ตอนที่แล้วตอนที่ 908 ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันจะช่วยติดต่อให้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 910 ความรู้สึกขัดตา

ตอนที่ 909 ปล่อยให้ดิ้นรนด้วยตัวเอง


เซวีย ผิงเยว่ ก้าวอย่างเร่งรีบตรงไปยังคฤหาสน์ของ เย่เฉิน

เมื่อมองเห็นลูกชายคนที่สามของเขายืนรออยู่หน้าประตูคฤหาสน์ด้วยท่าทางร้อนรน เซวีย ผิงเยว่ ก็อดไม่ได้ที่จะโกรธอย่างมาก

ระหว่างทางมา เขาได้โทรหาลูกชายเพื่อสอบถามเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นแล้ว

เขาอายุสามสิบกว่าปีแล้ว แต่กลับยังทำตัวเหมือนวัยรุ่นอายุยี่สิบต้นๆ ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แม้แต่ก่อนหน้านี้เขาก็พอจะมองข้ามได้ แต่วันนี้กลับก่อเรื่องใหญ่โตขึ้นมา

ที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่านั้น เรื่องทั้งหมดเริ่มจากการทะเลาะกันเพราะสุนัขสามตัว!

ผัวะ!

ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้นเท่านั้น เซวีย ผิงเยว่ ทนไม่ไหวอีกต่อไป เตะ เซวีย ไห่หมิง ไปหนึ่งทีอย่างแรง

“ตามฉันเข้าไป!”

เซวีย ผิงเยว่ ที่ยังเห็น เซวีย ไห่หมิง ลูกชายยังคงยืนก้มหน้าอยู่ ก็คว้าจับคอเสื้อลาก เซวีย ไห่หมิง ไปกดกริ่งหน้าประตูคฤหาสน์ของ เย่เฉิน

เมื่อประตูคฤหาสน์เปิดออก เซวีย ผิงเยว่ ลากคอลูกชายของเขาเข้าไปข้างใน

“เหล่าเซวีย มาแล้วสินะ เดี๋ยวฉันจะแนะนำให้รู้จัก นี่คือ คุณเย่ หุ้นส่วนที่ฉันเคยพูดถึง..”

คุณหม่า ก้าวออกมาเพื่อทำหน้าที่เป็นคนกลาง เพื่อคลี่คลายความสัมพันธ์

“คุณเย่”

เซวีย ผิงเยว่ เอ่ยทักทายอย่างสุภาพ พร้อมกับยื่นมือออกไปเพื่อจะจับมือกับ เย่เฉิน

แต่ เย่เฉิน ที่นั่งอยู่กลับไม่ลุกขึ้น เพราะเขามีความรู้สึกไม่ดีกับตระกูลเซวีย

“แฮ่ม... คุณเย่ เรื่องวันนี้ทั้งหมดเป็นความผิดของตระกูลเซวียของเรา ทางเรายินดีรับผิดชอบทุกความเสียหายที่เกิดขึ้น”

เซวีย ผิงเยว่ แสร้งไอเบาๆ ก่อนจะแสดงความจริงใจ

“เข้ามา”

เซวีย ผิงเยว่ หันไปมองลูกชายด้วยสายตาดุดัน

เซวีย ไห่หมิง เดินเข้ามาอย่างไม่เต็มใจนัก ก่อนจะหยุดยืนอยู่ข้างพ่อของเขา

“ขอโทษ คุณเย่ เดี๋ยวนี้”

เซวีย ไห่หมิง ไม่กล้าปฏิเสธ เขาเดินมาข้างหน้า เย่เฉิน และโค้งคำนับด้วยความจริงใจพร้อมพูดว่า :

“ผมขอโทษครับ คุณเย่”

เซวีย ไห่หมิง รู้ตัวนานแล้วว่าเขาก่อเรื่องใหญ่โตขนาดไหน

“คุณเย่ ระหว่างทางมาที่นี่ ฉันได้สั่งอายัดบัญชีธนาคารของ เซวีย ไห่หมิง ทั้งหมด และยึดทรัพย์สินทุกอย่างที่เคยมอบให้เขากลับคืนมา”

เซวีย ผิงเยว่ พูดขึ้น

“อะไรนะ?!”

เซวีย ไห่หมิง เบิกตากว้างด้วยความตกใจ นั่นหมายความว่าเขาจะไม่มีเงินแม้แต่หยวนเดียวเลยงั้นเหรอ?

“และตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ฉันขอประกาศขับไล่ เซวีย ไห่หมิง ออกจากตระกูลเป็นเวลาสามปี!!!”

เมื่อ เซวีย ไห่หมิง คิดว่านั่นเป็นบทลงโทษที่เลวร้ายที่สุดแล้ว เซวีย ผิงเยว่ พ่อของเขากลับประกาศบทลงโทษที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นอีก :

“ในช่วงสามปีนี้ เซวีย ไห่หมิง จะถูกตัดขาดจากตระกูลเซวีย โดยสิ้นเชิง ระหว่างนี้เขาจะต้องดิ้นรนด้วยตัวเองอย่างสมบูรณ์ และเราจะจับตาดูเขาอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ใช้เครือข่าย และทรัพยากรใดๆ ที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ทั้งหมด”

“อะไรนะ?!!!”

เมื่อได้ยินดังนั้น เซวีย ไห่หมิง ถึงกับตัวสั่นด้วยความกลัว

การถูกขับไล่ออกจากตระกูลเป็นเวลาสามปี โดยไม่มีเครือข่าย หรือเงินทุนจากตระกูลเซวีย เท่ากับว่าเขาต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ตั้งแต่ศูนย์

เขาไม่เคยทำอะไรเป็นเลยสักอย่าง ถ้าไม่มีตระกูลเซวีย เขาคงต้องเร่ร่อนกลายเป็นคนจรจัดอย่างไม่ต้องสงสัย..

นี่ไม่ใช่แค่ ‘พึ่งพาตัวเอง’ แต่มันคือ ‘ปล่อยให้ดิ้นรนตามยถากรรม’ ชัดๆ

อย่าว่าแต่ชีวิตแบบคนจรจัดที่ต้องอดๆ อยากๆ เลย แค่ชีวิตธรรมดาของคนทั่วไปเพียงสัปดาห์เดียว เขายังไม่กล้าจินตนาการด้วยซ้ำ

เมื่อคิดถึงอนาคตที่มืดมน เซวีย ไห่หมิง ถึงกับตัวสั่นด้วยความกลัว นี่มันยิ่งกว่าความตายเสียอีก!!!

นี่มันคือการทรมาน ทั้งร่างกาย และจิตใจ!!!

“พ่อ... พ่อทำแบบนี้ไม่ได้... พ่อจะขับไล่ผมออกจากตระกูลไม่ได้!”

เซวีย ไห่หมิง คว้าแขนพ่อร้องไห้โฮ พยายามอ้อนวอนพ่อของเขา

แต่ เซวีย ผิงเยว่ ตัดสินใจเด็ดขาด เขาปัดมือ เซวีย ไห่หมิง ลูกชายของเขาออกไป

การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่เพื่อให้ คุณเย่ ได้ระบายความโกรธ แต่ยังเป็นการสั่งสอนลูกชายตัวเองอีกด้วย

ลูกชายคนนี้เหลวไหลเกินไป ถ้าไม่มีคนคอยคุ้มครองเขาตอนนี้ แล้วอนาคตล่ะ…จะเป็นอย่างไร?!

เขาจำเป็นต้องแก้นิสัยเสียของลูกชายที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่เอาแต่ใจ และช่วงเวลาสามปีนี้ ก็นับว่าเป็นการฝึกฝนสำหรับเขา

“คุณเย่... คุณเย่... ได้โปรด... ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยเถอะ...”

เมื่อขอร้องพ่อของตัวเองไม่ได้ผล เซวีย ไห่หมิง จึงเปลี่ยนเป้าหมายมาขอร้อง เย่เฉิน แทน

แต่ตอนนี้ สายเกินไปแล้ว…

ถ้า เซวีย ไห่หมิง ขอโทษอย่างจริงใจ และหาทางแก้ปัญหาตั้งแต่แรก ทุกอย่างอาจง่ายขึ้น แต่มาถึงตอนนี้.. ทุกอย่างสายเกินไป

สำหรับแนวทางของ เซวีย ผิงเยว่ เย่เฉิน รู้สึกพึงพอใจอยู่ไม่น้อย ชีวิตแบบคนพเนจรสามปีสำหรับคนอย่าง เซวีย ไห่หมิง ที่เติบโตมาในครอบครัวร่ำรวย นับเป็นการลงโทษที่เจ็บปวด และทรมานที่สุด

“ใครก็ได้.. มาลากไอ้คนๆ นี้ออกไปซะ”

เซวีย ผิงเยว่ หันไปตะโกนสั่งให้คนขับรถ และบอดี้การ์ดที่มาด้วยกันลากตัว เซวีย ไห่หมิง ออกไป

หลังจาก เซวีย ไห่หมิง ออกไปแล้ว เซวีย ผิงเยว่ ก็หยิบกระเป๋าเอกสารออกมาจากคนของเขาที่ถืออยู่

“คุณเย่ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความผิดของทางฉันเองที่ไม่อบรมลูกให้ดีจนเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันเห็นแล้วว่าสวนของ คุณเย่ ได้รับความเสียหายอย่างหนักจริงๆ”

เซวีย ผิงเยว่ กล่าวพร้อมสีหน้าจริงใจ :

“จากนี้ไป สวนของ คุณเย่ อาจต้องปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้การอยู่อาศัยของ คุณเย่ ไม่สะดวกสบาย”

“บังเอิญว่าตระกูลเซวียของเรามีคฤหาสน์สองหลังในถานกง นั่นคือ คฤหาสน์ หมายเลข 8 และหมายเลข 9”

“วันนี้ ฉันขอมอบคฤหาสน์ทั้งสองหลังให้กับ คุณเย่ ครับ”

พูดจบ เซวีย ผิงเยว่ ก็หยิบเอกสารโฉนดที่ดิน และเอกสารอื่นๆ ออกมาจากกระเป๋าเอกสาร

ทุกอย่างได้จัดการเรียบร้อยระหว่างทางมา เพียงแค่ เย่เฉิน ลงนามในเอกสาร คฤหาสน์ หมายเลข 8 และ 9 ของ ถานกง ก็จะกลายเป็นของ เย่เฉิน

ในตอนแรก เซวีย ผิงเยว่ ตั้งใจจะมอบเพียงคฤหาสน์หลังเดียวเพื่อเป็นการขอโทษ แต่เมื่อมาถึง และเห็น เหล่าหม่า ให้ความสำคัญกับ เย่เฉิน มาก เขาจึงกัดฟัน และตัดสินใจยอมเจ็บตัว มอบคฤหาสน์ทั้งสองหลังให้ไปในคราวเดียว

ทั้งคฤหาสน์ หมายเลข 8 และ 9 ถือเป็นคฤหาสน์ที่ดีที่สุดในถานกง โดยเฉพาะ หมายเลข 8 ที่ดีเทียบเท่าหมายเลข 6 ส่วนหมายเลข 9 ก็ใหญ่ และหรูหรากว่าคฤหาสน์หลังอื่นๆ อย่างมาก

การมอบคฤหาสน์ทั้งสองหลังในครั้งเดียว แม้แต่กับตระกูลเซวียเองก็ถือเป็นการเสียสละครั้งใหญ่

คุณหม่า ที่อยู่ข้างๆ ถึงกับถอนหายใจเล็กน้อย ครั้งนี้ เซวีย ผิงเยว่ ยอมทุ่มสุดตัวเพื่อแก้ไขปัญหานี้จริงๆ

เซวีย ผิงเยว่ ส่งสายตาให้ คุณหม่า ช่วยพูดอะไรสักหน่อยเพื่อไกล่เกลี่ย

“คุณเย่ เหล่าเซวีย เขาแสดงความจริงใจอย่างเต็มที่ อีกทั้ง เซวีย ไห่หมิง ก็ได้รับบทลงโทษที่เหมาะสมแล้ว คุณเย่ รับคฤหาสน์ทั้งสองหลังนี้ไว้เถอะนะ”

เมื่อเข้าใจความหมายของ เซวีย ผิงเยว่ คุณหม่า ก็ช่วยพูดเพื่อไกล่เกลี่ยอีกครั้ง

“ตกลง”

เย่เฉิน พยักหน้า การจัดการของ เซวีย ผิงเยว่ ทำให้เขาค่อนข้างพอใจไม่น้อย

ในที่สุด เย่เฉิน และเซวีย ผิงเยว่ ก็ลงนามในเอกสารตามลำดับ

จากวันนี้เป็นต้นไป คฤหาสน์ หมายเลข 8 และหมายเลข 9 ในเขตคฤหาสน์ ถานกง จะกลายเป็นของ เย่เฉิน

รวมกับคฤหาสน์ หมายเลข 6 ที่เขามีอยู่ก่อนหน้า เย่เฉิน จะมีคฤหาสน์ถึงสามหลังในเขตคฤหาสน์ ถานกง และแต่ละหลังก็เป็นคฤหาสน์ชั้นเลิศ เขาสามารถเปลี่ยนบรรยากาศย้ายไปอยู่อาศัยในแต่ละหลังได้ในอนาคต

“เฮ้อ”

หลังจัดการทุกอย่างเรียบร้อย และแน่ใจว่า เย่เฉิน ไม่โกรธอีกแล้ว เซวีย ผิงเยว่ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

โชคดีที่เขาสามารถจัดการปัญหานี้ได้ทันเวลา และไม่ปล่อยให้ตระกูลเซวีย ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่ากลัวอย่าง เย่เฉิน

เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย เซวีย ผิงเยว่ ก็เกิดความคิดขึ้นมาในใจ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด