บทที่ 245 สมองของอดีตเทพมาร
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่เทพมารอีกต่อไป แต่การหลอมรวมกับเทพมังกรเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะถ้าไม่เช่นนั้น พลังของหลงหลี่ซิงก็จะไม่มีวันปรากฏ!
ดังนั้น การล่อเขาเข้าสู่กับดักจึงเป็นสิ่งจำเป็น!
แต่การล่อลวงอีกฝ่าย... นางก็ทำไม่เป็นเช่นกัน จึงเลือกที่จะเงียบไว้แทน
อย่างไรก็ตาม ชายที่อยู่ตรงข้ามกลับไม่ได้รับการตอบโต้ที่แสดงความโมโหหรือเขินอายจากอีกฝ่ายสักที รอยยิ้มเย้ยหยันบนริมฝีปากของเขาค่อยๆหายไปในความเงียบ! หรือว่านี่...เป็นการยอมรับหรือ
เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย มังกรสาวตัวนี้ชอบเขาจริงๆหรือ เป็นไปได้ยังไง หรือว่า...มีเล่ห์กลอะไรบางอย่าง
ทันใดนั้น เขาก็นึกถึงบางสิ่งขึ้นมา ดวงตาเป็นประกายแสงแปลกประหลาด!
ในคุกใต้ดิน นางสามารถแยกแยะระหว่างเขากับเทพมังกรได้อย่างรวดเร็วแบบนั้น หรือว่าไม่ใช่เพราะนางชอบเทพมังกร แต่เป็นเพราะนางชอบเขาต่างหากล่ะ!
พอนึกย้อนกลับไป ทุกครั้งที่นางเห็นเขา ดูเหมือนนางจงใจจะขัดแย้งกับเขาอยู่เสมอ หรือว่า...นั่นเป็นการพยายามดึงดูดความสนใจของเขา
ยิ่งคิด เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าความเป็นไปได้นี้สูงขึ้นเรื่อยๆ!
ไม่เช่นนั้น นางจะอยู่ดีๆละทิ้งเผ่ามังกรมาอยู่กับมนุษย์ทำไม เพราะเผ่ามังกรดูถูกมนุษย์เหมือนมดปลวกมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะมาช่วยมนุษย์!
ดังนั้น...เหตุผลเดียวที่นางทำแบบนี้คือ...เพราะเขา!
ในตอนนี้ คนทั้งสองคนต่างก็ไม่ได้พูดอะไร สมองกลับเชื่อมโยงกันอย่างน่าประหลาด คนหนึ่งมองอีกฝ่ายด้วยสายตาประหลาด อีกคนเงียบสนิท เพราะไม่รู้ว่าควรจะล่อลวงยังไง!
ช่างน่าอึดอัด...
ผ่านไปชั่วครู่ ชายหนุ่มเป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อน! บนใบหน้าของเขาดูสงบนิ่ง ส่วนในใจคิดอะไรอยู่ ไม่มีใครรู้!
“ข้าเข้าใจแล้ว! ถ้าเช่นนั้น เจ้าจง...ตามข้ามา!”
จินเป่าเอ๋อมองไปที่เขา...ชายหนุ่มพูดต่อทันทีด้วยน้ำเสียงจริงจัง!
“พลังของเจ้าเท่านั้นที่สามารถฆ่าล้างเผ่ามารได้!”
ดังนั้น เขาไม่ได้ตอบตกลงอะไรเลย! เขาแค่ต้องการพลังของอีกฝ่ายเท่านั้น! เขาคิดเช่นนั้น!
จินเป่าเอ๋อยังคงเงียบ ไม่พูดอะไร แต่ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาน่าจะเข้าใจผิดไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้การตามเขาไปก็น่าจะดีกว่า คงต้องรอให้ค่ายกลของเผ่ามังกรก่อตัวขึ้นก่อน แล้วค่อยพาเขาไปยังที่นั่น!
นอกจากนี้ เรื่องของโลกเซียนก็ดูมีเงื่อนงำ นางคิดว่าสมควรตรวจสอบให้ชัดเจน เพราะนางไม่ต้องการให้โลกทั้งใบเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากกลับไป
ไม่มีใครรับประกันได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่จะไม่ส่งผลต่ออนาคต!
ไม่นาน ชายหนุ่มโบกมือไล่มารตัวน้อยสองตัวออกไป จากนั้นหันมามองจินเป่าเอ๋อพร้อมรอยยิ้มลึกลับและเจ้าเล่ห์
“ข้าค้นพบเรื่องที่น่าสนใจเรื่องหนึ่ง ถือว่าเป็นของขวัญพบหน้าก็แล้วกัน!”
พูดจบร่างของเขาก็หายไปอย่างรวดเร็ว จินเป่าเอ๋อขมวดคิ้วเมื่อเห็นเช่นนั้น
นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจตามเขาไป อย่างไรเสียตอนนี้พวกเขามีศัตรูคนเดียวกัน! และตามหลักแล้ว ศัตรูของศัตรูก็อาจจะเป็นมิตรได้!
ภายใต้ความมืดของราตรี ร่างเงาสีดำและสีขาวสองร่างเคลื่อนผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วสูง
ในช่วงเวลาที่ไม่มีใครทันสังเกต พวกเขาได้แทรกซึมเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลฝานหยินอย่างเงียบงัน...
นี่คือห้องหนังสือที่ดูปกติธรรมดา ตกแต่งอย่างสง่างาม จินเป่าเอ๋อปลดปล่อยพลังจิตเพื่อสำรวจทั่วทั้งห้อง แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
จากนั้นนางก็เห็นอดีตเทพมารเดินตรงไปยังชั้นวางหนังสือด้วยความชำนาญ เขาดึงอิฐด้านล่างออกมา เผยให้เห็นปุ่มหมุนที่ซ่อนอยู่ภายใน...
เมื่อเห็นภาพนี้ ใบหน้าที่สงบนิ่งของจินเป่าเอ๋อก็แสดงความประหลาดใจ นางจำได้ว่า...อีกหมื่นปีข้างหน้า ตระกูลฝานหยินก็มีหอคอยอยู่ในตำแหน่งนี้เหมือนกัน!
“ครืดด...”
เสียงเสียดสีเบาๆดังขึ้น ชั้นวางหนังสือค่อยๆเลื่อนออก เผยให้เห็นกำแพงด้านหลัง...
กำแพงดูเหมือนไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ แต่...พลังจิตไม่สามารถทะลุผ่านได้!
“เป็นไง เจออะไรผิดปกติบ้างไหม”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น แม้ว่าเขาจะรู้ว่าที่นี่มีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าความผิดปกตินั้นอยู่ตรงไหน
แม้จะใช้กำลังทำลายกำแพงนี้ ก็ยังไม่สามารถหาสิ่งลี้ลับใดๆได้!
แต่...เขาหันไปมองจินเป่าเอ๋อ รู้สึกว่ามังกรสาวตัวเล็กๆคนนี้อาจจะมีวิธี!
เมื่อจินเป่าเอ๋อได้ยินคำถาม ก็เข้าใจความหมายในทันที นางก้าวเข้าไปใกล้กำแพง วางนิ้วแตะเบาๆบนพื้นผิวของมัน สัมผัสนุ่มลื่น เย็นยะเยือก...และมีกลิ่นคาวเลือดแฝงอยู่!
ขณะที่นางคิดเช่นนั้น นางก็ดึงพลังออกมา แสงสีชมพูอ่อนหมุนวนที่ปลายนิ้ว แล้วลากผ่านกำแพงเบาๆ… และน่าประหลาดใจที่นิ้วของนางสามารถจมลึกเข้าไปในกำแพงได้!
ชัดเจนว่ากำแพงนี้ไม่สามารถต้านทานพลังของนางได้!
ชายหนุ่มที่เห็นเหตุการณ์นี้ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนจะคว้ามือของจินเป่าเอ๋อเอาไว้และสั่งการ “ปล่อยพลังให้แผ่ไปทั่วร่าง! อย่าต่อต้าน!”
จินเป่าเอ๋อพยักหน้าตามคำสั่ง ทันใดนั้นแรงดึงดูดอันมหาศาลก็ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง พาทั้งสองคนถูกดูดเข้าไปในทันที!
ในวินาทีสุดท้ายก่อนที่ร่างของพวกเขาจะหายไป ชั้นวางและแผ่นหินบนพื้นก็กลับเข้าที่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
อีกฟากหนึ่ง จินเป่าเอ๋อรู้สึกว่าแรงดึงดูดรุนแรงนั้นหายไปทันทีหลังจากที่พวกเขาถูกดูดเข้ามา
ทั้งสองยังคงอยู่ในท่าทางที่แตะกำแพงเมื่อครู่ แต่สภาพแวดล้อมรอบตัวกลับไม่เหมือนเดิม
ไม่สิ…อาจจะไม่ได้เปลี่ยนไปทั้งหมด เพียงแต่ทุกสิ่งในห้องถูกจัดวางแบบกลับด้าน! มันเหมือนกับว่าพวกเขาได้เข้าสู่อีกมิติหนึ่งโดยสมบูรณ์!
บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความอัปมงคล พลังอสูรเข้มข้นแผ่กระจายไปรอบตัว จินเป่าเอ๋อขมวดคิ้วแน่นเตรียมจะถามชายหนุ่มตรงหน้าว่าที่นี่คือที่ไหน
แต่ทันทีที่อ้าปาก นางกลับนึกขึ้นได้ว่านางไม่รู้จักชื่อของเขา!
“เจ้า...ชื่ออะไร”
ชายหนุ่มที่กำลังตรวจสอบรอบๆห้องชะงักไปเมื่อได้ยินคำถาม แววตาเย็นยะเยือกของเขาตวัดมองจินเป่าเอ๋อ คล้ายกับคิดถึงเรื่องที่ไม่พอใจอะไรบางอย่าง
แต่ไม่นานความรู้สึกนั้นก็จางหายไป...
“ข้าไม่มีชื่อ!”
ชื่อหรือ สิ่งนั้นเขาไม่จำเป็นต้องมี! เพราะในโลกใบนี้ไม่มีใครกล้ากล่าวเรียกชื่อของเขาตรงๆ มันก็แค่คำเรียกเท่านั้น!
จินเป่าเอ๋อชะงักไปชั่วครู่ ในหัวพลันมีภาพหนึ่งแวบขึ้นมา เป็นดวงตาสีม่วงที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและโหดเหี้ยม...
เมื่อนางกระพริบตา ความรู้สึกเศร้าและสิ้นหวังที่เหมือนกับคลื่นทะเลก็หายวับไปในพริบตา ความทรงจำนั้นเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเป็นเพียงภาพลวงตา!
“งั้นข้าจะเรียกเจ้าว่า...หลงหลี่ซิงก็แล้วกัน!”
นางเอ่ยคำนี้ออกมาโดยไม่ทันคิด แต่ทันทีที่พูดจบ นางก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย!
นางไม่ได้สนิทกับเขาขนาดนั้น ทำไมนางถึงกล้าไปตั้งชื่อให้เขาได้ง่ายๆแบบนี้...
ทว่าคนที่ยืนหันหลังให้นางอยู่กลับชะงักไปเล็กน้อย ก่อนพยักหน้ารับแบบไม่ใส่ใจ พร้อมท่าทางเหมือนว่าไม่เป็นไร!
จินเป่าเอ๋อไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม นางเริ่มสำรวจความผิดปกติในห้องอย่างละเอียด และในที่สุดสายตาของนางก็หยุดอยู่ที่กล่องใบหนึ่งบนชั้นวาง…
เพราะมัวแต่จดจ่อกับการสำรวจ นางจึงไม่ทันสังเกตถึงความแข็งทื่อบนร่างของชายหนุ่ม รวมถึงสีหน้าที่ซับซ้อนแต่แฝงความยินดีอย่างประหลาดของเขา
ในตอนนี้ จินเป่าเอ๋อไม่ได้รีบหยิบกล่องนั้นลงมาโดยตรง แต่กลับใช้พลังจิตกวาดสำรวจบริเวณโดยรอบก่อน
เมื่อแน่ใจแล้วว่ามองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ในกล่อง และไม่มีกับดักหรือความผิดปกติใดๆ นางจึงยื่นมือไปหยิบกล่องนั้นลงมา...
ทันใดนั้น ความรู้สึกแปลกประหลาดก็แล่นวาบขึ้นมาในใจอีกครั้ง! นางรู้สึกว่าของสิ่งนี้ต้องมีความสำคัญอย่างยิ่ง!
มารหลงหลี่ซิงที่สังเกตเห็นท่าทีแปลกๆของนาง หันมามองกล่องในมือของจินเป่าเอ๋อทันที
เมื่อมองอย่างละเอียด ดวงตาของเขาก็ฉายแววตกตะลึงออกมา! แต่เขาก็รีบเก็บความรู้สึกนั้นไว้
ก่อนจะมองจินเป่าเอ๋ออีกครั้งด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยการประเมินและสงสัยมากยิ่งขึ้น...
ในห้องนี้มีสิ่งของมากมาย รวมถึงกล่องอีกหลายใบ แต่ทำไมนางถึงเลือกหยิบของที่อยู่ด้านบนสุด และยังเป็นสิ่งนี้โดยบังเอิญอีก หรือว่านางรู้อะไรบางอย่าง