ตอนที่แล้วบทที่ 14: ลาหยุดยาว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 16: แค่ความรู้สึกน่ะ

บทที่ 15: แสวงหาความพ่ายแพ้


อย่างไรก็ตาม การแข่งขันนี้จะเกิดขึ้นหลังจากการสอบเข้าสิ้นสุด ตอนนี้มันยังไม่เปิดให้ลงทะเบียนเลยด้วยซ้ำ

สโมสรและสนามประลองอื่นๆ ก็มีข้อจำกัดของตัวเองเช่นกัน

อีกที่ที่เหลืออยู่ก็มีสนามประลองใต้ดินซึ่งมีไว้สำหรับพวกชอบเล่นพนันหรือเสพติดความรุนแรงเป็นหลัก แม้มันจะไม่ได้กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำไว้มากมายนัก แต่กฎกติกาก็ผิดแปลกจากสนามประลองถูกกฎหมายโดยสิ้นเชิง

เกณฑ์เข้าร่วมขั้นต่ำของสนามประลองใต้ดินคือเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับ E พวกที่เข้าร่วมส่วนใหญ่มักมีแต่พวกผิดแปลกจากสังคม

ก่อนจะเข้าร่วม ต้องเซ็นต์หนังสือสัญญาว่าด้วยหากเกิดการบาดเจ็บหรือล้มตาย ผู้เสียหายจะไม่สามารถขอเรียกร้องเงินค่าทำขวัญได้

ในสนามประลองถูกกฎหมาย เมื่อสัตว์อสูรฝ่ายใดฝ่ายหนึ่่งหมดสติหรือได้รับบาดเจ็บสาหัส ผู้ตัดสินจะหยุดการประลองทันทีและนำสัตว์อสูรที่ได้รับบาดเจ็บไปเข้ารับการรักษา

ในทางตรงกันข้าม การต่อสู้ของสนามประลองใต้ดินจะดำเนินไปจนกว่าผู้ฝึกสัตว์อสูรจะบอกยอมแพ้ด้วยตัวเอง

ผู้เข้าร่วมการต่อสู้มักเป็นพวกโหดร้ายไม่ก็ชอบความเสี่ยง พวกเขามักจะใช้สัตว์อสูรที่หมดประโยชน์ไม่ก็อ่อนแอเกินไปสำหรับตนเพื่อเข้าร่วม เพราะต่อให้มันตายไปก็ไม่เสียหาย

บางคนไปที่นั่นเพื่อเงิน บางคนก็แค่เพื่อให้โดปามีนหลั่งไหล

อย่างไรก็ตามที่แบบนั้นไม่ใช่ที่สำหรับนักเรียนมัธยมต้นแบบเธอ

สุนัขเขี้ยวเพลิงยังเด็กเกินไป และตัวเฉียวซางก็ยังไม่พร้อมที่จะเข้าร่วม

เดิมทีเฉียวซางวางแผนที่จะฝึกความแข็งแกร่งของสุนัขเขี้ยวเพลิงหลังจากการสอบเข้าสิ้นสุดลง

เมื่อฝึกร่างกายเสร็จ จากนั้นก็ต่อด้วยการฝึกทักษะ

นิ้วทองคำของเธอสามารถเพิ่มระดับให้สุนัขเขี้ยวเพลิงได้อย่างรวดเร็ว แต่หากไร้การฝึกฝน ความแข็งแกร่งของมันจะไม่สอดคล้องกับระดับที่มี

ด้วยเวลาอันจำกัดนี้ เธอไม่สามารถปล่อยเวลาให้เสียเปล่าได้อีก

มีเพียงการต่อสู้เท่านั้นที่จะทำให้สุนัขเขี้ยวเพลิงแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

เฉียวซางกำลังมองหาคู่ฝึกซ้อม ไม่ใช่การต่อสู้อันดุเดือด

นอกเหนือจากการสนามประลองสัตว์อสูรอย่างเป็นทางการและสนามประลองใต้ดินแล้ว ยังมีหอฝึก สถาบันพัฒนา และการแข่งขันกระชับมิตรอยู่อีก

หอฝึกรับสมัครเพียงปีละสองครั้ง เพื่อช่วยผู้ฝึกสัตว์อสูรฝึกทักษะที่กำหนดไว้สำหรับสัตว์อสูรของพวกเขา แต่ตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเปิดรับสมัคร ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถเข้าร่วมได้

สถาบันพัฒนาล้วนเกี่ยวข้องกับเงิน และเฉียวซางไม่มีเงิน

การแข่งขันกระชับมิตรจะเข้าร่วมได้ก็ต่อเมื่อมีชื่อเสียงและถูกรับเชิญ แน่นอนว่าคุณสมบัติของเฉียวซางไม่เฉียดเลยสักนิด

คนส่วนใหญ่มักจะฝึกการต่อสู้กับสัตว์อสูรของเพื่อนๆ แต่เพื่อนของเฉียวซางยังไม่ได้ปลุกโดเมนสมองของพวกเขาเลย ไม่ต้องพูดถึงการต่อสู้กับสัตว์อสูรเลย

หลังจากสรุปทั้งหมดนี้แล้ว เฉียวซางพบว่าไม่มีสถานที่ใดในเมืองฮันกังที่เหมาะสำหรับสุนัขเขี้ยวเพลิงที่จะสามารถต่อสู้ได้อย่างเหมาะสม

เธอควรทำยังไงดี? เดินสุ่มขอท้าทายกับคนที่สัญจรไปมา

แล้วถ้าซวยเจอผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับ D เข้า เธอคงโดนอัดลากสังขารกลับบ้านไม่ถูกแน่

เฉียวซางเดินไปมาบนถนนพลางครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง

ห้านาทีต่อมา เธอก็กอดสุนัขเขี้ยวเพลิงและมุ่งหน้ากลับบ้าน

เมื่อกลับบ้าน เฉียวซางเปลี่ยนชุดนักเรียนของเธอเป็นชุดลำลอง

จากนั้นเธอก็ไปที่ห้องของเธอ เขียนคำสองสามคำลงในกระดาษ ฉีกมันออก และใส่ม้วนใส่ไว้ในกระเป๋า จากนั้นเธอก็คว้ากระเป๋าเป้สะพายหลังและมุ่งหน้าออกไปอีกครั้ง

ที่สวนสาธารณะนานฮีซึ่งอยู่ใกล้ๆกับโรงเรียนฝึกอสูรฮันกังที่ 37

“แม่สาวตรงนั้นน่ะ กินเนื้อย่างเสียบไม้ไหม?” คุณป้าแผงลอยตะโกนเรียก

เฉียวซางตรวจสอบเวลา: 16:27 น. อีกประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่โรงเรียนฝึกอสูรฮันกังที่ 37  จะเลิกเรียน

“ป้าค่ะ ฉันจะเอาเนื้อแกะเสียบไม้ 10 ไม้ค่ะ” เฉียวซางกล่าวขณะที่เธอเดินเข้าไปใกล้แผงลอย

“ใส่พริกไหม?” คุณป้าถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ขณะที่มือเป็นระวิง

“ไม่เอาค่ะ” เฉียวซางตอบพร้อมกับส่ายหัว

“หนูมาจากโรงเรียนใกล้ๆนี่เหรอ? ทำไมป้าถึงไม่เคยเห็นหน้าหนูมาก่อนนะ” คุณป้าชวนเธอคุยเรื่อยเปื่อย

“ไม่ค่ะ ฉันแค่รอใครสักคนอยู่” เฉียวซางตอบ

“ป้าคิดแล้วเชียว เพราะหน้าสวยๆแบบหนูต่อให้เห็นผ่านๆป้าคงไม่มีทางลืม” คุณป้าหัวเราะ

เฉียวซางยิ้มรับคำชมอย่างสุภาพ

เธอได้รับคำชมเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของเธอบ่อยมากจนเธอเริ่มชินชา

ห้านาทีต่อมา เฉียวซางก็หยิบเนื้อแกะเสียบไม้มายื่นให้สุนัขเขี้ยวเพลิงที่กำลังน้ำลายไหล

“ย่าห์!” สุนัขเขี้ยวเพลิงเห่าอย่างมีความสุข ปากคาบเนื้อแกะย่างพร้อมใช้เท้าเหยียบปลายไม้ให้เนื้อเข้าปากได้ง่ายๆ

“สัตว์อสูรของหนูชื่ออะไรเหรอ? ป้าไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลย” ป้าถามด้วยความสงสัย

มีช่องว่างกว้างใหญ่ระหว่างผู้ฝึกสัตว์อสูรและคนธรรมดา พวกเขาแยกออกจากกันเป็นสองโลก

หลังจากเก้าปีของการศึกษาภาคบังคับ เส้นทางของพวกเขาก็แตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิง

แม้ว่าผู้ฝึกสัตว์อสูรจะมีสถานะที่สูงกว่าในสังคม แต่คนธรรมดาก็ถูกแบ่งออกหลากชนชั้น

มีทั้งผู้มีอำนาจ ผู้ไร้อำนาจ ผู้มั่งคั่ง ผู้ยากไร้ ผู้ทำธุรกิจขนาดเล็ก และผู้ที่ใช้แรงงานเลี้ยงชีพ...

ความแตกต่างของอำนาจและความมั่งคั่งเหล่านี้ส่วนใหญ่มักถูกกำหนดตั้งแต่เกิด

สำหรับผู้ที่เกิดมายากจน ช่องทางความรู้ของพวกเขาที่มีต่อสัตว์อสูรมักจะขาดตอน

เพราะแม้ข้อมูลดังกล่าวจะแพร่หลายและเปิดกว้างแต่พวกเขาก็ไม่มีเวลามานั่งศึกษา ลำพังแค่หาเงินใช้จ่ายในแต่ละวันก็ยากลำบากมากพอแล้ว

คุณป้าที่อยู่ตรงหน้าเฉียวซางเห็นชัดว่าเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในระดับล่างของสังคม

“มันเรียกว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงค่ะ” เฉียวซางตอบ

“ย่าห์” สุนัขเขี้ยวเพลิงเห่าขึ้นทันทีเพื่อแนะนำตัว

คุณป้าก็หัวเราะ

“มันน่ารักมากเลยแถมยังเชื่องอีก ไว้ลูกชายป้าเรียนจบมัธยมต้นเมื่อไหร่ ป้าคงเลือกเจ้านี่เป็นสัตว์อสูรให้เขา”

เฉียวซางเกิดความลังเลที่จะพูดขึ้นมา

คุณป้าพูดไม่ผิด นอกจากจะซนนิดๆหน่อยๆแล้ว สุนัขเขี้ยวเพลิงยังประพฤติตัวดีอีกด้วยมั้ง...

“ย่าห์”

สุนัขเขี้ยวเพลิงเงยหน้าขึ้นมองเฉียวซาง

เฉียวซางมอบเนื้อแกะเสียบไม้ในส่วนของเธอให้มันอีกไม้

หางสีแดงของมันโบกสะบัดด้วยความยินดี

สุดท้ายแล้วเฉียวซางก็กินไปแค่สามไม้ ส่วนที่เหลือเจ้าหมารับจบหมด

จากนั้นเฉียวซางก็ย้ายไปที่ม้านั่งใกล้ๆ

จากจุดนี้ เธอมองเห็นทางเข้าโรงเรียนฝึกอสูรฮันกังที่ 37  ได้อย่างชัดเจน

ทำเลที่ตั้งสมบูรณ์แบบ นักเรียนที่ออกมาทางสวนสาธารณะนานฮีจะเห็นเธออย่างแน่นอน

เฉียวซางหยิบกระดาษที่เตรียมไว้ออกมาแล้วติดไว้ที่กระเป๋าเป้สะพายหลังของเธอ

"ศึกอสูร—แสวงหาความพ่ายแพ้"

นอกจากนี้ยังมีข้อความเล็กๆที่มุมขวาล่าง:

"เดิมพัน 50 เหรียญพันธมิตรต่อรอบ"

นี่เป็นแผนการที่ดีที่สุดที่เฉียวซางกลั่นมาได้จากสมอง หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน

หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์อสูรระดับ F โรงเรียนมัธยมฝึกอสูรคือสถานที่ที่ดีที่สุดที่จะมองหา

พวกเขาต้องใช้เวลา 1-2 ปีในการฝึกอสูรให้กลายเป็นระดับกลาง ดังนั้นนักเรียนปีแรกและปีที่สองส่วนใหญ่ยังคงมีสัตว์ระดับเริ่มต้น

ส่วนเดิมพัน 50 เหรียญพันธมิตร เธอแค่เขียนเอาสนุก เอาเข้าจริงเธอไม่คิดว่าจะมีคนยอมจ่ายเงินให้เธอหรอก

เธอแค่อยากจะดึงดูดความสนใจของพวกเขา สำหรับผู้ฝึกสัตว์อสูรในโรงเรียนมัธยมปลาย นี่คงนับว่าเป็นการเล่นสนุกรูปแบบหนึ่ง และแน่นอนว่าถ้าบางคนยอมจ่ายจริงๆเธอก็จะรับมันไว้

สำหรับสาเหตุที่เธอเลือกโรงเรียนฝึกอสูรฮันกังที่ 37  เพราะมันเป็นโรงเรียนที่ใกล้ที่สุดจากนอกเขตที่อยู่อาศัยของเธอ

เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าและมาที่นี่เพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอกับคนรู้จัก

ท้ายที่สุดแล้ว การยืนอยู่นอกโรงเรียนพร้อมป้ายที่เขียนว่า แสวงหาความพ่ายแพ้ ค่อนข้างน่ากระอักกระอ่วน...

เฉียวซางนั่งเงียบ ๆ บนม้านั่งโดยมีสุนัขเขี้ยวเพลิงอยู่ในอ้อมกอดของเธอ

แม้ว่าโรงเรียนฝึกอสูรฮันกังที่ 37  จะยังเลิกเรียน แต่ที่สวนสาธารณะนานฮีก็เริ่มมีคนมามากขึ้นแล้ว

ขณะที่พวกเขาเดินผ่านเฉียวซาง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองทางของเธอ

เนื้อหาในกระเป๋าเป้สะพายหลังของเธอดูเหมือนจะไม่ตรงกับภาพลักษณ์ของเธออัันงดงามของเธอเลยสักนิด

“ย่าห์!”

สุนัขเขี้ยวเพลิงแยกเขี้ยวและเห่าใส่ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา

เอาล่ะถ้านับเจ้าหมานั่นเข้าไปด้วย ป้ายนั่นก็ดูเหมาะสมกับเธอดี...

5 3 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด