ตอนที่แล้วบทที่ 24 งานของลุงชีช่างมีจิตวิญญาณจริง ๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 26 อนาคตสดใสจริงๆ

บทที่ 25 เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงได้เร็วขนาดนี้


บทที่ 25 เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงได้เร็วขนาดนี้

ตั้งแต่ที่เห็นชักโครกนั่นแล้ว เขารู้สึกว่าสมองของเขาตามความคิดของคุณลุงชีไม่ทันแล้ว

แต่มันไม่ใช่แค่ชักโครก มันยังมีเป็ปป้าพิกขี่มังกร ไดโนเสาร์สู้กับหมาป่า..... พวกนี้ก็ว่าไปไกลแล้วนะ แต่ตัวด้วงที่กำลังชูสัญลักษณ์อิโมจินั่นมันอะไรกัน..

เมื่อเทียบกับความงงงวยของเฉินจิ่วซือแล้ว ในห้องไลฟ์สดกลับตื่นเต้นกันอย่างมาก

"งานนี้ออกแบบได้ดีเลยนะ!"

"ใจเต้นเลย!"

"ไม่รู้ทำไม ถึงแม้ว่าสิ่งที่ตาฝูแกะสลักจะดูดีมีระดับ มันดูเหมือนพวกคนมีสไตล์ แต่กลับไม่ค่อยมีจิตวิญญาณเท่าลุงคนนี้เลย"

"ไม่ต้องพูดถึงอันอื่นเลย แค่ชักโครกมีเงินฉันก็อยากได้แล้ว แต่ที่ฉันอยากเห็นมากกว่าคือม้าลากเหรียญ!"

"ไอเดียให้ล้านคะแนนเลย.. แต่ฉันไม่กล้าเอาไปวางไว้บนโต๊ะหรอก ฉันกลัวจะมีกลิ่น"

"ฉันว่าของที่ตาคนอื่นแกะสลักน่าจะเหมาะกับฉันมากกว่า!"

พวกเขาคิดว่ามันมีสคริปต์จริงๆ

และงานแกะสลักของคุณลุงชีทุกชิ้นมันก็เป็นมีมเป็นมุกตลกทั้งนั้น

ถ้ามันมาจากฝีมือของคนหนุ่มสาวก็คงจะไม่รู้สึกแปลกแยกขนาดนี้

แต่ตอนนี้มันกลับให้ความรู้สึกที่แปลกๆ เหมือนว่ามันจะดี เพราะว่ามันน่าสนใจ มันน่าสนใจมากเลยจริงๆ!

ในตอนนั้นเอง เฉินจิ่วซือก็รู้สึกว่าชายเสื้อของตัวเองถูกดึง

เมื่อหันกลับไปก็เห็นฝูจือหยินชี้ไปที่โทรศัพท์ที่ใช้ไลฟ์สด

เฉินจิ่วซือเลิกคิ้วเล็กน้อย แล้วก็รีบเดินเข้าไป

ตอนแรกเขาคิดว่ามันคงมีปัญหาอะไร แต่พอเห็นข้อความในห้องไลฟ์สด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

เขารู้สึกว่าตัวเองตามยุคสมัยไม่ทันแล้ว

นี่มันอะไรกัน

แต่ในไม่ช้า ความคิดพวกนี้ก็ถูกโยนทิ้งไป

ไม่ว่าเขาจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจงานของลุงชี แต่มันก็ไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญก็คือคุณลุงชีทำได้ และมีแฟนคลับในห้องไลฟ์สดชอบ แค่นี้มันก็เพียงพอแล้ว!

"ทุกคนอย่าทะเลาะกันเลย ผมว่าสิ่งที่ลุงชีแกะสลักก็ดีเหมือนกันนะ...... แน่นอน งานของคุณก็ดีเหมือนกัน เพียงแค่สไตล์การสร้างสรรค์มันแตกต่างกันเท่านั้นเอง"

เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆ ทะเลาะกันหนักขึ้นเรื่อยๆ เฉินจิ่วซือก็รีบเข้ามาห้าม "ตอนนี้มันเป็นยุคอินเทอร์เน็ตแล้ว สถานการณ์ของเราตอนนี้มีคนดูเป็นหมื่น เป็นแสน หรืออาจจะเป็นล้านคนได้ ถ้ามีคนชอบ นั่นก็แสดงว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมแล้ว"

แต่เห็นได้ชัดว่าคำพูดนี้ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้

เมื่อคนแก่ขึ้น การที่จะยอมรับสิ่งใหม่ๆ มันก็ค่อนข้างยาก

เมื่อคิดได้เล็กน้อย เฉินจิ่วซือก็เริ่มพูดใหม่ "ถ้าอย่างนั้น เอาแบบนี้ดีไหม พวกเราเอางานของทุกคนไปวางไว้ในตู้โชว์ ไม่ว่าสไตล์ไหน ก็ตั้งราคาตามความยากของการแกะสลัก ถ้ามีคนอยากจะซื้อ ก็แสดงว่ามันมีคุณค่ากับคนที่ต้องการ"

"แต่ถ้าขายไม่ออกเลย ลุงชีก็แค่เปลี่ยนแบบไปเรื่อยๆ"

ในเมื่อพูดด้วยเหตุผลไม่เข้าใจ งั้นก็ต้องเอาความจริงมาพูดกัน

เขาก็อยากจะดูเหมือนกันว่างานของคุณลุงชีจะดึงดูดคนได้มากเท่าที่ข้อความในห้องไลฟ์สดพูดจริงหรือเปล่า...

ทั้งคุณลุงชีกับคุณตาฝูนั้นเหมือนอยู่คนละขั้วกันเลย แต่ทำไมพวกเขาถึงดูน่าดึงดูดทั้งคู่เลยนะ

ในที่สุด

ด้วยคำแนะนำของเฉินจิ่วซือ ทุกคนก็ยอมรับข้อตกลงนี้

หลังจากที่ได้ปรึกษากับฝูจือหยินถึงวิธีการนำสินค้าขึ้นตู้โชว์แล้ว เฉินจิ่วซือและคนอื่นๆ ก็เริ่มดำเนินการโดยที่มีสายตาของคนแก่กว่าสิบคนจ้องมองอยู่

เมื่อรู้สึกได้ถึงความร้อนแรงในสายตา เฉินจิ่วซือก็รีบลงมือทำให้เร็วขึ้น

คนแก่พวกนี้อะไรกันเนี่ย ทำไมสายตาพวกเขาถึงร้อนแรงกันขนาดนี้นะ

หรือจะบอกว่า พวกเขาโหยหามากกว่า

ไม่ว่าจะเป็นการขาดแคลนเงิน หรือขาดการยอมรับในฝีมือของตัวเอง ทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความปรารถนา

พวกเขาหวังว่าพวกเขาจะขายมันได้จริงๆ

พวกเขาโหยหาที่จะขายมันให้ได้!

และภายใต้สายตาที่ร้อนแรงที่จับจ้องอยู่นั้น แค่ทำตัวเฉื่อยชาไปนิดเดียวก็เหมือนจะถูกไฟแห่งความโหยหาแผดเผาได้เลย

การทำงานของทั้งสองคนก็เร็วขึ้นเรื่อยๆ

48, 58, 68, 88, 99, 129, 149...... แต่ละผลงานก็ถูกบันทึกอย่างรวดเร็ว แล้วก็ใส่ราคาที่เหมาะสม

ตั้งแต่ราคาที่ถูกที่สุด 48 ไปจนถึงราคาที่แพงที่สุดที่ไม่เกิน 299 หยวน แต่ละชิ้นก็จะถูกกำหนดราคาตามความยากง่าย

แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือชักโครกของคุณลุงชีนั้นมีราคาสูงถึง 299 หยวน!

ฝาชักโครกที่สามารถเปิดปิดได้อย่างอิสระไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะแกะสลักได้

ยิ่งไปกว่านั้น เหรียญที่แกะสลักบนฝาชักโครกก็มีความละเอียดมากอีกด้วย

หลังจากที่บันทึกข้อมูลสินค้าทั้งหมดเสร็จแล้ว เฉินจิ่วซือก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ไม่มีการนับถอยหลังเหมือนการไลฟ์สดขายของอื่นๆ ไม่มีการใช้คำพูดแบบมืออาชีพของพวกเขา แค่เอาขึ้นขาย แล้วก็พูดออกมา

ทันทีที่เขาพูดจบ ฝูจือหยินที่กำลังจับตาดูคำสั่งซื้ออยู่ก็เริ่มรายงานให้คนแก่ทั้งหลายฟัง

"ชักโครกมีเงินขายได้แล้ว!"

"เกาะจงซานขายได้แล้ว!"

"น้ำเต้า, พระศรีอาริย์, เต่าดำ, ไดโนเสาร์สู้หมาป่า, เตาหลอม......"

แค่ไม่กี่วินาที ก็มีผลงานถูกขายออกไปมากมาย

ทำให้ทุกคนดูตื่นเต้นเล็กน้อย

แต่พอได้ยินว่าสิ่งที่ขายได้ก่อนคือ 'ชักโครกมีเงิน' สีหน้าของหลายคนก็ดูซับซ้อน

แต่ก็โชคดีที่มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น มีชื่ออื่นๆ ตามออกมาเรื่อยๆ

ไม่อย่างนั้น พวกเขาคงจะเริ่มสงสัยในชีวิตแล้ว

แต่เมื่อมีชื่อต่างๆ ถูกรายงานออกมา สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

และเมื่อได้ยินชื่อผลงานของตัวเองออกมา สีหน้าที่แสดงออกมาเป็นอย่างแรก ก็ไม่ใช่ความยินดีอีกต่อไป แต่เป็นการถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ถ้างานของเพื่อนๆ ขายได้หมด แต่ของตัวเองขายไม่ได้ มันก็คงจะน่าอายมาก

โชคดีที่กำลังซื้อของแฟนคลับในห้องไลฟ์สดนั้นเกินความคาดหมายของพวกเขาไปมาก

มันใช้เวลาแค่ประมาณ 40 วินาที..  40 วินาทีเท่านั้น ฝูจือหยินก็หยุดลง และไม่กี่วินาทีต่อมา ท่ามกลางสายตาที่คาดหวังของทุกคน เธอก็อุทานออกมาด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย "ขายหมดแล้ว!"

"ที่พวกเราถ่ายรูปไปเมื่อกี้ ขายหมดแล้ว!"

"พวกเราทำสำเร็จแล้ว!"

กระถางกล้วยไม้สกุลหวายหินภูเขาไฟสองร้อยกว่าชิ้นที่เอามาลองขาย นั้นถูกขายจนหมดภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ผลลัพธ์นี้มันเกินความคาดหมายไปมาก

เหมือนว่าความคิดนี้มันจะได้ผลจริงๆ ด้วย!

แต่ในห้องทำงานกลับเงียบสงัด

นอกจากเสียงของฝูจือหยิน ก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีก

หลังจากที่เงียบไปประมาณประโยคหนึ่ง เสียงก็กลับมาดังอีกครั้ง

"หนูฝู เธอไม่ได้หลอกพวกเราใช่ไหม"

"นี่มันแค่เวลานานเท่าไหร่เอง เป็นไปได้ยังไงที่จะขายหมด!"

"ต่อให้ขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พวกเราจะไปกลัวอะไรเล่า"

ทุกอย่างมันเกินความคาดหมายไปมาก

ในความเข้าใจของพวกเขา ต่อให้มีคนชอบ ก็ควรที่จะวางมันไว้ตรงนั้น แล้วรอให้คนมาเลือกซื้อไม่ใช่เหรอ

เป็นไปได้ยังไงที่จะขายหมด แถมยังเร็วขนาดนี้!

"ขายหมดแล้วจริงๆ นะคะ" ฝูจือหยินพูดขัด "พวกคุณมาดูคำสั่งซื้อได้เลย สรุปก็คือ พอมีกล่อง และโฟมพร้อมแล้ว พวกเราก็จะเริ่มแพ็คของแล้วจะรีบส่งให้ลูกค้ากันได้เลย!"

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด