ตอนที่แล้ว11 - ทักษะการมัดเชือกที่แม้แต่คนชั้นสูงยังทำไม่ได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป13 - ความก้าวหน้าในการบ่มเพาะ

12 - ความลับของวังหลวง


12 - ความลับของวังหลวง

เสี่ยวหลินจื่อตัวสั่นเล็กน้อย เขารู้ว่าคำขู่นี้ไม่ใช่คำพูดลอยๆ เพราะหลี่กงกงเคยเป็นบุคคลสำคัญในการแย่งชิงอำนาจในวังมาก่อน

ความเยือกเย็นและความโหดเหี้ยมของเขาเป็นที่เลื่องลือ

เสี่ยวหลินจื่อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกัดฟันยอมแพ้

"ท่านต้องการรู้เรื่องอะไร?"

หลี่กงกงยิ้มเย็น

"ง่ายมาก ข้าอยากรู้ว่าเจ้านายของเจ้าที่ตำหนักคุนหนิงคิดอะไรอยู่"

เสี่ยวหลินจื่อสะดุ้ง ก่อนจะพยายามปฏิเสธ

"ข้าไม่รู้อะไรเลย..."

"อย่าโกหก" หลี่กงกงขัดขึ้นทันที

"ข้าเพิ่งรับเสี่ยวฟ่านและพวกเข้าตำหนักฉางชิง แล้วเจ้ารีบหาเรื่องพวกเขา หากบอกว่าเป็นความคิดของเจ้าเอง ข้าไม่เชื่อเด็ดขาด"

เสี่ยวหลินจื่อนิ่งไป ก่อนจะยอมเปิดปาก

"เป็นคำสั่งของหวงกงกง เขาต้องการข่มตำหนักฉางชิงลง"

หลี่กงกงขมวดคิ้ว

"แค่หวงกงกง? คิดว่าข้าจะเชื่อหรือ?"

น้ำเสียงของเขาเย็นชาและเฉียบขาด

"หวงกงกงไม่มีอำนาจพอที่จะล่วงเกินตำหนักฉางชิง ข้าต้องการรู้ว่าเหตุใดฮองเฮาถึงมีท่าทีเป็นศัตรูกับตำหนักฉางชิงถึงเพียงนี้!"

ในฐานะผู้รับใช้เฉินเฟย หลี่กงกงรู้ดีว่าเฉินเฟยมาจากตระกูลสูงส่ง

บิดาของนางเป็นเฉินโหว และควบคุมกองกำลังกองทัพมังกรที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักร

แม้เฉินเฟยจะยังไม่มีโอรส แต่ด้วยสายเลือดและอำนาจทางการเมือง ฮองเฮาก็ควรหาทางผูกมิตรแทนที่จะตั้งตนเป็นศัตรู

ภาพของงานเลี้ยงเมื่อคืนผุดขึ้นในความคิดของหลี่กงกง

ท่าทางอ่อนหวานของฮองเฮาที่แฝงความเย็นชา และคำพูดที่เหมือนจะเป็นมิตรแต่กลับทิ่มแทง

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง

"มีบางอย่างซ่อนอยู่ในวังหลังนี้..."

หลี่กงกงจ้องมองเสี่ยวหลินจื่อที่ยังคงเงียบงัน รอคำตอบที่แท้จริงเบื้องหลังความบาดหมางนี้

เสี่ยวหลินจื่อมีสีหน้าเปลี่ยนไปมาอย่างเห็นได้ชัด เขารู้ความลับนี้ดี แต่ถ้าพูดออกไปแล้วความจริงถูกเปิดเผย เขาอาจไม่มีทางรอดชีวิต!

หยางฟ่านฟังมาถึงตรงนี้ก็เริ่มเข้าใจสถานการณ์บางอย่าง เขากวาดสายตามองระหว่างหลี่กงกงและเสี่ยวหลินจื่อ ก่อนจะตัดสินใจพูดขึ้นมา

"เสี่ยวหลินจื่อ ท่าทีของฮองเฮาต่อตำหนักฉางชิงในตอนนี้ไม่ใช่ความลับอะไร แต่สิ่งที่เราต้องการรู้คือสาเหตุของมัน!"

"ลองคิดดูดีๆ ขนาดเจ้ารู้เรื่องนี้ ยังไม่รู้เลยว่ามีกี่คนที่รู้เหมือนกัน ต่อให้เจ้าพูดออกไป ใครจะรู้ว่าเจ้าคือคนที่บอก?"

คำพูดนี้ทำให้ท่าทีของเสี่ยวหลินจื่อเริ่มอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

เขาเป็นคนฉลาด และคนฉลาดมักกลัวตาย เมื่อคิดทบทวนถึงผลลัพธ์ เขาก็พูดออกมาอย่างจริงจัง

"ข้าบอกได้ แต่ข้าขอให้หลี่กงกงรับปากข้อหนึ่ง!"

"ข้ออะไร?" หลี่กงกงถาม

"รับปากว่าจะไม่ฆ่าข้า!"

"ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่เจ้าพูดความจริง ข้ารับรองว่าจะไม่ทำร้ายเจ้า และบางทีข้าอาจให้รางวัลเพื่อช่วยให้เจ้าก้าวหน้าด้วยซ้ำ"

ในสายตาของหลี่กงกง เสี่ยวหลินจื่อมีค่ามากกว่าเมื่อยังมีชีวิตอยู่

เพราะทันทีที่เสี่ยวหลินจื่อเปิดปากพูด เขาก็เหมือนมอบอำนาจควบคุมตัวเองให้กับหลี่กงกงไปโดยปริยาย กลายเป็นหมากตัวหนึ่งในตำหนักคุนหนิง

เสี่ยวหลินจื่อถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะเอ่ยว่า

"หลี่กงกง ท่านเคยได้ยินเกี่ยวกับองค์ชายสิบสามหรือไม่?"

"องค์ชายสิบสาม?" หลี่กงกงขมวดคิ้ว

องค์ชายสิบสาม จูเจ้าหลิน เป็นพระโอรสองค์ที่สองของฮองเฮา

ถึงแม้เขาจะเข้าสู่วัยหนุ่มและสมควรจะออกจากวังไปตั้งตำหนักแล้ว แต่ฮองเฮากลับเก็บเขาไว้ในวังด้วยเหตุผลว่าห่วงใย ทำให้เขาเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ตามใจ

องค์ชายสิบสามมีชื่อเสียงในเรื่องความเกเรและพฤติกรรมเสเพลอยู่ไม่น้อย

หลี่กงกงไม่คาดคิดว่าความขัดแย้งครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับองค์ชายสิบสาม!

เสี่ยวหลินจื่อตัดสินใจพูดออกมา

"องค์ชายสิบสามหลงใหลในตัวเฉินเฟยถึงขั้นโงหัวไม่ขึ้น เขาถึงกับค้นหาคนที่มีใบหน้าคล้ายเฉินเฟยมารับใช้ใกล้ชิด!"

"เรื่องนี้ถูกฮองเฮาจับได้ นางจึงสงสัยว่าเฉินเฟยมีเจตนาล่อลวงองค์ชายสิบสาม ซึ่งผิดศีลธรรมและสร้างความอับอายอย่างร้ายแรง!"

"ฮองเฮาเลยเกลียดชังเฉินเฟยอย่างสุดหัวใจ!"

"โครม!"

คำพูดของเสี่ยวหลินจื่อเหมือนฟ้าผ่ากลางใจหลี่กงกงและหยางฟ่าน

หยางฟ่านตัวแข็งทื่อ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว

"เรื่องแบบนี้จะอยู่กันอย่างสงบได้อย่างไร!"

หลี่กงกงกัดฟันแน่น เขารู้ทันทีว่าเรื่องนี้อันตรายเพียงใด

ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างองค์ชายสิบสาม ฮองเฮา และเฉินเฟย อาจกลายเป็นชนวนระเบิดครั้งใหญ่ในวังหลัง

แม้จะไม่มีหลักฐานว่าเฉินเฟยมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง แต่ความระแวงและความเกลียดชังของฮองเฮา จะทำให้สถานการณ์แย่ลงอย่างต่อเนื่อง

หลี่กงกงหรี่ตามองเสี่ยวหลินจื่อ

"นี่มันเรื่องใหญ่มาก เจ้ากล้าแต่งขึ้นหรือไม่?"

"ข้าจะกล้าโกหกได้อย่างไร!" เสี่ยวหลินจื่อกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่กงกงถอนหายใจยาว เขารู้ว่าสถานการณ์นี้ต้องจัดการอย่างระมัดระวัง

"ขอบใจเจ้าที่บอกความจริง"

เขาพยักหน้าให้หยางฟ่าน ก่อนจะสั่งว่า

"จับตาดูเขาไว้ อย่าให้หนีไปได้"

หยางฟ่านพยักหน้า แม้ในใจจะยังรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้ยิน

หยางฟ่านตระหนักว่าหลังจากรู้ความลับนี้แล้ว ตัวเขาไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้อีก

เขาต้องเลือกว่าจะยืนอยู่ข้างเฉินเฟยและหลี่กงกง หรือพยายามหาทางเอาตัวรอดจากวังหลังที่เต็มไปด้วยอันตราย

ในขณะที่หลี่กงกงเดินออกไป หยางฟ่านก็ได้แต่ถอนหายใจ

"นี่มันแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น..."

หยางฟ่านคิดไม่ผิด เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงสายตาเย็นชาของหลี่กงกงที่กวาดผ่านตัวเขา ทำให้เหงื่อเย็นไหลซึมออกมา

เขารู้ดีว่า หลี่กงกงมีจิตสังหารอยู่ในใจ แต่หยางฟ่านยังคงนิ่งไว้ เพราะเชื่อว่าเรื่องที่เสี่ยวหลินจื่อเปิดเผย แม้จะเป็นความลับ แต่สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ หลี่กงกงจะไม่ทำลายหมากตัวสำคัญของตนเอง

และก็เป็นอย่างที่คาดไว้

หลี่กงกงถอนสายตากลับไปพร้อมกับเสียงที่เย็นยะเยือก

"คิดการใหญ่ คิดล้มล้างศีลธรรม..."

หลี่กงกงโกรธจนแทบระงับอารมณ์ไม่ได้

ในสายตาเขา ฮองเฮาทำผิดตั้งแต่ไม่ยอมให้องค์ชายสิบสามออกจากวัง และปล่อยให้เกิดเรื่องเสื่อมเสียเช่นนี้ขึ้น แต่กลับโยนความผิดมาให้เฉินเฟย

"มันเหลวไหลสิ้นดี!"

คำพูดและท่าทีที่เต็มไปด้วยโทสะ ทำให้หยางฟ่านและเสี่ยวหลินจื่อถึงกับตัวสั่น

เวลาผ่านไปชั่วครู่ หลี่กงกงจึงสงบสติอารมณ์ลง

"เจ้าไปได้แล้ว ปิดปากให้เงียบ"

จากนั้นเขาก็โยนขวดยาเล็กๆ ให้เสี่ยวหลินจื่อ ซึ่งอีกฝ่ายรีบเปิดดูและยิ้มกว้าง

"ขอบคุณกงกง!"

เสี่ยวหลินจื่อรีบออกไปโดยไม่หันกลับมา

………

หลังจากนี้จะเปิดอ่านให้อ่านฟรีวันล่ะ 2 ตอนนะครับ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด