บทที่ 6: สุนัขเขี้ยวเพลิง
ในไม่ช้า สุนัขเขี้ยวเพลิง ก็หายไปภายในกลุ่มดาวที่สุกสกาว
ทันใดนั้น หน้าว่างของตำราอสูรในจิตใจของเฉียวซางก็สว่างขึ้น และภาพสุนัขเขี้ยวเพลิงเสมือนจริงก็ปรากฏขึ้นมา
ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลบางอย่างเขียนไว้อยู่เต็มไปหมด
ชื่อ: สุนัขเขี้ยวเพลิง*
คุณสมบัติ: ไฟ
ระดับ: ระดับเริ่มต้น (63/1000)+
ทักษะ: กัด (ขั้นต้น 73/100)+, พุ่งเข้าชน (ขั้นกลาง 133/500)+, เขี้ยวเพลิง (ขั้นต้น 1/100)+
คะแนน: 0
บรรทัดที่เรียบง่ายและเข้าใจง่ายเหล่านี้ปรากฏชัดเจนต่อหน้าเฉียวซาง
เธอตกตะลึง
ตำราอสูรของคนอื่นเป็นแบบนี้เหมือนกันไหม?
แต่เธอคิดว่าไม่ เพราะจากความทรงจำที่มี เธอจำได้ว่ามันมีแค่หน้าสัญญาเพียงเท่านั้น
ทว่าถึงอย่างนั้นเฉียวซางก็ไม่ได้มั่นใจเต็มร้อย เพราะใครใช้ให้เจ้าของร่างเดิมเป็นนักเรียนระดับบ๊วยของห้องกัน
ยังไงก็ตาม… บางที แค่บางที นี่คือนิ้วทองของฉันจริงๆก็ได้!
เฉียวซางระงับความตื่นเต้นของตัวเองและทำสัญลักษณ์มืออัญเชิญเจ้าสุนัขเขี้ยวเพลิงออกมา
วินาทีต่อมา กลุ่มดาวสีขาวก็ปรากฏขึ้นบนพื้น แสงดาวมารวมตัวกันรอบๆ ปรากฎเป็นสุนัขเขี้ยวเพลิงที่อยู่ในอารมณ์ตื่นเต้น
“ย่าห์!” สุนัขเขี้ยวเพลิงเห่าใส่เฉียวซาง
เนื่องจากสัญญา เฉียวซางจึงสามารถเข้าใจความตั้งใจของสัตว์อสูรที่เป็นสัตว์อสูรของเธอได้อย่างง่ายดาย
มันอยากจะลองเข้า ตำราอีกครั้ง
เฉียวซางยิ้มอย่างไม่เต็มใจและสร้างสัญลักษณ์มือเพื่อนำสุนัขเขี้ยวเพลิงกลับคืนสู่ตำรา
ทันทีที่มันเข้าไป สุนัขเขี้ยวเพลิงก็เริ่มเห่าเพื่อขอให้ปล่อยมันออกมาอีกครั้ง
เฉียวซางทำตาม ทันทีที่สุนัขเขี้ยวเพลิงปรากฏตัวอีกครั้ง มันก็ส่ายหางสีแดงอย่างเป็นสุข
“ย่าห์!”
เฉียวซางหัวเราะเบา ๆ และส่งมันกลับเข้าไปในตำรา
จากนั้นเธอก็ปล่อยมันออกมาอีกครั้ง
สุนัขเขี้ยวเพลิงกระพริบตาสีดำของมัน
“ย่าห์!”
รอยยิ้มของเฉียวซางแข็งค้างเล็กน้อย เธอลังเลแต่ก็ยังส่งมันคืนสู่ตำรา
เมื่อมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง สุนัขเขี้ยวเพลิงก็จ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
“ย่าห์!” เอาอีก เอาอีก!
เฉียวซาง: "..."
เมื่อเย่เซียงถิงกลับมา เธอพบว่าลูกสาวของเธอสร้างสัญลักษณ์มือซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอส่งสุนัขเขี้ยวเพลิงเข้าตำราและปล่อยมันออกมาและเข้าไปต่อ เข้าแล้วออก ออกแล้วเข้า วนเวียนซ้ำไปมา
เย่เซียงถิงถามด้วยความสับสน “ซังซัง ทำอะไรของลูกน่ะ?”
เฉียวซางตอบด้วยสีหน้าเฉยเมย “หนูกำลังเล่นกับเจ้าสุนัขเขี้ยวเพลิงอยู่ค่ะ”
เฉียวซางไม่ได้กลับบ้านทันทีหลังจากออกจากฐานเพาะเลี้ยงสัตว์อสูรฮันกัง แต่เธอมาแวะที่ศูนย์รับรองผู้ฝึกสัตว์อสูรฮันกัง
ตามข้อบังคับของพันธมิตรสัตว์อสูรทุกตัวที่ทำสัญญาโดยผู้ฝึกสัตว์อสูรจะต้องลงทะเบียนที่ศูนย์ภายในเจ็ดวันทำการ
ในยุคนี้ คุณไม่สามารถทำสัญญากับสัตว์อสูรและพามันกลับบ้านอย่างสบายอารมณ์ได้
ขั้นแรก คุณต้องลงทะเบียนสัตว์อสูรของคุณก่อน มิฉะนั้นจะถือว่ามันเป็นอสูรที่ไม่ได้จดทะเบียน
เมืองของมนุษย์ห้ามไม่ให้อสูรป่าเข้ามา
หากสัตว์อสูรที่ไม่ได้ลงทะเบียนถูกจับได้ กรมตรวจสอบจะถือว่ามันเป็นอสูรป่าและพามันกลับคืนสู่ธรรมชาติ
เป็นเรื่องธรรมดามากทีอสูรป่านั้นโจมตีมนุษย์
อันที่จริงข่าวเรื่องมนุษย์โดนอสูรเร่ร่อนทำร้ายนั้นออกข่าวผ่านหน้าทีวีอยู่ทุกวัน
เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนธรรมดาที่โดเมนสมองยังไม่ถูกปลุกให้ตื่น กลุ่มพันธมิตรจึงห้ามไม่ให้มีอสูรป่าปรากฏอยู่ในเมืองโดยเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาตินั้นแตกต่างกันไปตามประเภท พลังของบางตัวก็ลึกลับซับซ้อนมาก
สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติประเภทสัตว์นั้นค้นหาแล้วจับได้ไม่ลำบากนัก แต่สิ่งมีชีวิตอย่างแฟรี่หรือผีนั้นค้นเจอได้ยากมากหากพวกมันต้องการจะหลบซ่อน
ดังนั้นพันธมิตรจึงได้จัดตั้งแผนกตรวจสอบขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อจัดการกับสถานการณ์เหล่านี้
จากฐานเพาะเลี้ยงสัตว์อสูรรฮันกังมายังศูนย์รับรองผู้ฝึกสัตว์อสูรฮฮันกังนั้นเป็นทางเดียวกับทางกลับบ้านของเธอพอดีทำให้การเดินทางไม่ได้ลำบากนัก
เมื่อใกล้ถึงจู่ๆแม่ของเธอก็ปล่อยเธอทิ้งไว้พร้อมกับพิราบอ้วนและบอกว่าตนมีธุระต้องทำ จากนั้นก็ขี่นกฮูกผู้ศรัทธาไปอีกทิศทางหนึ่ง
เมื่อเฉียวซางมาถึงศูนย์รับรองผู้ฝึกสัตรอสูรฮันกังก็เป็นเวลา 11:32 น. แล้ว เหลือเวลาเพียง 28 นาทีก่อนที่ศูนย์จะปิดพักเที่ยง
ต่างจากการลงทะเบียนการตรวจจับโดเมนสมองซึ่งมีช่องรับเรื่องเพียงช่องเดียวเท่านั้น ที่นี่มี 16 ช่องที่เปิดสำหรับการลงทะเบียนข้อมูล
เฉียวซางรับบัตรคิวและหาที่นั่งรอ
พิราบอ้วนยืนเงียบๆข้างเธอคอยเฝ้าดู ขณะที่สุนัขเขี้ยวเพลิงนอนอยู่ในอ้อมแขนของเธอ ดวงตาของมันกวาดมองไปรอบๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"หมายเลข 06556 เชิญที่ช่อง 12"
"หมายเลข 06556 เชิญที่ช่อง 12"
เฉียวซางเหลือบมองหมายเลขในมือของเธอ 06557 จากนั้นเธอก็ตรวจสอบเวลา—11:52 น.
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ทันช่วงเช้า
"หมายเลข 06557 เชิญที่ช่อง 12"
ปรากฏว่า 06556 ไม่อยู่ พวกเขาจึงเรียกคิวของเฉียวซางแทน
เฉียวซางรีบลุกขึ้นพร้อมอุ้มสุนัขเขี้ยวเพลิงไว้ เหมือนวันนี้เธอจะโชคดี
ที่ช่อง 12 เป็นชายหนุ่มทำผมทรงปัดเป๋กำลังจัดการเรื่องการลงทะเบียน
“สวัสดีครับ ต้องการให้ช่วยอะไรครับ?”
เฉียวซางดึงบัตรข้อมูลของเธอออกมาแล้วยื่นให้ "ฉันมาที่นี่เพื่อลงทะเบียนสัตว์อสูรของฉันค่ะ"
ชายหนุ่มหยิบบัตรไปวางบนเครื่องสแกน หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า "ขอโทษนะครับ แต่คุณยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูร ทางเราจึงไม่สามารถทำการลงทะเบียนสัตว์อสูรให้คุณได้"
เฉียวซางผงะไป “ถ้าอย่างนั้น ขอลงทะเบียนเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรก่อนก็ได้ค่ะ”
ชายหนุ่มตอบว่า "ถ้าอย่างนั้นขอใบรับรองปลุกโดเมนสมองด้วยครับ"
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉียวซางมาลงทะเบียน เธอเลยไม่รู้ว่าต้องเอาเอกสารอะไรมาบ้าง
“ฉันไม่ได้เอามาค่ะ” เฉียวซางพูดอย่างห่อเหี่ยว
จากนั้นเธอก็ยกสุนัขเขี้ยวเพลิงในมือของเธอขึ้นมาไว้ตรงหน้า “ใช้เจ้านี่เป็นข้อพิสูจน์ไม่ได้เหรอคะ?”
ชายหนุ่มเหลือบดูเวลาบนคอมพิวเตอร์ของเขา—11:58 น. "ไม่ ทำไม่ได้ครับ"
"ทำไมถึงทำไม่ได้ล่ะคะ?" เฉียวซางถามด้วยความสับสน
เสียงใจร้อนหญิงสาวรายหนึ่งดังแทรกขึ้นมาจากด้านหลัง “ยังไม่เสร็จอีกรึไง? เอกสารไม่ครบก็ออกไปสิย่ะ”
เฉียวซางหันกลับมาและเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดเครื่องแบบโรงเรียนมัธรยมปลายสหภาพอสูรยืนอยู่ข้างหลังเธอ
หญิงสาวมองเฉียวซางอย่างไม่แยแส เธอมีดวงตาที่เรียวเล็กและมักจะมองบนตลอดเวลาทำให้คนที่เห็นไม่สบอารมณ์นัก
เมื่อเห็นว่าเฉียวซางไม่ตอบสนอง เด็กสาวก็ก้าวไปด้านหน้า พร้อมยื่นบัตรคิวให้พนักงานชาย
“ฉันหมายเลข 06556 มาก่อนยัยนี่ จัดการเรื่องของฉันก่อน ฉันต้องการอัปเดตข้อมูลสัตว์อสูรของฉัน”
เฉียวซางขมวดคิ้วและถอยออกมาเล็กน้อย แม้ทัศนคติของอีกฝ่ายจะออกแนวหัวขวดไปหน่อย แต่เธอก็ไม่มีเอกสารจริงๆ
ชายหนุ่มผมทรงปัดเป๋ปฏิเสธคำขอของหญิงสาวและพูดว่า “ถ้าเลยคิวไปแล้วต้องไปต่อคิวใหม่ครับ”
จากนั้นเขาก็ส่งบัตรข้อมูลของเฉียวซางกลับมาให้เธอ
"การลงทะเบียนผู้ฝึกสัตว์อสูรต้องมีหลักฐานและรูปถ่ายเป็นเอกสารประกอบนะครับ"
เมื่อเวลา 12.00 น. ตรง ชายหนุ่มหันป้ายที่ช่องรับลงทะเบียนไปอีกฝั่งแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม “เราขอทำการปิดพักเที่ยง สามารถเข้ารับบริการใหม่ได้ในช่วงบ่ายนะครับ”
จากนั้นเขาก็ออกจากที่ทำงานไปด้วยความเร็วสูง
ทั้งสองสาวล้วนทำธุระของตนไม่สำเร็จ แต่เฉียวซางไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะนี่เป็นแค่ทางแวะก่อนกลับบ้านเพียงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หญิงสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายขมวดคิ้วไม่พอใจอย่างแรง
“ทั้งหมดเป็นความผิดของหล่อน! ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อน ฉันคงลงทะเบียนสำเร็จไปแล้ว”
เฉียวซางไม่สนใจ หันหน้าพร้อมเดินออกไปทันที
มือหนึ่งหยุดเธอ
“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดรึไงยะ!”
เฉียวซางมองไปรอบๆ ด้วยความสับสน และถามขึ้นว่า "เธอกำลังคุยกับฉันอยู่หรือเปล่า?" ด้วยแววตาใสซื่อ
“แล้วคิดว่าฉันคุยกับผีตัวไหนอยู่ล่ะ?” ดวงตาเรียวเล็ก โฉบเฉี่ยวเบิกกว้างด้วยความกริ้ว
ทันใดนั้นทั้งสองก็กลายเป็นจุดสนใจของคนที่สัญจรผ่านไปมาทันที