บทที่ 17: นายไม่รู้เหรอ?
เด็กชายสองคนยืนเงียบกันอยู่พักใหญ่
เฉียวซางที่ยังไม่ได้จากไปไหนก็ไม่ได้เปิดบทสนาอะไรเพิ่มเติมเช่นกัน
เด็กชายทรงหัวแหลมหรือเฉินถงถงมองเจียงหลิวพร้อมยักคิ้วส่งสัญญาณ
น่าเสียดายที่เจียงหลิวไม่เข้าใจความหมายของมัน "คิ้วนายเป็นอะไรรึเปล่า"
เฉินถงถง: "..."
ไอ้โง่!
เฉินถงถงตบหน้าผากเลิกใช้สัญญาณและแอบกระซิบเบาๆว่า "เงิน"
ถึงตรงนี้เจียงหลิงถึงรู้ตัว และเขาก็รีบนำเหรียญพันธมิตรจำนวน 50 เหรียญออกจากกระเป๋าแล้วยื่นให้อีกฝ่าย
เฉินถงถง: "..."
ไม่แปลกเลยทำไมเอ็งถึงโสด! แทนที่จะโอนเงินเผื่อจะได้ข้อมูลติดต่อมาด้วย! ไอ้จั๊ดง่าวเอ้ย!
“ขอบคุณ งั้นฉันขอตัวก่อนนะ” เฉียวซางกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะที่เธอรับเงิน
ช่วงเวลาเลิกเรียนเป็นช่วงกอบโกยระยะสั้นๆ เธอต้องรีบหาคู่ต่อสู้ใหม่ก่อนที่นาทีทองนี้จะหมดลง
“รอเดี๋ยว ต่อไปเธอมาสู้กับฉันเถอะ” เฉินถงถงยืนขวางเฉียวซาง
“แต่เดิมพันขอไม่ใช่เงิน แต่เป็นเคล็ดลับวิธีฝึกสุนัขเขี้ยวเพลิงให้เชื่องแทนได้ไหม?”
เฉียวซางส่ายหัวแล้วตอบว่า "ฉันไม่มีความลับอะไรเลย"
“เป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่มีเคล็ดลับแล้วทำไมสุนัขเขี้ยวเพลิงของเธอถึงเชื่อฟังมากขนาดนี้?” เฉินถงถงเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
ศาสตร์การฝึกฝนสัตว์อสูรไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถึงขั้นที่มีปริญญาสำหรับด้านนี้โดยเฉพาะเลยด้วยซ้ำ
คนที่ศึกษาด้านนี้ถูกเรียกว่านักพัฒนาสัตว์อสูร และเฉกเช่นเดียวกับผู้ฝึกสัตว์อสูร พวกเขาจะต้องผ่านการสอบรับรอง ตั้งแต่ระดับ F ไปจนถึงระดับ SSS
หลายคนมักจะจ้างวานนักพัฒนาสัตว์อสูรเพื่อออกแบบแผนสำหรับการฝึกอสูรให้เลยด้วยซ้ำ
แต่มันก็มีบางคนที่มีเคล็ดลับการฝึกอันยอดเยี่ยมและเลือกที่จะไม่แบ่งปันให้กับผู้อื่น
ยกตัวอย่างเช่นตระกูลเว่ยจากเมืองเจียง ด้วยสูตรอาหารแบบพิเศษที่ดึงดูดความสนใจจากสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติประเภทแฟรี่ พวกเขาสามารถทำสัญญากับสิ่งมีชีวิตหายากพวกนี้ได้โดยง่าย
แน่นอนว่าสูตรอาหารเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก หากพวกเขาเลือกที่จะจดสิทธิบัตรมันคงทำเงินให้ตระกูลเว่ยอย่างมหาศาล
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สมาชิกตระกูลเว่ยเกือบทุกคนสามารถทำสัญญากับสัตว์อสูรประเภทแฟรี่ได้ หลังจากกระบวนการนี้สืบทอดมากันกว่า 300 ปี พวกเขาก็ได้ฉายาว่าตระกูลแฟรี่ในที่สุด
เฉินถงถงสันนิษฐานว่าบางทีเฉียวซางอาจไม่ต้องการบอกวิธีของเธอให้เขาฟัง
เขายังคงจำได้ว่าหนึ่งในรุ่นพี่ของโรงเรียนที่ทำสัญญากับสัตว์อสูรประเภทไฟพยายามอวดหนูเกราะเพลิงของเขาโดยปล่อยให้พวกรุ่นน้องลูบมัน แน่นอนว่าเรื่องจบลงตรงที่รุ่นพี่คนนั้นโดนหนูพ่นไฟใส่
แม้เขาจะได้บาดเจ็บอะไร แต่ผมก็ถูกเขาจนโล่งเตียน จนถึงทุกวันนี้เขายังต้องใส่หมวกมาโรงเรียนอยู่เลย
แต่สุนัขเขี้ยวเพลิงของเฉียวซาง... มันเชื่องขนาดนี้ได้ยังไง แม้แต่ในสถานการณ์แบบนั้นมันยังเชื่อใจผู้ฝึกโดยไม่ลังเลเลยเนี่ยนะ?
เฉียวซางรู้สึกงุนงง “ฉันเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรมันแปลกตรงไหนที่อสูรจะฟังคำสั่งฉัน”
"ย่าห์!"
สุนัขเขี้ยวเพลิงพยักหน้าเห็นด้วยกับผู้ฝึกสัตว์อสูรของมัน
เฉินถงถงเมื่อเห็นพฤติกรรมของสุนัขเขี้ยวเพลิง ก็เริ่มไม่แน่ใจอีกต่อไป บางทีเจ้าหมานี่อาจจะแปลกแยกไปจากสัตว์ประเภทไฟตัวอื่นๆ?
“ฉันขอลูบมันได้ไหม?” เฉินถงถงถาม
“เฉินถงถง คิดให้ดีก่อน” เจียงหลิวเตือน
ทุกคนในโรงเรียนรู้ดีว่าทำไมรุ่นพี่ถึงหัวล้าน เขากลัวว่าเฉินถงถงจะเป็นคนที่สอง
"ได้สิ ลูบมันได้เลย" เฉียวซางกล่าวอย่างไม่สนใจ
ย้อนกลับไปตอนที่พวกเขาอยู่ที่ฐานเพาะเลี้ยงสัตว์อสูร สุนัขเขี้ยวเพลิงตัวนี้เต็มใจที่จะให้เธอลูบมันก่อนที่พวกเธอจะเซ็นสัญญากันเสียอีก
เฉินถงถงลังเลอย่างชัดเจน เขากลืนน้ำลายเรียกความกล้าและยื่นมือเข้าหาสุนัขเขี้ยวเพลิง
"ย่าห์!"
สุนัขเขี้ยวเพลิงยิ้มแยกเขี้ยวแหลมคมออกมาอย่างเป็นมิตร
เฉินถงถงรีบถอนมือออกทันที กลัวว่าในวินาทีถัดไปมันจะกัดเขาเข้า
“แล้วการฝึกต่อสู้ล่ะ ไม่ต้องบอกเรื่องที่เป็นความลับก็ได้แค่บอกเรื่องที่พอบอกได้ก็พอ” เฉินถงถงกล่าวขณะลุกขึ้นยืน
“เอางั้นก็ได้” เฉียวซางเห็นด้วย
แม้ว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงจะอยู่กับเธอเพียงสามหรือสี่วัน แต่เธอก็พอมีข้อมูลเชิงลึกในการฝึกฝนอยู่บ้าง
เจียงหลิวเมื่อเห็นว่าทั้งสองบรรลุข้อตกลงแล้ว จึงก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า "คราวนี้ฉันจะเป็นกรรมการให้เอง"
เฉียวซางพยักหน้า
เฉินถงถงเรียกสัตว์อสูรของเขาออกมา
เฉียวซางเงียบขณะที่เธอมองดูสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติตรงหน้าเธอ
สัตว์อสูรประเภทหนอนสีน้ำตาลยาว 10 เซนติเมตร มีลักษณะคล้ายหางสุนัข กำลังกระดิ๊บอยู่บนพื้น
มันคือหนอนฝ้าย...
หนอนฝ้ายโดยทั่วไปแล้วจะมีสีเขียว สีน้ำตาลมักพบเห็นได้ไม่บ่อยนัก มันเป็นสัตว์อสูรธรรมดาและราคาถูก เจ้าสิ่งมีชีวิตนี้มักจะไม่ถูกเลือกมาทำสัญญาโดยผู้ฝึกสัตว์อสูรส่วนมาก
อย่างไรก็ตาม มันเองก็มีข้อดีของมันอยู่ นั่นคือเส้นทางวิวัฒนาการอันหลากหลาย ปัจจุบันมีการค้นพบรูปแบบวิวัฒนาการของมันถึงห้าแบบ และหนึ่งในนั้นคือผีเสื้อหิมะ สัตว์อสูรประเภทน้ำแข็งที่หายาก ซึ่งนี่ทำให้มูลค่าของหนอนฝ้ายดีดตัวขึ้นสูงเป็นอย่างมาก
แต่ศักยภาพทั้งหมดของมันล้วนอยู่ในร่างที่พัฒนาแล้ว หนอนฝ้ายมีทักษะอยู่แค่สองอย่างนั่นคือใยไหมและพุ่งเข้าชน พวกมันไม่สามารถเรียนรู้ทักษะอื่นได้
นี่มันเงินฟรีเลยไม่ใช่รึไง?
“คราวนี้นายเริ่มก่อน” เฉียวซางกล่าว
เธอกลัวว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงจะจบการต่อสู้ด้วยทักษะเพลิงปะทุในครั้งเดียว...
เฉินถงถงรู้ดีว่าเฉียวซางกำลังคิดอะไรอยู่ ทุกครั้งที่เขานำหนอนฝ้ายออกมา ฝ่ายตรงข้ามมักจะปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อนเสมอ
การที่ถูกมองว่าด้องกว่าแบบนี้ นับว่าเป็นข้อได้เปรียบสำหรับเขามาก
โดยปกติแล้ว หนอนฝ้ายจะใช้เวลาก่อนที่จะวิวัฒนาการประมาณสามถึงห้าเดือน แต่เขาได้ชะลอการวิวัฒนาการของสัตว์อสูรของเขามาเกือบหนึ่งปีแล้ว ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับวิวัฒนาการที่สมบูรณ์แบบ
ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งนี้ หนอนฝ้ายของเขาจึงไม่อาจนับได้ว่ามันเป็นหนอนฝ้ายธรรมดาอีกต่อไป!
แถมในสนามประลองของมือใหม่ด้วยความทนทานของใยไหมทำให้เขาคว้าอันดับ 39 มาครองด้วยซ้ำ
“หนอนฝ้าย! แสดงความแข็งแกร่งของแกให้เธอเห็นซะสิ!” เฉินถงถงตะโกนขณะที่เขายกมือเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจ
"จิ!"
หนอนฝ้ายอ้าปากและยิงเส้นไหมสีขาวนวลสง่าราวกับหิมะ พุ่งตรงไปที่สุนัขเขี้ยวเพลิงด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ
สุนัขเขี้ยวเพลิงไม่แม้แต่จะได้้ขยับตัว ก่อนที่มันจะถูกมัดไว้อย่างแน่นหนาด้วยเส้นด้าย
มันพยายามดิ้นรนแต่ก็ไม่สามารถหลุดจากการคุมขัง
เฉียวซางขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าเธอจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการฝึกความเร็วในการตอบสนองของสุนัขเขี้ยวเพลิงมาเป็นอันดับแรก
“คราวนี้แหละ จบการต่อสู้เลย!” เฉินถงถงยังคงตะโกนต่อไป
ร่างกายของหนอนฝ้ายเริ่มเปล่งแสงสีขาวจางๆ และแทนที่จะค่อยๆพุ่งไปทางพื้น มันกลับพุ่งตัวขึ้นไปในอากาศ!
ความเร็วของมันเหนือกว่าทักษะพุ่งเข้าชนของสุนัขเขี้ยวเพลิงอย่างเห็นได้ชัด
เฉียวซางวัดระยะห่างด้วยสายตา และสามวินาทีต่อมา เธอก็ออกคำสั่ง: "เขี้ยวเพลิง"
ทันใดนั้น เปลวไฟที่สุกใสก็เผาทำลายใยไหมสีขาวเหมือนและกัดเข้าไปในหนอนฝ้ายซึ่งกำลังพุ่งเข้ามาอย่างแม่นยำ
"จิ!!!" หนอนฝ้ายกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
สองวินาทีต่อมา ดวงตาของมันก็กลอกขึ้นเหลือแต่ตาขาวและหมดสติไปในที่สุด
“เฉียวซางชนะ” เจียงหลิวประกาศ
“หนอนฝ้าย!” เฉินถงถงรีบวิ่งเข้าไปอุ้มสัตว์อสูรที่หมดสติของเขา
หลังจากยืนยันว่าหนอนฝ้ายหมดสติแล้ว เขาก็เรียกมันกลับเข้าตำราอสูร
"ทำไม?" เฉินถงถงเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาแดงก่ำขณะที่เขาถามเฉียวซาง
"อะไรงั้นเหรอ?" เฉียวซางถามกลับ
เธอไม่เข้าใจ สุนัขเขี้ยวเพลิงเอาชนะหนอนฝ้ายได้มันแปลกตรงไหน? ทำไมเขาถึงมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้?
“ทำไมสุนัขเพลิงของเธอถึงทำลายใยไหมได้ง่ายขนาดนั้นกัน?” เฉินถงถงจ้องไปที่เฉียวซางในใจยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์
ใยไหมของหนอนฝ้ายของเขาเหนียวแน่นอย่างน่าเหลือเชื่อ—เมื่อมันมัดคู่ต่อสู้สำเร็จ พวกมันแทบจะไม่มีทางหนีพ้น ต่อให้เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าก็ต้องใช้เวลาพักใหญ่ถึงจะดิ้นหลุด
แล้วแบบนี้มันจะถูกทำลายง่ายๆขนาดนั้นได้ยังไงกัน?
"อืม" เฉียวซางคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“นายไม่รู้เหรอว่าไฟชนะแมลง?”
เฉินถงถง: "..."
“บางทีนายอาจไม่เคยต่อสู้กับสัตว์อสูรประเภทไฟมาก่อนใช่ไหม?” เฉียวซางเดา และคิดว่าตัวเธอนั้นเดาได้ถูกต้อง
เฉินถงถง: .....