ตอนที่แล้วบทที่ 24: ปณิธานร่วมกัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 26: หนูลาไว้แล้วค่ะแม่

บทที่ 25: อาหารมื้อหรู


“มาวิ่งอุ่นเครื่องสักสองสามรอบกันเถอะ” เฉียวซางกล่าว

หลังจากสวมกำไลแรงโน้มถ่วงแล้วสุนัขเขี้ยวเพลิง ก็ปรับตัวได้ค่อนข้างเร็ว มันเดินได้โดยไม่มีปัญหามากนักแต่แค่เดินนั้นยังไม่เพียงพอต่อการฝึก

"ย่าห์" สุนัขเขี้ยวเพลิงพยักหน้ารับคำสั่ง โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ

คราวนี้เฉียวซางตัดสินใจวิ่งไปพร้อมกับสุนัขเขี้ยวเพลิง

สุนัขเขี้ยวเพลิงเมื่อได้รับกำลังใจจากเฉียวซาง ในที่สุดมันก็สามารถผ่านการวิ่งอันแสนทรหดได้ทั้งสิ้นสองรอบด้วยกัน ก่อนมันจะนอนเหลวเป็นเป็นน้ำและเหลือบมองเฉียวซาง "เจ้านายนี่เรียกว่าอุ่นเครื่องเหรอ?"

เฉียวซางเองก็หอบอย่างหนัก หลังจากผ่านวิ่งเพียงสองรอบ เธอก็รู้สึกเหมือนกำลังก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง

ดูเหมือนตัวฉันเองก็ต้องฝึกความอดทนด้วยเหมือนกัน...

ขณะโกยลมเข้าปอด เฉียวซางก็ดูเวลาในโทรศัพท์

ในระหว่างการวิ่งตอนเช้า สุนัขเขี้ยวเพลิง ใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 18 นาทีต่อรอบ

คราวนี้เมื่อใช้กำไลแรงโน้มถ่วง รอบแรกใช้เวลา 29 นาที 3 วินาที และรอบที่สองใช้เวลา 38 นาที 42 วินาที

เฉียวซางจดบันทึกเวลาไว้ในบันทึกในโทรศัพท์ โดยตั้งใจจะนำมาเปรียบเทียบพัฒนาการในภายหลัง

"เอาล่ะการวอร์มอัพจบลงแล้ว ขั้นต่อไปเจ้าหมาฟาดหัวลงไปบนต้นไม้นั่นเลย" เฉียวซางสั่งพลางอุ้มสุนัขเขี้ยวเพลิงมายังต้นมะเดื่อที่เธอเจอก่อนหน้านี้

“ย่าห์~” สุนัขเขี้ยวเพลิงนั่งลงอย่างเหนื่อยอ่อน ปากปล่อยเสียงคร่ำครวญออกมาเบาๆ

“แกไม่อยากแข็งแกร่งขึ้นแล้วเหรอ?” เฉียวซางถาม

หลังจากใช้เวลาสองสามวันที่ผ่านมากับสุนัขเขี้ยวเพลิงเฉียวซางก็รู้ว่ามันมีความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นที่น่าประทับใจ

แม้จะเคยต่อสู้เพียงแค่สี่ครั้ง แต่มันก็ไม่เคยหวาดกลัวและพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ย่อท้อ

แข็งแกร่งขึ้นเหรอ? สุนัขเขี้ยวเพลิงค่อยๆลุกขึ้น ดวงตาของมันแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นครั้งใหม่

เหตุผลแรกสุดที่มันทำสัญญากับมนุษย์ก็เพื่อแข็งแกร่งขึ้นและมองหาคู่ต่อสู้หน้าใหม่

เฉียวซางดีใจที่เห็นมันกลับมาฮึดสู้ได้อีกครั้ง นี่แหละสุนัขเขี้ยวเพลิงที่เธอถูกใจตั้งแต่แรกเห็น

ในตอนนั้นสุนัขเขี้ยวเพลิงใช้ร่างเล็กๆของมันกระแทกเข้ากับลำต้นของต้นไม้อย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทางมุ่งมั่นเหมือนเก่าก่อน

พอย้อนกลับไปคิดเรื่องในตอนนั้น เหมือนเวลามันผ่านมานานมากเลยทีเดียว

“บางทีคราวนี้ แกอาจจะชำนาญทักษะที่แกพยายามจะเรียนรู้ตอนนั้นก็ได้” เฉียวซางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ย่าห์?” สุนัขเขี้ยวเพลิง มองไปที่เจ้านายของมันอย่างสับสน

“ก็ทักษะที่แกพยายามฝึกตอนฉันพบกับแกครั้งแรกที่ฐานสัตว์อสูรไงเล่า” เฉียวซางอธิบาย

“ย่าห์?” สุนัขเขี้ยวเพลิงรู้สึกสับสนมากยิ่งขึ้น

ทำไมมันไม่เห็นจำได้เลยว่ามันพยายามเรียนรู้ทักษะ

“แล้วทำไมตอนนั้นแกถึงพยายามเอาหัวพุ่งชนตนไม้ล่ะ? ไม่ใช่ว่าแกกำลังพยายามเรียกทักษะหัวโหม่งอยู่เหรอ?” เฉียวซางก็เริ่มสับสนเช่นกัน

ตอนนั้นที่มันไม่สามารถเรียนได้ เพราะเงื่อนไขการปลุกทักษะนี้ ต้องวิ่งอย่างน้อยห้าเมตรและค่อยพุ่งเข้าชนเป้าหมาย

เธอจำได้ชัดเจนว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงชนต้นไม้จากระยะแค่หนึ่งเมตร

สุนัขเขี้ยวเพลิงหวนนึกไปถึงการพบกันครั้งแรกระหว่างมันกับเฉียวซาง

ตอนนั้นมันทำอะไรอยู่? โอ้ใช่ มันกำลังพยายามโค่นต้นไม้เพราะอยากกินผลไม้บนต้น

“ย่าห์ ย่าห์ ย่าห์ ย่าห์”

“ย่าห์ ย่าห์”

สุนัขเขี้ยวเพลิงอธิบายพร้อมใช้อุ้งเท้าของมันแสดงท่าประกอบอย่างตั้งใจ

เฉียวซางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะจบหัวข้อสนทนานี้ด้วย "มาเริ่มการฝึกกันต่อเถอะ"

เมื่อคิดว่าตัวมันสามารถแกร่งขึ้นได้ สุนัขเขี้ยวเพลิงก็ดำเนินการฝึกต่อ

การใช้หัวโหม่งต้องใช้ความแข็งแกร่งของแขนขาทั้งสี่จึงจะสามารถระเบิดแรงกระแทกอันทรงพลังออกมาได้

แต่เมื่อสวมกำไลแรงโน้มถ่วง ความเร็วของสุนัขเขี้ยวเพลิงก็ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด และแรงเร่งที่เกิดขึ้นไม่อาจนับว่ามันเป็นการใช้ทักษะหัวโหม่งที่แท้จริงได้

หลังจากความพยายามถึงหกครั้ง แม้จะไม่สามารถปลุกทักษะหัวโหม่งขึ้นได้ บางทีอาจเป็นเพราะทักษะนี้ไม่มีความเข้ากับมัน แต่การโจมตีครั้งนี้ก็ทำให้ลำต้นมะเดื่อถลอกไปจนเห็นเนื้อใน

"ย่าห์!"

มันหันมองเฉียวซางอย่างตื่นเต้น ทว่ากลับเห็นว่าเธอกำลังจมไปกับภวังค์

อันที่จริงเฉียวซางยังจมอยู่กับคำพูดของสุนัขเขี้ยวเพลิงก่อนหน้านี้

เธออดไม่ได้ที่จะคิดว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงของเธอนั้นแอบโง่หน่อยๆ มันชนต้นไม้ซ้ำไปซ้ำมาเพื่อเอาผลไม้เนี่ยนะ หรืออาหารที่ฐานเพาะพันธุ์มันจะไม่เพียงพอกัน?

ด้วยรูปร่างอันเล็กจ้อยของมัน มันจะชนต้นไม้จนหักได้ยังไงกัน? ไม่มีผลลัพธ์ของการทำอะไรแบบนั้นเว้นแต่เจ็บหัว...

ว่าแต่ทำไมมันไม่ปีนต้นไม้ล่ะ...?

"ย่าห์!"

"ย่าห์!"

เสียงเห่าของสุนัขเขี้ยวเพลิงทำให้สติของเฉียวซางกลับมายังโลกแห่งความเป็นจริง

"ฉันไม่ได้เป็นอะไร" เฉียวซางพูดเสียงชัด

"ย่าห์"

สุนัขเขี้ยวเพลิงพยักหน้ารับคำ โดยลืมจุดประสงค์ไปแล้วว่าทำไมมันถึงเห่าเรียก และกลับไปฝึกต่อ

พอถึงเวลา 17.53 น. การซ้้อมทั้งหมดก็สิ้นสุดลง

สุนัขเขี้ยวเพลิงนอนหมดแรงรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน เฉียวซางจึงอุ้มมันขึ้นพร้อมพูดให้กำลังใจด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "แกเป็นสุนัขเขี้ยวเพลิงที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดที่ฉันเคยเห็นมาในชีวิตเลย”

แม้ว่าเธอจะเคยเจอสุนัขเขี้ยวเพลิงมาแค่ไม่กี่ตัวในชีวิต แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอไม่สามารถยกยอมันได้

แม้ว่ามันแทบจะไม่มีกำลังเหลือแล้ว แต่สุนัขเขี้ยวเพลิงก็ยังกัดฟันและหัวโขกครั้งสุดท้ายด้วยพลังใจอันแรงกล้า

มันฝึกทักษะโจมตีนับร้อยครั้งในบ่ายวันเดียว—มันได้ทำลายขีดจำกัดของมันแล้ว

“ย่าห์~” สุนัขเขี้ยวเพลิงหน้าแดงด้วยความขวยเขิน และแนบตัวอิงกายเข้าไปในอ้อมแขนของเฉียวซาง

“ฉันจะพาแกไปทานอาหารอร่อยๆเอง” เฉียวซางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ณ ร้านอาหารเหนียนเกา

สุนัขเขี้ยวเพลิงจ้องมองอาหารบนโต๊ะด้วยสายตาเหลือเชื่อ

มีทั้งผลไม้ สลัดผลไม้ บะหมี่ผลไม้ ไอศกรีมผลไม้ เค้กผลไม้ เยลลี่ผลไม้ พายผลไม้ น้ำผลไม้...

ทั้งโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารที่ทำจากผลไม้นานาชนิด

กร๊วก... ท้องของสุนัขเขี้ยวเพลิงคำรามลั่นขณะจ้องมองไปที่อาหาร

"มากินข้าวกันเถอะ" เฉียวซางกล่าวอย่างอ่อนโยน

โดยไม่ลังเลสุนัขเขี้ยวเพลิงคว้าเค้กผลไม้ชิ้นหนึ่งด้วยอุ้งเท้าของมันและกินอย่างหิวโหย

สำหรับเฉียวซางฉากนี้ช่างสวยงามและอบอุ่นหัวใจ

แต่ความงามนั้นไม่ได้มาอย่างไร้ราคา...

ราคาที่ต้องแลกคือเงินบัญชีถึงหนึ่งในห้าและการดุท่านแม่ผู้แข็งแกร่ง...

สามวันต่อมา

บูม-

เปลวเพลิงขนาดเท่ากำปั้นระเบิดใส่หินที่อยู่ไกลออกไป ทิ้งร่องรอยของการเผาไหม้ไว้อย่างเด่นชัด

ชื่อ: สุนัขเขี้ยวเพลิง*

คุณสมบัติ: ไฟ

ระดับ: ระดับเริ่มต้น (127/1000)+

ทักษะ: กัด (ขั้นต้น 74/100)+, พุ่งเข้าชน (ขั้นกลาง 138/500), เขี้ยวเพลิง (ขั้นกลาง 116/500)+, เพลิงปะทุ (ขั้นกลาง 135/500)+

คะแนน: 55

ในเวลาสั้นๆเพียงสี่วันสุนัขเขี้ยวเพลิงได้ชำนาญทักษะเขี้ยวเพลิงและเพลิงปะทุในขั้นกลาง

ถ้ามีใครรู้เรื่องนี้เข้าต้องเกิดความโกลาหลอย่างมากแน่นอน

เอาแค่เพลิงปะทุอย่างเดียวคงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่—เพราะมีอสูรหายากหลายตัวที่สามารถชำนาญทักษะระดับต่ำด้วยเวลาอันสั้น

แต่เขี้ยวเพลิงนั้นแตกต่างออกไป เพราะมันเป็นทักษะระดับกลางอย่างแท้จริง!

โดยปกติต้องใช้เวลาอย่างน้อยหกเดือนในการพัฒนาความชำนาญทักษะจากขั้นต้นไปขั้นกลาง แต่สุนัขเขี้ยวเพลิงของเธอทำได้ใช้เวลาไปเพียงสี่วัน!

ในขณะนี้สุนัขเขี้ยวเพลิงสวมแว่นกันแดดทรงสามเหลี่ยมกรอบแว่นสีเขียวเข้มที่พึ่งมาส่งเมื่อวันก่อน และกำลังจดจ่ออยู่กับการฝึกฝนทักษะ

ด้วยการผสมผสานระหว่างขนสีแดงและแว่นสีเขียว ทำให้มันดูโดดเด่นและเรียกความสนใจได้จากคนจำนวนมาก

เด็กหลายคนที่เล่นอยู่ในสวนสาธารณะหยุดยืนดูมัน แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เพราะตัวมันมักจะมีเปลวเพลิงล้อมรอบอยู่เสมอ

หลังจากเริ่มปรับตัวเข้ากับตารางฝึกได้ สุนัขเขี้ยวเพลิงก็ไม่ต้องการคำสั่งของเฉียวซางอีกต่อไป มันรู้แล้วว่าต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน

ที่ใต้ร่มเงาของต้นมะเดื่อ เฉียวซางนั่งอ่านหนังสือ

ตอนนี้สุนัขเขี้ยวเพลิงชำนาญทั้งเพลิงปะทุและเขี้ยวเพลิงแล้ว เธอไม่ได้กังวลเลยเกี่ยวกับการสอบเข้าพิเศษของเซินซุ่ยที่กำลังจะมาถึง

คู่แข่งของเธอมีแต่ผู้ฝึกสัตว์อสูรมือใหม่ที่พึ่งทำสัญญา ไม่มีทางที่จะมีใครสามารถเอาชนะสุนัขเขี้ยวเพลิงของเธอที่ชำนาญทักษะระกับกลางในขั้นกลางได้

แถมในช่วงไม่กี่วันนี้ความเร็วของสุนัขเขี้ยวเพลิงก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

เมื่อวานนี้ มันวิ่งครบรอบสนามในขณะสวมกำไลแรงโน้มถ่วงในเวลาเพียง 22 นาที 7 วินาที ซึ่งเร็วกว่าวันแรกเกือบเจ็ดนาที

การต่อสู้กับสัตว์อสูรที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 5 วันนั้นน่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี คราวนี้ก็เหลือการสอบจงเกาที่จะมาถึงในอีก 12 วัน ที่เธอต้องพยายามด้วยตัวเอง

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด