ตอนที่แล้วบทที่ 30: มาถึงเร็วเกินไปหน่อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 32: โทษทีนะ

บทที่ 31: เขาต้องเอาชนะพวกเราได้แน่ๆ


นักเรียนส่วนใหญ่ที่โรงเรียนมัธยมเซินซุ่ยอาศัยอยู่ในหอพักของทางโรงเรียน ผู้ส่วนผู้ที่อาศัยอยู่ข้างนอกจะเข้าโรงเรียนทางประตูทิศใต้ ในขณะที่บุคคลภายนอกเช่นเฉียวซางต้องใช้ประตูทิศเหนือ

ประตูทิศเหนือถูกปิดอย่างแน่นหนา และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยังไม่เริ่มงาน

เฉียวซางตรวจสอบเวลาเป็นครั้งที่ n

8:52 น.

เหลือเวลาเพียง 28 นาที การสอบที่โรงเรียนมัธยมเซินซุ่ย จะเริ่มหรือก็คือในเวลา 9.20 น.

ทางเข้าประตูทิศเหนืออันกว้างใหญ่ถูกทิ้งร้าง มีเพียงแค่เฉียวซางและสุนัขเขี้ยวเพลิงเท่านั้นที่อยู่ตรงนี้

เธออดไม่ได้ที่จะหาวด้วยความเบื่อหน่าย

ถ้าเธอรู้ เธอคงเลือกนอนเล่นบนเตียงฆ่าเวลาไปก่อน...

8:58 น.

จุดสีดำแปดจุดปรากฏขึ้นบนขอบฟ้า และเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ลงจอดที่บริเวณประตูทิศเหนือส่งผลให้มีฝุ่นผงฟุ้งกระจายไปทั่ว

เฉียวซางบังคับตาที่ง่วงนอนของเธอให้เปิดออก

สิ่งที่ลงมาจากฟ้าคือสิ่งมีชีวิตที่คล้ายนกกระจอกเทศแปดตัว แต่ละตัวสูงราวๆ 2 เมตร

จะงอยปากของพวกมันมีสีดำเหมือนขนของพวกมัน และมีสองหางขดกันเป็นวงดูโดดเด่น

มีคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเฉียวซางเริ่มทยอยกระโดดลงจากหลังของพวกมัน

“ทั้งหมด 8,000 เหรียญพันธมิตร” ชายผู้ขี่นกจะงอยดำตัวนึงกล่าว

“แต่พวกเราตกลงกันว่าจะจ่ายราคาเหมาแบบกลุ่ม” หญิงสาวผมบ๊อบแดงพูดเตือนเขา

ชายคนนั้นเหลือบมองเพื่อนของตัวเองด้วยท่าทีสงสัย

ตอนนั้นเองเพื่อนเขาก็พยักหน้า “ใช่ พวกเขาเหมาราคาแบบกลุ่มมา”

“ถ้าอย่างนั้นก็ 7,222 เหรียญพันธมิตร” ชายคนนั้นกล่าวอีกครั้ง

“ลดอีกสักนิดไม่ได้เหรอ? ถ้าลดได้เดี๋ยวขากลับเราจะได้เรียกใช้บริการอีกรอบ” เด็กชายที่สูงที่สุดในบรรดาหกคนถาม

“จ่ายเงินเที่ยวนี้ก่อน” ชายคนนั้นตอบโดยไม่ตอบคำถามโดยตรง

คนกลุ่มนี้ไม่เถียงอะไรต่อและยอมจ่ายเงินแต่โดยดี

หลังจากชำระเงินแล้ว เด็กชายตัวสูงก็ถามอีกครั้งว่า “แล้วถ้าเราเรียกใช้บริการอีกรอบเราจะได้ส่วนลดเท่าไหร่?”

"ไม่มี" ชายคนนั้นตอบกลับ

"อะไรนะ?" เด็กชายร่างสูงตกตะลึง

“ก็บอกว่าไม่มีส่วนลดไง” ผู้ชายคนนั้นพูดซ้ำ

คนอื่นๆ: -

ในขณะที่คนกลุ่มนั้นกำลังง่วนอยู่กับการต่อรองราคา เฉียวซางก็ได้เข้ามาในโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ยพร้อมด้วยสุนัขเขี้ยวเพลิงของเธอแล้ว

เมื่อเวลา 9.00 น. ลุงยามออกมาจากโรงเรียนและเปิดประตู

ช่างตรงต่อเวลาซะจริงๆ...

ตามเส้นทางที่ให้ไว้ในเว็บไซต์ทางการของโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ย เฉียวซางก็เดินทางไปที่สนาม 3

มีอาจารย์เพียงสี่คนในสนาม และเมื่อเทียบกับโรงเรียนฝึกอสูรฮันกังที่ 6 ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับการสอบเข้าพิเศษนี้มากนัก

“อาจารย์ค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อเข้าสอบคะ” เฉียวซางพูดพร้อมเดินเข้าไปหา

“ขอบัตรข้อมูลด้วย” ซุ่นปั๋วอวี้ตอบอย่างห้วนๆ

เฉียวซางยื่นบัตรข้อมูลของเธอ

“เฉียวซางจากโรงเรียนมัธยมต้นเหวินเฉิงสินะ?” ซุ่นปั๋วอวี้ยืนยันรายละเอียดบนการ์ด

"ใช่คะ" เฉียวซางตอบรับคำ

ซุ่นปั๋วอวี้ตรวจสอบชื่อของเฉียวซางในรายชื่อของเขา และส่งบัตรคืน

“ไปนั่งรอตรงนั้น.. เราจะเริ่มการทดสอบเมื่อทุกคนมาถึง”

หลังจากที่เฉียวซางนั่งลงแล้ว ฉินเหวินก็พูดด้วยความสนใจ

“เด็กผู้หญิงคนนั้นทำสัญญากับสุนัขเขี้ยวเพลิง”

“คนที่ปลุกพลังด้วยตัวเองชอบคิดเองเออเองว่าตัวเองอยู่ยงคงกระพัน ไม่แปลกที่คนกลุ่มนี้ชอบทำสัญญากับอสูรตัวแรกที่ยากจะรับมือไหว ลู่เหยาที่ได้รับการแนะนำให้เข้าเรียนโดยตรงก็ทำสัญญากับมังกรน้อยด้วยไม่ใช่รึไง?” เจิ้งกั๋วผิงโต้กลับอย่างไม่ใส่ใจ

ฉินเหวินกลอกตา

พวกเขาจะเหมือนกันได้ยังไง?

มังกรน้อยนิสัยดีกว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงมาก แค่ว่ามันเป็นสัตว์ประเภทมังกร ทำให้แพงจนคนธรรมดาเอื้อมไม่ถึงแค่นั้นแหละ คนส่วนใหญ่เลยไม่ได้ทำสัญญากับมัน

คนหนึ่งทำสัญญากับสุนัขเขี้ยวเพลิงด้วยความกล้าหาญ ในขณะที่อีกคนหนึ่งใช้เงินเพื่อทำสัญญากับมังกรน้อย พวกเขาเหมือนกันตรงไหน?

แต่เจิ้งกั๋วผิงไม่ใช่คนประเภทที่โต้แย้งด้วยได้ พูดอะไรไม่เข้าดูหน่อยก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ดังนั้นฉินเหวินจึงไม่สนใจที่จะพูดกับเขาอีก

ไม่กี่นาทีต่อมา กลุ่มคนที่ขี่หลังนกจะงอยดำก็มาถึงและต่อคิวเพื่อรับการยืนยันตัวตน

หลังจากตรวจสอบข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว เด็กผู้หญิงผมบ็อบสีแดงตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบแล้วนั่งลงข้างๆ เฉียวซาง และพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองว่า “นี่เธอก็มาสอบที่นี่เหมือนกันเหรอ? แล้วทำไมเธอถึงไม่เดินทางมากับพวกเราล่ะ?”

เธอชำเลืองมองสุนัขเขี้ยวเพลิงที่อยู่ข้างๆ เฉียวซางอย่างละเอียด

นี่มันคู่แข่งที่น่าหวั่นเกรง…

เฉียวซางรู้สึกงุนงง

“ทำไมฉันต้องมากับเธอด้วย? เรารู้จักกันเหรอ?”

หญิงสาวผมบ็อบทำสีหน้าแปลกใจ

“เธอไม่เห็นข้อความในกลุ่มเหรอ?”

เฉียวซางยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก “กลุ่มไหน? ข้อความอะไร?”

“กลุ่มที่มีให้้เข้าร่วมผ่านหน้ารับสมัครพิเศษบนเว็บไซต์ของโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ยไง” หญิงสาวอธิบาย

“เราตกลงที่จะรวมตัวกันที่ถนนอู่เจี๋ยแล้วเดินทางมาด้วยกันนี่”

เฉียวซางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “ฉันไม่ได้เข้ากลุ่ม…”

หญิงสาวผมบ็อบ: “…”

“แปลกมาก เพราะในกลุ่มมีทั้งหมดเก้าคน ถ้าเธอไม่ใช่หนึ่งในนั้นแล้วยังมีใครที่ยังไม่ได้มาอีก” หญิงสาวถามเสียงดัง

ก่อนหน้านี้มีคนในกลุ่มพูดติดตลกว่า “นี่พวกนายรู้ไหม? ผู้เชี่ยวชาญมักมาทีหลังสุดเสมอ” จากนั้นทุกคนก็เริ่มกล่าวอ้างว่าพวกเขาจะเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง

ในที่สุดหลี่หยางเด็กชายที่สูงที่สุดก็แนะนำให้พวกเขามารวมตัวกันและมาที่สนามสอบ

ทุกคนในกลุ่มได้ปลุกพลังของตนเองขึ้นมาเหมือนกัน

การสอบครั้งนี้รับเพียงห้าคนเท่านั้น และในอนาคตพวกเขาอาจจะได้อยู่โรงเรียนเดียวกัน จึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะสานสัมพันธ์กันตั้งแต่เนิ่นๆ

ดังนั้น ทุกคนจึงเห็นด้วยกับข้อเสนอของหลี่หยาง

ตอนนี้เหลือเวลาเพียงหนึ่งนาทีเท่านั้นก่อนจะถึงเวลานัดหมายที่ 9.20 น. และตอนนี้พวกเขาทั้งหมดรวมแล้วมีแค่เก้าคนเท่านั้น ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนในกลุ่ม แสดงว่ายังเหลืออีกคน

ขณะที่หญิงสาวกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เสียงร้องอันน่าหวาดหวั่นก็ดังมาจากเบื้องหลังของพวกเขา

เธอหันกลับมาเห็นสัตว์สี่ขาหางยาว ลำตัวเป็นสีฟ้าซะส่วนใหญ่ ปีกสีเทาดำ เกล็ดหนาปกคลุมเกือบทั้งตัว มันลอยอยู่เหนือพื้นดินประมาณ 3 ถึง 4 เมตร

มันคืออินทรีเกล็ดครามเป็นสัตว์อสูรระดับสูง

เจิ้งกั๋วผิงขมวดคิ้วเมื่อเห็นอินทรีเกล็ดครามในโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ยซึ่งไม่อนุญาตให้นำสัตว์ภายนอกเข้ามาในโรงเรียน ขณะเขากำลังจะเข้าไปดู ร่างหนึ่งก็กระโดดลงจากหลังของมัน

“พ่อ ไว้เจอกัน” ชายหนุ่มผู้ซึ่งกระโดดลงมาโบกมือลาผู้เป็นพ่อ

ชายผู้ขี่อินทรีเกล็ดแดงพยักหน้าแล้วบินออกไป

“อาจารย์ ผมยังไม่สายใช่ไหม?” เด็กชายเดินไปหาอาจารย์แล้วถาม

“หลู่เหลียงเย่ใช่ไหม? เธอเป็นคนสุดท้าย ทำเวลาได้อย่างฉิวเฉียว—อีกสองวินาทีเธอจะถูกนับว่ามาสาย” เจิ้งกั๋วผิงถากถางออกมา

หลู่เหลียงเย่ยิ้มโดยไม่พูดอะไร สายตาของเขากวาดสายตาไปยังผู้สมัครคนอื่นๆ

ทุกคนยกเว้นเฉียวซางมีวลีหนึ่งปรากฎขึ้นมาในหัวอย่างพร้อมเพียง

“นี่พวกนายรู้ไหม? ผู้เชี่ยวชาญมักมาทีหลังสุดเสมอ”

คนอื่นๆ: “…”

ห่ารากเอ้ย! เขาต้องเอาชนะพวกเราได้แน่ๆ!

ซุ่นปั๋วอวี้ปรบมือเพื่อเรียกทุกคนและพูดว่า “ตอนนี้ทุกคนมาถึงแล้ว เราจะเริ่มการสอบ ณ บัดนี้”

“ถึงทุกคนน่าจะรู้กฎกันดีอยู่แล้ว แต่ฉันจะอธิบายอีกรอบ”

“มีพวกเธอทั้งหมดสิบคน และพวกเธอจะถูกจับคู่แบ่งออกเป็นห้ากลุ่ม ผู้ชนะทั้งห้าจะได้พักก่อน ส่วนผู้แพ้ทั้งห้าจะได้แข่งขันอีกครั้ง ผู้ชนะในกลุ่มผู้แพ้ทั้งหมดจะเข้าร่วมกับผู้ชนะห้าคนแรก รวมทั้งสิ้นเป็นหกคน”

“ทั้งหกคนนี้จะถูกแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม หากชนะจะได้ตำแหน่งสามอันดับแรก ในขณะที่ผู้แพ้สามคนจะแข่งขันกันอีกครั้งเพื่อกำจัดหนึ่งคนออก ห้าคนที่เหลืออยู่จะได้รับการเข้าเลือกโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ยของเรา”

เข้าใจแล้ว

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชค

หากเจอศัตรูตัวเบ้งตั้งแต่รอบแรกก็นับว่าซวยเช็ด

เพราะการแข่งรอบแรกผู้แพ้สี่ในห้าคนจะถูกคัดออก

“เพื่อความยุติธรรม เราจะจับฉลาก มีหมายเลข 1 ถึง 5 ใครได้เลขซ้ำกันจะถือว่าจับคู่กันโดยอัตโนมัติ” ฉินเหวินกล่าวพร้อมหยิบกล่องไม้ออกมา

ไม่นานทุกคนก็จับฉลากกันเสร็จ

“เราจะเริ่มต้นด้วยหมายเลข 1 ใครได้หมายเลข 1?” ฉินเหวินถาม

“ผมครับ” ลู่เหลียงเย่กล่าวพร้อมเลิกคิ้วขณะเผยให้เห็นกระดาษฉลากของเขา

“แล้วใครอีกคนที่จับได้หมายเลข 1” ฉินเหวินกล่าวต่อ

มือซีดถูกยกขึ้นจากข้างๆกัน

"ฉันค่ะ"

คนๆนั้นก็คือเฉียวซาง

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด