บทที่ 64 มือที่อยู่เบื้องหลัง
เรื่องนี้จะมีตอนฟรีทั้งหมด 1-200 ตอน และ....ถ้ายอดกดไลก์เพิ่ม 100 ก็จะแถมให้ฟรี 20 ตอนครับ (ปล.เริ่มนับจาก 8700 นะ เช่นขึ้นไป 8800 ก็บวกให้ 20 ตอน ถ้ายอดมันขึ้นยันจบเรื่อง ก็เปิดให้ฟรีหมดอะ)
*ครบหมื่น แถม 100 ตอนไปอีก เอาเป็นว่าจำกัดวันด้วยแล้วกัน เพราะงี้ถ้าเกิดครบขึ้นมาแบบ 2 ปีต่อมาลืมแหง เอาถึง 1/4/2568 นะครับ ก็คือ 1 เมษายน*
แฟนเพจกดไลก์ได้ที่ ยักษาแปร | Facebook
บทที่ 64 มือที่อยู่เบื้องหลัง
“แก! พูดอะไรบ้า ๆ นี่หลินเสวียน! เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับแกด้วย!”
เกาหยางรีบตบหลังหลินเสวียนเบา ๆ เพื่อปลอบโยน:
“แกก็ต้องโทษตัวเองพอดี ๆ บ้างสิ……อย่าเอาความผิดมาแบกรับคนเดียวหมด ตำรวจก็ต้องจับคนร้ายได้อยู่แล้ว ใจเย็น ๆ รอผลการสอบสวนดีกว่า”
หลินเสวียนเงยหน้าขึ้น มองเกาหยางนิ่ง ๆ
เกาหยางไม่รู้เรื่องอะไรมากนัก จึงตัดสินใจอะไรไม่ถูก
แต่หลินเสวียนก็ไม่คิดจะอธิบายอะไรเพิ่มเติม
เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันอันตราย ไม่อยากให้เกาหยางมาร่วมรับรู้
“ไปกันเถอะหลินเสวียน อยู่ที่นี่นานเดี๋ยวเป็นหวัดเอา”
เกาหยางลากหลินเสวียนลุกขึ้น ตบฝุ่นบนเสื้อผ้าเขาเบา ๆ :
“กลับบ้านกันไหม?”
“อืม”
……
เกาหยางเรียกแท็กซี่พาหลินเสวียนมาส่งหน้าตึก ยังไม่วางใจ เลยคอยหลินเสวียนจนถึงหน้าประตูบ้าน:
“หลินเสวียน รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม? เออ…อย่าโทษตัวเองเลย แกเชิญศาสตราจารย์สวี่หยุนมางานเลี้ยง ก็ด้วยความหวังดีนี่นา! เข้มแข็งไว้นะ!”
“ถ้าอยากทำอะไรจริง ๆ ก็ควรตั้งสติแล้วลองนึกถึงรายละเอียดตอนเกิดเหตุให้ดี ๆ อย่างเช่น ป้ายทะเบียนรถ ลักษณะคนขับ อะไรพวกนี้ จะได้ช่วยตำรวจจับคนร้ายเร็ว ๆ เพื่อล้างแค้นให้ศาสตราจารย์สวี่หยุน!”
หลินเสวียนพยักหน้า
ตลอดทาง เขาก็คิดได้แล้ว เหมือนที่เกาหยางพูดนั่นแหละ พูดแรงไปหน่อยแต่ก็จริง
แทนที่จะมาเสียใจกับเรื่องที่แก้ไขไม่ได้…ยังดีกว่าที่จะเปลี่ยนความเศร้าโศกให้เป็นพลัง พยายามทำอะไรสักอย่างเพื่อศาสตราจารย์สวี่หยุน—— จับคนร้ายที่ฆ่าเขา และผู้บงการเบื้องหลังมาลงโทษให้ได้!
ในเรื่องนี้ เขารู้มากกว่าตำรวจ และใกล้ความจริงมากกว่า สามารถหาเบาะแสที่ตำรวจมองข้ามไปได้อีกเยอะ
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันดีขึ้นแล้ว”
“งั้นฉันไปก่อนนะ” เกาหยางโบกมือลา แล้วบอกหลินเสวียนให้พักผ่อนเยอะ ๆ
……
หลินเสวียนไม่ได้นอน นอนไม่หลับเลย
เขาอาบน้ำเย็น ปล่อยให้น้ำเย็น ๆ ไหลทั่วตัว ความเย็นทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที
“แท้จริงแล้ว…ใครกันแน่ที่ฆ่าอาจารย์สวี่หยุน?”
หลินเสวียนเช็ดตัวให้แห้ง สวมชุดนอนแล้วนั่งลงที่โต๊ะทำงาน ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่
ถ้าคิดตามหลักเหตุผลทั่วไป บริษัทเภสัชกรรม และพวกเศรษฐีที่กลัวผลงานวิจัยแคปซูลจำศีลของสวี่หยุน น่าจะเป็นผู้ต้องสงสัยที่สุด
ผลงานวิจัยของสวี่หยุน รวมถึงแคปซูลจำศีลที่จะเปิดตัวในอนาคต จะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลต่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของพวกเขา
แต่ว่า……
“เรื่องไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก” หลินเสวียนส่ายหัว เขาไม่คิดอย่างนั้น จริงอยู่ที่บรรดาเจ้าของทุนนั้นโลภมาก แต่พวกเขาไม่ได้โง่ การฆ่าสวี่หยุนตอนนี้ไม่มีความหมายอะไรเลย หลินเสวียนนึกถึงคำพูดของพี่แมวอ้วนขึ้นมา
“เห็นฉันแบบนี้นะ แต่พ่อฉันน่ะสมัยก่อนเป็นนักคณิตศาสตร์ชื่อดังนะ ได้เหรียญฟีลด์มาด้วย”
“ตอนนั้นฉันทำงานอยู่ข้างนอก ลูกสาวฉันมักจะไปอยู่บ้านพ่อฉัน วันหนึ่งดึก ๆ ลูกสาวฉันก็ไข้ขึ้นสูงชัก พ่อฉันอุ้มเธอมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล แล้วก็……”
“แล้วก็……เกิดอุบัติเหตุรถชน รถบรรทุกคันใหญ่พุ่งชนจนทับพวกเขาทั้งสอง……”
“เป้าหมายของพวกมันคือแค่ฆ่าพ่อฉัน ลูกสาวฉันแค่พลอยถูกไปด้วย ฉันไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร……พ่อฉันเป็นแค่พวกหัวทิ่มตำรา ไม่เคยไปยุ่งกับใครเลย!”
“มันเป็นองค์กรลึกลับ ลึกลับจนหาเบาะแสอะไรไม่ได้เลย ฉันสืบมาตั้งนาน ได้มาแค่ชื่อเดียว นอกนั้นหาอะไรไม่เจอเลย!”
……
หลินเสวียนเปิดสวิตช์ไฟข้างเตียง เหมือนกับจับจุดสำคัญบางอย่างได้แล้ว นักคณิตศาสตร์ เวลาเที่ยงคืน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชน เทียบกับสวี่หยุน นักวิทยาศาสตร์ 00:42 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชน บุคคล เวลา เหตุการณ์ สามองค์ประกอบนี้คล้ายกันอย่างน่าตกใจ นี่มันเป็นเพียงความบังเอิญจริง ๆ หรือ?
00:42 เวลาแค่นี้มันก็แปลกอยู่นะ……
บังเอิญหรือเปล่า?
หรือตั้งใจ?
ถ้าตั้งใจ แล้วจุดประสงค์คืออะไรกัน?
ถ้าตั้งใจ แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าสวี่หยุนจะเสียชีวิตตรงเวลานี้พอดี?
……
หลินเสวียนครุ่นคิดอยู่นาน ยากจะสรุปให้แน่ชัด
สาเหตุก็คือ……
【เขาไม่แน่ใจว่าที่พี่แมวอ้วนพูดมานั้นจริงเหรอไม่】
ตัวเองโกหกพี่แมวอ้วนได้ พี่แมวอ้วนก็โกหกตัวเองได้เหมือนกัน
ด้วยนิสัยและพฤติกรรมของพี่แมวอ้วน ยากที่จะรับประกันได้ว่ามันไม่ได้พูดโกหกหลอกตัวเอง แน่นอน ก็ไม่แน่อาจจะพูดความจริงก็ได้
นี่แหละที่ยุ่งยาก ทำให้การสืบสวนของหลินเสวียนติดขัดไปต่อไม่ได้
“ถ้าพี่แมวอ้วนพูดโกหกฉัน งั้นทั้งหมดนี้ก็คงเป็นเพราะฉันคิดมากไปเอง”
“แต่ถ้า พี่แมวอ้วนพูดความจริง……”
มีความเป็นไปได้สูงมากที่——
【การตายของอาจารย์สวี่หยุน และการตายของพ่อพี่แมวอ้วน เป็นฝีมือของฆาตกรหรือองค์กรเดียวกัน】
หลินเสวียนไม่แน่ใจว่าสโมสรอัจฉริยะจะเป็นฆาตกรโดยตรงหรือไม่
แต่อย่างน้อย องค์กรนี้ก็มีความเกี่ยวข้องกับการตายของสวี่หยุนและพ่อของพี่แมวอ้วนอย่างแน่นอน
“ดังนั้น กุญแจสำคัญทั้งหมดอยู่ที่พี่แมวอ้วน”
“ต้องดูว่าข้อมูลที่มันให้มานั้นจริงเหรอเท็จ แล้วค่อยไปสืบสวนต่อ”
ภารกิจเร่งด่วนที่สุดตอนนี้ก็คือ——
ไปยังโลกแห่งความฝันเพื่อตามหาพี่แมวอ้วน
แล้วค้นหาความจริงว่าข่าวกรองเกี่ยวกับสโมสรอัจฉริยะที่มันบอกมานั้น เป็นความจริงเหรอไม่!
……
เขามองออกไปนอกหน้าต่าง
ฟ้าเริ่มสางแล้ว หมู่บ้านคึกคักขึ้น มีคนไปทำงานบ้าง ส่งลูกไปโรงเรียนบ้าง
ถึงแม้จะนอนไม่หลับทั้งคืน แต่หลินเสวียนกลับไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด
“ไปทำงานเถอะ อยู่บ้านก็แค่นั่งเครียดเปล่า ๆ คืนนี้เข้านอนเร็ว ๆ แล้วไปหาพี่แมวอ้วนในฝันซะ”
เขาลงไปชั้นล่าง
ซื้ออาหารเช้าแบบง่าย ๆ เล็กน้อย
หลินเสวียนมาถึงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
บนจออิเล็กทรอนิกส์บริเวณชานชาลา กำลังรายงานข่าวเช้าเกี่ยวกับการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของศาสตราจารย์สวี่หยุน
แต่กลับมีคนสนใจน้อยมาก
ทุกคนยังคงใช้ชีวิตประจำวันอย่างเร่งรีบ เหมือนเช่นเคย
ก็ช่วยไม่ได้
คนส่วนใหญ่ ชินชาต่อเรื่องการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์เหลือเกิน
เรื่องนี้ก็เหมือนกันในโลกอนาคตในฝันนั่นแหละ
ไม่มีใครสนใจหรอกว่า การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์เป็นอย่างไร ทำไมวิทยาศาสตร์ถึงไม่ก้าวหน้า วันนี้มีนักวิทยาศาสตร์คนไหนเสียชีวิต หรือว่านักวิทยาศาสตร์คนไหนได้รางวัลโนเบล
ทุกคนสนใจแต่เรื่องราคาสินค้า เงินเดือน และชีวิตประจำวัน……
แม้กระทั่งเรื่องซุบซิบนินทาของดารา ยังเป็นที่พูดถึงมากกว่าการตายของนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่เสียอีก
“ก็เป็นอย่างนี้มาตลอด”
หลินเสวียนเดินเข้าไปในรถไฟฟ้าใต้ดิน จับราวบันได รู้สึกถึงความหนักอึ้งของประวัติศาสตร์ และรู้สึกถึงความเล็กจ้อยของตนเองในกระแสแห่งกาลเวลา
ถึงแม้จะมาถึงที่ทำงานแล้วก็ตาม
เพื่อนร่วมงานต่างรู้สึกเสียใจและถอนหายใจกับการตายของศาสตราจารย์สวี่หยุน แต่ก็แค่นั้น
ความฮือฮาของสินค้าใหม่ของไรน์ และโบนัสเงินเดือนที่จะได้รับ ได้กลบความเศร้าโศกนั้นไปอย่างรวดเร็ว
เย็นวันนั้น หลินเสวียนทานข้าวเสร็จเร็ว แล้วเขานอนลงบนเตียง
เหลือบมองนาฬิกา
21:35
เวลาเป๊ะเวอร์
หลับปุ๊บก็เข้าสู่ห้วงนิทรา พอดีจะได้ไปดักเจอหน้าพี่แมวอ้วนที่ลานกว้าง
“ต้องหาทางล้วงความจริงจากปากพี่แมวอ้วน ดูว่าข้อมูลเกี่ยวกับสโมสรอัจฉริยะที่มันพูดมานั้น เชื่อถือได้แค่ไหน”
ถ้าแน่ใจว่าที่พี่แมวอ้วนพูดแต่แรกเป็นเรื่องโกหก ก็ไม่มีอะไรต้องพูด การสืบสวนคดีฆาตกรรมศาสตราจารย์สวี่หยุน ก็ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องนี้แล้ว
แต่ถ้าหากพี่แมวอ้วนพูดความจริง……
สโมสรอัจฉริยะเป็นฝ่ายฆ่าพ่อเขาจริง ๆ ;
พ่อของพี่แมวอ้วนก็เป็นนักคณิตศาสตร์รางวัลเหรียญฟีลด์จริง ๆ ;
และเวลาที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ก็ตรงกันพอดี……
คลิก
หลินเสวียนเปิดไฟห้องน้ำ
“งั้นก็พอจะเดาได้แล้วว่า ฆาตกรตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมศาสตราจารย์สวี่หยุนคือใคร”
ถ้าพี่แมวอ้วนหาข้อมูลเกี่ยวกับสโมสรอัจฉริยะเจอ นั่นก็หมายความว่าองค์กรนี้ต้องเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อเขาอย่างแน่นอน
อย่างน้อย ก็ต้องมีความเกี่ยวข้อง
ฝืนความง่วงนอนไปอาบน้ำล้างหน้า
หลินเสวียนเอาหัวฟุบลงบนเตียง
ปิดไฟนอน
……
……
ฮืบ!
สายลมยามเย็นที่คุ้นเคย ความร้อนอบอ้าวที่คุ้นเคย เสียงจิ้งหรีดที่คุ้นเคย
หลินเสวียนลืมตาขึ้น
โลกแห่งความฝัน ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
“ลูกเตะอุลตร้า!”
“อุลตร้าสไลด์!”
ที่ลานกว้าง เด็กชายสองพี่น้องวิ่งไล่ตีกันไปเรื่อย ๆ จนหน้ากากอุลตร้าแมนที่คาดอยู่ตรงเอวหลุดตกลงพื้น
หลินเสวียนเดินเข้าไปเก็บหน้ากากอุลตร้าแมนขึ้นมา แล้วสวมใส่
จากนั้นก็หันไปมองชายร่างท้วมที่กำลังลงมาจากรถตู้คันหนึ่ง
“พี่แมวอ้วน!”
“ห๊ะ?” ชายร่างใหญ่ที่สวมหน้ากากแมวไรน์หันหน้ามาด้วยสีหน้าดุ ๆ
“เฮ้อ……”
หลินเสวียนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ทุกครั้งที่เจอกันก็ต้องเล่าเรื่องเดิมซ้ำอีก เขาไม่อยากพูดแล้วจริง ๆ
“ทำไม! นายรู้ชื่อฉันได้ยังไง!”
พี่แมวอ้วนมองหลินเสวียนอย่างระแวง มือก็ล้วงไปที่เอว——
ปัง!
หลินเสวียนคว้ามืออ้วน ๆ ของเขาไว้
“หวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมต้องพูดซ้ำแล้วนะ”
“พี่ฟังให้ดี ๆ ……”