บทที่ 31: เขาต้องเอาชนะพวกเราได้แน่ๆ
นักเรียนส่วนใหญ่ที่โรงเรียนมัธยมเซินซุ่ยอาศัยอยู่ในหอพักของทางโรงเรียน ผู้ส่วนผู้ที่อาศัยอยู่ข้างนอกจะเข้าโรงเรียนทางประตูทิศใต้ ในขณะที่บุคคลภายนอกเช่นเฉียวซางต้องใช้ประตูทิศเหนือ
ประตูทิศเหนือถูกปิดอย่างแน่นหนา และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยังไม่เริ่มงาน
เฉียวซางตรวจสอบเวลาเป็นครั้งที่ n
8:52 น.
เหลือเวลาเพียง 28 นาที การสอบที่โรงเรียนมัธยมเซินซุ่ย จะเริ่มหรือก็คือในเวลา 9.20 น.
ทางเข้าประตูทิศเหนืออันกว้างใหญ่ถูกทิ้งร้าง มีเพียงแค่เฉียวซางและสุนัขเขี้ยวเพลิงเท่านั้นที่อยู่ตรงนี้
เธออดไม่ได้ที่จะหาวด้วยความเบื่อหน่าย
ถ้าเธอรู้ เธอคงเลือกนอนเล่นบนเตียงฆ่าเวลาไปก่อน...
8:58 น.
จุดสีดำแปดจุดปรากฏขึ้นบนขอบฟ้า และเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ลงจอดที่บริเวณประตูทิศเหนือส่งผลให้มีฝุ่นผงฟุ้งกระจายไปทั่ว
เฉียวซางบังคับตาที่ง่วงนอนของเธอให้เปิดออก
สิ่งที่ลงมาจากฟ้าคือสิ่งมีชีวิตที่คล้ายนกกระจอกเทศแปดตัว แต่ละตัวสูงราวๆ 2 เมตร
จะงอยปากของพวกมันมีสีดำเหมือนขนของพวกมัน และมีสองหางขดกันเป็นวงดูโดดเด่น
มีคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเฉียวซางเริ่มทยอยกระโดดลงจากหลังของพวกมัน
“ทั้งหมด 8,000 เหรียญพันธมิตร” ชายผู้ขี่นกจะงอยดำตัวนึงกล่าว
“แต่พวกเราตกลงกันว่าจะจ่ายราคาเหมาแบบกลุ่ม” หญิงสาวผมบ๊อบแดงพูดเตือนเขา
ชายคนนั้นเหลือบมองเพื่อนของตัวเองด้วยท่าทีสงสัย
ตอนนั้นเองเพื่อนเขาก็พยักหน้า “ใช่ พวกเขาเหมาราคาแบบกลุ่มมา”
“ถ้าอย่างนั้นก็ 7,222 เหรียญพันธมิตร” ชายคนนั้นกล่าวอีกครั้ง
“ลดอีกสักนิดไม่ได้เหรอ? ถ้าลดได้เดี๋ยวขากลับเราจะได้เรียกใช้บริการอีกรอบ” เด็กชายที่สูงที่สุดในบรรดาหกคนถาม
“จ่ายเงินเที่ยวนี้ก่อน” ชายคนนั้นตอบโดยไม่ตอบคำถามโดยตรง
คนกลุ่มนี้ไม่เถียงอะไรต่อและยอมจ่ายเงินแต่โดยดี
หลังจากชำระเงินแล้ว เด็กชายตัวสูงก็ถามอีกครั้งว่า “แล้วถ้าเราเรียกใช้บริการอีกรอบเราจะได้ส่วนลดเท่าไหร่?”
"ไม่มี" ชายคนนั้นตอบกลับ
"อะไรนะ?" เด็กชายร่างสูงตกตะลึง
“ก็บอกว่าไม่มีส่วนลดไง” ผู้ชายคนนั้นพูดซ้ำ
คนอื่นๆ: -
ในขณะที่คนกลุ่มนั้นกำลังง่วนอยู่กับการต่อรองราคา เฉียวซางก็ได้เข้ามาในโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ยพร้อมด้วยสุนัขเขี้ยวเพลิงของเธอแล้ว
เมื่อเวลา 9.00 น. ลุงยามออกมาจากโรงเรียนและเปิดประตู
ช่างตรงต่อเวลาซะจริงๆ...
ตามเส้นทางที่ให้ไว้ในเว็บไซต์ทางการของโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ย เฉียวซางก็เดินทางไปที่สนาม 3
มีอาจารย์เพียงสี่คนในสนาม และเมื่อเทียบกับโรงเรียนฝึกอสูรฮันกังที่ 6 ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับการสอบเข้าพิเศษนี้มากนัก
“อาจารย์ค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อเข้าสอบคะ” เฉียวซางพูดพร้อมเดินเข้าไปหา
“ขอบัตรข้อมูลด้วย” ซุ่นปั๋วอวี้ตอบอย่างห้วนๆ
เฉียวซางยื่นบัตรข้อมูลของเธอ
“เฉียวซางจากโรงเรียนมัธยมต้นเหวินเฉิงสินะ?” ซุ่นปั๋วอวี้ยืนยันรายละเอียดบนการ์ด
"ใช่คะ" เฉียวซางตอบรับคำ
ซุ่นปั๋วอวี้ตรวจสอบชื่อของเฉียวซางในรายชื่อของเขา และส่งบัตรคืน
“ไปนั่งรอตรงนั้น.. เราจะเริ่มการทดสอบเมื่อทุกคนมาถึง”
หลังจากที่เฉียวซางนั่งลงแล้ว ฉินเหวินก็พูดด้วยความสนใจ
“เด็กผู้หญิงคนนั้นทำสัญญากับสุนัขเขี้ยวเพลิง”
“คนที่ปลุกพลังด้วยตัวเองชอบคิดเองเออเองว่าตัวเองอยู่ยงคงกระพัน ไม่แปลกที่คนกลุ่มนี้ชอบทำสัญญากับอสูรตัวแรกที่ยากจะรับมือไหว ลู่เหยาที่ได้รับการแนะนำให้เข้าเรียนโดยตรงก็ทำสัญญากับมังกรน้อยด้วยไม่ใช่รึไง?” เจิ้งกั๋วผิงโต้กลับอย่างไม่ใส่ใจ
ฉินเหวินกลอกตา
พวกเขาจะเหมือนกันได้ยังไง?
มังกรน้อยนิสัยดีกว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงมาก แค่ว่ามันเป็นสัตว์ประเภทมังกร ทำให้แพงจนคนธรรมดาเอื้อมไม่ถึงแค่นั้นแหละ คนส่วนใหญ่เลยไม่ได้ทำสัญญากับมัน
คนหนึ่งทำสัญญากับสุนัขเขี้ยวเพลิงด้วยความกล้าหาญ ในขณะที่อีกคนหนึ่งใช้เงินเพื่อทำสัญญากับมังกรน้อย พวกเขาเหมือนกันตรงไหน?
แต่เจิ้งกั๋วผิงไม่ใช่คนประเภทที่โต้แย้งด้วยได้ พูดอะไรไม่เข้าดูหน่อยก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ดังนั้นฉินเหวินจึงไม่สนใจที่จะพูดกับเขาอีก
ไม่กี่นาทีต่อมา กลุ่มคนที่ขี่หลังนกจะงอยดำก็มาถึงและต่อคิวเพื่อรับการยืนยันตัวตน
หลังจากตรวจสอบข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว เด็กผู้หญิงผมบ็อบสีแดงตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบแล้วนั่งลงข้างๆ เฉียวซาง และพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองว่า “นี่เธอก็มาสอบที่นี่เหมือนกันเหรอ? แล้วทำไมเธอถึงไม่เดินทางมากับพวกเราล่ะ?”
เธอชำเลืองมองสุนัขเขี้ยวเพลิงที่อยู่ข้างๆ เฉียวซางอย่างละเอียด
นี่มันคู่แข่งที่น่าหวั่นเกรง…
เฉียวซางรู้สึกงุนงง
“ทำไมฉันต้องมากับเธอด้วย? เรารู้จักกันเหรอ?”
หญิงสาวผมบ็อบทำสีหน้าแปลกใจ
“เธอไม่เห็นข้อความในกลุ่มเหรอ?”
เฉียวซางยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก “กลุ่มไหน? ข้อความอะไร?”
“กลุ่มที่มีให้้เข้าร่วมผ่านหน้ารับสมัครพิเศษบนเว็บไซต์ของโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ยไง” หญิงสาวอธิบาย
“เราตกลงที่จะรวมตัวกันที่ถนนอู่เจี๋ยแล้วเดินทางมาด้วยกันนี่”
เฉียวซางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “ฉันไม่ได้เข้ากลุ่ม…”
หญิงสาวผมบ็อบ: “…”
“แปลกมาก เพราะในกลุ่มมีทั้งหมดเก้าคน ถ้าเธอไม่ใช่หนึ่งในนั้นแล้วยังมีใครที่ยังไม่ได้มาอีก” หญิงสาวถามเสียงดัง
ก่อนหน้านี้มีคนในกลุ่มพูดติดตลกว่า “นี่พวกนายรู้ไหม? ผู้เชี่ยวชาญมักมาทีหลังสุดเสมอ” จากนั้นทุกคนก็เริ่มกล่าวอ้างว่าพวกเขาจะเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง
ในที่สุดหลี่หยางเด็กชายที่สูงที่สุดก็แนะนำให้พวกเขามารวมตัวกันและมาที่สนามสอบ
ทุกคนในกลุ่มได้ปลุกพลังของตนเองขึ้นมาเหมือนกัน
การสอบครั้งนี้รับเพียงห้าคนเท่านั้น และในอนาคตพวกเขาอาจจะได้อยู่โรงเรียนเดียวกัน จึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะสานสัมพันธ์กันตั้งแต่เนิ่นๆ
ดังนั้น ทุกคนจึงเห็นด้วยกับข้อเสนอของหลี่หยาง
ตอนนี้เหลือเวลาเพียงหนึ่งนาทีเท่านั้นก่อนจะถึงเวลานัดหมายที่ 9.20 น. และตอนนี้พวกเขาทั้งหมดรวมแล้วมีแค่เก้าคนเท่านั้น ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนในกลุ่ม แสดงว่ายังเหลืออีกคน
ขณะที่หญิงสาวกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เสียงร้องอันน่าหวาดหวั่นก็ดังมาจากเบื้องหลังของพวกเขา
เธอหันกลับมาเห็นสัตว์สี่ขาหางยาว ลำตัวเป็นสีฟ้าซะส่วนใหญ่ ปีกสีเทาดำ เกล็ดหนาปกคลุมเกือบทั้งตัว มันลอยอยู่เหนือพื้นดินประมาณ 3 ถึง 4 เมตร
มันคืออินทรีเกล็ดครามเป็นสัตว์อสูรระดับสูง
เจิ้งกั๋วผิงขมวดคิ้วเมื่อเห็นอินทรีเกล็ดครามในโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ยซึ่งไม่อนุญาตให้นำสัตว์ภายนอกเข้ามาในโรงเรียน ขณะเขากำลังจะเข้าไปดู ร่างหนึ่งก็กระโดดลงจากหลังของมัน
“พ่อ ไว้เจอกัน” ชายหนุ่มผู้ซึ่งกระโดดลงมาโบกมือลาผู้เป็นพ่อ
ชายผู้ขี่อินทรีเกล็ดแดงพยักหน้าแล้วบินออกไป
“อาจารย์ ผมยังไม่สายใช่ไหม?” เด็กชายเดินไปหาอาจารย์แล้วถาม
“หลู่เหลียงเย่ใช่ไหม? เธอเป็นคนสุดท้าย ทำเวลาได้อย่างฉิวเฉียว—อีกสองวินาทีเธอจะถูกนับว่ามาสาย” เจิ้งกั๋วผิงถากถางออกมา
หลู่เหลียงเย่ยิ้มโดยไม่พูดอะไร สายตาของเขากวาดสายตาไปยังผู้สมัครคนอื่นๆ
ทุกคนยกเว้นเฉียวซางมีวลีหนึ่งปรากฎขึ้นมาในหัวอย่างพร้อมเพียง
“นี่พวกนายรู้ไหม? ผู้เชี่ยวชาญมักมาทีหลังสุดเสมอ”
คนอื่นๆ: “…”
ห่ารากเอ้ย! เขาต้องเอาชนะพวกเราได้แน่ๆ!
ซุ่นปั๋วอวี้ปรบมือเพื่อเรียกทุกคนและพูดว่า “ตอนนี้ทุกคนมาถึงแล้ว เราจะเริ่มการสอบ ณ บัดนี้”
“ถึงทุกคนน่าจะรู้กฎกันดีอยู่แล้ว แต่ฉันจะอธิบายอีกรอบ”
“มีพวกเธอทั้งหมดสิบคน และพวกเธอจะถูกจับคู่แบ่งออกเป็นห้ากลุ่ม ผู้ชนะทั้งห้าจะได้พักก่อน ส่วนผู้แพ้ทั้งห้าจะได้แข่งขันอีกครั้ง ผู้ชนะในกลุ่มผู้แพ้ทั้งหมดจะเข้าร่วมกับผู้ชนะห้าคนแรก รวมทั้งสิ้นเป็นหกคน”
“ทั้งหกคนนี้จะถูกแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม หากชนะจะได้ตำแหน่งสามอันดับแรก ในขณะที่ผู้แพ้สามคนจะแข่งขันกันอีกครั้งเพื่อกำจัดหนึ่งคนออก ห้าคนที่เหลืออยู่จะได้รับการเข้าเลือกโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ยของเรา”
เข้าใจแล้ว
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชค
หากเจอศัตรูตัวเบ้งตั้งแต่รอบแรกก็นับว่าซวยเช็ด
เพราะการแข่งรอบแรกผู้แพ้สี่ในห้าคนจะถูกคัดออก
“เพื่อความยุติธรรม เราจะจับฉลาก มีหมายเลข 1 ถึง 5 ใครได้เลขซ้ำกันจะถือว่าจับคู่กันโดยอัตโนมัติ” ฉินเหวินกล่าวพร้อมหยิบกล่องไม้ออกมา
ไม่นานทุกคนก็จับฉลากกันเสร็จ
“เราจะเริ่มต้นด้วยหมายเลข 1 ใครได้หมายเลข 1?” ฉินเหวินถาม
“ผมครับ” ลู่เหลียงเย่กล่าวพร้อมเลิกคิ้วขณะเผยให้เห็นกระดาษฉลากของเขา
“แล้วใครอีกคนที่จับได้หมายเลข 1” ฉินเหวินกล่าวต่อ
มือซีดถูกยกขึ้นจากข้างๆกัน
"ฉันค่ะ"
คนๆนั้นก็คือเฉียวซาง