ตอนที่แล้ว26 - ความหวังสู่การเปลี่ยนเลือด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป28 - วัวคุยขาเดียว

27 - เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนเลือด


27 - เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนเลือด

"ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าอย่างไร!"

เฉินอิงอวี้คว้าแขนหยางฟ่านไว้ แต่หยางฟ่านพยายามดึงออก ทว่ากลับดึงไม่หลุด

"อะไรนะ!"

หยางฟ่านตกใจ

เฉินอิงอวี้ยิ้มเจ้าเล่ห์ "หึหึ แรงของเจ้ายังน้อยเกินไป ข้าผ่านการเปลี่ยนเลือดสามครั้งแล้ว เป็นผู้บ่มเพาะระดับนักรบแล้วนะ!"

นางยิ้มอย่างภาคภูมิใจทำหน้าเหมือนรอคำชมจากหยางฟ่าน

แต่หยางฟ่านกลับเฉยชา เพราะรู้ดีว่านางเป็นลูกสาวของเฉินอิงหลง นักรบโลหิตศักดิ์สิทธิ์ระดับสุดยอด หากนางไม่แข็งแกร่งก็คงจะแปลก

เฉินอิงอวี้ไม่สนใจท่าทีของเขา กลับเสนออย่างกระตือรือร้น

"ว่าอย่างไร? จะให้ข้าสอนวิธีเปลี่ยนเลือดไหม? ถ้าเจ้ายอมบอกเรื่องที่อารามอิงเทียน ข้าจะช่วยให้เจ้าสำเร็จการเปลี่ยนเลือด พร้อมสร้างปราณโลหิตชั้นยอด!"

นางยังคงเชื่อว่าคลังสมบัติลับมีอยู่จริง

หยางฟ่านเริ่มครุ่นคิดทันที…

เฉินอิงอวี้เป็นบุตรีของนักรบโลหิตศักดิ์สิทธิ์ ความรู้เกี่ยวกับการบ่มเพาะย่อมเหนือกว่าหยางฟ่านอย่างแน่นอน หากได้รับคำแนะนำจากนาง อย่างไรก็ย่อมดีกว่าการพยายามฝึกฝนเพียงลำพังโดยอาศัยตำราพื้นฐานที่มีเพียงข้อมูลคร่าวๆ

"เจ้าต้องการรู้อะไร?"

หยางฟ่านถามอย่างจริงจัง

"เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่อารามอิงเทียน เจ้าต้องเล่าให้ข้าฟังอย่างละเอียด!"

เฉินอิงอวี้ตาเป็นประกาย

"ตกลง"

หยางฟ่านไม่ปฏิเสธอีกต่อไป เขาเล่าทุกเหตุการณ์อย่างละเอียด ตั้งแต่การโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับ "โพธิสัตว์ชั่วร้าย" ไปจนถึงการที่เฉินอิงหลงปรากฏตัวและต่อสู้จนสามารถขับไล่ศัตรูได้

สุดท้ายเขากล่าวว่า "ตั้งแต่ที่ข้าออกจากอารามอิงเทียน ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องคลังสมบัติลับใดๆ หากมีของเช่นนั้นจริง เจ้าคิดหรือว่าจะรอดพ้นสายตาของบิดาเจ้าไปได้?"

"นั่นก็จริง"

เฉินอิงอวี้พยักหน้าอย่างไม่ค่อยพอใจ "ถ้ามีสมบัติอยู่จริง บิดาข้าคงไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ เหมือนตอนที่ยึดคลังลับหงหลัวกลับมาแน่นอน!"

นางทำหน้ามุ่ย ดูเหมือนจะผิดหวังอย่างมาก นางคงถูกข่าวลือหลอกลวงจนหลงเชื่อและดีใจเก้อ

"พวกหลอกลวง! ข้าหลงดีใจแทบทั้งวัน เตรียมตัวจะออกไปล่าสมบัติตอนกลางคืนแท้ๆ!"

กระโปรงสีเขียวของนางพลิ้วไหวขณะหันหลังจะจากไป แต่หยางฟ่านรีบขัดขึ้นก่อน

"เดี๋ยวก่อน!"

เฉินอิงอวี้หันกลับมามองด้วยสายตาไม่พอใจ

"เจ้าเป็นคนสัญญาจะให้รางวัล แล้วยังคิดจะชิ่งไปเฉยๆ อย่างนั้นหรือ?"

"ขี้เหนียวจริง!"

เฉินอิงอวี้แค่นเสียงแล้วหยิบสมุดเล่มเล็กออกมาจากอกเสื้อก่อนจะโยนใส่มือของหยางฟ่าน

"เอาไป!"

จากนั้นนางก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว

หยางฟ่านเปิดสมุดเล่มบาง สังเกตเห็นตัวอักษรสามตัวบนปกสีน้ำเงิน

"คุยหนิวเซียง" (ร่างวัวคุย)

คุยหนิวคืออะไร?

ตำราสำคัญในตำราบันทึกภูเขาทะเล (ซานไห่จิง) ได้กล่าวว่า

"มันมีรูปร่างเหมือนวัว ตัวสีน้ำเงิน ไม่มีเขา มีขาข้างเดียว เมื่อมันโผล่ขึ้นมาจากน้ำ จะนำพาพายุและสายฝนมาแผ่ขยายออกไป เสียงของมันดังกึกก้องดั่งฟ้าร้อง ชื่อของมันคือคุย"

ภายในสมุดไม่ได้มีคำอธิบายมากนัก แต่เต็มไปด้วยภาพร่างสำหรับการฝึกฝน

ภาพวัวคุย

เป็นภาพของวัวคุยกระโจนขึ้นจากผืนน้ำ ตัวใหญ่เท่าภูเขา สะท้อนถึงพลังที่แข็งแกร่งและดุดัน แม้เพียงภาพวาดก็ทำให้รู้สึกถึงแรงกดดันและพลังล้นเหลือ

หยางฟ่านไม่คาดคิดว่าเคล็ดลับการเปลี่ยนเลือดของเขาจะสามารถสร้างภาพธรรมสัตว์อสูรเช่นนี้ได้ แน่นอนว่าย่อมเหนือกว่าทักษะกระทิงของเขามาก

กลางดึก ขณะที่ดวงจันทร์ลอยสูงขึ้นกลางท้องฟ้า

หยางฟ่านไม่กลับห้องพัก เขายังคงอยู่ในลานฝึก

เขาได้จดจำเคล็ดวิชาในสมุดจนขึ้นใจ จากนั้นก็ฉีกมันเป็นเศษกระดาษและโยนทิ้ง

คืนนี้ คือคืนแห่งการเปลี่ยนเลือด!

หยางฟ่านตั้งสมาธิ แน่วแน่ที่จะเปลี่ยนเลือดเพื่อสร้างปราณโลหิตที่แข็งแกร่งที่สุด!

ปราณโลหิตเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เส้นเลือดและกล้ามเนื้อเต้นไหวราวกับเปลวเพลิงในกองไฟ

เขาหลับตา ภาพของวัวคุยขนาดยักษ์เริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นในจิตใจ

เสียงฟ้าร้องและลมพัดกระหน่ำเหมือนจะก้องกังวานออกมาจากภาพนั้น

หยางฟ่านเข้าสู่สภาวะสมาธิอย่างลึกซึ้ง ในขณะที่พลังปราณเริ่มพลุ่งพล่าน แทรกซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อและกระดูกอย่างต่อเนื่อง

คืนนี้จะเป็นคืนที่ตัดสินอนาคตของเขา!

โลกนี้ คนส่วนใหญ่ก็ไม่ต่างจากนกในกรง ชะตาชีวิตถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า

แต่ก็มีบางคนพยายามจะหลุดพ้นจากกรงนั้น พวกเขาแสวงหาพลังอำนาจและชีวิตอมตะ พยายามควบคุมโชคชะตาของตนเองด้วยสองมือ

บางคนเลือกบูชาเทพเจ้า บางคนแสวงหาวิถีแห่งเซียน แต่บางคนกลับเลือกเส้นทางแห่งการฝึกยุทธ์

บ่มเพาะ คือการต่อต้านโชคชะตา

และการเปลี่ยนเลือด คือก้าวแรกของการเปลี่ยนชะตาชีวิต

ภายใต้แสงจันทร์อันเงียบสงบ หยางฟ่านสวมเสื้อผ้าหยาบที่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แม้กลิ่นเหงื่อจะลอยโชยออกมา แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อสมาธิของเขาแม้แต่น้อย

ใบหน้าของเขาแสดงถึงความมุ่งมั่น กล้ามเนื้อที่ฝึกฝนจนแข็งแกร่งปรากฏให้เห็นบนผิวสีทองแดง เปรียบเสมือนร่างกายที่ผ่านการหล่อหลอมมาอย่างหนัก

หยางฟ่านหลับตา คิดทบทวนหลักสำคัญของการเปลี่ยนเลือด

การเปลี่ยนเลือด คือการขับไล่เลือดเก่าออกจากร่างกาย แล้วสร้างเลือดใหม่ที่แข็งแกร่งขึ้น พร้อมทั้งสร้างภาพจำลองของพลังปราณโลหิตภายนอกตัว

หากกระบวนการนี้สำเร็จ นั่นหมายถึงการก้าวเข้าสู่ระดับใหม่ของพลัง

"ฮึบ!"

เขาหายใจลึกก่อนกลืนเม็ดยาบำรุงโลหิตเข้าไป และเริ่มผลักดันปราณโลหิตอย่างรุนแรง

เสียงโลหิตไหลเวียนในร่างกายดังชัดเจนราวกับกระแสน้ำเชี่ยวที่ไหลอย่างบ้าคลั่ง

เร่งเข้าไปอีก!

ปราณโลหิตไหลเวียนเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขีดจำกัด ร่างของหยางฟ่านเริ่มมีเม็ดเลือดซึมออกมาตามผิวหนังราวกับเขาสวมชุดโลหิต

หมอกสีแดงหมุนวนรอบตัวเขา ปกคลุมร่างจนดูเลือนรางราวกับภาพมายา

"เจ้าเด็กโง่นี่ คิดจะเปลี่ยนเลือดที่นี่? ถ้าถูกรบกวนมีหวังได้ตายก่อนแน่!"

เสียงอ่อนหวานดังขึ้นจากเงามืด

เฉินอิงอวี้ปรากฏตัวในชุดกระโปรงยาวสีเขียวเข้ม มองหยางฟ่านด้วยความสงสาร

"เฮ้อ… เจ้าเด็กโง่ ข้าต้องช่วยเจ้าอีกจนได้!"

นางพึมพำเบาๆ ก่อนจะกระโดดขึ้นไปประจำการบนหลังคาเพื่อคอยเฝ้าดูรอบๆ ป้องกันไม่ให้มีอันตรายเข้ามารบกวน

………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด