ตอนที่แล้วบทที่ 21: ปะการังแปดหนวด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 23: ดูสิว่าแกชอบอันไหน

บทที่ 22: แผนการฝึก


ปะการังแปดหนวดเป็นอสูรประเภทน้ำ เป็นรูปแบบการวิวัฒนาการของปะการังลับแล

การล่องหนไม่ใช่ทักษะของมันแต่เป็นลักษณะเฉพาะตัว มันจะปรับนาโนคริสตัลบนผิวหนังเมื่อสัมผัสวัตถุ จนทำให้เกิดการล่องหนขึ้น

เฉียวซางจ้องไปที่คำอธิบายของปะการังแปดหนวดโดยพูดอะไรไม่ออก

นี่ไม่ใช่ก็แค่กิ้งก่าเหรอ?

แต่แน่นอนว่าในโลกฝึกอสูรสิ่งมีชีวิตพวกนี้จะเหนือจริงกว่าโลกที่แล้วมาก ในชาติก่อนไม่มีกิ้งก่าตัวไหนที่สามารถล่องหนได้เหนือจริงขนาดนี้

ปะการังแปดหนวดบนรถประจำทางนั้นเกาะติดกับร่างกายส่วนเอวของชายหน้าเหลี่ยม ขณะที่หนวดอีกแปดหนวดของมันลอยอยู่กลางอากาศ

แม้จะอยู่ใกล้ผู้โดยสารคนอื่น แต่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นมันเลย

พอคิดได้แบบนี้ เฉียวซางจึงค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปะการังแปดหนวด

หลังจากท่องเว็บเป็นเวลาห้านาที เธอก็เงยหน้าด้วยความงุนงง

ไม่มีอะไรเลย

ไม่มีข้อมูลอะไรเลยที่อธิบายว่าทำไมจู่ๆมันถึงปรากฎตัวขึ้นและจู่ๆกลิ่นอายของมันหายไปดื้อๆและก็กลับมาปรากฎใหม่อีกครั้ง

ในตอนแรก เธอแอบคิดว่าชายหน้าเหลี่ยมอาจจะเรียกเก็บอสูรตัวเองไว้ในตำราเมื่อขโมยเสร็จและค่อยเรียกออกมาใหม่

ทว่าหากเป็นแบบนั้นมันต้องมีแสงจางๆจากการเรียกอสูรออกมาใหม่

ถ้าเป็นกรณีดังกล่าวทุกคนบนรถประจำทางคงจะสังเกตเห็น ดังนั้นมันจึงชัดเจนว่าชายหน้าเหลี่ยมไม่ได้เก็บปะการังแปดหนวดเข้าตำรา

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อชายหน้าเหลี่ยมพยายามจะลงจากรถประจำทาง เธอจึงให้ความสังเกตุกับเขาเป็นพิเศษ

ถ้ามันไม่ใช่การที่กลิ่นอายหายไป แล้วทำไมจู่ๆสุนัขเขี้ยวเพลิงถึงได้กลิ่นมัน แต่ตามรอยไม่ทัน?

มีคนกั้นระหว่างเธอและชายหน้าเหลี่ยมแค่สองคน ไม่มีทางที่สุนัขเขี้ยวเพลิงจะตามกลิ่นไม่ได้ในระยะใกล้แค่นี้

แต่สุนัขเขี้ยวเพลิงยืนกรานว่ากลิ่นอายนั้นปรากฏขึ้นแล้วหายไป

ปะการังแปดหนวดอยู่บนชายหน้าเหลี่ยมเสมอ ดังนั้นรัศมีของกลิ่นอายมันจึงควรจะอยู่ที่เดิมตลอดสิ

มันจะโผล่มาแบบไร้ที่มาที่ไปได้ยัง? หรือจมูกของสุนัขเขี้ยวเพลิงจะไม่ได้แม่นยำขนาดนั้นกัน?

มันสามารถตรวจจับได้แค่กลิ่นที่อยู่ใกล้มันแค่นั้นเหรอ?

“ยะ…ย่าห์!”

สุนัขเขี้ยวเพลิงจามอย่างหนัก

เฉียวซางไม่เข้าใจได้แม้จะคิดอยู่นาน ดังนั้นเธอจึงตั้งกระทู้เพื่อขอความช่วยเหลือจากคนในฟอรั่ม

นี่คือช่วงเวลาที่ฟอรั่มมีคุณค่าอย่างแท้จริง

ใช้เวลาไม่นานก็มีคนตอบข้อสงสัยของเธอ

“นั่นมันก็แค่การลบตัวตนไม่ใช่เหรอ?”

“ไม่มีทางน่า ถ้าเป็นงั้นจริง ทำไมมันถึงหายๆโผล่ๆล่ะ? ไม่ใช่ว่าปกติการลบตัวตนมันหายได้นานราวๆนาทีกว่าเลยนี่”

“บางทีมันอาจจะยังไม่คล่องกับการลบตัวตนมั้ง?”

“ฉันคิดว่าคุณกำลังเจอเข้ากับสิ่งลี้ลับบางอย่าง”

“ตอนฉันฝึกให้กระทิงเหล็กกล้าลบตัวตน ในครั้งแรกกลิ่นอายของมันหายได้เพียงสองวินาทีเท่านั้น”

“บทเรียนออนไลน์เรื่องการลบตัวตน เพียง 998 เหรียญพันธมิตรเท่านั้น! ย้ำอีกครั้ง แค่ 998 เท่านั้น!”

“อย่าหลงเชื่อคอมเมนท์ข้างบน! ไอ้เวรนั่นเป็นนักต้มตุ๋น!”

เฉียวซางตระหนักได้ทันทีว่าปรากฎการณ์ประหลาดที่เธอพบเห็นเป็นเพียงแค่ผลจากทักษะเท่านั้น

การลบตัวตนเป็นทักษะที่ไม่ค่อยได้ใช้งานจริง ยกเว้นในสถานการณ์เฉพาะตัวบางอย่าง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่เธอจะไม่เคยได้ยินมันมาก่อน

แต่หากนำมาจับคู่ทำคอมโบดีๆ อาทิเช่นให้สุนัขเขี้ยวเพลิงใช้พายุทะเลทรายจากนั้นก็ใช้ทักษะลบตัวตน เรียกได้ว่าเป็นคอมโบทักษะปิดเกมกันเลยทีเดียว

น่าเสียดายที่มันเป็นได้แค่ความฝัน

เพราะสุนัขเขี้ยวเพลิงไม่สามารถเรียนรู้ทักษะนี้ได้

เฉียวซางปิดคอมพิวเตอร์และมองไปที่สุนัขเขี้ยวเพลิง

เธอยังคงไม่ลืมกำหนดการที่ต้องทำของวันนี้

“สุนัขเขี้ยวเพลิง ใช้เขี้ยวเพลิงให้มากที่สุดเท่าที่แกจะทำได้”

“ย่าห์”

แม้ว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงจะไม่เข้าใจความตั้งใจของผู้ฝึกของมันแต่มันก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

สามนาทีต่อมา สุนัขเขี้ยวเพลิงก็หายใจหอบอย่างหนักบนพื้น

เฉียวซางนับ—มันใช้ทักษะนี้ได้ทั้งหมด 13 ครั้ง

นี่เกินความคาดหมายของเธอมาก

แต่นั่นอาจเป็นเพราะมันเพิ่งกินอาหารเพิ่มพลังงานมา

ขณะเดียวกับที่เฉียวซางกำลังคิดที่จะตรวจสอบตำราอสูร...

“ย่าห์…”

สุนัขเขี้ยวเพลิงก็ร้องเรียกเฉียวซางอย่างอ่อนแรง

เธอเข้าใจสิ่งที่มันต้องการทันทีและเดินไปในครัวเธอหยิบผลลูกยอแดงสองผลจากตู้เย็น คั้นเป็นน้ำและเทลงบนชาม

หลังจากผลลูกยอแดงหกผลที่แล้วหมดลง แม่ของเธอก็ซื้อมาเพิ่มอีกหกผล

แต่คราวนี้เฉียวซางพยายามจัดสรรค์ปันส่วนมัน โดยให้เจ้าหมากินหนึ่งผลในสองวันแทน

ลูกยอแดงหนึ่งลูกราคา 700 เหรียญพันธมิตร และแถมยังไม่เหมาะที่จะกินทุกวันอีก

ทว่าเนื่องจากสุนัขเขี้ยวเพลิงทำงานหนักในวันนี้ เฉียวซางจึงอดไม่ได้ที่จะให้มันถึงสองผลในวันนี้

ตอนนี้เธอได้เงินถึงมา  50,000 เหรียญพันธมิตร ตามใจตัวเองสักหน่อยจะเป็นอะไรไป

สุนัขเขี้ยวเพลิงถือชามด้วยอุ้งเท้าแล้วกลืนน้ำคั้นลงคอในพริบตา หลังจากกินหมดมันก็ส่งเสียงเห่าอย่างสำราญอารมณ์

ท่าทางน่าเอ็นดูนั้นทำให้เฉียวซางอดไม่ได้ที่จะลูบหัวมัน

แม้ว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงจะดูมีชีวิตชีวา แต่ร่างกายของมันก็เต็มไปด้วยความอ่อนล้า ไม่นานมันก็ล้มตัวลงนอนแหละหลับไปอย่างรวดเร็ว

เฉียวซางอุ้มมันไปที่เตียง ห่มผ้าให้มัน แล้วนั่งลงที่โต๊ะของเธอ

การฝึกโดยไม่วางแผนล่วงหน้าไม่มีทางประสบผลสำเร็จ ดังนั้นเธอต้องออกแบบตารางฝึกที่ดีออกมาให้ได้!

ขั้นแรก ตื่นนอนเวลา 6.00 น. ออกวิ่งตอนเช้าเพื่อฝึกความแข็งแกร่งและความเร็ว

ความเร็วของสุนัขเขี้ยวเพลิงยังด้อยอยู่มาก ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ ไม่อย่างงั้นมันจะเป็นเหมือนเป้านิ่ง ต่อให้โจมตีได้แรงแค่ไหนหากโจมตีไม่โดนก็ไร้ความหมาย

นอกจากการฝึกความเร็วแล้ว เวลาที่เหลือจะเน้นไปที่การฝึกทักษะต่างๆ

ปัจจุบันสุนัขเขี้ยวเพลิงรู้จักทักษะ กัด, พุ่งเข้าชน, เขี้ยวเพลิง และเพลิงปะทุ ยกเว้นพุ่งเข้าชน ทักษะอื่นๆยังชำนาญแค่ขั้นเริ่มต้นเพียงเท่านั้น

เฉียวซางตัดสินใจว่าจะไม่ให้สุนัขเขี้ยวเพลิงฝึกทักษะกัดอีกต่อไป ในเมื่อตอนนี้มันมีทักษะระดับกลางอย่างเขี้ยวเพลิงอันทรงพลังแล้ว จะเรียนทักษะที่ด้อยกว่าให้ซ้ำซ้อนไปทำไม

ขณะนี้ทักษะพุ่งเข้าชนอยู่ในความชำนาญขั้นกลาง โดยต้องการคะแนนมากกว่า 300 แต้มเพื่อไปสู่ความชำนาญขั้นสูง

หากเธอต้องการให้พุ่งเข้าชนเข้าถึงขั้นสูงก่อนการทดสอบการรับเข้าเรียนพิเศษของโรงเรียนเซินซุ่ย สุนัขเขี้ยวเพลิงจะต้องใช้พุ่งเข้าชนประมาณ 40 ครั้งต่อวัน

แต่ถ้าต้องฝึกทั้งวิ่ง เขี้ยวเพลิง เพลิงปะทุ แล้วยังต้องมาฝึกพุ่งเข้าชนอีก 40 รอบมันคงเป็นไปไม่ได้

สุนัขเขี้ยวเพลิงอายุยังไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ การฝึกแบบนั้นมันหนักหน่วงเกินไป

เฉียวซางคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเปลี่ยน 40 รอบ เป็น 10 รอบแทน

ในอีกเก้าวันข้างหน้า นอกเหนือจากการฝึกความเร็วแล้ว จะเน้นไปที่ฝึกทักษะเขี้ยวเพลิงและเพลิงปะทุ ให้เป็นความชำนาญขั้นกลาง

ที่เหลือมีแค่ลงมือปฎิบัติจริงเพียงเท่านั้น

เฉียวซางมองดูแผนการฝึกในมือของเธอแล้วยิ้มด้วยความพึงพอใจ

เช้าวันรุ่งขึ้น

“ทำไมลูกยังไม่ไปโรงเรียน?” แม่ของเธอถามอย่างคาดคั้น

เฉียวซางรีบมองเวลา และพบว่าตอนนี้มัน 7.54 น. แล้ว เธอนอนเพลิน

แผนการฝึกวิ่งตอน 6 โมงเช้า พังตั้งแต่ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ...

“แล้วทำไมแม่ยังไม่ออกไปทำงานล่ะ” เฉียวซางเถียงกลับ

เธอจะให้แม่รู้ไม่ได้ว่าเธอขอลาระยะยาว

หากเธอเป็นนักเรียนเบอร์ต้นๆเธอคงบอกแม่ตรงๆไปแล้วว่าขออ่านหนังสือและฝึกสุนัขเขี้ยวเพลิงที่บ้าน

แต่ปัญหาคือในสายตาของแม่ เธอนั้นเป็นปลาเค็ม...

ใครมันจะไปไว้ใจว่าปลาเค็มอย่างเธอจะยอมเลิกขี้เกียจและอ่านหนังสืออย่างหนักเพื่อเตรียมสอบ?

เฉียวซางไม่ได้วางแผนจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แต่เรื่องนี้ห้ามถึงหูแม่อย่างน้อยก็จนกว่าจะผ่านพ้นช่วงสอบเข้าเรียนพิเศษของโรงเรียนเซินซุ่ย

โดยปกติแม่มักจะออกบ้านเร็วกว่าเธอเสมอ วันนี้เป็นเหตุการณ์พิเศษที่นานๆทีเกิด เธอคำนวณพลาดไป…

“วันนี้มีลูกค้าขอจองคิวทั้งวัน เขานัดเอาไว้ตอนช่วงบ่าย แล้วลูกล่ะจะนอนไปถึงวันสอบเลยรึไง? ตอนนี้ 8.10 น. แล้ว ชั้นเรียนกำลังจะเริ่ม จะไปเรียนได้รึยัง?” แม่เธอพูดด้วยความหงุดหงิด

“หนูจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ!” เฉียวซางรีบตอบ

เธอหยิบขนมปังบนโต๊ะ ใส่ปาก สวมรองเท้า อุ้มสุนัขเขี้ยวเพลิง แล้วออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว

ที่ด้านนอกประตูเฉียวซางถอนหายใจ

เธอวางแผนที่จะฝึกซ้อมการใช้ทักษะที่บ้าน แต่ดูเหมือนว่าวันนี้เธอต้องไปหาที่อื่นแทน

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด