บทที่ 22: แผนการฝึก
ปะการังแปดหนวดเป็นอสูรประเภทน้ำ เป็นรูปแบบการวิวัฒนาการของปะการังลับแล
การล่องหนไม่ใช่ทักษะของมันแต่เป็นลักษณะเฉพาะตัว มันจะปรับนาโนคริสตัลบนผิวหนังเมื่อสัมผัสวัตถุ จนทำให้เกิดการล่องหนขึ้น
เฉียวซางจ้องไปที่คำอธิบายของปะการังแปดหนวดโดยพูดอะไรไม่ออก
นี่ไม่ใช่ก็แค่กิ้งก่าเหรอ?
แต่แน่นอนว่าในโลกฝึกอสูรสิ่งมีชีวิตพวกนี้จะเหนือจริงกว่าโลกที่แล้วมาก ในชาติก่อนไม่มีกิ้งก่าตัวไหนที่สามารถล่องหนได้เหนือจริงขนาดนี้
ปะการังแปดหนวดบนรถประจำทางนั้นเกาะติดกับร่างกายส่วนเอวของชายหน้าเหลี่ยม ขณะที่หนวดอีกแปดหนวดของมันลอยอยู่กลางอากาศ
แม้จะอยู่ใกล้ผู้โดยสารคนอื่น แต่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นมันเลย
พอคิดได้แบบนี้ เฉียวซางจึงค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปะการังแปดหนวด
หลังจากท่องเว็บเป็นเวลาห้านาที เธอก็เงยหน้าด้วยความงุนงง
ไม่มีอะไรเลย
ไม่มีข้อมูลอะไรเลยที่อธิบายว่าทำไมจู่ๆมันถึงปรากฎตัวขึ้นและจู่ๆกลิ่นอายของมันหายไปดื้อๆและก็กลับมาปรากฎใหม่อีกครั้ง
ในตอนแรก เธอแอบคิดว่าชายหน้าเหลี่ยมอาจจะเรียกเก็บอสูรตัวเองไว้ในตำราเมื่อขโมยเสร็จและค่อยเรียกออกมาใหม่
ทว่าหากเป็นแบบนั้นมันต้องมีแสงจางๆจากการเรียกอสูรออกมาใหม่
ถ้าเป็นกรณีดังกล่าวทุกคนบนรถประจำทางคงจะสังเกตเห็น ดังนั้นมันจึงชัดเจนว่าชายหน้าเหลี่ยมไม่ได้เก็บปะการังแปดหนวดเข้าตำรา
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อชายหน้าเหลี่ยมพยายามจะลงจากรถประจำทาง เธอจึงให้ความสังเกตุกับเขาเป็นพิเศษ
ถ้ามันไม่ใช่การที่กลิ่นอายหายไป แล้วทำไมจู่ๆสุนัขเขี้ยวเพลิงถึงได้กลิ่นมัน แต่ตามรอยไม่ทัน?
มีคนกั้นระหว่างเธอและชายหน้าเหลี่ยมแค่สองคน ไม่มีทางที่สุนัขเขี้ยวเพลิงจะตามกลิ่นไม่ได้ในระยะใกล้แค่นี้
แต่สุนัขเขี้ยวเพลิงยืนกรานว่ากลิ่นอายนั้นปรากฏขึ้นแล้วหายไป
ปะการังแปดหนวดอยู่บนชายหน้าเหลี่ยมเสมอ ดังนั้นรัศมีของกลิ่นอายมันจึงควรจะอยู่ที่เดิมตลอดสิ
มันจะโผล่มาแบบไร้ที่มาที่ไปได้ยัง? หรือจมูกของสุนัขเขี้ยวเพลิงจะไม่ได้แม่นยำขนาดนั้นกัน?
มันสามารถตรวจจับได้แค่กลิ่นที่อยู่ใกล้มันแค่นั้นเหรอ?
“ยะ…ย่าห์!”
สุนัขเขี้ยวเพลิงจามอย่างหนัก
เฉียวซางไม่เข้าใจได้แม้จะคิดอยู่นาน ดังนั้นเธอจึงตั้งกระทู้เพื่อขอความช่วยเหลือจากคนในฟอรั่ม
นี่คือช่วงเวลาที่ฟอรั่มมีคุณค่าอย่างแท้จริง
ใช้เวลาไม่นานก็มีคนตอบข้อสงสัยของเธอ
“นั่นมันก็แค่การลบตัวตนไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่มีทางน่า ถ้าเป็นงั้นจริง ทำไมมันถึงหายๆโผล่ๆล่ะ? ไม่ใช่ว่าปกติการลบตัวตนมันหายได้นานราวๆนาทีกว่าเลยนี่”
“บางทีมันอาจจะยังไม่คล่องกับการลบตัวตนมั้ง?”
“ฉันคิดว่าคุณกำลังเจอเข้ากับสิ่งลี้ลับบางอย่าง”
“ตอนฉันฝึกให้กระทิงเหล็กกล้าลบตัวตน ในครั้งแรกกลิ่นอายของมันหายได้เพียงสองวินาทีเท่านั้น”
“บทเรียนออนไลน์เรื่องการลบตัวตน เพียง 998 เหรียญพันธมิตรเท่านั้น! ย้ำอีกครั้ง แค่ 998 เท่านั้น!”
“อย่าหลงเชื่อคอมเมนท์ข้างบน! ไอ้เวรนั่นเป็นนักต้มตุ๋น!”
เฉียวซางตระหนักได้ทันทีว่าปรากฎการณ์ประหลาดที่เธอพบเห็นเป็นเพียงแค่ผลจากทักษะเท่านั้น
การลบตัวตนเป็นทักษะที่ไม่ค่อยได้ใช้งานจริง ยกเว้นในสถานการณ์เฉพาะตัวบางอย่าง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่เธอจะไม่เคยได้ยินมันมาก่อน
แต่หากนำมาจับคู่ทำคอมโบดีๆ อาทิเช่นให้สุนัขเขี้ยวเพลิงใช้พายุทะเลทรายจากนั้นก็ใช้ทักษะลบตัวตน เรียกได้ว่าเป็นคอมโบทักษะปิดเกมกันเลยทีเดียว
น่าเสียดายที่มันเป็นได้แค่ความฝัน
เพราะสุนัขเขี้ยวเพลิงไม่สามารถเรียนรู้ทักษะนี้ได้
เฉียวซางปิดคอมพิวเตอร์และมองไปที่สุนัขเขี้ยวเพลิง
เธอยังคงไม่ลืมกำหนดการที่ต้องทำของวันนี้
“สุนัขเขี้ยวเพลิง ใช้เขี้ยวเพลิงให้มากที่สุดเท่าที่แกจะทำได้”
“ย่าห์”
แม้ว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงจะไม่เข้าใจความตั้งใจของผู้ฝึกของมันแต่มันก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
สามนาทีต่อมา สุนัขเขี้ยวเพลิงก็หายใจหอบอย่างหนักบนพื้น
เฉียวซางนับ—มันใช้ทักษะนี้ได้ทั้งหมด 13 ครั้ง
นี่เกินความคาดหมายของเธอมาก
แต่นั่นอาจเป็นเพราะมันเพิ่งกินอาหารเพิ่มพลังงานมา
ขณะเดียวกับที่เฉียวซางกำลังคิดที่จะตรวจสอบตำราอสูร...
“ย่าห์…”
สุนัขเขี้ยวเพลิงก็ร้องเรียกเฉียวซางอย่างอ่อนแรง
เธอเข้าใจสิ่งที่มันต้องการทันทีและเดินไปในครัวเธอหยิบผลลูกยอแดงสองผลจากตู้เย็น คั้นเป็นน้ำและเทลงบนชาม
หลังจากผลลูกยอแดงหกผลที่แล้วหมดลง แม่ของเธอก็ซื้อมาเพิ่มอีกหกผล
แต่คราวนี้เฉียวซางพยายามจัดสรรค์ปันส่วนมัน โดยให้เจ้าหมากินหนึ่งผลในสองวันแทน
ลูกยอแดงหนึ่งลูกราคา 700 เหรียญพันธมิตร และแถมยังไม่เหมาะที่จะกินทุกวันอีก
ทว่าเนื่องจากสุนัขเขี้ยวเพลิงทำงานหนักในวันนี้ เฉียวซางจึงอดไม่ได้ที่จะให้มันถึงสองผลในวันนี้
ตอนนี้เธอได้เงินถึงมา 50,000 เหรียญพันธมิตร ตามใจตัวเองสักหน่อยจะเป็นอะไรไป
สุนัขเขี้ยวเพลิงถือชามด้วยอุ้งเท้าแล้วกลืนน้ำคั้นลงคอในพริบตา หลังจากกินหมดมันก็ส่งเสียงเห่าอย่างสำราญอารมณ์
ท่าทางน่าเอ็นดูนั้นทำให้เฉียวซางอดไม่ได้ที่จะลูบหัวมัน
แม้ว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงจะดูมีชีวิตชีวา แต่ร่างกายของมันก็เต็มไปด้วยความอ่อนล้า ไม่นานมันก็ล้มตัวลงนอนแหละหลับไปอย่างรวดเร็ว
เฉียวซางอุ้มมันไปที่เตียง ห่มผ้าให้มัน แล้วนั่งลงที่โต๊ะของเธอ
การฝึกโดยไม่วางแผนล่วงหน้าไม่มีทางประสบผลสำเร็จ ดังนั้นเธอต้องออกแบบตารางฝึกที่ดีออกมาให้ได้!
ขั้นแรก ตื่นนอนเวลา 6.00 น. ออกวิ่งตอนเช้าเพื่อฝึกความแข็งแกร่งและความเร็ว
ความเร็วของสุนัขเขี้ยวเพลิงยังด้อยอยู่มาก ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ ไม่อย่างงั้นมันจะเป็นเหมือนเป้านิ่ง ต่อให้โจมตีได้แรงแค่ไหนหากโจมตีไม่โดนก็ไร้ความหมาย
นอกจากการฝึกความเร็วแล้ว เวลาที่เหลือจะเน้นไปที่การฝึกทักษะต่างๆ
ปัจจุบันสุนัขเขี้ยวเพลิงรู้จักทักษะ กัด, พุ่งเข้าชน, เขี้ยวเพลิง และเพลิงปะทุ ยกเว้นพุ่งเข้าชน ทักษะอื่นๆยังชำนาญแค่ขั้นเริ่มต้นเพียงเท่านั้น
เฉียวซางตัดสินใจว่าจะไม่ให้สุนัขเขี้ยวเพลิงฝึกทักษะกัดอีกต่อไป ในเมื่อตอนนี้มันมีทักษะระดับกลางอย่างเขี้ยวเพลิงอันทรงพลังแล้ว จะเรียนทักษะที่ด้อยกว่าให้ซ้ำซ้อนไปทำไม
ขณะนี้ทักษะพุ่งเข้าชนอยู่ในความชำนาญขั้นกลาง โดยต้องการคะแนนมากกว่า 300 แต้มเพื่อไปสู่ความชำนาญขั้นสูง
หากเธอต้องการให้พุ่งเข้าชนเข้าถึงขั้นสูงก่อนการทดสอบการรับเข้าเรียนพิเศษของโรงเรียนเซินซุ่ย สุนัขเขี้ยวเพลิงจะต้องใช้พุ่งเข้าชนประมาณ 40 ครั้งต่อวัน
แต่ถ้าต้องฝึกทั้งวิ่ง เขี้ยวเพลิง เพลิงปะทุ แล้วยังต้องมาฝึกพุ่งเข้าชนอีก 40 รอบมันคงเป็นไปไม่ได้
สุนัขเขี้ยวเพลิงอายุยังไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ การฝึกแบบนั้นมันหนักหน่วงเกินไป
เฉียวซางคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเปลี่ยน 40 รอบ เป็น 10 รอบแทน
ในอีกเก้าวันข้างหน้า นอกเหนือจากการฝึกความเร็วแล้ว จะเน้นไปที่ฝึกทักษะเขี้ยวเพลิงและเพลิงปะทุ ให้เป็นความชำนาญขั้นกลาง
ที่เหลือมีแค่ลงมือปฎิบัติจริงเพียงเท่านั้น
เฉียวซางมองดูแผนการฝึกในมือของเธอแล้วยิ้มด้วยความพึงพอใจ
เช้าวันรุ่งขึ้น
“ทำไมลูกยังไม่ไปโรงเรียน?” แม่ของเธอถามอย่างคาดคั้น
เฉียวซางรีบมองเวลา และพบว่าตอนนี้มัน 7.54 น. แล้ว เธอนอนเพลิน
แผนการฝึกวิ่งตอน 6 โมงเช้า พังตั้งแต่ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ...
“แล้วทำไมแม่ยังไม่ออกไปทำงานล่ะ” เฉียวซางเถียงกลับ
เธอจะให้แม่รู้ไม่ได้ว่าเธอขอลาระยะยาว
หากเธอเป็นนักเรียนเบอร์ต้นๆเธอคงบอกแม่ตรงๆไปแล้วว่าขออ่านหนังสือและฝึกสุนัขเขี้ยวเพลิงที่บ้าน
แต่ปัญหาคือในสายตาของแม่ เธอนั้นเป็นปลาเค็ม...
ใครมันจะไปไว้ใจว่าปลาเค็มอย่างเธอจะยอมเลิกขี้เกียจและอ่านหนังสืออย่างหนักเพื่อเตรียมสอบ?
เฉียวซางไม่ได้วางแผนจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แต่เรื่องนี้ห้ามถึงหูแม่อย่างน้อยก็จนกว่าจะผ่านพ้นช่วงสอบเข้าเรียนพิเศษของโรงเรียนเซินซุ่ย
โดยปกติแม่มักจะออกบ้านเร็วกว่าเธอเสมอ วันนี้เป็นเหตุการณ์พิเศษที่นานๆทีเกิด เธอคำนวณพลาดไป…
“วันนี้มีลูกค้าขอจองคิวทั้งวัน เขานัดเอาไว้ตอนช่วงบ่าย แล้วลูกล่ะจะนอนไปถึงวันสอบเลยรึไง? ตอนนี้ 8.10 น. แล้ว ชั้นเรียนกำลังจะเริ่ม จะไปเรียนได้รึยัง?” แม่เธอพูดด้วยความหงุดหงิด
“หนูจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ!” เฉียวซางรีบตอบ
เธอหยิบขนมปังบนโต๊ะ ใส่ปาก สวมรองเท้า อุ้มสุนัขเขี้ยวเพลิง แล้วออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว
ที่ด้านนอกประตูเฉียวซางถอนหายใจ
เธอวางแผนที่จะฝึกซ้อมการใช้ทักษะที่บ้าน แต่ดูเหมือนว่าวันนี้เธอต้องไปหาที่อื่นแทน