บทที่ 530 ภรรยาขี้หึง

วงการบันเทิงจีนในมิตินี้ ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีผลงานคลาสสิกแนวสายสืบ... แต่ก็เป็นเรื่องเก่าไปแล้วจริงๆ

นับถอยหลังไป ละครสายสืบฮิตล่าสุด "ฟงเล่ย์" ก็เป็นเรื่องเมื่อ 16 ปีก่อนแล้ว คนดูรุ่นใหม่แทบไม่รู้จักละครเรื่องนี้ด้วยซ้ำ

แม้แต่คนดูวัยกลางคน ก็ได้แต่ดูจากแหล่งละเมิดลิขสิทธิ์หรือคลิปตัดต่อสร้างสรรค์ใหม่ ทบทวนผลงานคลาสสิกเรื่องนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า

หกปีก่อนละครเรื่องนี้ถูกถอดถอนอย่างเด็ดขาด เพราะนางเอกในเรื่องมีเรื่องอื้อฉาว... ไม่ใช่แค่เรื่องอื้อฉาวธรรมดา แต่เป็นการละเมิดเส้นแดงของประเทศ เรื่องอื้อฉาวระดับสุดยอด แล้วก็เข้าสู่สถานะไม่มีตัวตนทันที

และผลงานภายใต้ชื่อเธอก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย ผลงานอื่นอาจจะยังมีโอกาสรอด แต่ "ฟงเล่ย์" ไม่มีความหวังเลย

เพราะนี่คือละครเกี่ยวกับการปฏิวัติแดง มีนักแสดงที่ทรยศต่อชาติแบบนี้... ช่างเสียดสีเพียงใด?

ประหารไม่ต้องไต่สวน!

และเมื่อทุนอินเทอร์เน็ตเริ่มกวาดวงการบันเทิงจีน ละครน้ำเชื่อมต้นทุนต่ำผลิตรวดเร็วเริ่มกลายเป็นกระแสหลักของตลาดอย่างรวดเร็ว ละครสายสืบที่ลงแรงไม่คุ้มแบบนี้ก็ถูกผลักให้เป็นชายขอบทันที

สิบหกปีเต็ม ไม่เคยมีละครสายสืบดีๆ ออกมาอีกเลยสักเรื่อง!

ดังนั้นเมื่อยูอิงประกาศ "นักแสดงปลอมตัว" แฟนละครสายสืบหลายคนแทบจะร้องไห้น้ำตาไหล

ในที่สุดก็มีคนอยากถ่ายละครสายสืบแล้ว ในที่สุดก็มีทีมงานใหญ่อยากถ่ายละครสายสืบแล้ว!

แต่แฟนคลับของโจวฮ่าวกลับสงบนิ่งผิดปกติ พวกเขาคุ้นเคยกับเรื่องนี้มานานแล้ว

ตื่นเต้นอะไรกัน คนคนนี้ชอบท้าทายแนวที่ไม่เป็นที่นิยมมาตลอด แค่นิยายระทึกขวัญมุมมองบุรุษที่หนึ่งยังเขียนได้อย่างราบรื่น ถ่ายละครสายสืบ... เรื่องเล็ก

แต่สิ่งที่วงการในและนอกสนใจที่สุด ยังคงเป็นทีมนักแสดงนี้... เจ๋งมากจริงๆ!

หน้าแรกของรายชื่อนักแสดงพวกนี้ หลับตาสุ่มออกมาสักคน คงจะเป็นพระเอกนางเอกละครใหญ่ได้เลย

เหลือเชื่อ!

ตามมาด้วยการคาดเดาค่าตัวของดาราใหญ่เหล่านี้

"ได้ยินว่าค่าตัวของเจียงซางหรงเริ่มต้นที่ห้าล้านแล้ว คราวนี้คงจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ?"

"เหมือนว่าค่าตัวของหน่าหน่าก็เกินสามแสนต่อตอนมานานแล้ว"

"สามแสน? เรื่องเก่าแล้ว! หลังจาก 'ปีเหล่านั้น' ทำรายได้ระเบิด ค่าตัวของเธอเกือบจะเพิ่มเป็นสองเท่าแล้ว!"

"ค่าตัวของกั๋วเฉินไม่ได้บ้าขนาดนั้น แต่ยังไงก็คงหนีไม่พ้นหนึ่งถึงสองแสนต่อตอนใช่มั้ย?"

"หลินเหมาตอนนี้ก็ถือว่าเป็นพระเอกแถวหน้าเกือบระดับหนึ่งแล้ว ถ้าไม่ถึงแสนต่อตอนก็คงตกลงไม่ได้"

"ถ่ายแต่ละตอนต้องใช้เงินเท่าไหร่? บ้านโจวฮ่าวมีเหมืองหรือไง?"

"ไม่มีเหมือง แต่มีเถ้าแก่อดีตมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งนี่! เงินแค่นี้ เรื่องเล็ก"

"แย่แล้ว ขนแกะออกจากตัวแกะนะ หลังจากละครเรื่องนี้ออกฉาย สมาชิกยูอิงจะขึ้นราคามั้ย?"

"ตายแล้ว น่าจะเป็นไปได้! ต้องรีบต่ออายุหนึ่งปีก่อนเพื่อความสบายใจ!"

"ไปด้วยๆ..."

อย่างไม่คาดคิด ยูอิงก็พบว่าจำนวนคนต่ออายุสมาชิกพุ่งขึ้นอีกรอบ

หลังจากเข้าใจสาเหตุ ทุกคนก็อดขำไม่ได้

แต่ก็ไม่มีใครออกมาชี้แจง... ต้นหญ้ายินดีเดินเข้าหาคมมีด นี่มันเรื่องดีระดับสวรรค์!

โจวฮ่าวที่ช่วยรวบรวมทีมเสร็จ ตอนนี้ก็สบายๆ เป็นเจ้าของที่ปล่อยมือ มอบงานหลักที่เหลือให้หลิวเหว่ยทั้งหมด

หลิวเหว่ยที่ถูกกดดันมานาน รีบพับแขนเสื้อเริ่มทำงานทันที

วันที่สามหลังประกาศอย่างเป็นทางการ นักแสดงนำทั้งหมดมารวมตัวกัน เตรียมเริ่มงานเตรียมการช่วงแรก

นี่เป็นกฎเก่าของหลิวเหว่ย - ก่อนเริ่มถ่ายต้องฝึกอบรมระยะหนึ่งก่อน ทำความคุ้นเคยกับตัวละคร สร้างความเข้ากัน อ่านบทพร้อมกัน...

ตอนถ่าย "ไขคดีรัตติกาล" ยังเคยจัดฝึกทหารด้วย โจวฮ่าวยังจำได้แม่น

สำหรับข้อเรียกร้องนี้ นักแสดงนำทุกคนก็ไม่มีใครปฏิเสธ ไม่พูดอะไรสองคำหิ้วกระเป๋าเข้าสู่ชีวิตฝึกอบรมทันที

วันแรกของการฝึก โจวฮ่าวพาซวี่หลิงเยว่ไปเยี่ยมชมหนึ่งครั้ง ถือว่าทักทายทุกคน

ฝ่ายเขาคุยกับกั๋วเฉินและคนอื่นๆ อย่างสนุกสนาน พอหันหลังกลับก็พบว่าซวี่หลิงเยว่กำลัง "ประลองฝีมือ" กับซูหยุน สองคนคุยกันอย่างสนุกสนานยิ้มแย้ม คนไม่รู้คงคิดว่าเป็นเพื่อนสนิทที่กำลังพูดคุยกัน แต่แค่เข้าใกล้นิดหน่อยก็รู้สึกได้ถึงลมเย็นๆ ที่พัดออกมาเป็นระลอก

โจวฮ่าวรู้สึกทั้งจนใจทั้งขำ

ซวี่หลิงเยว่คนนี้ดีทุกอย่าง แค่บางครั้งจะหึงแปลกๆ...

ทั้งที่เขากับซูหยุนไม่มีความสัมพันธ์อะไรเลย แต่ซวี่หลิงเยว่กลับระวังเธอสิบสองส่วนเสมอ... แปลกมาก

ตอนกลับบ้านหลังเยี่ยมชม ซวี่หลิงเยว่พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย: "ก่อนหน้านี้คุณไม่ได้บอกว่าอยากได้ทะเบียนบ้านเมืองหลวงหรอกเหรอ?"

"หืม?"

"ตอนนี้มีทางใหม่ - เกาะขาเจ้าหญิงซูคนนั้น แก้ปัญหาได้ในพริบตา"

ดีๆๆ คุณยังจะมาอีกสินะ?

ขาของซูหยุนฉันไม่เกาะแล้ว ขาของคุณฉันแบกแน่นอน!

...

เห็นการเตรียมการของ "นักแสดงปลอมตัว" ดำเนินไปอย่างราบรื่น โจวฮ่าวถอนหายใจยาว

มีผู้ช่วยอย่างหลิวเหว่ย ภาระบนบ่าเขาก็เบาลงมาก

และตอนนี้เขากับหลิวเหว่ยก็มีการแบ่งงานที่ไม่เป็นทางการแล้ว - งานละครเน็ต ให้หลิวเหว่ยรับผิดชอบ

ส่วนเขาโจวฮ่าว มุ่งมั่นทางภาพยนตร์

เพราะตอนนี้ทีมหนังเน็ตทั้งหมดของยูอิงก็รอเขาป้อนข้าวอยู่!

ผลลัพธ์นี้ โจวฮ่าวก็ยินดี

ถึงจะเก่งกาจ แต่พลังงานก็มีจำกัด

ตอนนี้สามารถมุ่งมั่นกับวงการภาพยนตร์ ก็เป็นเรื่องดี

หนังรวมเพื่อเทิดพระเกียรตินั้น คาดว่าจะเริ่มงานเดือนเมษายน เพราะต้องเผื่อเวลา

เพราะต้องเผื่อเวลาให้การตรวจสอบหลังการผลิต

ดังนั้นก่อนถึงเวลานั้น เขาต้องจัดการหนี้สินในมือให้เรียบร้อย

หนี้ก้อนแรก แน่นอนว่าคือหนังมือถือนั้น

หลังกลับมาจากปีใหม่ เลขาฯ หลิวจากบ้านเกิดก็มาเร่งอีกหลายครั้ง น้ำเสียงแข็งกว่าเดิมมาก

ชัดเจนว่าเขาร้อนใจจริงๆ

เพราะถ้าหนังเรื่องนี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาหมู่บ้านต้าหลิว สำหรับเขาก็เป็นผลงานทางการเมืองที่ไม่เล็กเลย

นับดูเรื่องนี้เลื่อนมาเกือบปีแล้ว โจวฮ่าวก็ไม่มีหน้าจะเลื่อนต่อ

ต้องรีบจัดการ

นอกจากนี้ ยังต้องทำหนังเน็ตดีๆ อีกเรื่องให้ยูอิง เพื่อเสริมความได้เปรียบของยูอิงในวงการหนังเน็ตต่อไป

สำหรับโจวฮ่าว นี่เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ

ไม่ต้องพูดถึงค่าตัวที่ยูอิงให้สูงจนน่าตกใจ... ถ้าธุรกิจหนังเน็ตของยูอิงพัฒนาขึ้นจริง เขาก็ย่อมได้ผลประโยชน์ตามไปด้วย

และในขณะที่เขากำลังวางแผนการทำหนังสองเรื่องนี้ ฝั่งชิงอี้ข้างๆ กลับเป็นภาพลมพายุและฝนพรำ

"ไขคดีรัตติกาล" พังสนิทแล้ว ไม่เพียงเรตติ้งตกลงเรื่อยๆ คำวิจารณ์ก็แย่สุดๆ

คะแนนในเว็บไซต์ฮวาเปี่ยนตกลงมาที่ 6.4 แล้ว... เหลืออีกก้าวเดียวก็จะถึงเส้นแดงไม่ผ่านแล้ว

ก่อนหน้านี้ก็คิดว่าละครเติมน้ำเรื่องนี้อาจจะก่อให้เกิดข้อถกเถียงบางอย่าง แต่ข้อถกเถียงและผลสะท้อนกลับที่รุนแรงขนาดนี้ ก็เกินความคาดหมายของทุกคนมาก...

ไม่ทำเรื่อง ก็จะไม่ตาย!

ภายในชิงอี้วิดีโอเริ่มมีคนเสียใจแล้ว แต่เสียใจก็ไม่มีประโยชน์ ต้องแก้ไขให้ดีขึ้น

ประชุมยกมือลงคะแนน เห็นชอบเป็นเอกฉันท์กับมาตรการแก้ไข - เชิญโจวฮ่าวกลับมา

ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม!

(จบบท)