บทที่ 38: ชีวิตฉันจบสิ้นแล้ว
“เอาง่ายๆคือทุกคนในกลุ่มเรารู้เรื่องนี้สินะ” เฉียวซางกล่าว
“ยิ่งแบ่งปัน ยิ่งมีความสุขยังไงล่ะ” ฟางซือซือยิ้มตอบอย่างซุกซน
เฉียวซางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ "ฮ่าฮ่า ที่พูดมาก็ไม่ผิด"
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...” ฟางซือซือหัวเราะไปพร้อมกับเธอ
แม้ว่าเธอจะเล่าเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่มันกระตุกต่อมฮาเธอได้ทุกรอบ
หลังจากที่ทั้งสองหัวเราะเสร็จ เฉียวซางก็ถามว่า "ทำไมอาจารย์ไม่ซื้อเจลเยื่อไข่มาใช้สักขวดล่ะ?"
เจลเยื่อไข่เป็นสารสกัดที่ได้มาจากไข่มหัศจรรย์ ในทุกๆวันตอนไข่มหัศจรรย์หลับมันจะปิดเปลือกไข่ของมันจนสนิท และจะแง้มออกเล็กน้อยตอนตื่น ระหว่างที่แง้มออกนั่นเองจะมีเมือกจำนวนเล็กน้อยไหลทะลักออกมาและเมือกที่ว่านั่นเองก็คือเจลเยื่อไข่
เจลเยื่อไข่มีผลช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผม มีประสิทธิภาพสูงกว่าน้ำยาปลูกผมธรรมดามาก
“เจลเยื่อไข่แพงจะตายต้องใช้เงินเดือนกว่าครึ่งปีถึงจะซื้อได้ ปลูกผมเอาถูกกว่าเยอะ” ฟางซือซืออธิบาย
สุดท้ายแล้วก็เป็นแบบนี้เองสินะ อันที่จริงก็ไม่แปลกเพราะในยุคนี้สิ่งของหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาจากสัตว์อสูรนั้นมักมีราคาแพงหูฉี่
แม้ว่าเส้นผมจะไม่ต่างจากโอเอซิสของชายวัยกลางคน แต่ภาระที่แบกไว้เบื้องหลังมีค่าสำคัญกว่า เขาไม่สามารถเอาผมสลวยมาแลกกับความอดอยากของครอบครัวได้
เมื่อคิดได้แบบนี้ เฉียวซางก็แอบรู้สึกเศร้าใจกับอาจารย์ของตน
ในคาบที่สามของชั้นเรียน อาจารย์ผู้้สอนคืออาจารย์ยู และเขามักจะเพ่งเล็งไปที่นักเรียนซึ่งมีผลการเรียนย่ำแย่อยู่เสมอ
แต่ก่อนเฉียวซางมักจะเป็นคนที่ถูกเรียกให้ตอบคำถาม แต่พอเธอไม่อยูู่ก่อนหน้านี้ภาระทั้งหมดจึงตกไปอยู่กับอันดับสองและสี่แทน
“ตูมด่างสามารถพัฒนาเป็นมะลิละอองพิษได้ในภูมิภาคเหลียนเก้อ” อาจารย์ยูพูดอธิบายเนื้อหาภายในหนังสือ
หลังจากนั้นเขาก็ถามขึ้นว่า "ใครจะรู้ว่าตูมด่างจะพัฒนาเป็นอะไรในภูมิภาคเหลียวซี"
สัตว์อสูรบางสายพันธุ์มีรูปแบบการวิวัฒนาการคงที่ ในขณะที่บางชนิดมีวิวัฒนาการเป็นรูปแบบที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้และสิ่งแวดล้อม
ตูมด่างจัดอยู่ในประเภทหลัง มันมีรูปแบบวิวัฒนาการถึงสี่รูปแบบขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม
นักเรียนทุกคนจ้องเอกสารในมืออย่างตั้งใจ ไม่มีใครคิดจะเงยหน้าสบตากับผู้เป็นอาจารย์
เฉียวซางไม่มีเอกสารเพราะอาทิตย์ก่อนเธอไม่มาเรียน ขณะนี้เธอจึงดูเอกสารพร้อมกับฟางซือซือ
การจ้องมองของอาจารย์หันไปทางบริเวณที่เฉียวซาง, ฟางซือซือ และนักเรียนระดับบ๊วยทั้งหลายนั่งอยู่
กั๋วหลินเจ๋อที่นั่งอยู่ใกล้ๆเริ่มหวั่นวิตก เธอถูกเรียกติดต่อกันหลายครั้งในช่วงที่เฉียวซางไม่อยู่
ดวงตาของเขากวาดสายตาไปรอบๆ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดที่เฉียวซางเบื้องหน้าเขา
“เฉียวซางเธอไม่มีเอกสารใช่ไหม? เอาของฉันไปดูก่อนสิ” กั๋วหลินเจ๋อกระซิบและแตะไหล่เธอ
เอกสารอยู่ในมือเธอเป็นสิบนาที พึ่งคิดจะมาเอาให้ฉันตอนกำลังจะโดนถามเนี่ยนะ?
ขณะที่เฉียวซางกำลังจะปฏิเสธและหันศีรษะ ดวงตาของเธอก็สบกับอาจารย์ยู
“เฉียวซางทำไมเธอไม่ลองตอบดูล่ะ” อาจารย์ยูเรียก
เฉียวซาง: ...
กั๋วหลินเจ๋อ หล่อนใช้ฉันเป็นตัวล่อสินะ...
"มะลิละอองเหมันต์ค่ะ" เฉียวซางยืนขึ้นและตอบ
เมื่อได้รับคำตอบที่ถูกต้อง อาจารย์ยูจึงถามไปอีกว่า "แล้วในภูมิภาคฉีลู่ล่ะ?"
“มะลิละอองหญ้าค่ะ” เฉียวซางตอบคำถามด้วยความมั่นใจ
“ดีมาก นั่งลงได้” อาจารย์ยูหันไปรอบๆอีกครั้งและถามอีกว่า "ทีนี้มีใครพอจะตอบได้ไหมว่ามะลิละอองน้ำสามารถหาได้ในภูมิภาคใด"
ทันทีที่เฉียวซางนั่งลง เธอก็คว้าเอกสารของกั๋วหลินเจ๋อและแอบเหน็บว่า "ไม่เกรงใจนะ"
กั๋วหลินเจ๋อไม่ทันได้ระวัง ด้วยความเร่่งรีบที่พยายามจะหยุดอีกฝ่ายทำให้มือเผลอไปกระแทกกับขอบโต๊ะส่งเสียงดังลั่น
“กั๋วหลินเจ๋อ เธอตอบ” อาจารย์ยูสั่ง
กั๋วหลินเจ๋อ: …!
ไม่นานก็ถึงช่วงพัก
“เฉียวซางอาจารย์ประจำชั้นเรียกเธอไปหา” ผู้ดูแลชั้นเรียนหม่าเซียวเดินเข้ามาหา
หลบหน้าไปตลอดไม่ได้สินะ
เฉียวซางวางหนังสือของเธอลง และด้วยความคิดที่ต่างจากเมื่อก่อน เธอตรงไปยังห้องพักอาจารย์
“เธอหายไปหลายวัน กรอกใบลาด้วย” อาจารย์พูดพร้อมเปิดลิ้นชักแล้ววางเอกสารลงบนโต๊ะ
เฉียวซางอดไม่ได้ที่จะแอบเหลือบมองหัวอาจารย์
ยังสวมวิกอยู่เลย อยากรู้จักใต้วิกนั่นจะเป็นยังไงบ้าง...
“เฉียวซาง” อาจารย์เรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงเข้ม
เฉียวซางรีบหยิบปากกาขึ้นมาและเริ่มกรอกเอกสาร
“ตอนนี้คุณแม่สบายดีไหม?” อาจารย์ถาม
เฉียวซางหยุดชั่วคราวก่อนที่จะตอบว่า "หายเป็นปกติแล้วค่ะ"
หลังจากทำกรอกเอกสารเสร็จ อาจารย์ก็ยื่นสมุดเล่นหนึ่งให้เธอ
“เธอพลาดการทบทวนเนื้อหาเรียนไปมาก นี่คือสมุดบันทึกของนักเรียนเก่าที่ทำคะแนนสอบจงเกาได้ 632 คะแนน เอากลับไปอ่านดูที่บ้าน”
คะแนนเต็มในการสอบคือ 650 คะแนน การที่ได้ 632 นี่นับว่าสูงมาก
เฉียวซางลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยอมรับมัน นี่คือสิ่งจำเป็นสำหรับเธอในตอนนี้
"ขอบคุณค่ะอาจารย์"
อาจารย์โบกมือไล่เธอเป็นสัญญาณว่าให้เธอไปได้แล้ว
เฉียวซางจากไปพร้อมกับความรู้สึกผสมปนเป อาจารย์คนนี้อาจมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ใครบ้างล่ะที่ไม่มี? อย่างน้อยเขาก็เอาใจใส่ลูกศิษย์ของเขาอย่างแท้จริง
แม้จะเป็นความผิดของเธอที่ทำให้เขาสูญเสียผมมันมีค่าไป แต่เขาก็ไม่ได้ทอดทิ้งเธอ
ด้วยความรู้สึกผิดในใจ เฉียวซางจึงถามว่า "อาจารย์ ผมของอาจารย์โอเคมั้ยคะ?"
การแสดงออกของอาจารย์แข็งค้างในพริบตา
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็หายใจเข้าเต็มปอดแล้วพูดว่า "เธอคิดว่าแม่ของเธอจะยอมให้เธอหยุดนานขนาดนี้เพียงเพราะแค่แม่เธอป่วยรึเปล่าล่ะ?"
เฉียวซาง: “......”
หลังจากเลิกเรียน เฉียวซางก็ตัดสินใจจะไปสารภาพบาปกับแม่ ให้แม่ได้ยินจากปากเธอดีกว่าให้เธอได้ยินจากปากอาจารย์
แต่เมื่อเธอกลับถึงบ้าน แม่ของเธอนั้นยังไม่กลับ
“สุนัขเขี้ยวเพลิงแกทำความสะอาดด้านนี้แล้วฉันจะทำความสะอาดด้านนั้น” เฉียวซางยื่นผ้าเปียกให้สุนัขเขี้ยวเพลิง และชี้ไปทางด้านขวาของห้องนั่งเล่น
เธอวางแผนไว้แล้ว—เมื่อแม่เธอเห็นห้องที่สะอาดสะอ้าน พื้นที่ถูจนเงาวับ และอาหารเย็นที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าความโกรธใดๆก็ตามที่มีมันย่อมคลี่คลายได้โดยง่าย
"ย่าห์!"
สุนัขเขี้ยวเพลิงหยิบผ้าและทำความสะอาดอย่างมีความสุข มันวางอุ้งเท้าขวาบนผ้า ใช้เท้าซ้ายออกแรงผลักและเคลื่อนไปข้างหน้า
"ย่าห์!"
“ย่าห์~”
สุนัขเขี้ยวเพลิงเห่าอย่างมีความสุขขณะทำงานบ้านทำให้เหมือนงานบ้านเป็นแค่เกมสำหรับเล่นสนุก
เป็นเด็กดีจริงๆนะเจ้าหมานี่
เฉียวซางรู้สึกพึงพอใจ เธอจึงเริ่มหยิบไม้ถูมาทำความสะอาดฝั่งด้านซ้าย
สีทองของพระอาทิตย์ตกส่องผ่านหน้าต่าง ทำให้เกิดแสงอันอบอุ่นบนพื้น ส่องสว่างยังร่างของหญิงสาวและสุนัขเขี้ยวเพลิง
ทุกอย่างดูสงบและสมบูรณ์แบบไปหมด
สุนัขเขี้ยวเพลิงเลื่อนไปมาบนพื้นอย่างมีความสุข และเริ่มเคลื่อนที่เร็วขึ้นเรื่อยๆ
ปัง-
เสียงดังลั่นทำลายความสงบก่อนหน้าจนหมดสิ้น
เฉียวซางมองเงยขึ้นไปเห็นเป็นชิ้นส่วนเครื่องเคลือบกระจัดกระจายอยู่รอบตัวสุนัขเขี้ยวเพลิง
หัวใจเธอดิ่งลง เธอโยนไม้ถูทิ้ง และอุ้มสุนัขเขี้ยวเพลิงขึ้นมาดู
"แกไม่เป็นไรใช่ไหม?"
"ย่าห์!"
สุนัขเขี้ยวเพลิงเห่าเสียงดังและกระดิกหางแสดงว่าไม่เป็นไร มันชี้ไปที่เศษชิ้นส่วนที่แตกกระจายอยู่บนพื้น
"ย่าห์ ย่าห์"
"ย่าห์ ย่าห์"
“ย่าห์ ย่าห์”
หลังจากอธิบายหูมันก็ตกลงด้วยความรู้สึกผิด
"แค่แจกันแตกอันเดียวมันจะเป็นไรไป ขอแค่แกไม่บาดเจ็บก็พอแล้ว"
หลังจากปลอบสุนัขเขี้ยวเพลิงแล้ว เฉียวซางก็มองดูเศษซากที่อยู่บนพื้น
เธอจำได้ว่าแจกันนี้เป็นสิ่งที่แม่เธอนำกลับมาจากการเดินทางไปทำงานที่ภูมิภาคเหลียนโป
แถมมีลายเซ็นต์ของผู้ฝึกสัตว์อสูรคนโปรดของแม่เธออยู่ด้านล่างด้วย...
คลิก-
ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก
เฉียวซางหันไปเผชิญหน้ากับแม่ของเธอ และคำพูดหกคำก็ดังก้องอยู่ในหัว
ชีวิตฉันจบสิ้นแล้ว…