ตอนที่แล้วบทที่ 27: เครือข่ายการเดิมพันอวกาศ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 29: แกต้องเป็นระดับ S อย่างแน่นอน

บทที่ 28: ห้องฝึกซ้อมเทนนิส


ต้องเข้าใจว่าศักยภาพสมองมนุษย์นั้นไร้ขีดจำกัด มันมีเซลล์ประสาทนับพันล้านเซลล์ เป็นอาณาจักรที่ทั้งลึกลับและเปราะบาง

ก่อนการตื่นขึ้นของตำราอสูร สมองจะอยู่ในสภาวะที่เรียกว่าสภาวะสงบนิ่ง

เมื่อปลุกพลังแล้วก็จะเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่าสภาวะปลุกพลัง

ความฉลาดไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการพัฒนาของโดเมนสมอง เปอร์เซ็นต์ของการพัฒนาโดเมนสมองจะคำนวณตั้งแต่วินาทีแรกที่ปลุกตำราอสูร

สำหรับผู้ฝึกสัตว์อสูรธรรมดา โดเมนสมองหลังจากถูกกระตุ้นด้วยแม่เหล็กเพื่อปลุกตำราอสูรจะอยู่ที่ประมาณ 2%

ในขณะเดียวกัน การพัฒนาสมองของผู้ฝึกสัตว์อสูรที่ปลุกพลังด้วยตัวเองนั้นอยู่ที่ประมาณ 5%

ยิ่งสมองพัฒนามากเท่าไรก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น แต่ความเสถียรก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ

ตลอดประวัติศาสตร์ นักวิจัยจำนวนมากได้ทำการทดลองและการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสมอง และสรุปโดยไม่มีข้อยกเว้นว่าความเสถียรเป็นสิ่งสำคัญมากในการพัฒนาโดเมนสมอง

หากโดเมนสมองไม่เสถียรมันก็อาจพังทลายลงได้

แม้ว่าเฉียวซางเคยส่งรูปถ่ายหลักฐานการปลุกพลังของตัวเองมาที่สำนักงานรับสมัครแล้ว แต่ทุกคนในเวลานั้นก็ตื่นเต้นเกินไปที่จะมีคนที่ปลุกด้วยตัวเองมาสมัครทำให้พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปสนิท

อย่างไรก็ตาม...

เฉินเชิงถังเหลือบมองสุนัขเขี้ยวเพลิง เนื่องจากเด็กสาวสามารถทำสัญญากับสัตว์อสูรได้สำเร็จ ดังนั้นความไม่เสถียรของโดเมนสมองอาจมีแค่เล็กๆน้อยๆ

แต่เขาก็ยังคงกังวลเรื่องนี้อยู่ดี เขาจึงถามว่า "คนที่ทดสอบสมองของเธอได้พูดอะไรรึเปล่า?"

แม้ว่าเธอจะมีคุณสมบัติเพียบพร้อม แต่หากโดเมนสมองของเธอผันผวนเกินไป พวกเขาก็ต้องมาพิจารณากันใหม่อีกรอบ

เฉียวซางพยักหน้า “เธอบอกว่าคลื่นสมองของฉันผันผวนมาก และแนะนำว่าพักผ่อนให้มากและกินผลไม้แห้งเพิ่มขึ้น”

เฉินเชิงถังถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาไม่อยากให้มีปัญหาใดๆ กับนักเรียนที่มาสมัครรับการสอบแบบพิเศษคนแรกของประวัติศาสตร์โรงเรียน

ในขณะนี้ อาจารย์ผู้ชายที่นั่งตรงข้ามกับเฉินเชิงถังถามอย่างเป็นกันเองว่า "ใต้ตาเธอคล้ำมากเลย เมื่อวานไม่ค่อยได้นอนเหรอ?"

เฉียวซางตอบอย่างเขินๆ “พอดีเมื่อคืนฉันโต้รุ่งน่ะค่ะ”

เฉินเชิงถัง: "..."

“ถึงการสอบจะใกล้เข้ามาแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าการอ่านหนังสือโต้รุ่งไม่คุ้มกับสุขภาพในระยะยาวหรอก” เฉินเชิงถังแนะนำอย่างจริงจัง

อันที่จริงที่เธอโต้รุ่งเพราะไว้ทุกข์ให้กับเงิน 5,000 เหรียญที่เสียไป แต่มันน่าอายเกินกว่าที่จะพูด เธอจึงพยักหน้ารับเงียบๆ

เมื่อเห็นเฉียวซางยอมรับฟัง ความคิดของเฉินเชิงถังก็กลับมาที่สมองของเธอ

หากว่าไม่มีปัญหาเกี่ยวกับโดเมนสมองแล้ว บางทีโดเมนสมองของเธออาจสูงถึง 9% และใกล้เปิดหน้าสัญญาที่สองแล้วก็เป็นไปได้

แม้มันจะดูเพ้อฝันไปหน่อยก็เถอะ...

โดยปกติแล้ว ความผันผวนจะทำให้ค่าสมองสูงหรือต่ำกว่าค่ามาตรฐานเพียงเล็กน้อย

เฉินเชิงถังหยุดเรื่องมโนในหัว ยื่นเอกสารคืนให้เฉียวซาง และเริ่มแนะนำชายหัวโล้นเพียงคนเดียวในห้อง

"นี่คืออาจารย์จ้าว ผู้ที่จะรับผิดชอบในการทดสอบโดเมนสมองของเธอ"

"สวัสดีค่ะอาจารย์จ้าว" เฉียวซางทักทาย

อาจารย์จ้าวพยักหน้าเชิงทักทาย

"อย่าหลงไปกับหน้าตาของอาจารย์จ้าว เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์สมองอย่างแท้จริง" เฉินเชิงถังกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เธอเชื่อ เพราะไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านไหนก็ตามมักจะมีผมบางเหมือนกันเสมอ...

ภายในห้องทดสอบ

เมื่อเคยลองมาครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งนี้เธอเลยผ่อนคลายกับมันมาก

ด้วยการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีของเฉียวซาง การทดสอบจึงเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว

ประตูเปิดออก

"ย่าห์!"

ดวงตาของสุนัขเขี้ยวเพลิงสว่างไสวขึ้นเมื่อเห็นเฉียวซาง มันกระโจนเข้าหาเธออย่างตื่นเต้นจนเธอเกืือบจะล้ม

เนื่องจากตอนนี้มันสวมกำไลแรงโน้มถ่วงอยู่ เฉียวซางจึงไม่ได้อุ้มมันบ่อยเท่าแต่ก่อน

และตัวมันเองก็เหมือนจะรู้ตัวดี หลังจากอยู่ในอ้อมแขนของเฉียวซางประมาณ 10 วินาที มันก็กระโดดลงด้วยตัวเอง

“พวกเธอสองคนดูสนิทกับมากเลยทีเดียว” เฉินเชิงถังอดไม่ได้ที่จะพูด

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นสัตว์อสูรประเภทไฟที่ทั้งเชื่อฟังและชอบออดอ้อนต่อเจ้านายของมัน

"ค่ะ" เฉียวซางตอบด้วยรอยยิ้ม

อาจารย์ทุกคนในสำนักงานลุกขึ้นยืนและรอผลลัพธ์ของเฉียวซาง

แม้ว่าเฉียวซางจะไม่ได้กังวลกับผลลัพธ์ แต่การตกเป็นจุดสนใจของทุกคนก็แอบทำให้เธอรู้สึกหวั่นๆเล็กน้อย

อาจารย์จ้าวส่งผลการทดสอบให้รองผู้อำนวยการเฉินเชิงถังและพูดอย่างจริงจังว่า "ไม่มีปัญหา แต่ยังไม่เสถียร"

เฉินเชิงถังรับผลการทดสอบและยืนอ่านเพื่อพิจารณา

ผู้รับการสมัครสอบพิเศษที่ปลุกพลังด้วยตนเองจะได้รับการลดคะแนนในการสอบเข้าตามการพัฒนาโดเมนสมองของพวกเขา แต่ละโรงเรียนมีมาตรฐานที่แตกต่างกันสำหรับการรับสมัครพิเศษ

ที่โรงเรียนนี้ การพัฒนาสมอง 5% จะส่งผลให้เกณฑ์คะแนนขั้นต่ำลดลง 100 คะแนน และ 6% จะส่งผลให้เกณฑ์คะแนนขั้นต่ำลดลง 200 คะแนน

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาสมองของเฉียวซางยังคงผันผวนโดยไม่มีเปอร์เซ็นต์คงที่

เรื่องนี้ทำให้แอบยุ่งยากเล็กน้อย

แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

เฉินเชิงถิงตัดสินใจและยิ้มให้เฉียวซาง "เนื่องจากการพัฒนาโดเมนสมองของเธอยังไม่เสถียร ทางเราจะใช้ค่ากลางในการลดเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำของเธอ"

โดยปกติหากพัฒนาของโดเมนสมองมีความผันผวนระหว่าง 5% ถึง 9% ค่าคงที่ก็ควรจะอยู่ที่ 5% หรือ 6%

แต่เฉินเชิงถิงตัดสินใจกำหนดค่าพัฒนาของโดเมนสมองของเธอไว้ที่ 7%

ไม่มีอาจารย์คนไหนในห้องแปลกใจและคัดค้าน

นี่คือผู้ที่ปลุกพลังด้วยตัวเองคนแรกที่มาสมัครโรงเรียนของพวกเขา ลดคะแนนสัก 100 นึงมันไม่ได้นับว่าอะไรเลย สิ่งที่สำคัญคือการแสดงทัศนคติของทางโรงเรียนที่มีต่อเธอให้เห็น

ตราบใดที่เธอเลือกที่จะเข้าเรียนที่โรงเรียนฝึกอสูรฮันกังที่ 6 ประตูก็พร้อมเปิดกว้างสำหรับเธอ!

เฉียวซางเข้าใจความนัยนี้โดยทันที

โรงเรียนมัธยมฝึกอสูรโดยส่วนใหญ่ระบุเฉพาะเกณฑ์การลดคะแนนของโดเมนสมองในระดับ 5-6% เพียงเท่านั้น

นั่นเพราะผู้ที่มีโดเมนสมองสูงถึง 7% เป็นต้นไปนั้นพบเห็นได้ยากมาก เรียกว่าในมณฑลเจ้อไห่ของเธอห้าปีจะมีสักคน

และต่อให้มี พวกเขาเหล่านั้นต่างพากันเลือกโรงเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อย่างแน่นอน

ถ้าบอกว่าไม่ประทับใจก็คงโกหก เพราะสำหรับโรงเรียนนี้ต่อให้เธอทำคะแนนสอบต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำเป็น 100 คะแนน เธอก็ยังคงสามารถเข้าที่นี่ได้

"ขอบคุณค่ะ" เฉียวซางกล่าว

หลังจากกล่าวคำอำลากับโรงเรียนฝึกอสูรฮันกังที่ 6 ตอนนี้เวลาเพิ่งถึง 10:32 น.

เฉียวซางไม่ได้พาสุนัขเขี้ยวเพลิงไปฝึกที่สวนชากุ่ยเหมือนวันก่อนๆ

เธอมุ่งหน้าไปยังชั้นสามของจัตุรัสวิลเลต

ห้องฝึกซ้อมเทนนิส

หลังจากจ่ายเงินเพื่อจองห้องสองชั่วโมง เฉียวซางก็พาสุนัขเขี้ยวเพลิงไปที่ห้องฝึกตีลูก

ห้องฝึกซ้อมเทนนิสนี้ออกแบบมาเพื่อให้มนุษย์ได้ใช้ฝึกตีลูก แต่เฉียวซางกลับคิดว่ามันเหมาะสำหรับการฝึกปฏิกิริยาการตอบสนองของสุนัขเขี้ยวเพลิงมาก

ห้องฝึกตีลูกเป็นพื้นที่โล่งกว้างขนาด 12 ตารางเมตร เบื้องหน้ามันมีเครื่องขว้างบอลอัตโนมัติอยู่สองเครื่อง

“สุนัขเขี้ยวเพลิง พยายามหลบลูกบอลที่พุ่งเข้ามาหาแก ฉันจะอยู่ที่นี่กับแกและถ้าแกเหนื่อยก็บอกฉันทันที” เฉียวซางสั่ง

แม้ว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงจะไม่รู้ว่าลูกบอลจะโผล่มาจากตรงไหน แต่มันก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

เครื่องขว้างบอลอัตโนมัติมีการตั้งค่าทั้งหมดหกแบบ โดยความเร็วการขว้างจะมีตั้งแต่หนึ่งถึงหก โดยหนึ่งช้าที่สุดและหกเร็วที่สุด

กำไลแรงโน้มถ่วงยังคงอยู่ที่ขาหน้าข้างขวาของสุนัขเขี้ยวเพลิง ขณะที่เฉียวซางเดินไปที่เครื่องขว้างบอลและตั้งค่ามันไว้ที่ความเร็วระดับหนึ่ง

เครื่องขว้างบอลทั้งสองเริ่มทำงาน ด้วยความเร็วที่ไม่ได้สูงมากนัก เฉียวซางจึงเดินหลบบอลอย่างสบายๆและนั่งลงที่มุมปลอดภัยของห้อง

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด