ตอนที่แล้วบทที่ 5: ตำราอสูร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 7: จิ้งจอกหางทะเลทราย

บทที่ 6: สุนัขเขี้ยวเพลิง


ในไม่ช้า สุนัขเขี้ยวเพลิง ก็หายไปภายในกลุ่มดาวที่สุกสกาว

ทันใดนั้น หน้าว่างของตำราอสูรในจิตใจของเฉียวซางก็สว่างขึ้น และภาพสุนัขเขี้ยวเพลิงเสมือนจริงก็ปรากฏขึ้นมา

ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลบางอย่างเขียนไว้อยู่เต็มไปหมด

ชื่อ: สุนัขเขี้ยวเพลิง*

คุณสมบัติ: ไฟ

ระดับ: ระดับเริ่มต้น (63/1000)+

ทักษะ: กัด (ขั้นต้น 73/100)+, พุ่งเข้าชน (ขั้นกลาง 133/500)+, เขี้ยวเพลิง (ขั้นต้น 1/100)+

คะแนน: 0

บรรทัดที่เรียบง่ายและเข้าใจง่ายเหล่านี้ปรากฏชัดเจนต่อหน้าเฉียวซาง

เธอตกตะลึง

ตำราอสูรของคนอื่นเป็นแบบนี้เหมือนกันไหม?

แต่เธอคิดว่าไม่ เพราะจากความทรงจำที่มี เธอจำได้ว่ามันมีแค่หน้าสัญญาเพียงเท่านั้น

ทว่าถึงอย่างนั้นเฉียวซางก็ไม่ได้มั่นใจเต็มร้อย เพราะใครใช้ให้เจ้าของร่างเดิมเป็นนักเรียนระดับบ๊วยของห้องกัน

ยังไงก็ตาม… บางที แค่บางที นี่คือนิ้วทองของฉันจริงๆก็ได้!

เฉียวซางระงับความตื่นเต้นของตัวเองและทำสัญลักษณ์มืออัญเชิญเจ้าสุนัขเขี้ยวเพลิงออกมา

วินาทีต่อมา กลุ่มดาวสีขาวก็ปรากฏขึ้นบนพื้น แสงดาวมารวมตัวกันรอบๆ ปรากฎเป็นสุนัขเขี้ยวเพลิงที่อยู่ในอารมณ์ตื่นเต้น

“ย่าห์!” สุนัขเขี้ยวเพลิงเห่าใส่เฉียวซาง

เนื่องจากสัญญา เฉียวซางจึงสามารถเข้าใจความตั้งใจของสัตว์อสูรที่เป็นสัตว์อสูรของเธอได้อย่างง่ายดาย

มันอยากจะลองเข้า ตำราอีกครั้ง

เฉียวซางยิ้มอย่างไม่เต็มใจและสร้างสัญลักษณ์มือเพื่อนำสุนัขเขี้ยวเพลิงกลับคืนสู่ตำรา

ทันทีที่มันเข้าไป สุนัขเขี้ยวเพลิงก็เริ่มเห่าเพื่อขอให้ปล่อยมันออกมาอีกครั้ง

เฉียวซางทำตาม ทันทีที่สุนัขเขี้ยวเพลิงปรากฏตัวอีกครั้ง มันก็ส่ายหางสีแดงอย่างเป็นสุข

“ย่าห์!”

เฉียวซางหัวเราะเบา ๆ และส่งมันกลับเข้าไปในตำรา

จากนั้นเธอก็ปล่อยมันออกมาอีกครั้ง

สุนัขเขี้ยวเพลิงกระพริบตาสีดำของมัน

“ย่าห์!”

รอยยิ้มของเฉียวซางแข็งค้างเล็กน้อย เธอลังเลแต่ก็ยังส่งมันคืนสู่ตำรา

เมื่อมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง สุนัขเขี้ยวเพลิงก็จ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง

“ย่าห์!” เอาอีก เอาอีก!

เฉียวซาง: "..."

เมื่อเย่เซียงถิงกลับมา เธอพบว่าลูกสาวของเธอสร้างสัญลักษณ์มือซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอส่งสุนัขเขี้ยวเพลิงเข้าตำราและปล่อยมันออกมาและเข้าไปต่อ เข้าแล้วออก ออกแล้วเข้า วนเวียนซ้ำไปมา

เย่เซียงถิงถามด้วยความสับสน “ซังซัง ทำอะไรของลูกน่ะ?”

เฉียวซางตอบด้วยสีหน้าเฉยเมย “หนูกำลังเล่นกับเจ้าสุนัขเขี้ยวเพลิงอยู่ค่ะ”

เฉียวซางไม่ได้กลับบ้านทันทีหลังจากออกจากฐานเพาะเลี้ยงสัตว์อสูรฮันกัง แต่เธอมาแวะที่ศูนย์รับรองผู้ฝึกสัตว์อสูรฮันกัง

ตามข้อบังคับของพันธมิตรสัตว์อสูรทุกตัวที่ทำสัญญาโดยผู้ฝึกสัตว์อสูรจะต้องลงทะเบียนที่ศูนย์ภายในเจ็ดวันทำการ

ในยุคนี้ คุณไม่สามารถทำสัญญากับสัตว์อสูรและพามันกลับบ้านอย่างสบายอารมณ์ได้

ขั้นแรก คุณต้องลงทะเบียนสัตว์อสูรของคุณก่อน มิฉะนั้นจะถือว่ามันเป็นอสูรที่ไม่ได้จดทะเบียน

เมืองของมนุษย์ห้ามไม่ให้อสูรป่าเข้ามา

หากสัตว์อสูรที่ไม่ได้ลงทะเบียนถูกจับได้ กรมตรวจสอบจะถือว่ามันเป็นอสูรป่าและพามันกลับคืนสู่ธรรมชาติ

เป็นเรื่องธรรมดามากทีอสูรป่านั้นโจมตีมนุษย์

อันที่จริงข่าวเรื่องมนุษย์โดนอสูรเร่ร่อนทำร้ายนั้นออกข่าวผ่านหน้าทีวีอยู่ทุกวัน

เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนธรรมดาที่โดเมนสมองยังไม่ถูกปลุกให้ตื่น กลุ่มพันธมิตรจึงห้ามไม่ให้มีอสูรป่าปรากฏอยู่ในเมืองโดยเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาตินั้นแตกต่างกันไปตามประเภท พลังของบางตัวก็ลึกลับซับซ้อนมาก

สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติประเภทสัตว์นั้นค้นหาแล้วจับได้ไม่ลำบากนัก แต่สิ่งมีชีวิตอย่างแฟรี่หรือผีนั้นค้นเจอได้ยากมากหากพวกมันต้องการจะหลบซ่อน

ดังนั้นพันธมิตรจึงได้จัดตั้งแผนกตรวจสอบขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อจัดการกับสถานการณ์เหล่านี้

จากฐานเพาะเลี้ยงสัตว์อสูรรฮันกังมายังศูนย์รับรองผู้ฝึกสัตว์อสูรฮฮันกังนั้นเป็นทางเดียวกับทางกลับบ้านของเธอพอดีทำให้การเดินทางไม่ได้ลำบากนัก

เมื่อใกล้ถึงจู่ๆแม่ของเธอก็ปล่อยเธอทิ้งไว้พร้อมกับพิราบอ้วนและบอกว่าตนมีธุระต้องทำ จากนั้นก็ขี่นกฮูกผู้ศรัทธาไปอีกทิศทางหนึ่ง

เมื่อเฉียวซางมาถึงศูนย์รับรองผู้ฝึกสัตรอสูรฮันกังก็เป็นเวลา 11:32 น. แล้ว เหลือเวลาเพียง 28 นาทีก่อนที่ศูนย์จะปิดพักเที่ยง

ต่างจากการลงทะเบียนการตรวจจับโดเมนสมองซึ่งมีช่องรับเรื่องเพียงช่องเดียวเท่านั้น ที่นี่มี 16 ช่องที่เปิดสำหรับการลงทะเบียนข้อมูล

เฉียวซางรับบัตรคิวและหาที่นั่งรอ

พิราบอ้วนยืนเงียบๆข้างเธอคอยเฝ้าดู ขณะที่สุนัขเขี้ยวเพลิงนอนอยู่ในอ้อมแขนของเธอ ดวงตาของมันกวาดมองไปรอบๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น

"หมายเลข 06556 เชิญที่ช่อง 12"

"หมายเลข 06556 เชิญที่ช่อง 12"

เฉียวซางเหลือบมองหมายเลขในมือของเธอ  06557 จากนั้นเธอก็ตรวจสอบเวลา—11:52 น.

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ทันช่วงเช้า

"หมายเลข 06557 เชิญที่ช่อง 12"

ปรากฏว่า 06556 ไม่อยู่ พวกเขาจึงเรียกคิวของเฉียวซางแทน

เฉียวซางรีบลุกขึ้นพร้อมอุ้มสุนัขเขี้ยวเพลิงไว้ เหมือนวันนี้เธอจะโชคดี

ที่ช่อง 12 เป็นชายหนุ่มทำผมทรงปัดเป๋กำลังจัดการเรื่องการลงทะเบียน

“สวัสดีครับ ต้องการให้ช่วยอะไรครับ?”

เฉียวซางดึงบัตรข้อมูลของเธอออกมาแล้วยื่นให้ "ฉันมาที่นี่เพื่อลงทะเบียนสัตว์อสูรของฉันค่ะ"

ชายหนุ่มหยิบบัตรไปวางบนเครื่องสแกน หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า "ขอโทษนะครับ แต่คุณยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูร ทางเราจึงไม่สามารถทำการลงทะเบียนสัตว์อสูรให้คุณได้"

เฉียวซางผงะไป “ถ้าอย่างนั้น ขอลงทะเบียนเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรก่อนก็ได้ค่ะ”

ชายหนุ่มตอบว่า "ถ้าอย่างนั้นขอใบรับรองปลุกโดเมนสมองด้วยครับ"

นี่เป็นครั้งแรกที่เฉียวซางมาลงทะเบียน เธอเลยไม่รู้ว่าต้องเอาเอกสารอะไรมาบ้าง

“ฉันไม่ได้เอามาค่ะ” เฉียวซางพูดอย่างห่อเหี่ยว

จากนั้นเธอก็ยกสุนัขเขี้ยวเพลิงในมือของเธอขึ้นมาไว้ตรงหน้า “ใช้เจ้านี่เป็นข้อพิสูจน์ไม่ได้เหรอคะ?”

ชายหนุ่มเหลือบดูเวลาบนคอมพิวเตอร์ของเขา—11:58 น. "ไม่ ทำไม่ได้ครับ"

"ทำไมถึงทำไม่ได้ล่ะคะ?" เฉียวซางถามด้วยความสับสน

เสียงใจร้อนหญิงสาวรายหนึ่งดังแทรกขึ้นมาจากด้านหลัง “ยังไม่เสร็จอีกรึไง? เอกสารไม่ครบก็ออกไปสิย่ะ”

เฉียวซางหันกลับมาและเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดเครื่องแบบโรงเรียนมัธรยมปลายสหภาพอสูรยืนอยู่ข้างหลังเธอ

หญิงสาวมองเฉียวซางอย่างไม่แยแส เธอมีดวงตาที่เรียวเล็กและมักจะมองบนตลอดเวลาทำให้คนที่เห็นไม่สบอารมณ์นัก

เมื่อเห็นว่าเฉียวซางไม่ตอบสนอง เด็กสาวก็ก้าวไปด้านหน้า พร้อมยื่นบัตรคิวให้พนักงานชาย

“ฉันหมายเลข 06556 มาก่อนยัยนี่ จัดการเรื่องของฉันก่อน ฉันต้องการอัปเดตข้อมูลสัตว์อสูรของฉัน”

เฉียวซางขมวดคิ้วและถอยออกมาเล็กน้อย แม้ทัศนคติของอีกฝ่ายจะออกแนวหัวขวดไปหน่อย แต่เธอก็ไม่มีเอกสารจริงๆ

ชายหนุ่มผมทรงปัดเป๋ปฏิเสธคำขอของหญิงสาวและพูดว่า “ถ้าเลยคิวไปแล้วต้องไปต่อคิวใหม่ครับ”

จากนั้นเขาก็ส่งบัตรข้อมูลของเฉียวซางกลับมาให้เธอ

"การลงทะเบียนผู้ฝึกสัตว์อสูรต้องมีหลักฐานและรูปถ่ายเป็นเอกสารประกอบนะครับ"

เมื่อเวลา 12.00 น. ตรง ชายหนุ่มหันป้ายที่ช่องรับลงทะเบียนไปอีกฝั่งแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม “เราขอทำการปิดพักเที่ยง สามารถเข้ารับบริการใหม่ได้ในช่วงบ่ายนะครับ”

จากนั้นเขาก็ออกจากที่ทำงานไปด้วยความเร็วสูง

ทั้งสองสาวล้วนทำธุระของตนไม่สำเร็จ แต่เฉียวซางไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะนี่เป็นแค่ทางแวะก่อนกลับบ้านเพียงเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หญิงสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายขมวดคิ้วไม่พอใจอย่างแรง

“ทั้งหมดเป็นความผิดของหล่อน! ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อน ฉันคงลงทะเบียนสำเร็จไปแล้ว”

เฉียวซางไม่สนใจ หันหน้าพร้อมเดินออกไปทันที

มือหนึ่งหยุดเธอ

“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดรึไงยะ!”

เฉียวซางมองไปรอบๆ ด้วยความสับสน และถามขึ้นว่า "เธอกำลังคุยกับฉันอยู่หรือเปล่า?" ด้วยแววตาใสซื่อ

“แล้วคิดว่าฉันคุยกับผีตัวไหนอยู่ล่ะ?” ดวงตาเรียวเล็ก โฉบเฉี่ยวเบิกกว้างด้วยความกริ้ว

ทันใดนั้นทั้งสองก็กลายเป็นจุดสนใจของคนที่สัญจรผ่านไปมาทันที

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด