บทที่ 37: อุบัติเหตุทางการแพทย์
ความสิ้นหวังถือมีดมาจ่อคอหอยของเฉียวซางอีกครั้ง ความสุขที่ได้ที่หนึ่งแอบจางหายไปเล็กน้อย
ตอนนั้นเองเจิ้งอี้หนิงก็เอ่ยขึ้นว่า “เจ๊ใหญ่เฉียว ไปฉลองกับพวกเราไหม ฉันรู้จักร้านดังที่เพิ่งเปิดใหม่บนถนนหลงซาง พวกเขามีเมนูขึ้นชื่อที่เรียกว่า ‘แฮมอบเมฆ’ ปรุงจากหนูแม่เหล็ก
เฉียวซางเบิกตากว้าง
"พวกเขาใช้หนูแม่เหล็กมาทำอาหารเหรอ? ทำได้ด้วยเหรอ!"
การใช้สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติมาเป็นส่วนผสมไม่ได้รับการเผยแพร่มากนักในสังคม ต่อให้คนที่ชมชอบก็เป็นแค่กลุ่มเล็กๆ ไม่มีทางกล้าโพนทะนาไปทั่วแบบนี้หรอก?
แถมร่างกายของหนูแม่เหล็กทำมาจากเหล็กไม่ใช่รึไง? มันกินได้จริงๆเหรอ?
เจิ้งอี้หนิงชะงัก "หนูแม่เหล็กเป็นเชฟของร้าน... นี่เจ๊เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า?"
เฉียวซางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า พร้อมค่อยๆหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆ วันนี้อากาศดีจังเลย ฉันขอตัวรีบกลับบ้านก่อนดีกว่า”
เจิ้งอี้หนิง: ...
เธอเดาถูกจริงๆสินะว่าเจ๊ใหญ่เฉียวกำลังคิดแผลงๆอะไรอยู่...
หลังจากปฏิเสธคำขอจากเจิ้งอี้หนิง, หลี่หยางและคนอื่นๆ ในการไปฉลองที่ร้านขนมเปิดใหม่ เฉียวซางก็หยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา
เพื่อจะให้มีสมาธิในการสอบ เธอเลยปิดเครื่องตั้งแต่มาถึงเซินซุ่ย
ทันทีที่เธอเปิดเครื่อง มันก็แจ้งเตือนว่ามีสายที่ไม่ได้รับจากแม่ถึงสองสาย
เฉียวซางไม่ได้โทรกลับทันที เธอหายใจเข้าลึกๆ มือของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่เธอเปิดเครือข่ายการเดิมพันอวกาศ
"เรารวยแล้ว!!"
วินาทีต่อมา สุนัขเขี้ยวเพลิงก็ได้ยินเสียงตะโกนอย่างตื่นเต้นของเจ้านายมัน
"ย่าห์!"
แม้จะไม่รู้เรื่องอะไรแต่สุนัขเขี้ยวเพลิงกระดิกหางและเห่าอย่างเป็นสุขไปด้วย
เฉียวซางทำการคำนวณอย่างรวดเร็ว
เธอแพ้พนัันไป 5,000 เหรียญที่เดิมพันกับโบดแลร์ และครั้งนี้เธอชนะเมื่อลบเงินต้นออกเธอได้กำไร 1,200 เหรียญ รวมแล้วยังขาดทุน 3,800...
เรื่องมันผ่านไปก็ให้มันแล้ว!
เฉียวซางตัดสินใจปล่อยเรื่องนั้นทิ้งไปและโทรไปหาแม่ของเธอ แม่เธอไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับการสอบ แค่ถามว่าจะกลับกี่โมงแค่นั้น
และเพราะแม่เธอไม่ได้พูดถึง เฉียวซางเองก็ไม่บอก
เพราะตอนนี้มันยังเหลือการสอบจงเกาอยู่อีก กันการดีใจเก้อไว้ก่อนดีกว่า
เย็นวันนั้นที่โต๊ะของเธอ
เฉียวซางจัดข้อสอบฝึกหัดที่เพิ่งทำเสร็จใหม่เพื่อตรวจสอบคำตอบ นี่เป็นเอกสารสอบเข้าของปีที่แล้วจากเมืองฮันเหวิน
เฉียวซางเอาแบบฝึกหัดที่พึ่งทำเสร็จมาอ่านทบทวนอีกรอบ โดยแบบฝึกหัดนี้เป็นข้อสอบเก่าของเมืองฮั่นเหวิน
เมืองฮั่นเหวินและเมืองฮันกังต่างก็อยู่ในมณฑลเจ้อไห่เหมือนกัน ดังนั้นนอกเหนือจากจุดที่ต้องเน้นย้ำสองสามจุดแล้ว ที่เหลือก็แทบจะเหมือนกันทั้งหมด
หลังจากตรวจสอบคำตอบของเธอแล้ว เฉียวซางก็ถอนหายใจ
แม้เธอจะพัฒนาขึ้นกว่าเดิมมาก แต่ข้อผิดพลาดก็ยังคงเยอะอยู่ดี เหลือเวลาอีกแค่สัปดาห์เดียวก็จะถึงการสอบจงเกาแล้ว และพรุ่งนี้เธอต้องกลับไปเรียนแล้ว
ท้ายที่สุด การลองไปสอบถามแนวทางจากคนอื่นๆบ้างอาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าอ่านเอาเองแบบนี้
“ย่าห์-ย่าห์”
“คุกคู คุ๊กคู”
เสียงของสุนัขเขี้ยวเพลิงและพิราบอ้วนเถียงกันในห้องนั่งเล่นเสียงดังมาจนถึงเฉียวซาง ใบหน้าของเธอผุดรอยยิ้มเล็กๆ ดูเหมือนทั้งสองตัวจะเข้ากันได้ดีมาก
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากแก้คำตอบในข้อที่ทำผิด เธอก็เปิดช็อปปิ้งออนไลน์ขึ้นมา
เธอยังคงจำคำของท่านรองได้: หญ้าพลังชีวิตสามก้าน ผงไออุ่นสองปอนด์ คริสตัลลคะนองไฟเจ็ดออนซ์ และน้ำผึ้งแดงหกออนซ์
[สมุนไพรพลังชีวิต]
เฉียวซางพิมพ์คำลงช่องค้นหา
หน้าช้อปปิ้งสมุนไพรพลังชีวิตผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เฉียวซางตกตะลึง
3,888 เหรียญพันธมิตร
เธอไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ เธอเลื่อนลงไปสองสามหน้า แต่ราคาก็ยังคงที่
ไม่คิดจะลดราคาแข่งกันหน่อยเหรอ?!
เฉียวซางคลิกที่ตัวเลือกเพื่อจัดเรียงตามราคาจากต่ำไปสูง
ที่ด้านบนของหน้าจอ ราคาแสดงเป็น 38 เหรียญพันธมิตร
ราคาต่างกันคนละโยชน์ใครมันจะกล้าซื้อ!
แต่ถึงจะคิดแบบนั้น ด้วยเศษซากความหวังอันริบหรี่ เฉียวซางก็ลองกดคลิ๊กเข้าไปดู
สายตาเธอตรวจสอบรีวิวและทั้งหมดเต็มไปด้วยคำก่นด่า
[ยังมีจิตสำนึกบ้างไหม? นี่จะโกงกระทั่งหญ้าพลังชีวิตเลยเหรอ!]
[ฉันลองเอาไปให้กระต่ายหางปุยกิน มันท้องเสียไม่หยุดมาสัปดาห์นึงแล้ว ดูสภาพมันตอนนี้สิ (รูปภาพ)]
[นี่ไม่ใช่หญ้าพลังชีวิต มันเอาของมั่วมาหลอกขาย!]
[ปลอม ปลอม ปลอม!!! เลว เลวมาก เลวที่สุด!!!]
[ฉันลองซื้อหญ้าพลังชีวิตของจริงมาเทียบดู เจ้านี่เลียนแบบได้ค่อนข้างเหมือนทีเดียว (รูปภาพ) (รูปภาพ)]
ไม่ผิดจากที่คิดไว้ เป็นพวกต้มตุ๋นจริงๆด้วย...
เฉียวซางค้นหาผงไออุ่น คริสตัลคะนองไฟ และน้ำผึ้งแดง
ผงบรรเทาไออุ่น: ราคา 2,600 เหรียญ คริสตัลคะนองไฟ: ราคา 6889 เหรียญ และน้ำผึ้งแดง: ที่ถูกที่สุดคือ 1999 เหรียญต่อปอนด์
รวมๆแล้วการอาบน้ำครั้งหนึ่งต้องใช้เงินกว่า 10,000 เหรียญ แถมเธอต้องทำติดต่อกันครึ่งเดือน!
เฉียวซางปิดคอมพิวเตอร์ของเธออย่างเงียบๆ
ตอนนี้การสอบจงเกาสำคัญกว่า สุนัขเขี้ยวเพลิงยังรอได้ ที่สำคัญมันเองก็ไม่ค่อยชอบอาบน้ำอยู่แล้ว...
22:32 น.
สุนัขเขี้ยวเพลิงผลอยหลับไปพักใหญ่แล้วหลังจากเล่นสนุก
เหมือนทุกที เฉียวซางเข้าเช็คตำราอสูรก่อนนอน
ชื่อ: สุนัขเขี้ยวเพลิง*
คุณสมบัติ: ไฟ
ระดับ: ระดับเริ่มต้น (136/1000) +
ทักษะ: กัด (ขั้นต้น 74/100) +, พุ่งเข้าชน (ขั้นกลาง 204/500) +, เขี้ยวเพลิง (ขั้นกลาง 188/500) +, เพลิงปะทุ (ขั้นกลาง 256/500) +, แยกเงา (ขั้นต้น 5/100)
คะแนน: 109
ครั้งก่อนมันสู้ไปสามครั้งที่โรงเรียนฝึกอสูรฮันกังที่ 37 ได้รับคะแนนมา 55 แต้ม แต่ครั้งนี้ที่เซินซุ่ยมันสู้ไปถึงสี่ครั้งแต่กลับได้รับคะแนนแค่ 54 แต้ม
คะแนนที่ได้รับจากการต่อสู้ในแต่ละครั้งมันแตกต่างกันออกไป ดังนั้นคะแนนที่เพิ่มขึ้นจะขึ้นอยู่กับระดับความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้สินะ
เฉียวซางคาดเดาแล้วหลับไปอย่างรวดเร็ว
วันที่แสนยากลำบากในที่สุดก็ผ่านพ้นไปอีกวัน...
วันรุ่งขึ้น โรงเรียนมัธยมต้นเหวินเฉิง
เมื่อเฉียวซางเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง พร้อมกระเป๋าเป้สะพายหลังของเธอ ชั้นเรียนก็ส่งเสียงโหวกเหวกขึ้นทันที
“ว้าว เฉียวซางนึกว่าจะไม่กลับมาแล้วซะอีก!”
“โดดเรียนไปไหนมาเนี่ย”
“ระวังปากหน่อย! เฉียวซางหยุดไปเพราะเรื่องครอบครัวต่างหาก?”
“นี่นายพูดบ้าอะไร ที่เธอหยุดไปเพราะเรื่องญาติไม่ใช่รึไง?”
“คิดถึงเธอจังเลย พอไม่มีเธอ ฉันกับฟางซือซือก็โดนอาจารย์เรียกจนไม่ได้พักหายใจเลย” คำพูดนี้มาจากกั๋วหลินเจ๋อบุคคลผู้ได้คะแนนเป็นอันดับสองจากท้ายของห้อง
ส่วนคนที่ได้คะแนนเป็นอันดับสุดท้ายนั้น อาจารย์ได้ปลงไปเป็นที่เรียบร้อย
หลังจากที่คนอื่นๆแวะเวียนเข้ามาทักทายจนครบ ฟางซือซือก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “เฉียวซางเธอเปลี่ยนไปนะ”
เฉียวซางผงะไป “ฉันเปลี่ยนไป?....เปลี่ยนตรงไหน?”
“เมื่อก่อนตอนเธอหาวิธีอ้างเพื่อโดดเรียนได้ เธอจะบอกฉันเสมอ แต่คราวนี้เธอหนีไปคนเดียวไม่แม้แต่จะส่งข้อความบอกกันด้วยซ้ำ” ฟางซือซือพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ
เฉียวซาง: ...
“เอาเป็นครั้งหน้าละกัน”
ฟางซือซือส่ายหัวของเธอ “ไม่มีครั้งหน้าแล้ว เหลือเวลาเรียนอีกแค่ไม่กี่วัน ถ้าฉันโดดแม่หักขาฉันทิ้งแน่”
“ยังไงก็ตาม” ฟางซือซือโน้มตัวเข้ามาใกล้และกระซิบ “ฉันมีเรื่องจะเม้าท์ แต่เธออย่าเอาไปบอกใครนะ”
เมื่อเห็นการแสดงออกอันจริงจัง เฉียวซางจึงพยักหน้า "ไปคุยกันตรงนู้นดีกว่า"
“เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาจารย์ประจำชั้นของเราตัดสินใจปลูกผมด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่... .ฮ่าฮ่าฮ่า”
ฟางซือซืออดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “แต่เขาหยิบยาผิด แทนที่จะเป็นยาปลูกแต่เป็นยากำจัดขนแทน”
เฉียวซางตาเบิกค้าง “เป็นไปได้ไง ยาสองตัวนั่นสีต่างกันชัดเจนไม่ใช่เหรอ?”
“คนที่จ่ายยาให้คืออสูรดวงตาสัตว์อสูรของเจ้าหน้าที่ในนั้น เหมือนว่ามันยังไม่ค่อยคุ้นชินกับงานเท่าไหร่ เลยเผลอหยิบขวดผิด” ฟางซือซืออธิบาย
เฉียวซางถามว่า “แล้วเธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”
“ลืมไปแล้วรึไง แม่ฉันเป็นพยาบาลอยู่ที่นั่น เธอจำหน้าอาจารย์ประจำฉันได้” ฟางซือซือบอก
การแสดงออกของเฉียวซางเริ่มแปลก เป็นไปได้ไหมที่อาจารย์ไปปลูกผมเพราะสิ่งที่เธอพูดเกี่ยวกับวิกผมในครั้งที่แล้ว?
ไม่น่าแปลกที่เขาไม่ยอมรับสายแถมยังปิดโทรศัพท์หนีอีก....
ช่างอุบัติเหตุทางการแพทย์ที่น่าสะพรึงกลัว
เพราะสำหรับชายวัยกลางคนแล้ว เส้นผมอันน้อยนิดก็ไม่ต่างไปจากโอเอซิสที่อยู่ท่่ามกลางทะเลทราย
“เอาตรงๆนะ เธอเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟังไปกี่คนแล้ว” เฉียวซางถามด้วยความอย่างรู้
ฟางซือซือผงะเล็กน้อยและเริ่มนับนิ้วของเธอ "ลู่ซือหยา เฉินจินจิน อู๋ฮวนจุน กั๋วหลินเจ๋อ เซี่ยเจียอี้ เฉินหยู่..."
เฉียวซาง: ...