บทที่ 29: แกต้องเป็นระดับ S อย่างแน่นอน
สุนัขเขี้ยวเพลิงไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการถูกจู่โจมอย่างกระทันหัน มันพึ่งจะมารู้ตัวก็ตอนบอลอยู่ใกล้มันมากแล้ว
โชคดีที่ลูกบอลในในระดับแรกไม่ได้เร็วนัก สุนัขเขี้ยวเพลิงเพียงยกขาหน้าและขาหลังฝั่งซ้ายขึ้น ลูกบอลก็ไหลผ่านข่องว่างของตัวมันไปได้แบบสบายๆ
เครื่องขว้างบอลทั้งสองเครื่องยิงลูกพร้อมกัน ตัวเครื่องของมันหมุนเป็นครั้งคราวเพื่อเปลี่ยนทิศทางในการยิง
หลังจากหลบไปได้ประมาณหนึ่งนาที สุนัขเขี้ยวเพลิงก็เริ่มคุ้นเคยกับวิถีของลูกบอลมากขึ้น ท่าทางของมันก็เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น
มันเริ่มปล่อยให้บอลเข้าใกล้และหลบในวินาทีสุดท้ายและใช้การเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด
เฉียวซางสังเกตสิ่งนี้ด้วยความพึงพอใจ การหลบหลีกดังกล่าวต้องใช้ทักษะการตอบสนองมากในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจของเฉียวซางในวันนี้ไม่ใช่แค่เพียงฝึกหลบความเร็วในระดับนี้เท่านั้น
เมื่อเห็นว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงไม่มีปัญหากับระดับแรก เธอจึงลุกขึ้นและปรับเครื่องขว้างบอลทั้งสองเครื่องไปที่ระดับสอง
ความเร็วของลูกบอลในระดับแรกอยู่ที่ประมาณ 3 เมตรต่อวินาที ในขณะที่ระดับสองเพิ่มขึ้นเป็น 5 เมตรต่อวินาที
และเมื่อนำขนาดห้องที่ใหญ่เพียงไม่กี่เมตรมาพิจารณา สุนัขเขี้ยวเพลิงจึงต้องหลบลูกบอลสองลูกจากทิศทางที่ต่างกันทุกๆ สามวินาที
ด้วยความเร็วระดับนี้ สุนัขเขี้ยวเพลิงดูคล่องตัวน้อยลง หลังจากหลบบอลลูกหนึ่งได้สำเร็จ บอลอีกลูกก็จะตรงเข้าใส่ในทันที ด้วยอัตราการยิงที่ถี่ขึ้น มันเลยพลาดโดนลูกบอลอัดไปสองสามลูก
ลูกเทนนิสที่ใช้ในเครื่่องนี้เป็นแบบลูกบอลยางกลวงๆ ฉะนั้นต่อให้โดนเข้าจังๆมันก็ไม่เจ็บ
ในเวลาหนึ่งนาที สุนัขเขี้ยวเพลิงหลบลูกบอลไม่พ้นถึงห้าลูก เฉียวซางจึงเดินไปกดปุ่มสีแดงเพื่อหยุดเครื่อง
“ย่่าห์?” สุนัขเขี้ยวเพลิงเอียงศีรษะด้วยความสับสน มันมองไปที่เจ้านายของมันและเห่า หยุดทำไม? มันยังเล่นไม่เสร็จเลย
เฉียวซางนั่งยองๆข้างสุนัขเขี้ยวเพลิง ปลดกำไลแรงโน้มถ่วงออกจากขาขวาแล้วยิ้ม
“เราไม่ได้มาที่นี่กัันเพื่อเล่น แต่เพื่อทดสอบว่าผลการฝึกที่ผ่านมามันคืบหน้ามากน้อยแค่ไหนต่างหาก”
“ย่าห์!”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ สุนัขเขี้ยวเพลิงก็ใช้ขาหลังดันตัวเองขึ้น จากนั้นตบหน้าอกด้วยขาหน้าขวาที่เพิ่งปลดพันธนาการ มันพร้อมโชว์สิ่งที่มันฝึกฝนมาตลอดให้เจ้านายมันเห็นแล้ว!
เมื่อเห็นสุนัขเขี้ยวเพลิงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเฉียวซางก็อดไม่ได้ที่จะลูบหัวมัน
“มาลองกันอีกครั้งเถอะ”
สุนัขเขี้ยวเพลิงรู้สึกได้ถึงความฮึกเหิม มันวิ่งไปที่กระเป๋าเป้สะพายหลังของเฉียวซาง หยิบแว่นกันแดดเจ็ดคู่ออกมา หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มันก็เลือกแว่นกันแดดทรงสามเหลี่ยมสีเขียวเข้มขึ้นมาใส่
“ย่าห์!”
สุนัขเขี้ยวเพลิงกลับมาที่เดิม พยักหน้าอย่างจริงจังให้กับเฉียวซาง
เมื่อเห็นเช่นนี้ เฉียวซางก็รู้ว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงกำลังจะเอาจริง
"งั้นขอให้โชคดี" เธอให้กำลังใจอีกครั้ง จากนั้นจึงเริ่มเปิดใช้งานเครื่องที่ความเร็วระดับสอง
เมื่อถอดกำไลแรงโน้มถ่วงออก ความเร็วของสุนัขเขี้ยวเพลิงก็อยู่ในอีกระดับจากก่อนหน้า ความเร็วของบอลระดับสองไม่สามารรถสัมผัสตัวมันได้เลยแม้แต่น้อย
หลังจากผ่านไปสองนาที เฉียวซางก็เพิ่มความเร็วอีกครั้ง ในความเร็วระดับสามความเร็วของลูกบอลเพิ่มขึ้นสองเท่าเป็น 10 เมตร/วินาที แต่ถึงจะเร็วมากขึ้นยังไง ก็ยังคงไม่มีบอลลูกไหนเลยได้สัมผัสเข้ากับตัวของสุนัขเขี้ยวเพลิง
แม้เฉียวซางจะรู้อยู่แก่ใจว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงพัฒนามากขึ้นขนาดไหน กระนั้นพอได้มาเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆเธอก็ยังคงปลื้มปริ่มอย่างบอกไม่ถูก หลังจากผ่านไปสองนาทีความเร็วก็เพิ่มเป็นระดับสี่
ความเร็วเพิ่มขึ้นจาก 10 เมตร/วินาที เป็น 20 เมตร/วินาที อาจเพราะไม่คุ้นชินและไม่ทันได้ระวัง ทำให้บอลลูกแรก ลูกสอง และลูกสามโดนเข้าที่ตัวของสุนัขเขี้ยวเพลิงอย่างจัง
ดูเหมือนว่าปฏิกิริยาตอบสนองของสุนัขเขี้ยวเพลิงจะอยู่ที่ประมาณ 10 เมตรต่อวินาที
เฉียวซางวิเคราะห์พลางเดินออกไปจะกดหยุดเครื่อง
“ย่าห์!” สุนัขเขี้ยวเพลิงประท้วงขึ้นทันที
อย่าพึ่งหยุด! มันยังไหว!
เฉียวซางผงะไป เธอไม่ได้คิดเลยว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงจะสังเกตุเห็นการกระทำของเธอท่างกลางทุ่งลูกบอลที่พุ่งเข้ามาหาอย่างต่อเนื่อง
เพราะเป็นความต้องการของเจ้าตัว เธอเลยไม่ได้หยุด ไม่งั้นมันอาจจะงอนเธอและกระทบกับการกินอาหารและการสอบได้
สุนัขเขี้ยวเพลิงหันความสนใจไปที่ลูกบอลอีกครั้ง ก่อนหน้ามันไม่ทันได้ระวังเพราะความเร็วเพิ่มสูงขึ้นอย่างกระทันหัน
หลังจากการฝึกฝนที่ผ่านมาทั้งหมด มันจะยอมให้เจ้าลูกบอลนี่เอาชนะมันได้ยังไง?
ด้วยความประหลาดใจของเฉียวซาง สุนัขเขี้ยวเพลิงที่โดนลูกบอลทุกลูกก็จับจังหวะของมันได้อย่างรวดเร็ว
จากการโดนทุกๆสองสามลูก มันก็ก้าวหน้าไปสู่การหลบได้สองในสาม จากนั้นก็หลบได้เก้าในสิบ
ความก้าวหน้าของมันเร็วจนน่าทึ่่ง!
เฉียวซางอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับความพยายามและศักยภาพของสุนัขเขี้ยวเพลิง สามสิบนาทีต่อมาสุนัขเขี้ยวเพลิงก็ดีขึ้นมากไปอีกครั้งนี้มันโดนโจมตีแค่ครั้งเดียวในสี่สิบครั้ง
เนื่องจาก สุนัขเขี้ยวเพลิงไม่ได้แสดงอาการเหนื่อยล้าใดๆ เฉียวซางจึงไม่ได้หยุดการทำงานของเครื่อง
ในตอนแรก เธอแค่ต้องการทดสอบแบบง่ายๆ เพื่อให้ไม่กระทบกับผลการสอบในวันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้วันที่ 10 มิถุนายน เป็นการทดสอบการรับเข้าเรียนแบบพิเศษของโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ย และเธอต้องการให้เจ้าหมาของเธออยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุด
แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าตอนนี้้มันเป็นมากกว่าการทดสอบความเร็ว—มันกลายเป็นการฝึกฝนอย่างหนักหน่วง
ถ้าปล่อยเอาไว้ สภาพร่างกายของมันคงไม่เพียบพร้อมในวันพรุ่งนี้แน่
เฉียวซางลังเล กำลังคิดว่าควรยกเลิกการฝึกดีไหม ทันใดนั้น สุนัขเขี้ยวเพลิงอีกตัวที่เหมือนกับตัวแรกทุกประการก็ปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่าทางด้านซ้ายของมัน!
เฉียวซางยืนนิ่งอยู่กับที่ เธอขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้มีอาการประสาทหลอน
เหตุการณ์ผิดธรรมชาติแบบนี้อาจหมายถึงสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือทักษะใหม่!
เธอตรวจสอบตำราอสูรทันที
ชื่อ: สุนัขเขี้ยวเพลิง*
คุณสมบัติ: ไฟ
ระดับ: ระดับเริ่มต้น (133/1000)+
ทักษะ: กัด (ขั้นต้น 74/100)+, พุ่งเข้าชน (ขั้นกลาง 198/500)+, เขี้ยวเพลิง (ขั้นกลาง 188/500)+, เพลิงปะทุ (ขั้นกลาง 232/500)+, แยกเงา (เริ่มต้น 2/100)+
คะแนน: 55
ในเวลาเพียงไม่กี่วันของการฝึก ทักษะทั้งหมดก็พัฒนาขึ้นมากเว้นเพียงแค่กัด เฉียวซางได้ตรวจสอบข้อมูลทุกคืนก่อนนอน และตอนนี้เธอก็ต้องประหลาดใจเพราะมันมีทักษะใหม่ที่เรียกว่าแยกเงา
เฉียวซางค้างไปทันที เพราะแยกเงาเป็นทักษะระดับกลาง เฉกเช่นเดียวกับเขี้ยวเพลิง สุนัขเขี้ยวเพลิงพึ่งปลุกทักษะเพลิงปะทุมาไม่นานแต่ตอนนี้มันได้ปลุกทักษะใหม่แล้ว แถมนั่นยังเป็นถึงทักษะระดับกลาง
โดยปกติแล้วการเรียนรู้ทักษะจะใช้เวลานานและจำเป็นต้องมีคำการฝึกสอนอย่างเฉพาะเจาะจง
ผู้ฝึกสัตว์อสูรมือใหม่หลายคนจะส่งสัตว์ของพวกเขาไปที่สถาบันเพื่อเรียนรู้ทักษะที่ต้องการ
สถาบันฝึกอบรมเหล่านี้ได้รับความนิยมเหลือเชื่อในปัจจุบัน ขอแค่ชำนาญในการปลุกทักษะระดับกลางเพียงแค่อย่างน้อยทักษะเดียวก็เรียกว่ามีกินมีใช้ไปทั้งชาติ
เฉียวซางกดปุ่มหยุดเครื่องขว้างบอล สายตามองไปที่สุนัขเขี้ยวเพลิงอย่างเชิดชู
“ย่าห์?” สุนัขเขี้ยวเพลิงมองไปรอบๆ ด้วยความสับสน จากนั้นจึงหันไปมองเจ้านายของมัน ทำไมบอลถึงหยุด?
โดยไม่ทันได้ตั้งตัวเฉียวซางก็เริ่มยกยอมัน “สุนัขเขี้ยวเพลิง ถ้ามีการจัดอันดับพรสวรรค์ แกจะเป็นต้องเป็นระดับ S อย่างแน่นอน”
“ย่าห์~” สุนัขเขี้ยวเพลิงส่งเสียงร้องอย่างขวยเขิน
ทำไมจู่ๆมันถึงได้รับคำชม? ไม่คาดไม่ฝันมาก่อนเลย
ช่วงเวลาต่อมา สุนัขเขี้ยวเพลิงตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างและหันไปมองทางซ้ายมือ
“หย๊าาาาา!!!”
สุนัขเขี้ยวเพลิงปล่อยเสียงร้องด้วยความตกใจ และรีบวิ่งมาหาเฉียวซางที่อยู่ไม่ไกลด้วยความเร็วที่สูงกว่าการหลบลูกบอลหลายเท่าตัวและกระโดดเข้าสู่อ้อมกอดของหญิงสาว