ตอนที่แล้วบทที่ 240 เซียนไร้ยางอาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 242 เทพมาร คือส่วนหนึ่งของเทพมังกร!

บทที่ 241 ทวงหนี้! จับตัว!


ดังนั้น จินเป่าเอ๋อเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่เย็นชา ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆให้เห็น!

"ยืนนิ่งๆ... แล้วอย่าพูด!"

ทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น เจ้ามังกรกล้ามใหญ่ก็ตั้งตัวตรงทันที! พยักหน้าอย่างตั้งใจราวกับกำลังยอมรับการทดสอบของนาง!

พ่อของเขาเคยบอกไว้ว่า มังกรตัวเมียชอบตัวผู้ที่เชื่อฟังและแข็งแกร่ง! ขอแค่เขาเชื่อฟังดีๆ ฮวาฮวาก็ต้องยอมตกลงเป็นคู่ของเขาแน่นอน!

แต่…ท่าทางเย็นชาของฮวาฮวาช่างดูเท่เหลือเกิน!

จินเป่าเอ๋อไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไป แต่กลับหันไปมองเซียนทั้งหกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า…

พลังของพวกเขาอยู่ในระดับราชาแห่งสวรรค์ ดูเหมือนจะจงใจทำตัวอ่อนแอหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ แต่พลังของแต่ละคนก็ถือว่าอยู่ในระดับธรรมดา!

สุดท้าย นางก้มมองกองผลึกขนาดใหญ่ที่พื้น ก่อนจะหันสายตาไปจ้องชายวัยกลางคนที่เพิ่งหลอกเจ้ามังกรที่มีแต่กล้ามเมื่อครู่ สายตานิ่งสงบและเย็นชา!

"ตกลงกันว่าจะให้ผลึกเป็นล้าน ตอนนี้เอามาแค่นี้หรือ คิดว่าข้าเป็นขอทานหรือยังไง"

การปรากฏตัวของจินเป่าเอ๋อทำให้พวกคนของฝ่ายตระกูลฝานหยินรู้สึกตัวและขมวดคิ้วอย่างลืมตัว

สีหน้าเผยให้เห็นความหวาดหวั่นเล็กน้อย ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่บรรยากาศที่นางแผ่ออกมาก็ดูไม่เหมือนมังกรธรรมดาเลย!

นางไม่เหมือนกับเหล่ามังกรสีแดงที่อยู่เมื่อครู่เลยสักนิด

คำพูดประโยคแรกของนางก็แสดงออกชัดเจนว่า นางไม่ใช่คนที่หลอกง่ายๆ! นี่ยิ่งทำให้ความคิดของเขาได้รับการยืนยัน

ชายคนนั้นเหลือบตาเล็กน้อย ก่อนจะส่งสัญญาณบางอย่างให้กับคนข้างๆจากนั้นก็เผยรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรแต่ไม่ชวนให้รำคาญขึ้นบนใบหน้า

"ไม่ผิดแน่ ท่านคงเป็นท่านหญิงจากตระกูลมังกรขาว ผู้ที่มีพลังจนทำให้เผ่าปีศาจต้องเกรงกลัว สามารถพลิกสถานการณ์สงครามด้วยพลังเพียงลำพังสินะ วันนี้ได้พบตัวจริง ถือเป็นเกียรติยิ่งสำหรับข้าน้อย!"

ท่าทางนี้เขาเคยซ้อมหน้ากระจกมาหลายครั้ง ไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง เพราะอย่างไรเสีย 'คนที่ยิ้มก็ยากที่จะโดนต่อย ใช่ไหมล่ะ!'

เด็กสาวมังกรตัวเล็กคนนี้ว่ากันว่าเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะได้ไม่นาน คงจะไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน

เมื่อจินเป่าเอ๋อได้ยินก็อดมองชายคนนี้เพิ่มอีกสองสามทีไม่ได้! ไม่พูดถึงเรื่องอื่นเลย แต่เขานี่หน้าด้านจริงๆ!

"เลิกพูดอะไรที่ไม่มีประโยชน์ได้แล้ว! ผลึกอยู่ไหน ผลึกหนึ่งล้านผลึก ห้ามขาดแม้แต่นิดเดียว! ถ้าไม่เอามาให้ วันนี้ไม่มีใครออกไปจากที่นี่ได้ทั้งนั้น!"

คำพูดนี้ทำให้ฝานหยินอี้หลิวถึงกับชะงักไป ก่อนจะรีบตั้งสติและเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว

ภายในใจรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย! ไม่คิดว่าเด็กสาวคนนี้จะมีเหตุผลขนาดนี้ ดูเหมือนว่ามังกรก็ไม่ใช่จะโง่ทุกตัวอย่างที่คิด!

"ท่านพูดถูกต้องยิ่งนัก หนึ่งล้านผลึกย่อมไม่ขาดแม้แต่ผลึกเดียว!"

ขั้นแรก ต้องเริ่มจากการยืนยันคำพูดของอีกฝ่ายก่อน...

จากนั้นเขาก็ถอนหายใจเบาๆ ทำหน้าเหมือนลำบากใจเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่คนรอบข้าง

"เป็นพวกเราที่รอบคอบไม่พอ! ไม่ได้เตรียมผลึกให้ครบตั้งแต่แรก จึงทำให้มังกรไม่ไว้วางใจเรา!"

แล้วเขาก็หันไปทางคนรอบข้าง ทำหน้าทำตาเหมือนไม่มีทางเลือก

"ทุกท่าน ลองรวมผลึกที่มีอยู่ดูก่อนเถิด ดูว่ายังขาดอีกเท่าไร!"

ขั้นที่สอง เขาต้องทำท่าเหมือนพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามเชื่อว่าพวกเขาไม่มีผลึกมากขนาดนั้นจริงๆ

ไม่นานนัก ผลึกที่กองอยู่บนพื้นเพิ่มขึ้นมาอีกครึ่งหนึ่งของของเดิม ในที่สุดชายวัยกลางคนก็ถอดผลึกที่แขวนอยู่บนคอออกมาอย่างไม่เต็มใจนัก ก่อนจะวางลงบนพื้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียดาย

พวกเซียนที่อยู่ข้างๆ ดูเหมือนจะทนไม่ไหว หนึ่งในนั้นถึงกับอดพูดขึ้นมาไม่ได้

"อี้หลิว…นั่นมันของที่แม่ของท่านให้ไว้นะ! จะยอมเสียมันไม่ได้เด็ดขาด!"

เมื่อได้ยินดังนั้น คนอื่นๆที่อยู่รอบข้างก็พลอยพูดเกลี้ยกล่อมเช่นกัน ทำท่าทางเหมือนเห็นใจอย่างถึงที่สุดแต่ก็เด็ดเดี่ยวไม่แพ้กัน

จินเป่าเอ๋อเหลือบมองกองผลึกบนพื้นแวบหนึ่ง นางค่อนข้างพอใจเพราะตอนนี้ดูเหมือนจะมีประมาณหนึ่งล้านผลึกแล้ว!

นางเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังตั้งอกตั้งใจเล่นละคร ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

"ในเมื่อเป็นของที่แม่ท่านให้ไว้ก็เก็บไว้เถอะ! เผ่ามังกรเราไม่ได้ตระหนี่ขนาดนั้น!"

เมื่อได้ยินดังนี้ ทุกคนก็พากันแสดงสีหน้าเหมือนซาบซึ้งจนแทบจะร้องไห้ออกมา ฝานหยินอี้หลิวเองถึงกับน้ำตาคลอ พูดขอบคุณไม่หยุด

แต่แล้วในวินาทีถัดมา จินเป่าเอ๋อก็โบกมืออย่างไม่ใส่ใจ

"ขอบคุณอะไรกัน ต่อให้รวมผลึกจากสร้อยเส้นนั้นเข้าไปด้วย จำนวนผลึกที่คืนมาก็ยังไม่ครบ! ขาดแค่สร้อยนี้ไปก็ไม่ต่างกันนัก!"

ทันทีที่พูดจบ ฝานหยินอี้หลิวแทบจะขว้างสร้อยในมือทิ้ง สีหน้าของเขาชะงักนิ่งอยู่สามวินาที คนอื่นๆสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที แววตาดูมืดมนขึ้น!

พวกเขาไม่โง่และเข้าใจเจตนาของนางได้อย่างรวดเร็ว!

จินเป่าเอ๋อหันไปมองฝานหยินอี้หลิวอีกครั้ง ก่อนจะพูดต่อ

"กลับไปบอกหัวหน้าของพวกท่านด้วย! เอาเงินมาจ่ายให้ครบ แล้วค่อยเอาของไป! อย่าคิดเล่นเล่ห์เหลี่ยมอะไร ถ้าทำให้เราโกรธ...เทพมังกรจะร่วมมือกับเทพมารล้างบางพวกผู้ฝึกตนทั้งหมด!" คำพูดนี้ทำเอาพวกเซียนที่อยู่ตรงหน้าถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก!

แม้แต่มังกรตัวแดงที่อยู่ด้านหลังนางก็ยังอ้าปากค้าง จ้องมองนางด้วยสายตาที่เหมือนนางพูดอะไรที่ไม่น่าเชื่อออกมา!

จินเป่าเอ๋อหันไปมองพวกมังกรแดง ก่อนจะเมินเฉยต่อสีหน้าของพวกมันและออกคำสั่งทันที

"ยกเว้นเซียนผู้นี้ไว้ นอกนั้นทั้งหมดจับไปขังในคุกใต้ดิน! ถ้าไม่เห็นผลึกครบหนึ่งล้านผลึก ห้ามปล่อยเด็ดขาด! ส่วนที่เหลือก็ส่งต่อให้หัวหน้ามังกรขาวจัดการ…"

หลังจากพูดจบ นางก็หันหลังจากไปทันที ลืมเรื่องราวเล็กๆน้อยๆนี้อย่างรวดเร็ว!

แต่นางไม่รู้เลยว่า เมื่อฝานหยินอี้หลิวกลับไปด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เขากลับพบเจอเหตุการณ์สำคัญโดยบังเอิญ และยังไม่ทันจะตั้งตัว ทั้งร่างของเขาก็ถูกบดขยี้กลายเป็นหมอกเลือด กระจายลอยตามสายลมลงบนพื้นหญ้า...

เงาสีดำร่างหนึ่งซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด เปล่งเสียงที่หยาบกร้านและกระด้าง แผ่พลังอาฆาตรุนแรงไปทั่ว ดวงตาสีแดงเข้มที่น่าสะพรึงกลัวเป็นประกายวาบในความมืด!

หัวหน้าตระกูลฝานหยินที่ได้ยินเสียงรีบวิ่งออกมา เมื่อสังเกตเห็นร่องรอยเลือดในอากาศ ใบหน้าก็ซีดเผือดลงทันที!

"ถ้าหัวหน้าตระกูลฝานหยินดูแลหมาของตัวเองไม่ได้ ข้าก็ไม่ขัดข้องที่จะเปลี่ยนคู่ค้ารายใหม่!"

คำพูดนี้ทำให้เขาตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรง อ้าปากเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับไม่กล้าเปล่งเสียงออกมา

ต่อให้เต็มไปด้วยความโกรธในใจ เขาก็ต้องกล้ำกลืนมันลงไป...

นี่หรือ...คือราคาของการทำข้อตกลงกับมารหรือ

เงาดำมองดูเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ก่อนจะหันหลังจากไปอย่างไร้ร่องรอย ร่างที่เต็มไปด้วยพลังอาฆาตนั้นกลับไม่ทิ้งกลิ่นอายของเผ่ามารไว้เลยแม้แต่น้อย...

อีกด้านหนึ่ เผ่ามังกรก็จัดการประชุมฉุกเฉินขึ้น เหล่าหัวหน้าตระกูลทั้งสี่เดินทางมาถึงเผ่ามังกรขาวพร้อมกัน และนั่งลงบนที่นั่งของตัวเองด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย!

นี่เป็นครั้งแรกที่ "เทพมังกร" เรียกพวกเขามาประชุม! เหล่ามังกรทั้งหลายในใจล้วนรู้สึกตึงเครียด พวกเขาหันไปมองหญิงสาวในชุดสีขาวคนหนึ่งซึ่งเป็นคนเดียวที่ไม่ใช่หัวหน้าตระกูลที่เข้าร่วมประชุม

"แปลกนะ นี่ไม่ใช่การประชุมของหัวหน้าตระกูลเหรอ แล้วเจ้าเด็กคนนี้เข้ามาได้ยังไง"

หัวหน้าตระกูลมังกรน้ำเงินเอ่ยถามด้วยความสงสัย หรือว่าเทพมังกรขาวใกล้จะสิ้นใจแล้ว จึงรีบเลือกผู้นำรุ่นต่อไปไว้ล่วงหน้าหรือ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวหน้ามังกรตัวอื่นๆก็พากันหันมามองจินเป่าเอ๋อทันที

สายตาเต็มไปด้วยความร้อนแรง จากนั้นก็เหลือบไปมองหัวหน้ามังกรขาวผู้มีสีหน้าเคร่งขรึม ใบหน้าที่ดูยังแข็งแรงดีไม่มีท่าทีเหมือนคนใกล้ตายเลย หรือว่าเขากำลังฝืนตัวเองอยู่

จินเป่าเอ๋อทำเป็นไม่สนใจสายตาเหล่านั้นแต่ในใจกลับยิ่งสงสัย!

นางอยู่ในสนามรบระหว่างเซียนและมารมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถหาพลังของหลงหลี่ซิงได้เลย

นางยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทำไมตัวเองถึงถูกส่งย้อนกลับไปในอดีตกว่าหมื่นปี!

นางมาเพื่ออะไร เพื่อเป็นผู้นำเผ่ามังกรให้เอาชนะเผ่ามารและก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิต หรือเพื่อช่วยเหลือเหล่าเซียนจากแดนสวรรค์ในการปกป้องโลกเบื้องบน

หรือเพื่อตามหาและไขปริศนาเกี่ยวกับ "เทพมาร" และ "เทพมังกร" ที่มีบางอย่างคล้ายคลึงกับ "หลงหลี่ซิง" แต่ก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ณ ตอนนี้ ปัญหาที่ล้อมรอบตัวนางดูเหมือนจะมีเพียงไม่กี่ข้อเท่านั้น...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด