บทที่ 25: อาหารมื้อหรู
“มาวิ่งอุ่นเครื่องสักสองสามรอบกันเถอะ” เฉียวซางกล่าว
หลังจากสวมกำไลแรงโน้มถ่วงแล้วสุนัขเขี้ยวเพลิง ก็ปรับตัวได้ค่อนข้างเร็ว มันเดินได้โดยไม่มีปัญหามากนักแต่แค่เดินนั้นยังไม่เพียงพอต่อการฝึก
"ย่าห์" สุนัขเขี้ยวเพลิงพยักหน้ารับคำสั่ง โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
คราวนี้เฉียวซางตัดสินใจวิ่งไปพร้อมกับสุนัขเขี้ยวเพลิง
สุนัขเขี้ยวเพลิงเมื่อได้รับกำลังใจจากเฉียวซาง ในที่สุดมันก็สามารถผ่านการวิ่งอันแสนทรหดได้ทั้งสิ้นสองรอบด้วยกัน ก่อนมันจะนอนเหลวเป็นเป็นน้ำและเหลือบมองเฉียวซาง "เจ้านายนี่เรียกว่าอุ่นเครื่องเหรอ?"
เฉียวซางเองก็หอบอย่างหนัก หลังจากผ่านวิ่งเพียงสองรอบ เธอก็รู้สึกเหมือนกำลังก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง
ดูเหมือนตัวฉันเองก็ต้องฝึกความอดทนด้วยเหมือนกัน...
ขณะโกยลมเข้าปอด เฉียวซางก็ดูเวลาในโทรศัพท์
ในระหว่างการวิ่งตอนเช้า สุนัขเขี้ยวเพลิง ใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 18 นาทีต่อรอบ
คราวนี้เมื่อใช้กำไลแรงโน้มถ่วง รอบแรกใช้เวลา 29 นาที 3 วินาที และรอบที่สองใช้เวลา 38 นาที 42 วินาที
เฉียวซางจดบันทึกเวลาไว้ในบันทึกในโทรศัพท์ โดยตั้งใจจะนำมาเปรียบเทียบพัฒนาการในภายหลัง
"เอาล่ะการวอร์มอัพจบลงแล้ว ขั้นต่อไปเจ้าหมาฟาดหัวลงไปบนต้นไม้นั่นเลย" เฉียวซางสั่งพลางอุ้มสุนัขเขี้ยวเพลิงมายังต้นมะเดื่อที่เธอเจอก่อนหน้านี้
“ย่าห์~” สุนัขเขี้ยวเพลิงนั่งลงอย่างเหนื่อยอ่อน ปากปล่อยเสียงคร่ำครวญออกมาเบาๆ
“แกไม่อยากแข็งแกร่งขึ้นแล้วเหรอ?” เฉียวซางถาม
หลังจากใช้เวลาสองสามวันที่ผ่านมากับสุนัขเขี้ยวเพลิงเฉียวซางก็รู้ว่ามันมีความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นที่น่าประทับใจ
แม้จะเคยต่อสู้เพียงแค่สี่ครั้ง แต่มันก็ไม่เคยหวาดกลัวและพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ย่อท้อ
แข็งแกร่งขึ้นเหรอ? สุนัขเขี้ยวเพลิงค่อยๆลุกขึ้น ดวงตาของมันแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นครั้งใหม่
เหตุผลแรกสุดที่มันทำสัญญากับมนุษย์ก็เพื่อแข็งแกร่งขึ้นและมองหาคู่ต่อสู้หน้าใหม่
เฉียวซางดีใจที่เห็นมันกลับมาฮึดสู้ได้อีกครั้ง นี่แหละสุนัขเขี้ยวเพลิงที่เธอถูกใจตั้งแต่แรกเห็น
ในตอนนั้นสุนัขเขี้ยวเพลิงใช้ร่างเล็กๆของมันกระแทกเข้ากับลำต้นของต้นไม้อย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทางมุ่งมั่นเหมือนเก่าก่อน
พอย้อนกลับไปคิดเรื่องในตอนนั้น เหมือนเวลามันผ่านมานานมากเลยทีเดียว
“บางทีคราวนี้ แกอาจจะชำนาญทักษะที่แกพยายามจะเรียนรู้ตอนนั้นก็ได้” เฉียวซางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ย่าห์?” สุนัขเขี้ยวเพลิง มองไปที่เจ้านายของมันอย่างสับสน
“ก็ทักษะที่แกพยายามฝึกตอนฉันพบกับแกครั้งแรกที่ฐานสัตว์อสูรไงเล่า” เฉียวซางอธิบาย
“ย่าห์?” สุนัขเขี้ยวเพลิงรู้สึกสับสนมากยิ่งขึ้น
ทำไมมันไม่เห็นจำได้เลยว่ามันพยายามเรียนรู้ทักษะ
“แล้วทำไมตอนนั้นแกถึงพยายามเอาหัวพุ่งชนตนไม้ล่ะ? ไม่ใช่ว่าแกกำลังพยายามเรียกทักษะหัวโหม่งอยู่เหรอ?” เฉียวซางก็เริ่มสับสนเช่นกัน
ตอนนั้นที่มันไม่สามารถเรียนได้ เพราะเงื่อนไขการปลุกทักษะนี้ ต้องวิ่งอย่างน้อยห้าเมตรและค่อยพุ่งเข้าชนเป้าหมาย
เธอจำได้ชัดเจนว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงชนต้นไม้จากระยะแค่หนึ่งเมตร
สุนัขเขี้ยวเพลิงหวนนึกไปถึงการพบกันครั้งแรกระหว่างมันกับเฉียวซาง
ตอนนั้นมันทำอะไรอยู่? โอ้ใช่ มันกำลังพยายามโค่นต้นไม้เพราะอยากกินผลไม้บนต้น
“ย่าห์ ย่าห์ ย่าห์ ย่าห์”
“ย่าห์ ย่าห์”
สุนัขเขี้ยวเพลิงอธิบายพร้อมใช้อุ้งเท้าของมันแสดงท่าประกอบอย่างตั้งใจ
เฉียวซางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะจบหัวข้อสนทนานี้ด้วย "มาเริ่มการฝึกกันต่อเถอะ"
เมื่อคิดว่าตัวมันสามารถแกร่งขึ้นได้ สุนัขเขี้ยวเพลิงก็ดำเนินการฝึกต่อ
การใช้หัวโหม่งต้องใช้ความแข็งแกร่งของแขนขาทั้งสี่จึงจะสามารถระเบิดแรงกระแทกอันทรงพลังออกมาได้
แต่เมื่อสวมกำไลแรงโน้มถ่วง ความเร็วของสุนัขเขี้ยวเพลิงก็ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด และแรงเร่งที่เกิดขึ้นไม่อาจนับว่ามันเป็นการใช้ทักษะหัวโหม่งที่แท้จริงได้
หลังจากความพยายามถึงหกครั้ง แม้จะไม่สามารถปลุกทักษะหัวโหม่งขึ้นได้ บางทีอาจเป็นเพราะทักษะนี้ไม่มีความเข้ากับมัน แต่การโจมตีครั้งนี้ก็ทำให้ลำต้นมะเดื่อถลอกไปจนเห็นเนื้อใน
"ย่าห์!"
มันหันมองเฉียวซางอย่างตื่นเต้น ทว่ากลับเห็นว่าเธอกำลังจมไปกับภวังค์
อันที่จริงเฉียวซางยังจมอยู่กับคำพูดของสุนัขเขี้ยวเพลิงก่อนหน้านี้
เธออดไม่ได้ที่จะคิดว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงของเธอนั้นแอบโง่หน่อยๆ มันชนต้นไม้ซ้ำไปซ้ำมาเพื่อเอาผลไม้เนี่ยนะ หรืออาหารที่ฐานเพาะพันธุ์มันจะไม่เพียงพอกัน?
ด้วยรูปร่างอันเล็กจ้อยของมัน มันจะชนต้นไม้จนหักได้ยังไงกัน? ไม่มีผลลัพธ์ของการทำอะไรแบบนั้นเว้นแต่เจ็บหัว...
ว่าแต่ทำไมมันไม่ปีนต้นไม้ล่ะ...?
"ย่าห์!"
"ย่าห์!"
เสียงเห่าของสุนัขเขี้ยวเพลิงทำให้สติของเฉียวซางกลับมายังโลกแห่งความเป็นจริง
"ฉันไม่ได้เป็นอะไร" เฉียวซางพูดเสียงชัด
"ย่าห์"
สุนัขเขี้ยวเพลิงพยักหน้ารับคำ โดยลืมจุดประสงค์ไปแล้วว่าทำไมมันถึงเห่าเรียก และกลับไปฝึกต่อ
พอถึงเวลา 17.53 น. การซ้้อมทั้งหมดก็สิ้นสุดลง
สุนัขเขี้ยวเพลิงนอนหมดแรงรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน เฉียวซางจึงอุ้มมันขึ้นพร้อมพูดให้กำลังใจด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "แกเป็นสุนัขเขี้ยวเพลิงที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดที่ฉันเคยเห็นมาในชีวิตเลย”
แม้ว่าเธอจะเคยเจอสุนัขเขี้ยวเพลิงมาแค่ไม่กี่ตัวในชีวิต แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอไม่สามารถยกยอมันได้
แม้ว่ามันแทบจะไม่มีกำลังเหลือแล้ว แต่สุนัขเขี้ยวเพลิงก็ยังกัดฟันและหัวโขกครั้งสุดท้ายด้วยพลังใจอันแรงกล้า
มันฝึกทักษะโจมตีนับร้อยครั้งในบ่ายวันเดียว—มันได้ทำลายขีดจำกัดของมันแล้ว
“ย่าห์~” สุนัขเขี้ยวเพลิงหน้าแดงด้วยความขวยเขิน และแนบตัวอิงกายเข้าไปในอ้อมแขนของเฉียวซาง
“ฉันจะพาแกไปทานอาหารอร่อยๆเอง” เฉียวซางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ณ ร้านอาหารเหนียนเกา
สุนัขเขี้ยวเพลิงจ้องมองอาหารบนโต๊ะด้วยสายตาเหลือเชื่อ
มีทั้งผลไม้ สลัดผลไม้ บะหมี่ผลไม้ ไอศกรีมผลไม้ เค้กผลไม้ เยลลี่ผลไม้ พายผลไม้ น้ำผลไม้...
ทั้งโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารที่ทำจากผลไม้นานาชนิด
กร๊วก... ท้องของสุนัขเขี้ยวเพลิงคำรามลั่นขณะจ้องมองไปที่อาหาร
"มากินข้าวกันเถอะ" เฉียวซางกล่าวอย่างอ่อนโยน
โดยไม่ลังเลสุนัขเขี้ยวเพลิงคว้าเค้กผลไม้ชิ้นหนึ่งด้วยอุ้งเท้าของมันและกินอย่างหิวโหย
สำหรับเฉียวซางฉากนี้ช่างสวยงามและอบอุ่นหัวใจ
แต่ความงามนั้นไม่ได้มาอย่างไร้ราคา...
ราคาที่ต้องแลกคือเงินบัญชีถึงหนึ่งในห้าและการดุท่านแม่ผู้แข็งแกร่ง...
สามวันต่อมา
บูม-
เปลวเพลิงขนาดเท่ากำปั้นระเบิดใส่หินที่อยู่ไกลออกไป ทิ้งร่องรอยของการเผาไหม้ไว้อย่างเด่นชัด
ชื่อ: สุนัขเขี้ยวเพลิง*
คุณสมบัติ: ไฟ
ระดับ: ระดับเริ่มต้น (127/1000)+
ทักษะ: กัด (ขั้นต้น 74/100)+, พุ่งเข้าชน (ขั้นกลาง 138/500), เขี้ยวเพลิง (ขั้นกลาง 116/500)+, เพลิงปะทุ (ขั้นกลาง 135/500)+
คะแนน: 55
ในเวลาสั้นๆเพียงสี่วันสุนัขเขี้ยวเพลิงได้ชำนาญทักษะเขี้ยวเพลิงและเพลิงปะทุในขั้นกลาง
ถ้ามีใครรู้เรื่องนี้เข้าต้องเกิดความโกลาหลอย่างมากแน่นอน
เอาแค่เพลิงปะทุอย่างเดียวคงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่—เพราะมีอสูรหายากหลายตัวที่สามารถชำนาญทักษะระดับต่ำด้วยเวลาอันสั้น
แต่เขี้ยวเพลิงนั้นแตกต่างออกไป เพราะมันเป็นทักษะระดับกลางอย่างแท้จริง!
โดยปกติต้องใช้เวลาอย่างน้อยหกเดือนในการพัฒนาความชำนาญทักษะจากขั้นต้นไปขั้นกลาง แต่สุนัขเขี้ยวเพลิงของเธอทำได้ใช้เวลาไปเพียงสี่วัน!
ในขณะนี้สุนัขเขี้ยวเพลิงสวมแว่นกันแดดทรงสามเหลี่ยมกรอบแว่นสีเขียวเข้มที่พึ่งมาส่งเมื่อวันก่อน และกำลังจดจ่ออยู่กับการฝึกฝนทักษะ
ด้วยการผสมผสานระหว่างขนสีแดงและแว่นสีเขียว ทำให้มันดูโดดเด่นและเรียกความสนใจได้จากคนจำนวนมาก
เด็กหลายคนที่เล่นอยู่ในสวนสาธารณะหยุดยืนดูมัน แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เพราะตัวมันมักจะมีเปลวเพลิงล้อมรอบอยู่เสมอ
หลังจากเริ่มปรับตัวเข้ากับตารางฝึกได้ สุนัขเขี้ยวเพลิงก็ไม่ต้องการคำสั่งของเฉียวซางอีกต่อไป มันรู้แล้วว่าต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน
ที่ใต้ร่มเงาของต้นมะเดื่อ เฉียวซางนั่งอ่านหนังสือ
ตอนนี้สุนัขเขี้ยวเพลิงชำนาญทั้งเพลิงปะทุและเขี้ยวเพลิงแล้ว เธอไม่ได้กังวลเลยเกี่ยวกับการสอบเข้าพิเศษของเซินซุ่ยที่กำลังจะมาถึง
คู่แข่งของเธอมีแต่ผู้ฝึกสัตว์อสูรมือใหม่ที่พึ่งทำสัญญา ไม่มีทางที่จะมีใครสามารถเอาชนะสุนัขเขี้ยวเพลิงของเธอที่ชำนาญทักษะระกับกลางในขั้นกลางได้
แถมในช่วงไม่กี่วันนี้ความเร็วของสุนัขเขี้ยวเพลิงก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
เมื่อวานนี้ มันวิ่งครบรอบสนามในขณะสวมกำไลแรงโน้มถ่วงในเวลาเพียง 22 นาที 7 วินาที ซึ่งเร็วกว่าวันแรกเกือบเจ็ดนาที
การต่อสู้กับสัตว์อสูรที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 5 วันนั้นน่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี คราวนี้ก็เหลือการสอบจงเกาที่จะมาถึงในอีก 12 วัน ที่เธอต้องพยายามด้วยตัวเอง