บทที่ 35: ต้องทุ่มสุดตัว
“ย่าห์...” สุนัขเขี้ยวเพลิงคร่ำครวญอย่างหงุดหงิด เอนตัวจิบนมเพื่อระบายความผิดหวัังของมัน
เมื่อมันกินจนหมด เฉียวซางผูุ้มีไหวพริบเป็นเลิศจึงหยิบนมฉีหยวนอีกขวดมอบให้มันเพื่อปลอบใจ: "ไม่เป็นไรนะ ยังไงเดี๋ยวเราต้องได้สู้กับแมวหูยาวแน่ แกแค่รอให้ถึงตอนนั้นแล้วค่อยแก้แค้นแทนพิราบอวบ"
แม้ว่าแมวหูยาวจะน่ารักจนแทบละลายหัวใจของเธอให้อ่อนยวบ แต่เฉียวซางก็หาได้ใจอ่อน เธอต้องทำตัวใจยักษ์ใจมารสวมวิญญาณยักษ์ขมูขีเพื่อคว้า 50 คะแนนนั้นมาให้ได้
"ย่าห์!" สุนัขเขี้ยวเพลิงเงยหน้าฟังคำพูดของเธอ ก่อนจะกลับไปนั่งตัวตรงและพยักหน้าลงอย่างแรง มันจะแก้แค้นให้ได้!
การแข่งขันนัดที่สามจบลงอย่างรวดเร็วและผลลัพธ์ก็ต่างออกไปจากที่เฉียวซางคิดโดยสิ้นเชิง
ผึ้งหางเหล็กซึ่งเป็นอสูรประเภทพิษและบิน มีเหล็กในพิษจากทั้งทางปากและทางก้น
เหล็กในจากปากสามารถเอาไว้ใช้โจมตีระยะใกล้ได้เท่านั้น ส่วนเหล็กในทางก้นสามารถส่งการโจมตีระยะไกลออกไปได้
ในทางทฤษฎีแล้ว ผึ้งหางเหล็กน่าจะสามารถจัดการหูหางสั้นจากการโจมตีระยะไกล และค่อยๆวางยาพิษต่อไปเรื่อยๆ แต่ผึ้งหางเหล็กกลับเลือกใช้เหล็กในจากทางปากเข้าโจมตีในระยะใกล้แทน
พิษของงูหางสั้นนั้นรุนแรงกว่าพิษของผึ้งหางเหล็กมาก
ทันทีที่เหล็กในของผึ้งแทงเข้าที่ร่างของงูหางสั้น งูหางสั้นไม่เป็นอะไรเลยสักนิด ขณะที่ผึ้งหางเหล็กโดนพิษของตัวเองและหมดสติไปในที่สุด
ใครก็ตามที่เห็นอาจรู้สึกว่าเจ้าผึ้งหางเหล็กมันแอบโง่หน่อยๆ แต่อันที่จริงแล้วมันเพียงแค่ทำตามคำสั่งของผู้ฝึกสัตว์อสูรอย่างเคร่งครัดเพียงเท่านั้น
ฝึกอสูรได้สั่งให้มันใช้ พิษต่อย- เหล็กในทั้งปากและหางเป็นเหล็กในที่มีพิษ แต่ ฝึกอสูรไม่ได้ระบุไว้เป็นการพิสูจน์สถานะของพวกเขาในฐานะมือใหม่
ผู้ฝึกสัตว์อสูรออกคำสั่งให้มันใช้พิษเหล็กใน แต่เพราะมันมีเหล็กในจากทั้งจากปากและทางก้นและผู้ฝึกสัตว์อสูรของมันไม่ได้ออกคำสั่งอย่างชัดเจน มันจึงเผลอเลือกหนทางที่ผิดอย่างโง่งม
การออกคำสั่งไม่ละเอียดจนเกิดเป็นความเข้าใจผิด เรียกได้ว่าเป็นอัตลักษณ์ของเหล่่าผู้ฝึกสัตว์อสูรมือใหม่ไปเสียแล้ว
เฉียวซางหมดคำจะพูด
หลังจากการแข่งขันหกเหลือสามจบลง ต่อมาเป็นการแข่งของกลุ่มผู้แพ้ทั้งสามให้เหลือเพียงสอง
อาจเนื่องมาจากความหงุดหงิดจากการพ่ายแพ้ในพริบตา เฉียวซางรู้สึกได้ว่าหลู่เหลียงเย่ปล่อยให้อารมณ์ตัวเองครอบงำและขาดความเฉียบคมหากเทียบกับรอบก่อนๆ
เมื่อคู่ต่อสู้ของเขาใกล้จะหมดแรง แทนที่จะสั่งให้ใช้การโจมตีอย่างปืนฉีดน้ำเพื่อปิดเกม เขากลับออกคำสั่งให้ปลาคาร์ปวงแหวนสร้างฟองอากาศเพื่อปิดกั้นการมองเห็น และให้มันใช้ทักษะพุ่งเข้าชน
เฉียวซางไม่เข้าใจจุดประสงค์ของการสั่งการนี้เลยสักนิด ถ้าคู่ต่อสู้ใกล้จะหมดแรงแล้ว จะปิดกั้นการมองเห็นของพวกเขาไปเพื่ออะไร?”
นอกจากนี้ปลาคาร์ปวงแหวนไม่มีขา มันมีแค่ครีบและหางที่คอยใช้พยุงตัวเมื่ออยู่บนบก ถ้าอยู่ในน้ำก็ว่าอย่างแต่บนบกท่าพุ่งเข้าชนของมันจะทำอะไรได้?
การโจมตีนั่นอย่าเรียกว่าพุ่งเข้าชนเลย ลำพังแค่เดินกระทบไหล่ยังแรงกว่านั้นด้วยซ้ำ
นอกจากหลู่เหลียงเย่แล้ว คนชนะอีกคนคือชายหนุ่มที่ชื่อหูเฉิง
และแล้วก็มาถึงการแข่งขันรอบสุดท้าย....
“เฉียวซาง, เจิ้งอี้หนิง และหลี่หยาง ทั้งสามคนจะผลัดกันสู้ ผู้ที่ชนะสองนัดได้ก่อน จะนับว่าเป็นอันดับหนึ่ง” ซุ่นปั๋วอวี้ประกาศ
ฉินเหวินนำกล่องไม้ที่คุ้นเคยออกมาอีกครั้ง “ข้างในฉลากอยู่สามแผ่น มีหมายเลขสองใบ ส่วนอีกใบว่างเปล่า คนที่ได้หมายเลขต้องสู้กัน ส่วนคนที่ได้ใบเปล่าให้รอรอบถัดไป”
เฉียวซางจับฉลากขึ้นมาและเห็นเป็นหมายเลข 1 อีกครั้ง
ได้หมายเลข 1 สามครั้งติด ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วนี่ต้องเป็นสัญญาณของการได้ที่หนึ่งอย่างแน่นอน!
เฉียวซางถูกปลุกไฟนักสู้ขึ้นมา โดยคนที่ได้หมายเลขอีกคนคือเจิ้งอี้หนิง
คะแนนของเจิ้งอี้หนิงในการสอบจำลองมักอยู่ที่ประมาณ 560 คะแนนเท่านั้น หากไม่มีการสอบเข้าพิเศษ เธอคงไม่มีโอกาสได้เรียนที่เซินซุ่ยเพราะคะแนนไม่มากพอ
แต่ตอนนี้เธอผ่านแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องแย่งชิงอันดับหนึ่งอีกต่อไป
“เจ๊ใหญ่เฉียวอ่อนข้อให้ฉันหน่อยนะ” เจิ้งอี้หนิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เธอรู้ตัวดีว่าเธอไม่น่าจะสามารถเอาชนะเฉียวซางได้ ดังนั้นเธอเลยเริ่มทำใจตั้งแต่ก่อนเริ่มแข่งพอแพ้เข้าจริงจะได้ไม่เศร้ามาก
เฉียวซางเหลือบมองสุนัขเขี้ยวเพลิงที่กำลังเหยียดขายืดกล้ามเนื้อของมัน
"ฉันจะพยายาม" เธอตอบ
หลู่เหลียงเย่ที่แอบได้ยินบทสนทนาของสาวๆเข้าทำสีหน้าปั้นยากและเดินเข้ามากระซิบกับเฉียวซาง
“ฉัน....ฉันเชื่อว่าเธอต้องชนะแน่ๆ แต่อย่าประมาทจะดีที่สุด เธอต้องทุ่มสุดตัวตั้งแต่เริ่มเพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น”
ในเมื่อเขาแพ้เฉียวซางอย่างเอน็จอนาถ ถ้าเกิดคนอื่นสามารถยืนหยัดต่อหน้าเธอได้นานกว่าเขา แล้วภาพลักษณ์เขาจะเหลืออะไร?
เฉียวซางมองดูสีหน้าที่ซับซ้อนของเขาและยิ้ม “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ฉันจะจำเอาไว้เป็นอย่างดี”
เจิ้งอี้หนิง: …?
ทั้งสองเข้ายืนในตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย
แมวหูยาวเลียอุ้งเท้าของมันอย่างสง่างาม
ในทางกลับกัน สุนัขเขี้ยวเพลิงก็จับจ้องไปที่แมวหูยาว ขาหลังของมันตะปบกับพื้นราวกับว่ามันพร้อมจะระเบิดพลังและเข้าตะครุบในพริบตา
ท่านี้ดูคุ้นแปลกๆ...
ไม่นานนักเฉียวซางก็นึกออก
นี่ไม่ใช่ท่าทางเดียวกับที่สุนัขเขี้ยวเพลิงคัดลอกมาจากแรดธันเดอร์ฮอร์นที่เคยเห็นในทีวี เวลาที่มันกลัวมากจนต้องเรียนรู้การใช้ เพลิงปะทุ ไม่ใช่หรือ?
นี่ไม่ใช่ท่าเดียวกับแรดนอสายฟ้าฟาดที่เคยเห็นจากในทีวีหรอกเหรอ? ท่าที่มันเห็นแล้วกลัวมากจนปลุกทักษะเพลิงปะทุขึ้นมาได้
ก่อนที่เธอจะได้คิดอะไรต่อ ซุ่นปั๋วอวี้ก็สั่งเริ่มต้นการแข่งขัน
เฉียวซางรีบตั้งสมาธิและออกคำสั่ง "พุ่งเข้าชน"
สุนัขเขี้ยวเพลิงเองก็เตรียมพร้อมมาตั้งแต่ต้นแล้ว พอได้ยินคำสั่งมันจึงพุ่งทะยานออกไปโดยไม่รีรอ
ดูเหมือนว่าบทสนทนาก่อนแข่งนั่นจะได้ผล
เจิ้้งยี่หนิงพอใจกับการออกคำสั่งของเฉียวซาง เพราะพุ่งเข้าชนเป็นเพียงแค่ทักษะพื้นฐานและไม่น่าจะทำให้เธอพ่ายแพ้ในทันที
เห็นชัดว่าเฉียวซางอ่อนข้อให้เธอ เพราะหากเฉียวซางเอาจริงแต่เริ่มเหมือนตอนเผชิญหน้ากับหลู่เหลียงเย่ เธอจะยืนได้นานแค่ไหนกันเชียว?
“หลีกเลี่ยง” เจิ้งอี้หนิงออกคำสั่ง
หลีกเหลี่ยงเป็นทักษะสารพัดประโยชน์ หากไม่ได้ถูกทักษะจำพวกหยุดการเคลื่อนไหวหรือการโจมตีวงกว้างเข้าเล่นงาน มันแทบจะหลบการโจมตีได้ร้อยทั้งร้อย นี่คือสิ่งที่เจิ้งอี้หนิงเคยได้ยินมาจากในทีวี
แมวหูยาวกระโดดเบี่ยงตัวอย่างสง่างาม แต่ก็มิวายโดนกระแทกอย่างแรงจนปลิวจากจุดเดิมไปไกล
มันหลบไม่พ้น...
“สุนัขเขี้ยวเพลิงนั่นดูเร็วกว่ารอบก่อนๆอีก” เจิ้งกั๋วผิงกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“ก่อนหน้านี้น่าจะยังไม่เอาจริง” ฉินเหวินตอบ
หลิวเหยาดูการแข่งขันอย่างเงียบๆ สมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม
“แมวหูยาว!” เจิ้งอี้หนิงร้องเรียกสัตว์อสูรของเธอ
แมวหูยาวเป็นอสูรประเภททั่วไป มีจุดเด่นในเรื่องความเร็วและรูปลักษณ์ภายนอกเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรเริ่มต้นตัวอื่นๆ
มันรู้สึกสับสนระยะห่างตั้งขนาดนั้น แต่มันก็ยังถูกโจมตีด้วยทักษะพุ่งเข้าชนอันสุดแสนจะธรรมดาเนี่ยนะ?!
แม้จะสั่น แต่แมวหูยาวก็ค่อยๆพยายามพยุงตัวลุกขึ้นมาอย่างสง่างาม น่าเสียดายที่ในพริบตามันก็ถูกทำให้ล้มลงไปกับพื้นอีกครั้ง
“แมวหูยาว!”
เฉียวซางที่เห็นภาพนั้นอดไม่ได้ที่จะแอบรู้สึกผิดในใจ
สุนัขเขี้ยวเพลิงไม่ยอมอ่อนข้อเลยสักนิด ทุกครั้งที่แมวหูยาวลุกขึ้นมาได้ มันก็จะพุ่งเข้าชนให้อีกฝ่ายล้ม จากนั้นก็รอให้ลุกขึ้นใหม่และพุ่งให้ล้มอีกรอบวนไปเรื่อย การกระทำไม่ต่างจากกระทิงไล่ควิดผ้าคลุมสีแดงเลยสักนิิด...
"ฉันขอยอมแพ้!" เจิ้งอี้หนิงตะโกนออกมาหลังจากเห็นแมวหูยาวถูกชนจนล้มเป็นครั้งที่ห้า
“นขอประกาศผู้ชนะ—เฉียวซาง” ซุ่นปั๋วอวี้ประกาศ
พิราบอวบและผู้ฝึกสัตว์อสูรของมันยังไม่ได้กลับออกไป สุนัขเขี้ยวเพลิงวิ่งไปเจ้าตัวอวบด้วยท่าทีเป็นสุข โดยหวังว่าจะเฉลิมฉลองชัยชนะไปด้วยกัน แต่นั่นกลับทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งและรีบบินไปเกาะไหล่ของผู้ฝึกสัตว์อสูรของตนด้วยความหวาดระแวง
นี่มันตัวอันตราย!!
สุนัขเขี้ยวเพลิงชอกช้ำในทันใด มันได้ยินเสียงปริแตกของมิตรภาพที่พังทลาย
มันเดินกลับมาหาเฉียวซาง
"หย๊า..."
ด้วยเสียงร้องอันเหงาหงอย เฉียวซางจึงคุกเข่าและอุ้มมันมาไว้ในอ้อมกอด
ไม่นานนักอารมณ์ของมันก็ดีขึ้นมาก
“สุนัขเขี้ยวเพลิงตัวนี้มีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมมาก กลับไปแล้วให้มันแช่ด้วยน้ำผสมหญ้าพลังชีวิตสามก้าน ผงไออุ่นสองปอนด์ คริสตัลลคะนองไฟเจ็ดออนซ์ และน้ำผึ้งแดงหกออนซ์ ทำแบบนี้ทุกวันติดต่อกันครึ่งเดือน พัฒนาการของมันต้องสูงมากขึ้นแน่ๆ” ทันใดนั้นเองเสียงทุ้มก็ดังขึ้นจากใกล้ๆ
เฉียวซางหันไปหาเห็นผู้พูดเป็นหนึ่งในอาจารย์ทั้งสี่
“นี่รองผู้อำนวยการของเซินซุ่ยของเรา ท่านเป็นถึงนักพัฒนาสัตว์อสูรระดับ A ผู้ทรงเกียรติ ดังนั้นเธอสามารถวางใจกับคำแนะนำของท่านได้” เจิ้งกั๋วผิงรีบอธิบาย