บทที่ 1188: ความทรงจำที่ว่างเปล่า สนามที่อ่อนแอที่สุด
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 1188: ความทรงจำที่ว่างเปล่า สนามที่อ่อนแอที่สุด
เครื่องแต่งกายที่แสนจะบางเบา นอกจากเกราะอกและผ้าคาดเอวแล้ว ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายก็แทบจะเปลือยเปล่าทั้งหมด เมื่อเทียบกับการป้องกันแล้ว ชุดเกราะของเธอกลับทำหน้าที่ปกปิดส่วนสำคัญสุดท้ายมากกว่า ซึ่งในสายตาของเรดฟิลด์แล้ว มันช่างไร้ความหมายสิ้นดี
และเธอคนนั้นก็คือรีเบคก้า หลานสาวของริคุ โดรุฟิอุส อดีตพระราชาแห่งเดรสโรซ่า หนึ่งในเหยื่อโดยตรงจากการกระทำของโดฟลามิงโก้
สการ์เล็ต ผู้เป็นแม่เสียชีวิตด้วยน้ำมือของเดียมันเต้ ส่วนคิวรอส ผู้เป็นพ่อก็ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นทหารของเล่น ถูกลืมเลือนจากผู้คน เพื่อให้รีเบคก้ามีความสามารถในการป้องกันตัวเอง คิวรอสจึงจำใจต้องให้เธอไปฝึกฝนการต่อสู้
แต่เห็นได้ชัดว่ารีเบคก้าไม่ใช่คนที่มีพรสวรรค์ในการต่อสู้มาตั้งแต่เกิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านพละกำลัง เธอไม่มีข้อได้เปรียบเลยแม้แต่น้อย จึงได้แต่ฝึกฝนทักษะเพื่อชดเชยจุดอ่อนของตัวเอง
หลังจากโดฟลามิงโก้ขึ้นครองอำนาจ ไวโอเล็ตก็ได้ดำรงตำแหน่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของกลุ่มโดฟลามิงโก้เนื่องจากความสามารถพิเศษของเธอ นอกจากนั้นแล้ว สิ่งที่เชื้อพระวงศ์คนอื่น ๆ และผู้ติดตามของพวกเขาทำได้ก็มีเพียงแค่มีชีวิตรอด พวกเขาต้องต่อสู้ในฐานะนักสู้ในสนามประลองเพื่อความบันเทิงของผู้อื่น
ถ้าหากให้วาโนะคุนิได้เห็น พวกตระกูลโคสึกิและเหล่าข้ารับใช้คงจะเข้าใจว่า วิธีการของกลุ่มร้อยอสูรนั้นอ่อนโยนมาก เพราะกลุ่มร้อยอสูรกับตระกูลโคสึกิไม่ได้มีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง กลุ่มร้อยอสูรก็ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ดั้งเดิมของวาโนะคุนิ ตัวไคโดเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องแบบนั้น
แต่เดรสโรซ่านั้นแตกต่างกัน เมื่อหลายปีก่อน ในสมัยที่รัฐบาลโลกยังไม่ถูกก่อตั้งขึ้น ราชวงศ์ของเดรสโรซ่าก็คือตระกูลดองกี้โฆเต้ จนกระทั่งพวกเขาเดินทางไปยังแมรี่ จัวร์ ในฐานะชนชั้นสูงมังกรฟ้า ตระกูลริคุ โดรุฟิอุส จึงได้ขึ้นเป็นราชวงศ์ของเดรสโรซ่า
ในสายตาของมิงโก้ เขาแค่ทวงคืนสิ่งที่เป็นของเขากลับมา บวกกับนิสัยของเขาเอง เรื่องราวทั้งหมดจึงกลายเป็นแบบนี้
โดฟลามิงโก้ไม่ได้มีเป้าหมายในการกดขี่ข่มเหงเหมือนคุโรซึมิ โอโรจิ แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะใช้วิธีการที่อ่อนโยนเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะต้องการใช้ประโยชน์จากความสามารถของไวโอเล็ต โดฟลามิงโก้คงไม่เหลือเชื้อพระวงศ์เอาไว้
สนามประลองในยุคที่โดฟลามิงโก้ครองอำนาจนั้นอันตรายถึงชีวิต รีเบคก้าที่มีพละกำลังด้อยกว่าอยู่แล้วยังมีนิสัยที่ไม่ต้องการทำร้ายผู้อื่นอีก
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเลือกที่จะต่อสู้โดยหันหลังพิงขอบสนามประลอง วิธีการต่อสู้ของเธอคือทำให้คู่ต่อสู้ตกขอบสนามประลองและถูกตัดสิทธิ์
แม้ว่าจะสวมชุดเกราะที่แข็งแกร่ง แต่ถ้าหากถูกโจมตี เธอก็ยังคงได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอจึงตัดสินใจสละอุปกรณ์ป้องกันที่ไม่จำเป็นทั้งหมดออกไป เพื่อลดภาระให้กับร่างกาย และเพิ่มความคล่องตัวให้มากที่สุด
"แพดดอน นายว่าที่ผ่านมาฉันเก็บตัวเกินไปรึเปล่า ฉันเพิ่งค้นพบว่า บนโลกนี้ยังมีคนน่าสนใจอีกเยอะ นอกจากอารมณ์ที่น่าขยะแขยงแล้ว บางครั้งก็ยังเจอคนโง่ ๆ บ้าง สองสามวันที่ผ่านมานี้ยิ่งเจอเยอะเป็นพิเศษ"
"ไม่รู้สิ หัวหน้าเรด พวกเราเพิ่งรู้จักกันได้ปีนิด ๆ เอง แต่หลังจากเรื่องที่หมู่บ้านสลีปปี้ หัวหน้าเรดก็เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ"
"แค่ปีนิด ๆ เองเหรอ? ช่างเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานจริง ๆ เอาล่ะ สาวน้อย เธออยากได้พลังของผลสั่นสะเทือนสินะ?"
พลังฮาคิสังเกตของเรดฟิลด์นั้นเอาแต่ใจตัวเองมาก หากเขาต้องการ เขาก็สามารถรับรู้เรื่องราวในอดีตและความคิดของคนส่วนใหญ่ได้ในเวลาอันสั้น
ด้วยเหตุผลที่ว่าคนส่วนใหญ่ไม่มีความลับใด ๆ ต่อหน้าเขา เขาจึงกลายเป็นคนหยิ่งยโส และหาเพื่อนที่ถูกใจได้ยาก
ในขณะที่รีเบคก้าตกใจกับการที่สปาร์ตันล้มลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ เรดฟิลด์ก็ได้อ่านความทรงจำและจิตใจของรีเบคก้าคร่าว ๆ แล้ว เขารู้เหตุผลที่เธอเข้าร่วมการแข่งขันในสนามประลองครั้งนี้
เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังของผลสั่นสะเทือน และโค่นล้มโดฟลามิงโก้
เมื่อถูกถามเช่นนั้น รีเบคก้าก็พยักหน้าเบา ๆ แล้วพูดว่า "คุณตาเองก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ? แก่ขนาดนี้แล้วยังอยากได้ผลไม้นั่นอีก พูดถึงหนวดขาว เขาก็เป็นคนที่มีอายุมากเหมือนกัน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผลไม้นี้ถึงมีแรงดึงดูดกับคนสูงวัยขนาดนี้"
"ใช่แล้ว นิวเกตอายุขนาดนั้นยังทำแบบนั้นได้ ที่นี่ควรจะมีคนที่คู่ควรให้ฉันลงมือมากกว่านี้"
เรดฟิลด์ขยับแขนของเขาเบา ๆ ตอนนี้เขายอมรับสภาพร่างกายที่แก่ชราของตัวเองแล้ว หนวดขาวที่อยู่ในยุคเดียวกับเขายังสามารถเปล่งประกายครั้งสุดท้ายในบั้นปลายชีวิตได้ เขาเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำไม่ได้
"เธอชื่อรีเบคก้าใช่ไหม? ฉันมีคำถาม รูปปั้นหินตรงนั้น ใครกัน?"
"รูปปั้นนั้นเหรอคะ? คิวรอส ชายผู้เป็นตำนานของสนามประลอง ไม่เคยพ่ายแพ้ แถมยังได้รับบาดเจ็บเพียงครั้งเดียว ว่ากันว่าเขายังคงโลดแล่นอยู่ในสนามประลองแห่งนี้จนกระทั่ง 20 ปีก่อน
แต่หลังจากนั้นเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครจำเขาได้เลย แม้แต่คนเดียว ก็เหมือนกับเรื่องเล่าที่แต่งขึ้น"
"งั้นเหรอ ประเทศนี้มีปัญหาจริง ๆ "
สำหรับเรดฟิลด์แล้ว อดีตของคนอื่นก็เหมือนกับสไลด์โชว์ในหัวของเขา แต่ที่เดรสโรซ่า เขาพบเจอกับปัญหาสไลด์โชว์โหลดไม่สำเร็จมากกว่าหนึ่งครั้ง
ดูเหมือนว่าผู้คนในที่แห่งนี้จะถูกปิดกั้นความทรงจำบางอย่าง แม้แต่เขาก็ไม่สามารถมองเห็นความทรงจำนั้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักสู้ในสนามประลอง
ตราบใดที่เกี่ยวข้องกับรูปปั้นนี้ เขาจะไม่สามารถมองเห็นความทรงจำนั้นได้อย่างแน่นอน ปรากฏการณ์แปลกประหลาดนี้ทำให้เรดฟิลด์เกิดความสนใจเป็นพิเศษ
และในตอนนั้นเอง ผู้ดูแลเขตเตรียมพร้อมก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นสปาร์ตันที่หมดสติไป เขาก็มองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า "นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"
"ไม่รู้สิครับ เขาก็แค่ล้มลงไปเฉย ๆ อาจจะอ่อนแอเกินไปมั้ง?"
"คุณตา ล้อเล่นน่า สปาร์ตันจะมาเป็นลมเองได้ยังไง? มีใครเห็นไหมว่าใครเป็นคนเริ่มทะเลาะวิวาท?"
หลังจากสอบถามไปรอบ ๆ คำตอบก็เหมือนกันหมด คือสปาร์ตันเป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อนแล้วก็หมดสติไปเอง สุดท้ายเรื่องนี้ก็เงียบหายไป
หลังจากที่เขาจากไป เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นในเขตเตรียมพร้อม
"นี่ รีเบคก้า เห็นไอ้หมอนี่ซวยแบบนี้เธอคงดีใจน่าดูสินะ!"
"ใช่สิ เขารังแกเธอมาตลอด น่าเสียดาย วันนี้คงทำต่อไม่ได้แล้ว"
ท่ามกลางเสียงเยาะเย้ยของผู้คน รีเบคก้ากัดริมฝีปากแน่น ไม่พูดอะไรออกมา ทำให้เรดฟิลด์ที่เห็นความทรงจำของรีเบคก้าเกิดความคิดบางอย่าง
"ถึงจะอ่อนแอ แต่เธอก็ต่างจากคนอื่น ๆ ที่นี่ ฉันพอจะยอมรับในจิตใจของเธอได้ งั้นเหรอ รีเบคก้า สนใจออกทะเลไปกับฉันไหม?
แก่แล้ว มีคนคอยช่วยงานบนเรือก็คงดี นายว่าไง แพดดอน? "
"ไม่มีปัญหา หัวหน้าเรด ตามใจเลย"
เร้ดเดอะเรด ผู้เป็นยอดฝีมือแห่งยุคสมัยเช่นเดียวกัน หลังจากที่เขาเผชิญหน้ากับจิตใจของตัวเองแล้ว เขาก็มีความมั่นใจในพลังของตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม
เขาต้องการเพื่อนร่วมทางที่มีทั้งพลังและจิตใจที่เขาตามหา และเขาก็ให้ความสำคัญกับจิตใจมากกว่าพลัง
ถึงแม้รีเบคก้าจะอ่อนแอ แต่เธอก็ผ่านเกณฑ์ในด้านนี้
"คุณตา ล้อเล่นรึเปล่าคะ?"
"เปล่า แต่ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจแน่ชัด ถ้าเธอมาเป็นลูกเรือของฉัน ฉันจะจัดการโดฟลามิงโก้ให้เธอก็ไม่ใช่เรื่องยาก"
"คุณอาจจะไม่รู้ว่าโดฟลามิงโก้แข็งแกร่งแค่ไหน เรื่องแบบนี้คุณอย่าเข้าไปยุ่งเลยจะดีกว่าค่ะ"
ถึงแม้รีเบคก้าจะหยุดสปาร์ตันได้ แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกถึงพลังที่น่าสะพรึงกลัวของเรดฟิลด์ เธอไม่รู้ว่าคำพูดของเรดฟิลด์ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
ในฐานะโจรสลัดที่ทำตามใจตัวเอง เขามีสิทธิ์ทำแบบนั้นได้จริง ๆ เหตุผลก็แค่เพราะการกระทำของรีเบคก้าทำให้เขาหันมามอง แล้วก็เกิดความสนใจขึ้นมาเท่านั้น
"ยังไงเธอก็อยู่บล็อก B งั้นคนที่ชนะจากบล็อก B ก็ให้เป็นฉันกับเธอแล้วกัน เรื่องบางเรื่อง รอดูต่อไปก่อนแล้วค่อยตัดสินใจก็ได้"
เมื่อพูดจบ เสียงหัวเราะในห้องเตรียมพร้อมก็ดังยิ่งกว่าเดิม แต่เรดฟิลด์ไม่สนใจ กลับเดินตรงไปยังสนามประลอง ทิ้งให้รีเบคก้ายืนงงอยู่คนเดียว
"ฉันไม่ได้บอกว่าฉันเป็นผู้เข้าแข่งขันบล็อก B สักหน่อย..."
"เอาล่ะทุกท่าน! หลังจากรอคอยกันมานาน การต่อสู้ในบล็อก B ก็พร้อมแล้ว! มาดูกันว่าผู้เข้าแข่งขันในรอบนี้มีใครบ้าง! จอมวางเพลิงดามัสก์ นักเวทมนตร์มามิ พลทหารลอว์แกน!
โอ้! และยังมีนักสู้สาวสวยที่หาได้ยากในสนามประลองแห่งนี้ เจ้าหญิงแห่งภาพลวงตา รีเบคก้า!"
ไม่ว่าผู้เข้าแข่งขันคนก่อน ๆ จะมีฉายาว่าอะไร พวกเขาก็ได้รับเสียงเชียร์ตอนปรากฏตัว มีเพียงรีเบคก้าคนเดียวเท่านั้น ที่เมื่อเธอก้าวขึ้นสู่เวที เสียงที่ดังขึ้นกลับมีแต่คำด่าทอ
"ตายซะ รีเบคก้า! วันนี้ต้องโดนฆ่าให้ตาย!"
"ตายซะ ไอ้พวกสัตว์เดรัจฉานตระกูลริคุ!"
"เธอนี่ไม่เป็นที่นิยมเอาซะเลย ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่เกลียดพวกนี้เหรอ? ไม่อยากฆ่าพวกมันให้หมดเลยรึไง?"
เรดฟิลด์กลายเป็นเพียงคนเดียวที่ยอมพูดคุยกับรีเบคก้า ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ถึงกับถอยห่างทันทีที่ขึ้นเวที เพื่อไม่ให้โดนลูกหลง
"ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของโดฟลามิงโก้ พวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์"
และในตอนนั้นเอง ผู้ชมก็เปลี่ยนท่าทีทันที เมื่อตัวละครที่พวกเขาชื่นชอบปรากฏตัวขึ้น
"โอ้! เขามาแล้ว! หนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของตระกูล ผู้ช่วยพระราชาโดฟลามิงโก้แห่งประเทศนี้ กอบกู้ประเทศนี้ ผู้ควบคุมการแข่งขันในสนามประลอง วีรบุรุษของพวกเรา มิสเตอร์เดียมันเต้!
เพื่อแสดงความยุติธรรม มิสเตอร์เดียมันเต้จะลงแข่งในรอบคัดเลือกด้วยตัวเอง!"
เสียงของกัซแหบพร่าเพราะความตื่นเต้น ท่ามกลางเสียงเชียร์ เดียมันเต้ถือไมโครโฟน เดินไปยังกลางเวทีราวกับกำลังแสดงละคร
นี่เป็นผลลัพธ์ที่ได้จากการจัดกลุ่ม ผู้เข้าแข่งขันในสนามล้วนแต่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ฝีมือจริง ๆ นั้นไม่ได้เรื่อง ทำให้เขามีโอกาสผ่านเข้ารอบได้ง่าย
แถมยังมีรีเบคก้าที่เป็นเป้าหมายแห่งความเกลียดชังอยู่ด้วย วีรบุรุษปราบคนชั่ว นี่คือสิ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดที่นี่
ด้วยการปรากฏตัวของเดียมันเต้ บรรยากาศบนเวทีของบล็อก B ในสนามประลองก็ถูกยกระดับขึ้นสู่จุดสูงสุด การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น
"พลทหารลอว์แกน ลอว์ลิงเกอร์ จากอาณาจักรมาเกียซึก้า กำลังแสดงท่าไม้ตายของเขา ลอว์ลิงเกอร์ เดธสปิน! สนามประลองถูกเขาทำให้วุ่นวายไปหมด!
ว่ากันว่าเขามีกำลังในการจับถึง 500 กิโลกรัม ถ้าโดนเขาจับล่ะก็ กระดูกจะแหลกละเอียดเลยทีเดียว!"
ลอว์ลิงเกอร์ เดธสปิน คือการจับผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งแล้วกลิ้งไปบนพื้น วิธีการต่อสู้แบบนี้ได้ผลดีมากในสนามประลองแคบ ๆ แต่ดูเหมือนว่าลอว์ลิงเกอร์ที่โดดเด่นจะทำให้เดียมันเต้ไม่พอใจ
"เด่นเกินไปแล้ว ที่นี่มันเวทีของฉันนะ!"
เดียมันเต้ปรากฏตัวขึ้นขวางทางลอว์ลิงเกอร์ เขาสะบัดผ้าคลุมของตัวเองเข้าใส่ลอว์ลิงเกอร์ ผ้าคลุมที่ดูเบาบาง แต่เมื่อสัมผัสกันในชั่วพริบตาก็ส่งลอว์ลิงเกอร์กระเด็นออกไป
เดียมันเต้เป็นผู้ใช้พลังผลปลิวไสว สายพารามิเซีย สามารถเปลี่ยนสิ่งของที่สัมผัสให้กลายเป็นผ้าไหมที่เบาบางได้ แต่คุณสมบัติของวัตถุนั้นจะไม่เปลี่ยนแปลง
ผ้าคลุมที่ดูเบาบางบนตัวเขาจริง ๆ แล้วทำจากเหล็กกล้าหนา และด้วยพลังของเขา มันสามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ตลอดเวลา ลอว์ลิงเกอร์จึงถูกเขาโยนออกจากสนามประลองได้อย่างง่ายดาย
"มิสเตอร์เดียมันเต้! เขาลงมือเร็วมาก ฉันคิดว่าลอว์ลิงเกอร์มีโอกาสเข้ารอบนะ แต่น่าเสียดายจริง ๆ ต่อหน้าวีรบุรุษของพวกเรา เขาสู้กลับไม่ได้เลย!
และในตอนนี้ เจ้าหญิงต้องคำสาปรีเบคก้าก็แอบเหวี่ยงศัตรูออกไปหลายคนแล้ว นั่นคือท่าเต้นรำดาบพิงหลังของเธอ!"
ผู้ชมแสดงท่าทีที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมามากกว่าห้องสมุดปูซาน เสียงเชียร์และเสียงโห่ร้องสลับกันไปมา และไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มต้น สุดท้ายก็กลายเป็นเสียงเดียวกัน
"ท่านเดียมันเต้! จัดการรีเบคก้าซะ!"
"ใช่แล้ว ท่านเดียมันเต้ ฆ่าผู้หญิงน่ารังเกียจคนนั้นซะ!"
"ฮ่า ๆ ๆ รีเบคก้า เธอนี่มันน่ารังเกียจจริง ๆ
นี่คือเสียงของผู้ชม ทุกคนตะโกนแบบนี้ ถ้าฉันไม่ทำอะไรเลยก็คงลำบากใจแย่ แต่เธอวางใจเถอะ ด้วยคำสั่งของโดฟลา ตอนนี้จะแค่ทำให้เธอเจ็บตัวเล่น ๆ เท่านั้น"
พูดจบเขาก็หยิบดอกไม้ไฟกระดาษออกมาจากอกเสื้อ
ในสนามประลองไม่อนุญาตให้ใช้อาวุธระยะไกล เช่น ปืน ธนู แต่ไม่ได้ห้ามใช้พลังพิเศษ และสามารถขว้างอาวุธในมือได้
ดอกไม้ไฟกระดาษที่เดียมันเต้สร้างขึ้นด้วยพลังพิเศษของเขานั้นถือว่าอยู่บนเส้นแบ่งของกฎ มีช่องว่างให้ตีความได้มาก ในฐานะผู้จัดงาน เห็นได้ชัดว่าเดียมันเต้มีสิทธิพิเศษ
เพื่อความมั่นใจ ในบล็อก B จึงไม่มีผู้เข้าแข่งขันที่แข็งแกร่ง ดังนั้นเดียมันเต้จึงต้องการกำจัดคู่ต่อสู้ในที่นี่ให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นเมื่อเทียบกับคาตาคุริและคนอื่น ๆ เขาจะดูเหมือนพวกไร้ค่า
"เดธสตาร์ดัสท์!"
ทันใดนั้นก็มีเศษกระดาษจำนวนมากปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเหนือสนามประลอง เมื่อเดียมันเต้ปลดปล่อยพลัง เศษกระดาษเหล่านั้นก็กลับคืนสู่สภาพเดิม กลายเป็นลูกเหล็กแหลมคมตกลงมาจากท้องฟ้า
"มาแล้ว! ท่าไม้ตายของมิสเตอร์เดียมันเต้! ดูเหมือนว่าเขาต้องการกำจัดศัตรูอย่างรวดเร็ว! ในสนามประลองแคบ ๆ แบบนี้ นี่มันอาวุธสังหารหมู่ชัด ๆ เดี๋ยวก่อนนะ! ตาแก่นั่นเป็นใคร?!"
เดียมันเต้ใช้ร่มเหล็กที่พับเก็บได้ป้องกันการโจมตีแบบไม่เลือกหน้า คนอื่น ๆ นั้นโชคไม่ดีขนาดนั้น ในพื้นที่จำกัดแบบนี้ พื้นที่เดียวที่หลบการโจมตีได้ก็คือข้างนอกสนามประลอง
ภายใต้การคุกคามของฝนลูกเหล็กแหลมคม หลายคนเลือกที่จะยอมแพ้ คนที่ยังคงยืนหยัดก็ร้องโหยหวน แต่รีเบคก้ากลับไม่ได้รับบาดเจ็บ ข้าง ๆ เธอ เรดฟิลด์กางร่มของเขาขึ้น โครงร่มกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง
"รีเบคก้า เธอประเมินพลังของตัวเองต่ำเกินไป ถึงแม้จะมีพลังของผลสั่นสะเทือน เธอก็คงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของเธอได้หรอกนะ"
ร่มเป็นร่มธรรมดา ๆ แต่ออร่าที่อยู่บนนั้นกลับเข้มข้นมาก
"กำจัดคนไปได้เยอะขนาดนี้ก็สะดวกขึ้นเยอะ ต่อไป เธอดูเฉย ๆ ก็พอ"
แขนสั่นเล็กน้อย ฝนลูกเหล็กแหลมคมลูกสุดท้ายก็ถูกดีดออกไปโดยเรดฟิลด์ ร่มในมือก็ถูกหุบลง ในขณะที่เดียมันเต้ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เรดฟิลด์ก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
ปลายร่มกรีดผ่าน ผ้าคลุมและเสื้อผ้าที่ทำจากโลหะผสมพิเศษของเดียมันเต้ก็ถูกกรีดเป็นรอยยาวในทันที เดียมันเต้สัมผัสได้ถึงภัยคุกคามแห่งความตายที่รุนแรงจากปลายร่มนั้น
"เป็นไปไม่ได้! ทำลายชุดป้องกันของฉันได้ง่าย ๆ แบบนี้เนี่ยนะ?"
"ชุดป้องกัน? ในฐานะลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ถือว่าไม่เลว แต่ก็แค่นั้นแหละ ถ้าเป็นตัวตลกในงานแสดงคงจะสะดุดตาไม่น้อย"
"แกพูดว่าอะไรนะ?!"
ดูเหมือนว่าเรดฟิลด์จะดูถูกเขาด้วยการเรียกว่าตัวตลก เดียมันเต้โกรธจนฟันดาบใส่รัว ๆ แต่เรดฟิลด์ก็หลบได้อย่างสง่างาม ตลอดเวลา เดียมันเต้ไม่สามารถแม้แต่จะแตะเส้นผมของเรดฟิลด์ได้เลย
การกระทำของเรดฟิลด์ทำให้ทั้งสนามเต็มไปด้วยเสียงอุทานอย่างตื่นตะลึง ส่วนกัซก็กำลังค้นหาข้อมูลการแข่งขันอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่รู้เลยว่าตาแก่นี่เป็นใคร
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_