บทที่ 66 โจร
เรื่องนี้จะมีตอนฟรีทั้งหมด 1-200 ตอน และ....ถ้ายอดกดไลก์เพิ่ม 100 ก็จะแถมให้ฟรี 20 ตอนครับ (ปล.เริ่มนับจาก 8700 นะ เช่นขึ้นไป 8800 ก็บวกให้ 20 ตอน ถ้ายอดมันขึ้นยันจบเรื่อง ก็เปิดให้ฟรีหมดอะ)
*ครบหมื่น แถม 100 ตอนไปอีก เอาเป็นว่าจำกัดวันด้วยแล้วกัน เพราะงี้ถ้าเกิดครบขึ้นมาแบบ 2 ปีต่อมาลืมแหง เอาถึง 1/4/2568 นะครับ ก็คือ 1 เมษายน*
แฟนเพจกดไลก์ได้ที่ ยักษาแปร | Facebook
บทที่ 66 โจร
หลินเสวียนถือปืน เดินก้าวใหญ่เข้าไป
“เฮ้… เฮ้! เดินกันโจ๋งครึ่มขนาดนี้เลยเหรอ!?” พี่แมวอ้วน ตกใจจนหน้าตาเบี้ยวไปหมด แต่ก็ยังคงเดินตามอย่างเชื่อฟัง
หลินเสวียนเดินไปถึงรถยนต์สีดำ
ปัง!!
แทบมองไม่เห็นแม้แต่การชักปืนเล็ง! เร็วมาก! แค่กระพริบตาเดียว! ฝีมือการยิงปืนสุดยอดของหลินเสวียน ทะลุกระจกรถไปสังหารคนขับด้วยการยิงเข้าที่หัวแล้ว!
“เฮ้ย! นี่ฝีมือยิงปืนอะไรกันเนี่ย!” พี่แมวอ้วน ร้องออกมาด้วยความตกใจ
คนขับตายตาไม่หลับ ตายอย่างไม่รู้ตัว ดวงตาเบิกโพลงมองไปรอบ ๆ อย่างงงงวย
“ต่อจากนี้”
วื้ด——
หลินเสวียนโยนปืนให้พี่แมวอ้วน จากนั้นเปิดประตูรถ ดึงปืนสีดำออกมาจากเอวของคนขับ
“ขึ้นไปชั้นสอง”
บ้านหลังนี้ใหญ่มาก แต่หลินเสวียนคุ้นเคยเส้นทางเป็นอย่างดี เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา จนมาถึงหน้าห้องนอนห้องหนึ่ง
ปัง!
ถีบประตูเข้าไป
“อื้อ!”
“ใครน่ะ!”
ชายหญิงบนเตียงตกใจสุดขีด
“อย่าขยับ” หลินเสวียนชี้ปืนไปที่ทั้งสองคน
……
เนิ่นนาน
พี่แมวอ้วนฉีกผ้าปูที่นอน มัดทั้งคู่ไว้แน่นหนา
หลินเสวียนนั่งอยู่ข้างเตียง:
“พี่แมวอ้วน ขับรถตู้มาที่นี่เลยนะ ในโรงจอดรถ ห้องเก็บของ ห้องเก็บไวน์ สระว่ายน้ำใต้ดิน… เต็มไปด้วยทองคำแท่ง เงินสดมัด ๆ และเพชรพลอย ขนขึ้นมาให้หมดแล้วค่อยตะโกนเรียกผม ผมจะคอยดูแลพวกนี้ไว้ให้”
“ได้เลย!”
พี่แมวอ้วน หยิบกุญแจที่อยู่บนโต๊ะ รีบวิ่งลงไปชั้นล่าง
หลินเสวียนนั่งอยู่บนเตียง เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ
เพิ่งจะเที่ยงคืนเอง
ภารกิจคืนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว งั้นก็อยู่เป็นเพื่อนพี่แมวอ้วนนี่แหละ จนถึงตีสองสี่สิบสองนาทีไป
ถึงแม้หลินเสวียนจะรู้ว่าไม่ว่าพี่แมวอ้วนจะขนทองคำแท่งมาอีกเท่าไหร่ก็ไร้ประโยชน์ โลกจะถึงกาลอวสานตรงเวลาในอีก 42 นาทีข้างหน้า แต่การแก้แค้นให้ลูกสาวเป็นความมุ่งมั่นตลอดชีวิตของพี่แมวอ้วน ก็ปล่อยให้มันได้เพลิดเพลินกับช่วงเวลานี้ไปเถอะ
ว่าง ๆ ก็เลยเริ่มสำรวจของตกแต่งภายในห้อง
ห้องนอนกว้างขวางมาก ตกแต่งอย่างหรูหราสุด ๆ
บนโต๊ะเขียนหนังสือมุมห้อง วางกรอบรูปตั้งหลายอัน ข้างในเป็นรูปหลี่เฉิงถ่ายรูปกับบุคคลสำคัญระดับโลกมากมาย
หลินเสวียนกับหลี่เฉิง เจ้าตู้เอทีเอ็มแก่ ๆ เอ่อไม่สิ…เพื่อนเก่าสนิทกันมาก ตลอดระยะเวลา 20 กว่าปีที่ผ่านมา เขาได้มาเยี่ยมเยียนที่นี่หลายครั้งแล้ว รูปถ่ายพวกนี้เขาก็เคยเห็นมาตั้งนานแล้ว
มีบุคคลสำคัญอยู่เยอะจริง ๆ ด้วย
หลินเสวียนจำได้ลาง ๆ ว่า รูปที่วางไว้ในตำแหน่งเด่นที่สุด เป็นรูปหลี่เฉิงถ่ายกับผู้นำระดับโลก สุดยอดจริง ๆ
ดาราและนักกีฬาระดับโลกก็มีมากมาย หลายคน หลินเสวียนเคยเห็นหน้าตาจากปกนิตยสาร ก็มาเจอรูปถ่ายกับหลี่เฉิงที่นี่ได้หมด
แม้กระทั่งผู้ที่ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งของโลก——
……
……
หลินเสวียนหยุดคิด
เขาลืมตาขึ้นเล็กน้อย ค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียง
แล้วก็รีบเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือของหลี่เฉิง ค้นหาพลิกดูกรอบรูปต่าง ๆ
เขาจำได้แล้ว
ที่นี่มีรูปถ่ายรูปหนึ่งที่ดูแปลก ๆ อยู่!
ก่อนหน้านี้เขาเห็นแล้วก็ไม่ได้สนใจ เพราะตอนนั้นฉันยังไม่รู้เรื่องสโมสรอัจฉริยะเลย
แต่ตอนนี้……
“เจอแล้ว”
หลินเสวียนหยิบกรอบรูปขึ้นมา ใบหน้าเคร่งเครียดมองภาพถ่ายข้างใน……
ในภาพถ่าย
หลี่เฉิงสีหน้าจริงจังนั่งตัวตรงบนเก้าอี้ มือขวาชูขึ้นระดับคิ้ว ยื่นนิ้วชี้ขึ้นชี้ตรงไปยังท้องฟ้า ท่าทางแปลกประหลาดและเย่อหยิ่ง
ท่าทางนี้……
หลินเสวียนนึกถึงตราประทับปิดผนึกบนจดหมายเชิญของสโมสรอัจฉริยะ ตราประทับนั้น ลายมือแปลกประหลาด……เหมือนกับท่าทางในภาพถ่ายของหลี่เฉิงเป๊ะ ๆ !
ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศพัดผ่านขึ้นมาตามขา หลินเสวียนค่อย ๆ หันไปมองหลี่เฉิงที่ถูกมัดมือมัดเท้าคุกเข่าอยู่กับพื้น คำพูดของแมวดำใหญ่ยังวนเวียนอยู่ในหู:
“มีคนบอกว่า มีเพียงคนร่ำรวยที่สุด อัจฉริยะที่สุด ผู้มีอำนาจที่สุด……เท่านั้นที่จะได้รับจดหมายเชิญจากสโมสรนี้!”
ปัง!
หลินเสวียนทุ่มกรอบรูปลงบนเก้าอี้ตรงหน้าหลี่เฉิง เลื่อนลำกล้องปืน
“อย่า ๆ ๆ ๆ อย่าฆ่าผมเลย! ให้ผมทำอะไรก็ได้! ขอร้องล่ะ ผมจะทำตามทุกอย่าง! อย่าฆ่าผมเลย!”
หลี่เฉิงหน้าซีดเผือด ตัวสั่นเทาอย่างบ้าคลั่ง ขอร้องด้วยความหวาดกลัว! ลูกตาสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว!
“ฉันแค่อยากรู้เรื่องเดียว” หลินเสวียนพูดเสียงเรียบ
หลี่เฉิงพยักหน้าอย่างรุนแรง:
“ผมบอกแล้วไง! ผมจะบอกทุกอย่างเลย!!”
หลินเสวียนคุกเข่าลง ก้มมองดวงตาของเขาอย่างจับจ้อง
“บอกฉันมา อะไรคือสโมสรอัจฉริยะกันแน่?”
“อะ อะไรนะ…สโมสรอะไร?” หลี่เฉิงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ
“สโมสรอัจฉริยะ”
“ท…หาอะไรนะ?”
ปัง!!
“อ๊ากกกกก————”
หลินเสวียนลั่นไกปืนทันที! หลี่เฉิงร้องลั่นด้วยความหวาดกลัว!
อย่างไรก็ตาม…
หลี่เฉิงพบว่าตัวเองไม่ได้ถูกยิง ลูกตาเขาสั่นเทา มองไปทางด้านข้าง แล้วพบว่า…หญิงคนรักของเขาไม่รู้ด้วยวิธีไหนดันแกะเชือกหลุดได้ ด้านหลังศีรษะมีรูโหว่ขนาดใหญ่เปื้อนเลือด ศพไร้เรี่ยวแรงล้มฟุบลงไปบนหัวเตียง และในลิ้นชักหัวเตียงที่เปิดแง้มออกนั้น โผล่ให้เห็นด้ามปืนสีเงิน…
หลินเสวียนจ่อปลายกระบอกปืนร้อน ๆ ที่หน้าผากหลี่เฉิง ร้อนมาก!
แต่ต่อหน้าปีศาจผู้ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา หลี่เฉิงไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย: “ผม ผม ผม ผมไม่ได้ล้อเล่นคุณสักหน่อย! สโมสรอะไรนั่น…ผมไม่เคยได้ยินจริง ๆ !”
“ธ ธ เธอเป็นคนแกะเชือกตัวเอง แล้วพยายามจะคว้าปืน! ไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลย! ฉันซื่อสัตย์มาก! คุณจะถามอะไรฉันก็บอกหมด! คุณอยากได้อะไรก็เอาไปเลย!”
…
ตอนนี้หลี่เฉิงก็เข้าใจแล้ว…
เมื่อครู่ยังเห็นเมียน้อยของตัวเองใช้ไม่รู้วิธีอะไร แกะผ้าที่รัดมือออก แล้ววิ่งปราดเข้าหาหัวเตียง คิดจะคว้าปืนที่อยู่ข้างในมาสู้…
แต่ที่ไหนได้!
ไอ้คนร้ายฝั่งตรงข้ามนั้น ยิงปืนแม่นยำและเร็วเหลือเชื่อ!
แทบมองไม่เห็นแม้แต่ท่าทางการชักปืนเล็ง…แม้แต่จะเหลือบตาไปมองยังไม่มี ยิงปัง! เข้าหัวทันที!
“พระเจ้า…สโมสรอัจฉริยะนี่นะ! ให้ฉันคิดก่อน! ให้ฉันคิดก่อน!”
เหงื่อไหลโทรมกาย หลี่เฉิงตัวโชก
มือถูกมัดไว้แน่น เช็ดเหงื่อไม่ได้ แถมยังไม่กล้าขยับ จึงได้แต่เงยหน้าขึ้น ปล่อยให้ความทรงจำต่าง ๆ พุ่งเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว…
“สโมสรอัจฉริยะ…สโมสรอัจฉริยะ…”
เขาหน้าเครียด พึมพำซ้ำไปซ้ำมา
สุดท้ายก็เบิกตาโพลงอย่างหมดหวัง น้ำตาคลอเบ้า:
“ผม…ผมนึกไม่ออกจริง ๆ ผมไม่เคยได้ยินชื่อสโมสรนี้มาก่อนเลยสักครั้ง!”
“ผมเคยเข้าร่วมสโมสรมาเยอะมาก สารพัดแบบเลย…แต่ที่คุณพูดมานี่ ผมไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับมันเลยจริง ๆ ! ผมไม่ได้โกหกคุณนะ! ผมกลัวตายจริง ๆ ! ผมเป็นแบบนี้แล้ว…ผมจะโกหกคุณทำไมกัน!”
“ยังจะแกล้งอีกเหรอ?” หลินเสวียนหัวเราะเยาะ:
“เบื่อชีวิตแล้วใช่ไหม? นี่ไง รูปนี้เป็นหลักฐานของสโมสรอัจฉริยะ!”
“อะ…อะไรนะ?”
หลี่เฉิงตาโต เบิกตากว้าง มองภาพนั้นอย่างตั้งใจ
“นี่…นี่ผมไม่รู้จริง ๆ นะครับว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร!”
หลี่เฉิงร้องไห้ด้วยความตกใจ:
“ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณจะสื่ออะไร อยากถามอะไร! ช่วยให้เบาะแสหน่อยได้มั้ย? ถ้าผมรู้จริง ๆ ว่าคุณถามอะไร ผมจะบอกคุณแน่นอน!”
“หลี่เฉิง ฉันให้โอกาสแกอธิบายอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ”
หลินเสวียนชี้ไปที่กรอบรูป ไปที่มือขวาของหลี่เฉิงที่ชี้ตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า:
“ท่าทางแบบนี้ มันหมายความว่ายังไงกันแน่?”