้อาวุโส ข้ายินดีเข้าร่วมสำนักของท่าน แต่ตอนนี้ข้า… เป็นคนที่ไร้ประโยชน์ไปแล้ว…”

“ไม่เป็นไร ข้าบอกว่าเจ้าคืออัจฉริยะ เจ้าก็คืออัจฉริยะ”

“ท่านผู้อาวุโสทราบเรื่องกระดูกจักรพรรดิของข้าด้วยหรือ?” สือฮ่าวคิดในใจ

“ท่านผู้อาวุโสทราบเรื่องราวของข้าด้วยหรือ?”

“ไม่ แต่บนใบหน้าของเจ้าเต็มไปด้วยเรื่องราว!”

ก่อนมาที่นี่ เฟิงชิงหยางได้ตรวจสอบผ่านระบบแล้ว

สือฮ่าว: อัจฉริยะยอดเยี่ยมจากตระกูลสือ กระดูกจักรพรรดิถูกขุดออกตกลงจากอัจฉริยะสู่ขยะ

กระดูกจักรพรรดิ (สามารถฟื้นฟูได้)

ระดับพลัง: (หลอมรวมขั้นต้น)

ดีมาก ดีมาก ศิษย์คนแรกคืออัจฉริยะตั้งแต่เกิด แม้ว่ากระดูกจักรพรรดิจะถูกขุดออกไปแล้ว แต่ก็ยังสามารถฟื้นฟูได้ ไม่ต้องใช้เวลาฝึกมากก็กลายเป็นผู้นำของตระกูลได้แล้ว อ๋อ ไม่ใช่ ผู้นำของสำนักชิงหยุนเลย

อีกด้านหนึ่ง พวกคนในชุดดำก็มองหน้ากัน มือกำดาบอยู่ ไม่คาดคิดว่าจะมีคนเข้ามาขัดขวางกลางทาง

ตาเฒ่าหลินโดนเฟิงชิงหยางตบไปก็ลุกขึ้นยืนได้

“ยอดฝีมือขอบเขตแปรวิญญาณ!?”

ในบรรดาพวกเขาทั้งห้าคน มีแค่สามคนที่อยู่ขอบเขตแปรวิญญาณขั้นต้น ส่วนที่เหลือสองคนอยู่ขอบเขตวิญญาณแรกกำเนิด

“จะทำอย่างไรดี…”

แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ต้องมีภูมิหลัง

“ไอ้หนู พวกเราคือคนตระกูลสือแห่งแคว้นหลิงโจว เจ้าจะปกป้องเด็กคนนี้ได้เช่นนั้นหรือ? เจ้าจะแบกรับความโกรธของตระกูลสือได้หรือ?”

เฟิงชิงหยางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “สำนักชิงหยุนมีผู้เชี่ยวชาญมากมาย ไม่ต้องพูดถึงตระกูลสืออันเล็กจ้อย ถึงแม้แต่คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องยอมศิโรราบในสำนักชิงหยุน! ตระกูลสือนับเป็นตัวอะไร?”

เฟิงชิงหยางพูดอย่างจริงจัง พร้อมทั้งท่าทางที่ดูไร้จุดด่างพร้อยในชุดขาว และความไม่แยแสกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่ออกมา ทำให้เขาดูเหมือนผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอด

แต่เขาก็ไม่ได้โกหกทั้งหมด แม้ว่าปัจจุบันสำนักชิงหยุนจะมีแค่สองคนจริงๆ แต่ก็มีบรรพชนระดับมหาจักรพรรดิอยู่ที่นี่ ไหนๆ ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะถูกกดดันจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์

สือฮ่าวในใจพลันรู้สึกดีขึ้น เพิ่งกังวลว่าจะทำให้สำนักของท่านผู้อาวุโสเดือดร้อน ตอนนี้ดูเหมือนตัวเองจะได้โชคดีแล้ว

“สำนักที่ข้าจะเข้าร่วมไม่เกรงกลัวแม้แต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์”

“ฮึ่ม! ไม่ว่าเจ้าจะกลายเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ก็ตาม ข้าจะเอาคืนเจ้าแน่!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด