ตอนที่ 265 เจ้ากำลังมองหาข้าอยู่เหรอ?!
ตอนที่ 265 เจ้ากำลังมองหาข้าอยู่เหรอ?!
“นายเป็นใคร?” เอริคถามอย่างระมัดระวังพร้อมถอยหลังไปหนึ่งก้าว
นี่คือโลกิ? พูดเป็นเล่นไปเถอะ! โลกิเจ้าเด็กแสบคนนั้นจะมีพลังระดับนี้ได้ยังไง?
“ข้าคือโลกิ” ชายคนนั้นตอบพร้อมรอยยิ้ม
“ฉันไม่เชื่อ!” เอริคส่ายหน้าพร้อมแสดงสีหน้าเคร่งเครียด
โลกิหัวเราะเบา ๆ “ข้าจำเป็นต้องให้เจ้ามาเชื่อหรือ?”
เอริคมองเขาเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร
ทันใดนั้นโลกิก็ยกมือขึ้นและปล่อยแสงเวทมนตร์สีเขียวเข้มโจมตีมาที่เอริค
เอริคที่เตรียมตัวไว้แล้วรีบพุ่งหลบไปด้านข้าง พร้อมเปิดใช้เกราะสนามแม่เหล็กและเกราะแรงโน้มถ่วงเต็มกำลัง นอกจากนี้ยังเรียกฝูง ‘ฝูงผึ้งกินดาว’ ให้เข้ามาปกป้องอีกชั้นหนึ่ง
‘โลกิ’ คนนี้ส่งสัญญาณของภัยคุกคามที่รุนแรงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาสามารถทำลายหลุมดำด้วยมือเปล่าได้อย่างง่ายดาย
หลุมดำอันนั้นแม้จะเพิ่งก่อตัวและไม่ได้ทรงพลังที่สุด แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะจัดการได้ง่าย ๆ แม้แต่สัตว์ประหลาดระดับ ‘คัล บอร์สัน’ ก็ยังไม่กล้าสู้ตรง ๆ และต้องใช้พลังดูดกลืนเพื่อจัดการหลุมดำ แต่ชายคนนี้กลับจับและบีบมันจนหายไปเหมือนไข่แตก!
เมื่อแสงเวทมนตร์พุ่งเข้าหามันก็มีคุณสมบัติเหมือน ‘กฎแห่งการโจมตีแน่นอน’ คล้ายกับพลังของหอกกุงเนียร์ แม้เอริคจะข้ามไปยังจักรวาลคู่ขนาน มันก็ยังสามารถไล่ตามเขาได้
“หลบไม่ได้ ก็ต้องรับมัน!” เอริคยกหอกแห่งวัฏจักรขึ้นใช้พลังของรูนทั้งหมดที่มีเพื่อป้องกัน พร้อมกับเรียกพลังจากอัญมณีอวกาศสร้างมิติขึ้นมาหลายชั้นเพื่อสกัดการโจมตี
แต่ผลลัพธ์ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง! แสงเวทมนตร์ทะลุผ่านการป้องกันทั้งหมดเหมือนภาพลวงตา และพุ่งตรงเข้าสู่ร่างของเอริค
สีหน้าเอริคเปลี่ยนไปทันที แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่ใช่การโจมตี ไม่ใช่คำสาป ไม่ใช่สถานะลบใด ๆ มันเพียงแค่เดินทางผ่านร่างกายของเขาและออกไปกลับไปหาชายที่เรียกตัวเองว่าโลกิ
“นายทำอะไร?” เอริคถามเสียงต่ำ
โลกิยิ้มพลางเรียกแสงเวทมนตร์กลับมาและแตะลงบนหน้าผากตัวเอง “แค่เอาข้อมูลบางอย่างออกมาเท่านั้นเอง เข้าใจแล้ว . . . เจ้าคือคนจากจักรวาลนั้น! ไม่น่าแปลกใจเลย”
โลกิหลับตาพลางดึงข้อมูลจากเวทมนตร์ของเขา “ธานอสแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียวหรือ? น่าสนใจจริง ๆ”
“นายเป็นใครกันแน่?” เอริคถามซ้ำอีกครั้ง
เอริคมั่นใจว่า ‘โลกิ’ คนนี้ไม่ใช่โลกิที่เขารู้จักแน่ ๆ เพราะคนที่สามารถทำลายหลุมดำด้วยมือเปล่า และรู้เรื่องจักรวาลอื่นย่อมไม่ใช่แค่เทพเจ้าแห่งการหลอกลวงธรรมดา
ที่สำคัญโลกิได้ดึงเอาข้อมูลจากส่วนลึกของจิตวิญญาณเขาไป ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่อาจถูกแก้ไขหรือทำลายได้มันคือข้อมูลเกี่ยวกับต้นกำเนิดของเขา!
เอริคจับตาดูโลกิอย่างระมัดระวัง เขากังวลว่าโลกิอาจค้นพบความลับที่ว่าเขามาจากโลกอื่น
แต่เมื่อโลกิไม่แสดงปฏิกิริยาใดที่บ่งบอกว่าเขาได้รู้ความจริง เอริคจึงค่อย ๆ ถอนหายใจโล่งอก
“อยากรู้จริงหรือ?” โลกิยิ้มเจ้าเล่ห์ “มาต่อสู้กับข้าสิ ถ้าชนะ ข้าจะบอกเจ้า!”
เอริคส่ายหน้าอย่างปลง ๆ โลกิในตอนนี้ดูเหมือนเด็กซนที่กำลังเล่นสนุกไม่มีผิด
โลกิหัวเราะพร้อมสะบัดมืออย่างชิล ๆ ทำให้หิมะที่ลอยอยู่รอบตัวหยุดชะงักกลางอากาศ จากนั้นแต่ละเกล็ดก็ขยายขนาดกลายเป็น ‘เกล็ดน้ำแข็งขนาดมหึมา’
พวกมันยังคงมีรูปร่างของเกล็ดหิมะ แต่ใหญ่ขึ้นนับพันเท่า และเปล่งแสงเวทมนตร์สีฟ้าน้ำเงินจาง ๆ บ่งบอกถึงพลังทำลายล้างที่ไม่ธรรมดา!
ในเมื่ออีกฝ่ายเริ่มโจมตีก่อนแล้ว จะมัวลังเลอะไรอีกล่ะ? สู้สิ!
เอริครับมือกับทุกการโจมตีทันที เขาปักหอกแห่งวัฏจักรลงพื้นอย่างแรง ส่งคลื่นพลังเจิดจ้ากระจายออกไปโดยรอบ ก่อนที่คลื่นนั้นจะทำให้เกล็ดน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่กลับกลายเป็นเพียงหิมะธรรมดาอีกครั้ง
“โอ้? น่าสนใจจริง ๆ” โลกิมองหอกแห่งวัฏจักรด้วยสายตาเหมือนเด็กที่พบของเล่นใหม่ และยื่นมือไปหมายจะคว้าด้ามหอกเอาไว้
“อยากได้? เอาไปสิ!” เอริคแค่นหัวเราะ และปล่อยให้หอกแห่งวัฏสหลายตัวไป จากนั้นเขาก็รวบรวมฝูงผึ้งกินดาวขึ้นมาสร้างเป็นหอกแห่งวัฏจักรอีกเล่มหนึ่ง
หอกเล่มใหม่นี้ไม่มีพลังแรงพื้นฐานทั้งสี่ติดอยู่ แต่กลับแผ่คลื่นพลังทำลายล้างอย่างรุนแรงออกมาแทน
ทันใดนั้นฝูงผึ้งกินดาวก็พุ่งตรงไปยังโลกิ ส่วนโลกิก็ทำเพียงส่ายหน้าอย่างไม่ใยดี และยกนิ้วชี้แตะปลายหอก ทำให้พลังที่รุนแรงเกรี้ยวกราดกลับสงบลงทันที
แต่การโจมตีนี้ยังไม่จบแค่นั้น!
ในขณะที่โลกิกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง หอกที่สร้างจากฝูงผึ้งกินดาวก็แตกกระจายกลายเป็นฝูงผึ้งอีกครั้ง ก่อนที่พวกมันจะรุมล้อมมือของโลกิเหมือนฝูงแมลงที่บ้าคลั่ง
สีหน้าของโลกิเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะฝูงผึ้งกินดาวสามารถเจาะทะลุการป้องกันของเขาได้ และกัดกินเนื้อหนังของเขาอย่างไร้ปรานี!
“เจ้าพวกนี้มันตัวอะไรกัน?” โลกิใช้มืออีกข้างฟาดลงมา พร้อมกับแสงเวทมนตร์ระเบิดออกจากมือสองข้างของเขา ทำให้ฝูงผึ้งกินดาวร่วงหล่นลงไปหลายตัว
แต่พวกมันกลับเหมือนปรสิตที่กำจัดไม่หมด เพียงแค่กัดกินพลังหรือเนื้อหนังของเขาเล็กน้อย พวกมันก็สามารถแยกตัวและสร้างฝูงใหม่ได้ในพริบตา
ทั้งพลังเวทมนตร์และร่างกายของโลกิกลายเป็นอาหารของพวกมัน!
โดยเอริคนั้นได้ปลดการควบคุมฝูงผึ้งกินดาวออกอย่างสิ้นเชิง และปล่อยให้พวกมันกัดกินอย่างอิสระ ซึ่งนี่เป็นการเดิมพันที่อันตรายมาก เพราะถ้าควบคุมผิดพลาด พวกมันอาจกัดกินทั้งโยทันไฮม์จนหมดสิ้น
เรียกได้ว่าอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของเขาในตอนนี้ก็คือ ‘ฝูงผึ้งกินดาว’ ที่กินได้ทุกอย่าง!
โลกิเองก็ตระหนักได้ว่าเขากำลังเผชิญปัญหาใหญ่ ทำให้เขาร่ายเวทมนตร์อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นแสงเวทมนตร์ไร้ที่สิ้นสุดก็แผ่กระจายจากปลายนิ้ว พร้อมกับคำร่ายที่ดังกึกก้อง
แน่นอนว่าเอริคไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดลอย เขาเทเลพอร์ตไปยังโลกิในทันที พร้อมแทงหอกแห่งวัฏจักรเข้าที่อก หอกเล่มนี้เปล่งพลังจากแรงพื้นฐานทั้งสี่หมุนวนเหมือนงูยักษ์ที่อ้าปากกว้างพุ่งกัดเข้าใส่โลกิอย่างรวดเร็ว
“ดูสิว่าจะตายไหม!” เอริคบิดหอกแห่งวัฏจักร พร้อมกับพลังจากแรงพื้นฐานทั้งสี่ที่หมุนวนอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นหลุมดำขนาดเล็ก
หลุมดำก่อตัวขึ้นตรงหน้าอกของโลกิ และพริบตาเดียว หัวใจ ปอด และอวัยวะภายในทั้งหมดของโลกิก็ถูกกลืนหายไป
ต่อมาก็คือกระดูก เนื้อหนัง . . .
แม้แต่ฝูงผึ้งกินดาวที่เกาะกินบนผิวหนังของเขาก็ถูกหลุมดำดูดกลืนเข้าไป
หลังจากนั้นไม่นานหลุมดำที่กลืนทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มขยายใหญ่ขนาดเท่ากะละมัง ก่อนที่เอริคจะแทงหอกอีกครั้ง และหมุนมันย้อนกลับ ทำให้หลุมดำหดตัวลง พลางปล่อยแสงสว่างเจิดจ้าออกมา ก่อนจะหายไปในที่สุด
“น่าจะตายแล้วนะ?” เอริคมองพื้นที่ว่างเปล่าข้างหน้าด้วยความงุนงง
“เจ้ากำลังมองหาข้าอยู่เหรอ?”
โปรดติดตามตอนต่อไป …