ตอนที่แล้วบทที่ 7: จิ้งจอกหางทะเลทราย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 9: ลูกยอแดง

บทที่ 8: เขี้ยวเพลิง


แม้ว่าใบหน้าของสุนัขเขี้ยวเพลิงจะเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่มันก็ยอมเดินมาหาอย่างเชื่อฟัง

เฉียวซางนั่งยองๆ และลูบหัวมัน

สุนัขเขี้ยวเพลิงหรี่ตาลงอย่างสบายอารมณ์ ไม่มีทีท่าอารมณ์ร้อนก่อนหน้านี้ปรากฎให้เห็น

เจ้าหมานี่ใจง่ายมาก เฉียวซางอดไม่ได้ที่จะแอบคิด

“สุนัขเขี้ยวเพลิงร่วมทีมกับพิราบอ้วน” เฉียวซางสั่ง

“ย่าห์!”

สุนัขเขี้ยวเพลิงหอนอย่างเป็นสุข หันกลับมามองด้วยแววตามุ่งมั่น

จากนี้ไป เฉียวซางจะเข้าร่วมสมาคมต่อต้านการว่าร้ายอสูรประเภทไฟว่าเป็นพวกนิสัยเสีย!

“พุ่งเข้าชนเลย!” เฉียวซางสั่ง

เธอไม่สนใจว่าหญิงสาวฝั่งตรงข้ามจะพร้อมหรือไม่—มารยาทไม่ใช่สิ่งที่ต้องมีในการต่อสู้!

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้สู้ร่วมกับสุนัขเขี้ยวเพลิงและเธอไม่อยากแพ้

สุนัขเขี้ยวเพลิงตะกุยพื้นดินด้วยขาทั้งสี่และออกตัววิ่งด้วยความเร็ว

ซูหลิงหลาน จับตาดูสัตว์อสูรสองตัวและผู้ฝึกของพวกมันตั้งแต่แรก ในใจพยายามระงับคำก่นด่าที่ผุดขึ้นเป็นระลอก

เธอตอบสนองอย่างรวดเร็ว “จิ้งจอกหางทะเลทราย ใช้หางจับตัวเจ้านั่นเอาไว้!”

ก่อนหน้านี้ กลยุทธ์ลอบโจมตีของสุนัขเขี้ยวเพลิงประสบความสำเร็จเพราะความสนใจทั้งหมดของซูหลิงหลานอยู่ที่พิราบอ้วน

ตอนนี้เธอได้นับรวมสุนัขเขี้ยวเพลิงเข้ามาเป็นคู่ต่อสู้แล้ว

สุนัขเขี้ยวเพลิงมีอายุไม่ถึงหนึ่งเดือน สำหรับจิ้งจอกหางทะเลทรายแล้วความเร็วของเจ้าหมานี่นับว่าช้ามาก

สุนัขจิ้งจอกหางทะเลทรายแผ่หางยาวกว่าสองเมตร เตรียมพร้อมรับมือกับเจ้าหมาที่ใกล้เข้ามา

“พิราบอ้วนจับสุนัขเขี้ยวเพลิงแล้วบินขึ้นไป” เฉียวซางสั่งอย่างรวดเร็ว

ความเร็วในการบินของพิราบอ้วนอาจช้าเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรประเภทบินตัวอื่นๆ แต่มันก็ยังเร็วกว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงตัวน้อยมาก

แม้จะอยู่ในสถานะพุ่งเข้าชน เจ้าพิราบอ้วนก็ตามทันอย่างรวดเร็ว มันจับสุนัขเขี้ยวเพลิงแล้วบินขึ้นไปบนฟ้า

ซูหลิงหลานตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าเฉียวซางกำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่

“ย่าห์?” สุนัขเขี้ยวเพลิงก็สับสนเช่นกัน

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ต่อสู้กับเฉียวซาง และเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมสู้กับพิราบอ้วน มันยังไม่เข้าใจดีว่าสถานการณ์นี้คืออะไร

“พิราบอ้วนวางสุนัขเขี้ยวเพลิงลงบนตัวของจิ้งจอกหางทะเลทราย” เฉียวซางกล่าวอย่างเฉียบขาด

พิราบอ้วนเกิดอาการลังเลขึ้นชัดเจน

ท้ายที่สุดแล้วพิราบอ้วนก็ไม่ใช่อสูรของเฉียวซาง มันจึงไม่ได้ปล่อยสุนัขเขี้ยวเพลิงลงตามคำสั่งในทันที

เฉียวซางถอนหายใจ กำลังจะออกคำสั่งอีกครั้ง จู่ๆพิราบอ้วนก็ยอมทำตามคำสั่ง

นี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม มันผ่านไปสามวินาทีแล้วนับตั้งแต่เฉียวซางออกคำสั่ง ซึ่งนั่นมากพอจะให้คู่ต่อสู้เตรียมตัว

สุนัขเขี้ยวเพลิงลอยไปหาจิ้งจอกหางทะเลทราย และหัวใจของเฉียวซางก็เริ่มเต้นรัว

เธอกำลังจะบอกสุนัขเขี้ยวเพลิงให้หลบ แต่อีกฝ่ายไม่ได้ออกคำสั่งอะไรออกมาเลย

ซูหลิงหลาน ไม่ได้สั่งให้จิ้งจอกหางทะเลทรายทำอะไรเลย

เฉียวซางไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ก็ไม่ได้หยุดเธอจากการออกคำสั่งต่อไป

“กัดคอมันด้วยเขี้ยวเพลิง!”

เฉียวซางเลือกที่จะไม่ทำสัญญากับจิ้งจอกหางทะเลทรายขาวเพราะการป้องกันของมันอ่อนแอเกินไป แม้จะพัฒนารูปแบบเป็นจิ้งจอกหางทะเลทราย สิ่งนี้ก็ยังคงเป็นปัญหา

แตกต่างจากหางอันทรงพลังของมัน ร่างกายของจิ้งจอกหางทะเลทรายนั้นบอบบางอย่างไม่น่าเชื่อ แม้แต่การบาดเจ็บเล็กน้อยก็ทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก และจุดอ่อนที่ร้ายแรงที่สุดของมันอยู่บริเวณลำคอ

"หลบเร็ว!" ในที่สุดซูหลิงหลานก็ตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

ฟันที่ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงของสุนัขเขี้ยวเพลิงกัดเข้าอย่างแรงที่คอของจิ้งจอกหางทะเลทราย

“เมอร์โรว์!!”

จิ้งจอกจิ้งจอกหางทะเลทรายส่งเสียงร้องแหลม หางของมันฟาดสะเปะสะปะไปด้วยความเจ็บปวด พยายามอย่างยิ่งที่จะสลัดสุนัขเขี้ยวเพลิงออกไป

สุนัขเขี้ยวเพลิงติดแน่นทนนานประดุจกาวตราช้าง ไม่ปล่อยให้สิ่งที่อีกฝ่ายต้องการสำเร็จผล

“กระโดดออกมา” เฉียวซางสั่ง

สุนัขเขี้ยวเพลิงไม่ลังเลเลยกระโดดลงจากจิ้งจอกหางทะเลทรายและหลบไปด้านข้างทันที

วินาทีถัดมา หางอันทรงพลังของจิ้งจอกหางทะเลทรายก็ฟาดฟันอย่างไร้ความปราณีไปยังบริเวณที่สุนัขเขี้ยวเพลิงเพิ่งอยู่

เมื่อไม่มีสุนัขเขี้ยวเพลิงเกาะติดกับมัน การโจมตีอันทรงพลังนั่นก็กระทบเข้ากับตัวเองอย่างจัง

“เมอร์โรว์!!!”

จิ้งจอกหางทะเลทรายซึ่งได้รับบาดเจ็บที่คอแล้ว รู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงจากการโดนฟาดด้วยหางของตัวมันเอง

“จิ้งจอกหางทะเลทราย ใจเย็น!” ซูหลิงหลาน กระทืบเท้าอย่างบ้าคลั่งอยู่ข้างสนาม โดยไม่สามารถเข้าใจได้ว่าสถานการณ์มันเลวร้ายขนาดนี้ได้ยังไง

แต่จิ้งจอกหางทะเลทรายนั้นเจ็บปวดเกินกว่าจะฟังคำสั่งของคู่สัญญา

“พิราบอ้วน ปีกเหล็ก!” เฉียวซางออกท่าโจมตีอีกครั้ง

ปีกเหล็กเป็นท่าที่เป็นเอกลักษณ์ของสัตว์อสูรประเภทบิน ซึ่งช่วยให้พวกมันเปลี่ยนปีกของพวกมันให้กลายเป็นดั่งใบมีดแหลมคมได้ เป็นเทคนิคที่สัตว์อสูรประเภทบินส่วนใหญ่จะสามารถเรียนรู้ได้

"คุกคู?"

ดวงตาสีเทาของพิราบอ้วนเหลือบมามองเฉียวซางด้วยความงงงวย

นั่นมันคืออะไร มันไม่รู้จัก

แม้เฉียวซางจะไม่รู้ว่าพิราบอ้วนพูดว่าอะไร แต่จากทีท่าของมันก็เดาได้ไม่ยากนัก

“ใช้ลมกรด” เฉียวซางออกคำสั่งอีกครั้ง

พิราบอ้วนกระพือปีกไปเบื้องหน้า ปล่อยใบมีดอากาศที่ควบแน่นไปด้วยพลังแห่งลมต่อเนื่องถึงหกอัน

“จิ้งจอกหางทะเลทราย! หลบ!” ซูหลิงหลานกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด

ดวงตาสีเหลืองอำพันของจิ้งจอกหางทะเลทรายหรี่ลงขณะมองดูใบมีดซึ่งกำลังพุ่งเข้าหามัน แม้จะเจ็บปวดมาก แต่ก็ยังมีแรงพอที่เอี้ยวตัวหลบไปด้านข้าง

อย่างไรก็ตาม มันก็ยังโดนใบมีดอากาศเข้าไปถึงสี่อันเต็มๆ

“เมอร์โรว์!!”

ตัวของจิ้งจอกหางทะเลทรายส่ายไปมา เหมือนกับว่าสามารถล้มลงได้ทุกเมื่อ

“สุนัขเขี้ยวเพลิงพุ่งเข้าชน” เฉียวซางสั่ง

สุนัขเขี้ยวเพลิงกระตือรือร้นอย่างหนัก มันพุ่งเข้าหาจิ้งจอกหางทะเลทรายทันทีเมื่อได้รับคำสั่ง

นี่เองเปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้าย จิ้งจอกหางทะเลทรายที่ได้รับแรงกระแทกล้มลงกับสนามเรียกละอองฝุ่นคละคลุ้งทั่วอาณาบริเวณ

ขาของซูหลิงหลานอ่อนแรง หญิงสาวล้มลงก้มจุ่มพืื้น

ตลอดการต่อสู้ จิ้งจอกหางทะเลทรายถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องราวกับเป็นเป้านิ่ง

ซุหลิงหลานเกิดอาการสับสนในชีวิต ปีหน้าจะเป็นปีสุดท้ายแล้วสำหรับชีวิตนักเรียนมัธยมปลายของเธอ แต่แล้วเธอกลับมาแพ้ผู้ฝึกสัตว์อสูรที่ยังไม่แม้แต่จะลงทะเบียนเนี่ยนะ

การแพ้ 1 ต่อ 2 ก็เรื่องหนึ่ง แต่เธอไม่ได้คิดเลยสักนิดว่าเธอจะแพ้โดยไม่ได้สั่งการให้จิ้งจอกหางทะเลทรายให้ใช้ทักษะอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

ซูหลิงหลานเห็นอย่างชัดเจนว่าเด็กสาวผู้โหดเหี้ยมตรงหน้าไม่แม้แต่จะรู้ด้วยซ้ำว่าพิราบอ้วนมีทักษะอะไรบ้าง

แต่เธอกลับพ่ายแพ้การต่อสู้ พ่ายแพ้ก่อนการออกคำสั่งกับอสูรอย่างสิ้นเชิง

เฉียวซางเพิกเฉยต่อปฏิกิริยาของหญิงสาว และกอดสุนัขเขี้ยวเพลิงที่พุ่งเข้ามาในอ้อมแขนของเธอ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ทำได้ดีมาก”

“ย่าห์!”

“ย่าห์ ย่าห์!”

สุนัขเขี้ยวเพลิงหันหน้ามาหาเฉียวซางพร้อมแสดงอาการตื่นเต้น

เฉียวซางที่เห็นก็ทำสีหน้าแปลกๆ

สุนัขเขี้ยวเพลิงกระโดดลงไปที่พื้น ปากของมันเปิดกว้างขณะที่มันโชว์เขี้ยว และครู่ต่อมาเปลวไฟก็ปกคลุมเขี้ยวของมัน

เมื่อเปลวไฟหายไป สุนัขเขี้ยวเพลิงก็แสดงท่าทางกระตือรือร้นให้เฉียวซางเห็นอีกครั้ง

“แกกำลังบอกว่าแกไม่เคยใช้เขี้ยวเพลิงสำเร็จมาก่อนใช่ไหม?” เฉียวซางถาม

สุนัขเขี้ยวเพลิงพยักหน้าอย่างแรง

แต่ในตำราปฏิญานอสูรมันเขียนไว้ตั้งแต่แรกแล้วนี่ ว่าเจ้าหมานี่สามารถใช้ทักษะนี้ได้

เฉียวซางรู้สึกงุนงงและเรียกตำราขึ้นมาดูอีกครั้ง

ชื่อ: สุนัขเขี้ยวเพลิง*

คุณสมบัติ: ไฟ

ระดับ: ระดับเริ่มต้น (63/1000) +

ทักษะ: กัด (ขั้นต้น 73/100) +, พุ่งเข้าชน (ขั้นกลาง 135/500) +, เขี้ยวเพลิง (ขั้นต้น 2/100) +

คะแนน: 50

ดวงตาของเฉียวซางเป็นประกายเมื่อเธอเห็นตัวเลขเปลี่ยนไป!

ตัวเลขของพุ่งเข้าชน, เขี้ยวเพลิง และคะแนนมีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด

อันที่จริงเมื่อรวมกับท่าทีการแสดงออกของสุนัขเขี้ยวเพลิง เฉียวซางก็เริ่มคาดเดาบางสิ่งได้

4.5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด