ตอนที่แล้วบทที่ 34: ให้กำลังใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 36: ใครจะไม่ผ่าน?

บทที่ 35: ต้องทุ่มสุดตัว


“ย่าห์...” สุนัขเขี้ยวเพลิงคร่ำครวญอย่างหงุดหงิด เอนตัวจิบนมเพื่อระบายความผิดหวัังของมัน

เมื่อมันกินจนหมด เฉียวซางผูุ้มีไหวพริบเป็นเลิศจึงหยิบนมฉีหยวนอีกขวดมอบให้มันเพื่อปลอบใจ: "ไม่เป็นไรนะ ยังไงเดี๋ยวเราต้องได้สู้กับแมวหูยาวแน่ แกแค่รอให้ถึงตอนนั้นแล้วค่อยแก้แค้นแทนพิราบอวบ"

แม้ว่าแมวหูยาวจะน่ารักจนแทบละลายหัวใจของเธอให้อ่อนยวบ แต่เฉียวซางก็หาได้ใจอ่อน เธอต้องทำตัวใจยักษ์ใจมารสวมวิญญาณยักษ์ขมูขีเพื่อคว้า 50 คะแนนนั้นมาให้ได้

"ย่าห์!" สุนัขเขี้ยวเพลิงเงยหน้าฟังคำพูดของเธอ ก่อนจะกลับไปนั่งตัวตรงและพยักหน้าลงอย่างแรง มันจะแก้แค้นให้ได้!

การแข่งขันนัดที่สามจบลงอย่างรวดเร็วและผลลัพธ์ก็ต่างออกไปจากที่เฉียวซางคิดโดยสิ้นเชิง

ผึ้งหางเหล็กซึ่งเป็นอสูรประเภทพิษและบิน มีเหล็กในพิษจากทั้งทางปากและทางก้น

เหล็กในจากปากสามารถเอาไว้ใช้โจมตีระยะใกล้ได้เท่านั้น ส่วนเหล็กในทางก้นสามารถส่งการโจมตีระยะไกลออกไปได้

ในทางทฤษฎีแล้ว ผึ้งหางเหล็กน่าจะสามารถจัดการหูหางสั้นจากการโจมตีระยะไกล และค่อยๆวางยาพิษต่อไปเรื่อยๆ แต่ผึ้งหางเหล็กกลับเลือกใช้เหล็กในจากทางปากเข้าโจมตีในระยะใกล้แทน

พิษของงูหางสั้นนั้นรุนแรงกว่าพิษของผึ้งหางเหล็กมาก

ทันทีที่เหล็กในของผึ้งแทงเข้าที่ร่างของงูหางสั้น งูหางสั้นไม่เป็นอะไรเลยสักนิด ขณะที่ผึ้งหางเหล็กโดนพิษของตัวเองและหมดสติไปในที่สุด

ใครก็ตามที่เห็นอาจรู้สึกว่าเจ้าผึ้งหางเหล็กมันแอบโง่หน่อยๆ แต่อันที่จริงแล้วมันเพียงแค่ทำตามคำสั่งของผู้ฝึกสัตว์อสูรอย่างเคร่งครัดเพียงเท่านั้น

ฝึกอสูรได้สั่งให้มันใช้ พิษต่อย- เหล็กในทั้งปากและหางเป็นเหล็กในที่มีพิษ แต่ ฝึกอสูรไม่ได้ระบุไว้เป็นการพิสูจน์สถานะของพวกเขาในฐานะมือใหม่

ผู้ฝึกสัตว์อสูรออกคำสั่งให้มันใช้พิษเหล็กใน แต่เพราะมันมีเหล็กในจากทั้งจากปากและทางก้นและผู้ฝึกสัตว์อสูรของมันไม่ได้ออกคำสั่งอย่างชัดเจน มันจึงเผลอเลือกหนทางที่ผิดอย่างโง่งม

การออกคำสั่งไม่ละเอียดจนเกิดเป็นความเข้าใจผิด เรียกได้ว่าเป็นอัตลักษณ์ของเหล่่าผู้ฝึกสัตว์อสูรมือใหม่ไปเสียแล้ว

เฉียวซางหมดคำจะพูด

หลังจากการแข่งขันหกเหลือสามจบลง ต่อมาเป็นการแข่งของกลุ่มผู้แพ้ทั้งสามให้เหลือเพียงสอง

อาจเนื่องมาจากความหงุดหงิดจากการพ่ายแพ้ในพริบตา เฉียวซางรู้สึกได้ว่าหลู่เหลียงเย่ปล่อยให้อารมณ์ตัวเองครอบงำและขาดความเฉียบคมหากเทียบกับรอบก่อนๆ

เมื่อคู่ต่อสู้ของเขาใกล้จะหมดแรง แทนที่จะสั่งให้ใช้การโจมตีอย่างปืนฉีดน้ำเพื่อปิดเกม เขากลับออกคำสั่งให้ปลาคาร์ปวงแหวนสร้างฟองอากาศเพื่อปิดกั้นการมองเห็น และให้มันใช้ทักษะพุ่งเข้าชน

เฉียวซางไม่เข้าใจจุดประสงค์ของการสั่งการนี้เลยสักนิด ถ้าคู่ต่อสู้ใกล้จะหมดแรงแล้ว จะปิดกั้นการมองเห็นของพวกเขาไปเพื่ออะไร?”

นอกจากนี้ปลาคาร์ปวงแหวนไม่มีขา มันมีแค่ครีบและหางที่คอยใช้พยุงตัวเมื่ออยู่บนบก ถ้าอยู่ในน้ำก็ว่าอย่างแต่บนบกท่าพุ่งเข้าชนของมันจะทำอะไรได้?

การโจมตีนั่นอย่าเรียกว่าพุ่งเข้าชนเลย ลำพังแค่เดินกระทบไหล่ยังแรงกว่านั้นด้วยซ้ำ

นอกจากหลู่เหลียงเย่แล้ว คนชนะอีกคนคือชายหนุ่มที่ชื่อหูเฉิง

และแล้วก็มาถึงการแข่งขันรอบสุดท้าย....

“เฉียวซาง, เจิ้งอี้หนิง และหลี่หยาง ทั้งสามคนจะผลัดกันสู้ ผู้ที่ชนะสองนัดได้ก่อน จะนับว่าเป็นอันดับหนึ่ง” ซุ่นปั๋วอวี้ประกาศ

ฉินเหวินนำกล่องไม้ที่คุ้นเคยออกมาอีกครั้ง “ข้างในฉลากอยู่สามแผ่น มีหมายเลขสองใบ ส่วนอีกใบว่างเปล่า คนที่ได้หมายเลขต้องสู้กัน ส่วนคนที่ได้ใบเปล่าให้รอรอบถัดไป”

เฉียวซางจับฉลากขึ้นมาและเห็นเป็นหมายเลข 1 อีกครั้ง

ได้หมายเลข 1 สามครั้งติด ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วนี่ต้องเป็นสัญญาณของการได้ที่หนึ่งอย่างแน่นอน!

เฉียวซางถูกปลุกไฟนักสู้ขึ้นมา โดยคนที่ได้หมายเลขอีกคนคือเจิ้งอี้หนิง

คะแนนของเจิ้งอี้หนิงในการสอบจำลองมักอยู่ที่ประมาณ 560 คะแนนเท่านั้น หากไม่มีการสอบเข้าพิเศษ เธอคงไม่มีโอกาสได้เรียนที่เซินซุ่ยเพราะคะแนนไม่มากพอ

แต่ตอนนี้เธอผ่านแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องแย่งชิงอันดับหนึ่งอีกต่อไป

“เจ๊ใหญ่เฉียวอ่อนข้อให้ฉันหน่อยนะ” เจิ้งอี้หนิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เธอรู้ตัวดีว่าเธอไม่น่าจะสามารถเอาชนะเฉียวซางได้ ดังนั้นเธอเลยเริ่มทำใจตั้งแต่ก่อนเริ่มแข่งพอแพ้เข้าจริงจะได้ไม่เศร้ามาก

เฉียวซางเหลือบมองสุนัขเขี้ยวเพลิงที่กำลังเหยียดขายืดกล้ามเนื้อของมัน

"ฉันจะพยายาม" เธอตอบ

หลู่เหลียงเย่ที่แอบได้ยินบทสนทนาของสาวๆเข้าทำสีหน้าปั้นยากและเดินเข้ามากระซิบกับเฉียวซาง

“ฉัน....ฉันเชื่อว่าเธอต้องชนะแน่ๆ แต่อย่าประมาทจะดีที่สุด เธอต้องทุ่มสุดตัวตั้งแต่เริ่มเพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น”

ในเมื่อเขาแพ้เฉียวซางอย่างเอน็จอนาถ ถ้าเกิดคนอื่นสามารถยืนหยัดต่อหน้าเธอได้นานกว่าเขา แล้วภาพลักษณ์เขาจะเหลืออะไร?

เฉียวซางมองดูสีหน้าที่ซับซ้อนของเขาและยิ้ม “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ฉันจะจำเอาไว้เป็นอย่างดี”

เจิ้งอี้หนิง: …?

ทั้งสองเข้ายืนในตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย

แมวหูยาวเลียอุ้งเท้าของมันอย่างสง่างาม

ในทางกลับกัน สุนัขเขี้ยวเพลิงก็จับจ้องไปที่แมวหูยาว ขาหลังของมันตะปบกับพื้นราวกับว่ามันพร้อมจะระเบิดพลังและเข้าตะครุบในพริบตา

ท่านี้ดูคุ้นแปลกๆ...

ไม่นานนักเฉียวซางก็นึกออก

นี่ไม่ใช่ท่าทางเดียวกับที่สุนัขเขี้ยวเพลิงคัดลอกมาจากแรดธันเดอร์ฮอร์นที่เคยเห็นในทีวี เวลาที่มันกลัวมากจนต้องเรียนรู้การใช้ เพลิงปะทุ ไม่ใช่หรือ?

นี่ไม่ใช่ท่าเดียวกับแรดนอสายฟ้าฟาดที่เคยเห็นจากในทีวีหรอกเหรอ? ท่าที่มันเห็นแล้วกลัวมากจนปลุกทักษะเพลิงปะทุขึ้นมาได้

ก่อนที่เธอจะได้คิดอะไรต่อ ซุ่นปั๋วอวี้ก็สั่งเริ่มต้นการแข่งขัน

เฉียวซางรีบตั้งสมาธิและออกคำสั่ง "พุ่งเข้าชน"

สุนัขเขี้ยวเพลิงเองก็เตรียมพร้อมมาตั้งแต่ต้นแล้ว พอได้ยินคำสั่งมันจึงพุ่งทะยานออกไปโดยไม่รีรอ

ดูเหมือนว่าบทสนทนาก่อนแข่งนั่นจะได้ผล

เจิ้้งยี่หนิงพอใจกับการออกคำสั่งของเฉียวซาง เพราะพุ่งเข้าชนเป็นเพียงแค่ทักษะพื้นฐานและไม่น่าจะทำให้เธอพ่ายแพ้ในทันที

เห็นชัดว่าเฉียวซางอ่อนข้อให้เธอ เพราะหากเฉียวซางเอาจริงแต่เริ่มเหมือนตอนเผชิญหน้ากับหลู่เหลียงเย่ เธอจะยืนได้นานแค่ไหนกันเชียว?

“หลีกเลี่ยง” เจิ้งอี้หนิงออกคำสั่ง

หลีกเหลี่ยงเป็นทักษะสารพัดประโยชน์ หากไม่ได้ถูกทักษะจำพวกหยุดการเคลื่อนไหวหรือการโจมตีวงกว้างเข้าเล่นงาน มันแทบจะหลบการโจมตีได้ร้อยทั้งร้อย นี่คือสิ่งที่เจิ้งอี้หนิงเคยได้ยินมาจากในทีวี

แมวหูยาวกระโดดเบี่ยงตัวอย่างสง่างาม แต่ก็มิวายโดนกระแทกอย่างแรงจนปลิวจากจุดเดิมไปไกล

มันหลบไม่พ้น...

“สุนัขเขี้ยวเพลิงนั่นดูเร็วกว่ารอบก่อนๆอีก” เจิ้งกั๋วผิงกล่าวด้วยความประหลาดใจ

“ก่อนหน้านี้น่าจะยังไม่เอาจริง” ฉินเหวินตอบ

หลิวเหยาดูการแข่งขันอย่างเงียบๆ สมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม

“แมวหูยาว!” เจิ้งอี้หนิงร้องเรียกสัตว์อสูรของเธอ

แมวหูยาวเป็นอสูรประเภททั่วไป มีจุดเด่นในเรื่องความเร็วและรูปลักษณ์ภายนอกเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรเริ่มต้นตัวอื่นๆ

มันรู้สึกสับสนระยะห่างตั้งขนาดนั้น แต่มันก็ยังถูกโจมตีด้วยทักษะพุ่งเข้าชนอันสุดแสนจะธรรมดาเนี่ยนะ?!

แม้จะสั่น แต่แมวหูยาวก็ค่อยๆพยายามพยุงตัวลุกขึ้นมาอย่างสง่างาม น่าเสียดายที่ในพริบตามันก็ถูกทำให้ล้มลงไปกับพื้นอีกครั้ง

“แมวหูยาว!”

เฉียวซางที่เห็นภาพนั้นอดไม่ได้ที่จะแอบรู้สึกผิดในใจ

สุนัขเขี้ยวเพลิงไม่ยอมอ่อนข้อเลยสักนิด ทุกครั้งที่แมวหูยาวลุกขึ้นมาได้ มันก็จะพุ่งเข้าชนให้อีกฝ่ายล้ม จากนั้นก็รอให้ลุกขึ้นใหม่และพุ่งให้ล้มอีกรอบวนไปเรื่อย การกระทำไม่ต่างจากกระทิงไล่ควิดผ้าคลุมสีแดงเลยสักนิิด...

"ฉันขอยอมแพ้!" เจิ้งอี้หนิงตะโกนออกมาหลังจากเห็นแมวหูยาวถูกชนจนล้มเป็นครั้งที่ห้า

“นขอประกาศผู้ชนะ—เฉียวซาง” ซุ่นปั๋วอวี้ประกาศ

พิราบอวบและผู้ฝึกสัตว์อสูรของมันยังไม่ได้กลับออกไป สุนัขเขี้ยวเพลิงวิ่งไปเจ้าตัวอวบด้วยท่าทีเป็นสุข โดยหวังว่าจะเฉลิมฉลองชัยชนะไปด้วยกัน แต่นั่นกลับทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งและรีบบินไปเกาะไหล่ของผู้ฝึกสัตว์อสูรของตนด้วยความหวาดระแวง

นี่มันตัวอันตราย!!

สุนัขเขี้ยวเพลิงชอกช้ำในทันใด มันได้ยินเสียงปริแตกของมิตรภาพที่พังทลาย

มันเดินกลับมาหาเฉียวซาง

"หย๊า..."

ด้วยเสียงร้องอันเหงาหงอย เฉียวซางจึงคุกเข่าและอุ้มมันมาไว้ในอ้อมกอด

ไม่นานนักอารมณ์ของมันก็ดีขึ้นมาก

“สุนัขเขี้ยวเพลิงตัวนี้มีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมมาก กลับไปแล้วให้มันแช่ด้วยน้ำผสมหญ้าพลังชีวิตสามก้าน ผงไออุ่นสองปอนด์ คริสตัลลคะนองไฟเจ็ดออนซ์ และน้ำผึ้งแดงหกออนซ์ ทำแบบนี้ทุกวันติดต่อกันครึ่งเดือน พัฒนาการของมันต้องสูงมากขึ้นแน่ๆ” ทันใดนั้นเองเสียงทุ้มก็ดังขึ้นจากใกล้ๆ

เฉียวซางหันไปหาเห็นผู้พูดเป็นหนึ่งในอาจารย์ทั้งสี่

“นี่รองผู้อำนวยการของเซินซุ่ยของเรา ท่านเป็นถึงนักพัฒนาสัตว์อสูรระดับ A ผู้ทรงเกียรติ ดังนั้นเธอสามารถวางใจกับคำแนะนำของท่านได้” เจิ้งกั๋วผิงรีบอธิบาย

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด