ตอนที่ 1 อัญเชิญบรรพชน
ตอนที่ 1 อัญเชิญบรรพชน
“ยืนอยู่ราวบันได เส้นผมสบัดสั่นไหวไปมาด้วยความโกรธ!”
“ในยามที่ฝนตกลงมาอย่างพรั่งพรู เงยหน้า หันมองขึ้นไปยังท้องฟ้า พร้อมกับเสียงคำรามอันเกี้ยวกราด!”
ณ ภาคตะวันออก แคว้นหลิงโจว
ภูเขาชิงหยุน สำนักชิงหยุน
ชายหนุ่มในชุดสีขาว ผมยาวสลวย ใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความโกรธ กำลังหันหน้าขึ้นไปยังทางท้องฟ้าและพยายามระบายความไม่พอใจของเขาออกมา
“ฉัน, เฟิงชิงหยาง, ผู้ที่เดินทางข้ามภพมายังโลกแห่งการบ่มเพาะแห่งนี้ เพื่อที่จะมาเป็นเจ้าสำนักกระจอกงอกง่อยเช่นนี้รึ?”
เมื่อสามวันก่อนเนื่องจากการเผชิญหน้าโดยบังเอิญ เฟิงชิงหยางได้เดินทางข้ามภพมายังโลกการแห่งการบ่มเพาะแห่งนี้ ในตอนแรกเขาตื่นเต้นมาก แต่ความเป็นจริงอันโหดร้ายได้ตบหน้าเขาอย่างจัง คนที่เดินทางข้ามภพไม่ใช่ผู้ที่ท้าทายสวรรค์รึ? ไม่ใช่ผู้ที่ เหล่าจักรพรรดิ เทพทิดาทั้งหลายคอยยืนอยู่ข้างรึ?
ในวันที่เขาเดินทางข้ามภพมา เฟิงชิงหยางได้บังเอิญเก็บได้เหรียญตราเจ้าสำนักหนึ่งขึ้นมา
เมื่อถามผู้คนรอบข้างที่เดินทางพลุ่งพล่านไปมา เขาจึ่งได้เรียนรู้ว่า มันคือเหรียญตาของสำนักชิงหยุนในเวลาต่อมา และเขาก็เดินทางอย่างคนขอทานในท่ามกลางสายตาอันประหลาดใจของหลายๆคนจนถึงที่ตั้งของสำนักชิงหยุน
เวลานี้เมื่อมองดูซากปรักหักพังของอาคารสถานที่ต่างๆของสำนักแล้ว เฟิงชิงหยางรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ แต่ทว่าไม่มีน้ำตาออกมา
“ผู้คนละ? ผู้คนอยู่ที่ไหน? สำนักของข้าอยู่ที่ไหน?”
“ออกมาเร็วเข้า เจ้าสำนักอยู่ที่นี่เพื่อมอบความอบอุ่น และ แสงสว่างให้กับพวกเจ้าแล้ว”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตอบกลับเขาคือ “ปัง!”
เขามองไปในระยะไกล และเพียงเพราะเสียงของเขาดังเกินไป ส่วนหนึ่งของอาคารที่ไม่ยังถล่มจึงพังทลายลง
สิ่งนี้ทำให้สำนักที่เป็นซากปรักหักพังอยู่แล้วยิ่ง ดูย่ำแย่ลงไปอีก
“จะทำอย่างไร จะทำอย่างไรดี!”
"บ้าเอ๊ย!"
เชือกมักจะขาดตรงที่บางที่สุด เช่นเดียวกันโชคร้ายก็มักจะเกิดขึ้นกับคนที่ทุกข์ยากลำบาก!
ครั้นหวนระลึกถึงหญิงวัยกลางคนเมื่อวาน ผู้มีรูปร่างอวบอิ่มและดูมีอันจะกินนั้น
“หนุ่มน้อยเอย ทำไมหน้าตาดีเช่นนี้ถึงมาเป็นขอทานได้เล่า?”
“หากมีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ จงบอกป้าเถิด ป้าจะช่วยเอง”
ด้วยความคิดพลุ่งพล่าน เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่และลุยต่อไป!
“คนคือเหล็ก ข้าวคือเหล็กกล้า มิได้กินสักมื้อแล้วจะเป็นเช่นไร!”
【“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีแก่นายท่าน! ท่านได้รับเหรียญตราของเจ้าสำนัก และได้เป็นเจ้าสำนักชิงหยุน ระบบได้ทำการผูกมัดสำเร็จแล้ว!”】
ขณะที่เฟิงชิงหยางกำลังจะลงจากเขา เสียงหนึ่งก็ดังก้องในจิตสำนึก
“ระบบ! นั่นเจ้ารึ? โอ้ ข้าเกือบสิ้นหวังว่าจะไม่ได้พบเจ้าแล้ว…” เขากล่าวด้วยความตื่นเต้น
【“นายท่านอย่าได้ตื่นเต้น ระบบของข้าอาจมาช้าได้ แต่จะไม่มีวันขาดหาย!”】
【“ข้าคือระบบสำนักเทพแห่งสรวงสวรรค์ ข้าจะช่วยท่านสร้างสำนักให้ยิ่งใหญ่ที่สุดในสรรพจักรวาล!”】
【“ข้าได้มอบของขวัญต้อนรับมือใหม่ให้แก่ท่านแล้ว ระบบจะมอบหมายภารกิจเป็นระยะ หากท่านทำสำเร็จก็จะได้รับรางวัลมหาศาล และแม้ไม่สำเร็จก็มิได้มีโทษใด”】
“สำนักเทพแห่งสรวงสวรรค์อันยิ่งใหญ่ที่สุดงั้นรึ? ข้าได้ร่ำรวยแน่แล้ว!”
“ระบบ เปิดของขวัญต้อนรับมือใหม่เถิด!”
【“ติ๊ง ของขวัญต้อนรับมือใหม่ถูกเปิดแล้ว”】
【“ขอแสดงความยินดีแก่นายท่าน ท่านได้รับบัตรอัญเชิญสีทองหนึ่งใบ”】
【“ขอแสดงความยินดีแก่นายท่าน ท่านได้รับบัตรเพิ่มพลังบ่มเพาะแบบสุ่มหนึ่งใบ”】
【“ขอแสดงความยินดีแก่นายท่าน ท่านได้รับบัตรสร้างสำนักระดับหนึ่ง”】
มีคำอธิบายวิธีใช้ของพวกนี้แนบมาด้วย:
บัตรอัญเชิญสีทอง: ใช้อัญเชิญผู้แข็งแกร่งระดับมหาปราชญ์ถึงระดับมหาจักรพรรดิแบบสุ่ม
บัตรเพิ่มพลังบ่มเพาะแบบสุ่ม: ใช้เพื่อเพิ่มระดับบ่มเพาะของตนเองแบบสุ่ม ไม่มีข้อจำกัด ขึ้นอยู่กับดวงล้วนๆ
บัตรสร้างสำนัก: สมบัติวิเศษที่จำเป็นต่อการก่อร่างสร้างสำนักให้เจริญรุ่งเรือง
“โอ้โห! ของขวัญต้อนรับมือใหม่นี้รางวัลช่างล้นหลามนัก!”
“นี่มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว…!”
“สุ่มเพิ่มระดับตามดวงได้รึ? แล้วไหนจะบัตรอัญเชิญผู้แข็งแกร่งจากระดับมหาปราชญ์ถึงมหาจักรพรรดิอีก? เจ้าคิดว่ากำลังเขียนนิยายรึ! นิยายยังมิกล้าเขียนเช่นนี้เลยนะ!”
เฟิงชิงหยางตะลึงกับบัตรที่ปรากฏในจิตของเขา และอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชื่นชมความสามารถอันเก่งกล้าของระบบ
【“ไม่มีสิ่งใดที่ระบบนี้ทำไม่ได้ มีเพียงสิ่งที่ท่านคิดไม่ถึงเท่านั้น”】
“รอช้าอยู่ไย ใช้เดี๋ยวนี้เลยสิ!” เฟิงชิงหยางพูดอย่างตื่นเต้น พลางถูมือไปมา
【“บัตรเพิ่มพลังบ่มเพาะแบบสุ่ม กำลังใช้งาน…ติ๊ง ขอแสดงความยินดีแก่นายท่าน ท่านได้รับการบ่มเพาะระดับแปรวิญญาณ”】
เขาจ้องบัตรเพิ่มพลังบ่มเพาะสุ่มด้วยความคาดหวัง เมื่อเห็นว่าบัตรได้พาเขาขึ้นสู่ระดับแปรวิญญาณ ก็หยุดลง
“นี่มันอะไร! ดวงข้าช่างแย่นักรึ?” เฟิงชิงหยางบ่นออกมาอย่างขัดใจ “เมื่อก่อนข้าได้ฉายาว่า ‘เจ้าชายนำโชค’ นะ!”
ทันใดนั้นก่อนที่เขาจะทันได้เอ่ยคำใดอีก ก็รู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณที่มหาศาลพุ่งเข้าสู่จุดวิถี แผ่ซ่านไปทั่วร่างผ่านเส้นชีพจรทุกสาย ราวกับได้เปิดจุดชีพจรทุกแห่ง เหมือนดั่งเสียงเมล็ดถั่วที่ถูกทอดดังเปรี๊ยะๆ
ขอบเขต หลอมรวม… ก่อตั้งรากฐาน… แก่นทองคำ… วิญญาณแรกกำเนิด… และบรรลุถึงจุดสูงสุดของระดับแปรวิญญาณในพริบตา!
เฟิงชิงหยางกลายจากคนธรรมดาไร้พลังไปสู่ผู้บ่มเพาะระดับที่ห้า เขารู้สึกว่าร่างกายเปี่ยมไปด้วยพลัง สามารถยกภูเขา ปราบแม่น้ำลำธารไม่ใช่เรื่องยากเลย
“ระดับแปรวิญญาณสินะ ก็ไม่นับว่าแย่… อย่างน้อยข้าเพิ่งเป็นคนธรรมดาเมื่อครู่” เขารำพึงพลางนึกถึงการจัดแบ่งขอบเขตของพลังบ่มเพาะที่ได้ยินมาระหว่างการขอทาน ได้แก่
หลอมรวม
ก่อตั้งรากฐาน
แก่นทองคำ
วิญญาณแรกกำเนิด
แปรวิญญาณ
สร้างวิญญาณ
ผู้ไร้มลทิน
เบิกฟ้า
ปราชญ์
ปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์
มหาปราชญ์
ราชันปราชญ์
จักรพรรดิ
มหาจักรพรรดิ
ในยุคนี้ที่ไร้ซึ่งราชันปราชญ์ จักรพรรดิ และมหาจักรพรรดิ ผู้แข็งแกร่งที่สุดที่มีจึงเป็นมหาปราชญ์ผู้ถืออำนาจสูงสุดในยุคสมัยนี้
เฟิงชิงหยางจ้องมองบัตรอัญเชิญสีทองด้วยความคาดหวัง “ขอเป็นมหาจักรพรรดิทีเถอะ… แต่ถ้าได้แค่มหาปราชญ์ก็ไม่เลวแล้ว”
“ใช้เลย!”
【“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีแก่เจ้านายท่าน ท่านได้ใช้บัตรอัญเชิญเรียบร้อยแล้ว กำลังอัญเชิญ…ติ๊ง อัญเชิญสำเร็จ ขอแสดงความยินดีแก่นายท่าน ท่านได้อัญเชิญผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิ – บรรพชนแห่งสำนักชิงหยุน, หลี่ชิงหยุน”】
“ยอดเยี่ยม! ตำนานรุ่งโรจน์!”
“ดวงเจ้าชายนำโชคของข้ากลับมาแล้ว!”
ในขณะนั้นปรากฏรอยแยกขนาดใหญ่กลางท้องฟ้า ตามมาด้วยพลังมหาจักรพรรดิอันมหาศาลแผ่กระจาย หากเป็นผู้ที่มีพลังต่ำกว่านี้ ย่อมถูกบดขยี้โดยทันที แต่เนื่องจากเฟิงชิงหยางเป็นผู้อัญเชิญจึงไม่ส่งผลต่อเขา
ในทันทีนั้น บรรดาผู้แข็งแกร่งทั่วทั้งแผ่นดินก็สัมผัสได้ถึงพลังนี้
นี่มัน… พลังมหาจักรพรรดิ!
มีมหาจักรพรรดิอีกองค์ปรากฏขึ้นแล้ว! รีบไปทางทิศตะวันออกกันเถิด!
เหล่าขุมกำลังใหญ่ต่างตื่นตัว ส่งคนไปทางทิศตะวันออก เพื่อสร้างมิตรหรือสวามิภักดิ์ แม้กระทั่งยอมเป็นข้ารับใช้ก็ยังดี เพราะนี่คืออำนาจแห่งมหาจักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุด
“เฮ้ เจ้าแก่นั่นน่ะ อย่ามัวจ้องอยู่ รีบมาคารวะต่อเจ้าสำนักเถิด!”
เมื่อพลังมหาจักรพรรดิจางลง ปรากฏร่างชายชราผมขาวหน้ายังเยาว์ที่ยืนอยู่ไม่ไกล เขาค่อยๆลืมตาและเอ่ยออกมา
“ฮ่าๆ ข้ากลับมาแล้ว! ข้ามหาจักรพรรดิชิงหยุนกลับมาแล้ว!”
หลี่ชิงหยุนมองไปยังเฟิงชิงหยาง ด้วยความรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่น่ากลัวเกาะกุมเขาอยู่ในความมืดสลัว สัญชาตญาณบอกเขาว่าหากขืนขัดขืนก็จะต้องพบจุดจบอันเลวร้าย!
บุรุษผู้นี้อาจอยู่เหนือกว่ามหาจักรพรรดิ…
หลี่ชิงหยุนไม่กล้าคิดมาก “ข้าน้อยหลี่ชิงหยุนขอคารวะท่านเจ้าสำนัก ขอบคุณที่ชุบชีวิตข้าขึ้นมา”
“อืม บรรพชนแห่งสำนักชิงหยุนในระดับมหาจักรพรรดิก็ถือว่าใช้ได้อยู่”
“ขอบคุณท่านเจ้าสำนัก สำนักชิงหยุน… สำนักชิงหยุนรึ?”
หลี่ชิงหยุนหันไปมองรอบๆ พลางตรวจสอบสภาพภูมิประเทศ ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคย
นี่มัน… สำนักชิงหยุนของข้า! แต่เหตุใดถึงพังพินาศเป็นเช่นนี้เล่า! นอกจากท่านเจ้าสำนักอันแสนทรงพลังแล้วก็เหลือแต่ซากปรักหักพัง!
“มีสิ่งใดผิดปกติรึ?” เฟิงชิงหยางสังเกตเห็นท่าทางประหลาดของชายชราจึงถามขึ้น
“ไม่กล้าหรอก หากจะบอกความจริงแก่ท่านเจ้าสำนัก ข้าหลี่ชิงหยุนคือผู้ก่อตั้งสำนักชิงหยุน”
“แต่ในบัดนี้… กลับกลายเป็นเพียงซากปรักหักพังไปเสียแล้ว กาลเวลาช่างเป็นดาบที่ไม่ปรานี แม้แต่ข้าก็ยังล่มสลายในกระแสแห่งสายธารกาลเวลานี้”
“อะไรนะ บรรพชนแห่งสำนักชิงหยุน?”
เฟิงชิงหยางเพิ่งสังเกตดูหน้าจอระบบอย่างละเอียด ก็พบว่าผู้ที่ถูกอัญเชิญมาเป็นผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิที่แท้คือบรรพชนแห่งสำนักชิงหยุน!
“ข้าเป็นเจ้าสำนักชิงหยุนแล้ว เช่นนี้ชายชราผู้นี้ก็คือบรรพชนของข้าน่ะสิ?”
“???”
“แล้วข้าเอาแต่เรียกท่านว่า ‘ชายแก่’ ไม่กลายเป็นลูกศิษย์อกตัญญูที่หักหลังบรรพชนหรอกหรือ!”
เฟิงชิงหยางนึกถึงตำนานที่ว่า สำนักชิงหยุนเมื่อหลายล้านปีก่อนยังมีนามว่า สำนักมหาจักรพรรดิชิงหยุน มีบรรพชนที่แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิ หลังจากผ่านสงครามใหญ่หลายคราว สำนักก็เสื่อมถอยจนกลายเป็นกลุ่มอ่อนแอที่มิได้มีชื่อเสียงใดๆ
นั่นคือเหตุผลที่ผู้คนต่างมองดูเขาด้วยสายตาดูถูก
แต่มิใช่ว่าเขาคิดมากเกินไป เขาเพียงแค่อยากได้ข้าวประทังท้องเท่านั้น!