ตอนที่แล้วบทที่ 37: อุบัติเหตุทางการแพทย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 39: วันสุดท้าย

บทที่ 38: ชีวิตฉันจบสิ้นแล้ว


“เอาง่ายๆคือทุกคนในกลุ่มเรารู้เรื่องนี้สินะ” เฉียวซางกล่าว

“ยิ่งแบ่งปัน ยิ่งมีความสุขยังไงล่ะ” ฟางซือซือยิ้มตอบอย่างซุกซน

เฉียวซางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ "ฮ่าฮ่า ที่พูดมาก็ไม่ผิด"

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...” ฟางซือซือหัวเราะไปพร้อมกับเธอ

แม้ว่าเธอจะเล่าเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่มันกระตุกต่อมฮาเธอได้ทุกรอบ

หลังจากที่ทั้งสองหัวเราะเสร็จ เฉียวซางก็ถามว่า "ทำไมอาจารย์ไม่ซื้อเจลเยื่อไข่มาใช้สักขวดล่ะ?"

เจลเยื่อไข่เป็นสารสกัดที่ได้มาจากไข่มหัศจรรย์ ในทุกๆวันตอนไข่มหัศจรรย์หลับมันจะปิดเปลือกไข่ของมันจนสนิท และจะแง้มออกเล็กน้อยตอนตื่น ระหว่างที่แง้มออกนั่นเองจะมีเมือกจำนวนเล็กน้อยไหลทะลักออกมาและเมือกที่ว่านั่นเองก็คือเจลเยื่อไข่

เจลเยื่อไข่มีผลช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผม มีประสิทธิภาพสูงกว่าน้ำยาปลูกผมธรรมดามาก

“เจลเยื่อไข่แพงจะตายต้องใช้เงินเดือนกว่าครึ่งปีถึงจะซื้อได้ ปลูกผมเอาถูกกว่าเยอะ” ฟางซือซืออธิบาย

สุดท้ายแล้วก็เป็นแบบนี้เองสินะ อันที่จริงก็ไม่แปลกเพราะในยุคนี้สิ่งของหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาจากสัตว์อสูรนั้นมักมีราคาแพงหูฉี่

แม้ว่าเส้นผมจะไม่ต่างจากโอเอซิสของชายวัยกลางคน แต่ภาระที่แบกไว้เบื้องหลังมีค่าสำคัญกว่า เขาไม่สามารถเอาผมสลวยมาแลกกับความอดอยากของครอบครัวได้

เมื่อคิดได้แบบนี้ เฉียวซางก็แอบรู้สึกเศร้าใจกับอาจารย์ของตน

ในคาบที่สามของชั้นเรียน อาจารย์ผู้้สอนคืออาจารย์ยู และเขามักจะเพ่งเล็งไปที่นักเรียนซึ่งมีผลการเรียนย่ำแย่อยู่เสมอ

แต่ก่อนเฉียวซางมักจะเป็นคนที่ถูกเรียกให้ตอบคำถาม แต่พอเธอไม่อยูู่ก่อนหน้านี้ภาระทั้งหมดจึงตกไปอยู่กับอันดับสองและสี่แทน

“ตูมด่างสามารถพัฒนาเป็นมะลิละอองพิษได้ในภูมิภาคเหลียนเก้อ” อาจารย์ยูพูดอธิบายเนื้อหาภายในหนังสือ

หลังจากนั้นเขาก็ถามขึ้นว่า "ใครจะรู้ว่าตูมด่างจะพัฒนาเป็นอะไรในภูมิภาคเหลียวซี"

สัตว์อสูรบางสายพันธุ์มีรูปแบบการวิวัฒนาการคงที่ ในขณะที่บางชนิดมีวิวัฒนาการเป็นรูปแบบที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้และสิ่งแวดล้อม

ตูมด่างจัดอยู่ในประเภทหลัง มันมีรูปแบบวิวัฒนาการถึงสี่รูปแบบขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม

นักเรียนทุกคนจ้องเอกสารในมืออย่างตั้งใจ ไม่มีใครคิดจะเงยหน้าสบตากับผู้เป็นอาจารย์

เฉียวซางไม่มีเอกสารเพราะอาทิตย์ก่อนเธอไม่มาเรียน ขณะนี้เธอจึงดูเอกสารพร้อมกับฟางซือซือ

การจ้องมองของอาจารย์หันไปทางบริเวณที่เฉียวซาง, ฟางซือซือ และนักเรียนระดับบ๊วยทั้งหลายนั่งอยู่

กั๋วหลินเจ๋อที่นั่งอยู่ใกล้ๆเริ่มหวั่นวิตก เธอถูกเรียกติดต่อกันหลายครั้งในช่วงที่เฉียวซางไม่อยู่

ดวงตาของเขากวาดสายตาไปรอบๆ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดที่เฉียวซางเบื้องหน้าเขา

“เฉียวซางเธอไม่มีเอกสารใช่ไหม? เอาของฉันไปดูก่อนสิ” กั๋วหลินเจ๋อกระซิบและแตะไหล่เธอ

เอกสารอยู่ในมือเธอเป็นสิบนาที พึ่งคิดจะมาเอาให้ฉันตอนกำลังจะโดนถามเนี่ยนะ?

ขณะที่เฉียวซางกำลังจะปฏิเสธและหันศีรษะ ดวงตาของเธอก็สบกับอาจารย์ยู

“เฉียวซางทำไมเธอไม่ลองตอบดูล่ะ” อาจารย์ยูเรียก

เฉียวซาง: ...

กั๋วหลินเจ๋อ หล่อนใช้ฉันเป็นตัวล่อสินะ...

"มะลิละอองเหมันต์ค่ะ" เฉียวซางยืนขึ้นและตอบ

เมื่อได้รับคำตอบที่ถูกต้อง อาจารย์ยูจึงถามไปอีกว่า "แล้วในภูมิภาคฉีลู่ล่ะ?"

“มะลิละอองหญ้าค่ะ” เฉียวซางตอบคำถามด้วยความมั่นใจ

“ดีมาก นั่งลงได้” อาจารย์ยูหันไปรอบๆอีกครั้งและถามอีกว่า "ทีนี้มีใครพอจะตอบได้ไหมว่ามะลิละอองน้ำสามารถหาได้ในภูมิภาคใด"

ทันทีที่เฉียวซางนั่งลง เธอก็คว้าเอกสารของกั๋วหลินเจ๋อและแอบเหน็บว่า "ไม่เกรงใจนะ"

กั๋วหลินเจ๋อไม่ทันได้ระวัง ด้วยความเร่่งรีบที่พยายามจะหยุดอีกฝ่ายทำให้มือเผลอไปกระแทกกับขอบโต๊ะส่งเสียงดังลั่น

“กั๋วหลินเจ๋อ เธอตอบ” อาจารย์ยูสั่ง

กั๋วหลินเจ๋อ: …!

ไม่นานก็ถึงช่วงพัก

“เฉียวซางอาจารย์ประจำชั้นเรียกเธอไปหา” ผู้ดูแลชั้นเรียนหม่าเซียวเดินเข้ามาหา

หลบหน้าไปตลอดไม่ได้สินะ

เฉียวซางวางหนังสือของเธอลง และด้วยความคิดที่ต่างจากเมื่อก่อน เธอตรงไปยังห้องพักอาจารย์

“เธอหายไปหลายวัน กรอกใบลาด้วย” อาจารย์พูดพร้อมเปิดลิ้นชักแล้ววางเอกสารลงบนโต๊ะ

เฉียวซางอดไม่ได้ที่จะแอบเหลือบมองหัวอาจารย์

ยังสวมวิกอยู่เลย อยากรู้จักใต้วิกนั่นจะเป็นยังไงบ้าง...

“เฉียวซาง” อาจารย์เรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงเข้ม

เฉียวซางรีบหยิบปากกาขึ้นมาและเริ่มกรอกเอกสาร

“ตอนนี้คุณแม่สบายดีไหม?” อาจารย์ถาม

เฉียวซางหยุดชั่วคราวก่อนที่จะตอบว่า "หายเป็นปกติแล้วค่ะ"

หลังจากทำกรอกเอกสารเสร็จ อาจารย์ก็ยื่นสมุดเล่นหนึ่งให้เธอ

“เธอพลาดการทบทวนเนื้อหาเรียนไปมาก นี่คือสมุดบันทึกของนักเรียนเก่าที่ทำคะแนนสอบจงเกาได้ 632 คะแนน เอากลับไปอ่านดูที่บ้าน”

คะแนนเต็มในการสอบคือ 650 คะแนน การที่ได้ 632 นี่นับว่าสูงมาก

เฉียวซางลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยอมรับมัน นี่คือสิ่งจำเป็นสำหรับเธอในตอนนี้

"ขอบคุณค่ะอาจารย์"

อาจารย์โบกมือไล่เธอเป็นสัญญาณว่าให้เธอไปได้แล้ว

เฉียวซางจากไปพร้อมกับความรู้สึกผสมปนเป อาจารย์คนนี้อาจมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ใครบ้างล่ะที่ไม่มี? อย่างน้อยเขาก็เอาใจใส่ลูกศิษย์ของเขาอย่างแท้จริง

แม้จะเป็นความผิดของเธอที่ทำให้เขาสูญเสียผมมันมีค่าไป แต่เขาก็ไม่ได้ทอดทิ้งเธอ

ด้วยความรู้สึกผิดในใจ เฉียวซางจึงถามว่า "อาจารย์ ผมของอาจารย์โอเคมั้ยคะ?"

การแสดงออกของอาจารย์แข็งค้างในพริบตา

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็หายใจเข้าเต็มปอดแล้วพูดว่า "เธอคิดว่าแม่ของเธอจะยอมให้เธอหยุดนานขนาดนี้เพียงเพราะแค่แม่เธอป่วยรึเปล่าล่ะ?"

เฉียวซาง: “......”

หลังจากเลิกเรียน เฉียวซางก็ตัดสินใจจะไปสารภาพบาปกับแม่ ให้แม่ได้ยินจากปากเธอดีกว่าให้เธอได้ยินจากปากอาจารย์

แต่เมื่อเธอกลับถึงบ้าน แม่ของเธอนั้นยังไม่กลับ

“สุนัขเขี้ยวเพลิงแกทำความสะอาดด้านนี้แล้วฉันจะทำความสะอาดด้านนั้น” เฉียวซางยื่นผ้าเปียกให้สุนัขเขี้ยวเพลิง และชี้ไปทางด้านขวาของห้องนั่งเล่น

เธอวางแผนไว้แล้ว—เมื่อแม่เธอเห็นห้องที่สะอาดสะอ้าน พื้นที่ถูจนเงาวับ และอาหารเย็นที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าความโกรธใดๆก็ตามที่มีมันย่อมคลี่คลายได้โดยง่าย

"ย่าห์!"

สุนัขเขี้ยวเพลิงหยิบผ้าและทำความสะอาดอย่างมีความสุข มันวางอุ้งเท้าขวาบนผ้า ใช้เท้าซ้ายออกแรงผลักและเคลื่อนไปข้างหน้า

"ย่าห์!"

“ย่าห์~”

สุนัขเขี้ยวเพลิงเห่าอย่างมีความสุขขณะทำงานบ้านทำให้เหมือนงานบ้านเป็นแค่เกมสำหรับเล่นสนุก

เป็นเด็กดีจริงๆนะเจ้าหมานี่

เฉียวซางรู้สึกพึงพอใจ เธอจึงเริ่มหยิบไม้ถูมาทำความสะอาดฝั่งด้านซ้าย

สีทองของพระอาทิตย์ตกส่องผ่านหน้าต่าง ทำให้เกิดแสงอันอบอุ่นบนพื้น ส่องสว่างยังร่างของหญิงสาวและสุนัขเขี้ยวเพลิง

ทุกอย่างดูสงบและสมบูรณ์แบบไปหมด

สุนัขเขี้ยวเพลิงเลื่อนไปมาบนพื้นอย่างมีความสุข และเริ่มเคลื่อนที่เร็วขึ้นเรื่อยๆ

ปัง-

เสียงดังลั่นทำลายความสงบก่อนหน้าจนหมดสิ้น

เฉียวซางมองเงยขึ้นไปเห็นเป็นชิ้นส่วนเครื่องเคลือบกระจัดกระจายอยู่รอบตัวสุนัขเขี้ยวเพลิง

หัวใจเธอดิ่งลง เธอโยนไม้ถูทิ้ง และอุ้มสุนัขเขี้ยวเพลิงขึ้นมาดู

"แกไม่เป็นไรใช่ไหม?"

"ย่าห์!"

สุนัขเขี้ยวเพลิงเห่าเสียงดังและกระดิกหางแสดงว่าไม่เป็นไร มันชี้ไปที่เศษชิ้นส่วนที่แตกกระจายอยู่บนพื้น

"ย่าห์ ย่าห์"

"ย่าห์ ย่าห์"

“ย่าห์ ย่าห์”

หลังจากอธิบายหูมันก็ตกลงด้วยความรู้สึกผิด

"แค่แจกันแตกอันเดียวมันจะเป็นไรไป ขอแค่แกไม่บาดเจ็บก็พอแล้ว"

หลังจากปลอบสุนัขเขี้ยวเพลิงแล้ว เฉียวซางก็มองดูเศษซากที่อยู่บนพื้น

เธอจำได้ว่าแจกันนี้เป็นสิ่งที่แม่เธอนำกลับมาจากการเดินทางไปทำงานที่ภูมิภาคเหลียนโป

แถมมีลายเซ็นต์ของผู้ฝึกสัตว์อสูรคนโปรดของแม่เธออยู่ด้านล่างด้วย...

คลิก-

ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก

เฉียวซางหันไปเผชิญหน้ากับแม่ของเธอ และคำพูดหกคำก็ดังก้องอยู่ในหัว

ชีวิตฉันจบสิ้นแล้ว…

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด