บทที่ 14: ลาหยุดยาว
เฉียวซางมองดูไท่ซูซูอยู่สองวินาที จากนั้นยิ้มแล้วพูดว่า "อ่าหะ แล้วมีอะไรอีกไหม"
ไท่ซูซูหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วส่ายหัว "ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ฉันแค่อยากรู้เฉยๆ"
เฉียวซางหันหลังกลับและกลับไปที่ห้องเรียน
ทันทีที่เธอนั่งลง ฟางซือซือก็โน้มตัวลงมากระซิบ “ไท่ซูซูพูดอะไรกับเธอ? ทำไมถึงทำหน้าน่ากลัวแบบนี้ล่ะ”
“มันดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?” เฉียวซางถาม
“ใช่ คิ้วขมวดเป็นปมขนาดนั้นเห็นแล้วขนลุกเลย” ฟางซือซือกล่าวล้อ
เฉียวซางอยากได้กระจก เธออยากจะเห็นสีหน้าของตัวเองตอนนี้จริงๆ
ฟางซือซือยังคงกดเซ้าซี้ต่อ “สรุปไท่ซูซูมาทำไม?”
"ไม่มีเรื่องสำคัญอะไรหรอก" เฉียวซางตอบปัดๆแล้วหยิบหนังสือของเธอขึ้นมาอ่านต่อ
ฟางซือซืออยากถามต่อ แต่เมื่อเห็นว่าเฉียวซางไม่อยากพูดเธอเลยเลือกที่จะเงียบ
หลังจากชั้นเรียนช่วงเช้าเสร็จสิ้นลง เฉียวซางก็เก็บข้าวของและตรงปรี่ไปที่ห้องพักอาจารย์
“อาจารย์ ฉันขอลาหยุด” เฉียวซางพูดเข้าประเด็น สายตามองไปที่ผมหนาของอาจารย์
อาจารย์ประจำชั้นของเธอลุกขึ้นพรวด
อาจารย์หญิงอีกคนในออฟฟิศหันหน้ามามองทางเฉียวซางทันที
อาจารย์ประจำชั้นพยายามกล่าวกับตัวเองให้ใจเย็น
“รู้ไหมว่าเธอกำลังพูดอะไร อีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาสอบจงเกาแล้วยังจะมาขอลาอีกเหรอ? แค่ฉันไม่ได้ขอให้เธอเขียนสำนึกผิดเรื่องขาดเรียนกะทันหันก็ถือว่าใจดีมากแล้วนะ”
เฉียวซางตอบอย่างจริงจังว่า "อาจารย์ค่ะ ถ้าอาจารย์ไม่อนุญาตให้ฉันลา ฉันจะหยุดเรียนแล้วค่อยมาเขียนจดหมายสำนึกผิดเอาทีหลัง"
ขมับของอาจารย์กระตุกถี่ “ที่บ้านเธอรู้ไหมเนี่ยว่าเธอกำลังขอลาหยุด?”
เฉียวซางไม่ตอบ
อาจารย์หายใจเข้าลึก ๆ แล้วนั่งลงแล้วพูดอย่างจริงจังว่า "ถ้าไม่อยากให้แม่มาโรงเรียนอีกก็กลับไปเรียนใหม่ ฉันยอมรับว่าฉันผิดที่กล่าวหาเธอครั้งก่อน แต่ถึงแม้ คุณได้ปลุกความสามารถในการฝึกอสูรของคุณแล้ว คุณจะละเลยการเรียนของคุณไม่ได้ อีกไม่กี่วันก็จะถึงการสอบแล้ว”
เฉียวซางยิ้ม
“อาจารย์ค่ะ เมื่อวันศุกร์ที่แล้วแม่ฉันมาโรงเรียนใช่ไหมคะ?”
อาจารย์ประจำชั้นหยุดชะงักและตอบว่า "ใช่ อาจารย์ขอให้แม่เธอเข้ามาอธิบายว่าทำไมเธอถึงหยุดเรียน"
เฉียวซางเอียงศีรษะแล้วถามว่า "แล้วทำไมเธอถึงถูกไล่ออกจากห้องพักอาจารย์คะ?"
อาจารย์ประจำชั้นชะงัก สีหน้าพลันเต็มไปด้วยความซับซ้อน เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าแม่ของเฉียวซางจะเล่าเรื่องพวกนี้ให้เด็กสาวฟังด้วย ตอนนี้เขาไม่รู้เลยว่าตนควรจะทำหน้ายังไงดี
เขานั้นแชร์ห้องทำงานร่วมกับอาจารย์ประจำชั้นของห้อง 9
วันนั้น ไท่ซูซูและแม่ของเธอมาที่โรงเรียน ตรงกับการมาเยือนกะทันหันของแม่เฉียวซาง
ไท่ซูซูเพิ่งได้รับการแนะนำให้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ย แม้แต่คณบดีก็ยังมาแสดงความยินดีกับเธอ
เป็นธรรมดาที่ความสนใจของทุกคนจะพุ่งตรงไปยังห้อง 9
เมื่อแม่ของเฉียวซางมาถึงเธอก็อธิบายด้วยความตื่นเต้นว่าเฉียวซางนั้นปลุกพลังขึ้นสำเร็จ ทำให้ความสนใจของทุกคนหันไปยังทางฝั่งของเธอแทน
หลังจากถามคำถามไม่กี่ข้อพวกเขาก็ได้รับรู้ถึงผลการเรียนและนิสัยเบื้องต้นของเฉียวซาง
และแม่ของไท่ซูซูก็เป็นฝ่ายเริ่มกระแนะกระแหนออกมา แน่นอนว่าแม่ของเฉียวซางนั้นไม่ยอมจนทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงกัน
ถึงตรงนี้จู่ๆไท่ซูซูก็เริ่มร้องไห้
ในฐานะดาวเด่นของโรงเรียน ทุกคนล้วนโอ๋เธอเป็นพิเศษ ท้ายที่สุดคณบดีจึงเชิญแม่ของเฉียวซางให้ออกไป
อาจารย์ประจำชั้นเคยถือว่าตนเป็นอาจารย์ที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่และคุณธรรมสูง
เขาไม่มีทักษะในการเข้าสังคมสักเท่าไหร่ แต่เขาทำงานอย่างขยันขันแข็งมานานกว่า 20 ปีจนได้เป็นอาจารย์ประจำชั้นในที่สุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ความกระตือรือร้นในตอนแรกที่เขาเคยมีก็จางหาย และตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะยืนหยัดเพื่อผู้ปกครองของนักเรียนเมื่อพวกเขาถูกปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม
ถึงกระนั้นเขาก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด เขาเพียงแค่ยืนดูอยู่เฉยๆและสถานการณ์พวกนี้ไม่จำเป็นต้องเอาไปเล่าให้นักเรียนฟัง
อาจารย์ประจำชั้นหยุดชั่วคราวแล้วพูดว่า "แม่เธอไม่ได้ถูกไล่ แค่ถูกขอเชิญให้ออกไปก่อนเพื่อคลายอารมณ์"
เฉียวซางยิ้ม “ฉันจะพยายามทำความเข้าใจนะคะ แต่เพราะเรื่องนี้ทำให้แม่ฉันนอนป่วย อาจารย์รู้สถานการณ์ของครอบครัวฉันใช่ไหมคะ? ตอนนี้มีแค่ฉันคนเดียวที่แม่ได้”
อาจารย์เริ่มโอนอ่อนตาม “จะหยุดนานแค่ไหน?”
“จนกว่าแม่จะหายดีค่ะ” เฉียวซางตอบ
อาจารย์ประจำชั้นลังเลแล้วพูดว่า “เอาเป็นว่าอย่าหยุดนานเกินไปละกัน ตอนนี้มันใกล้เวลาสอบมากแล้ว”
เฉียวซางพยักหน้า หันหลัง และจากไป
ขณะที่มองดูเธอเดินจากไป อาจารย์ประจำชั้นที่ยังคงเต็มไปด้วยความกังวลกล่าวเสริมว่า “อยู่บ้านก็อ่านหนังสือเยอะๆ แล้วถ้าแม่เธอเริ่มดูแลตัวเองได้ให้รีบกลับมา”
เฉียวซางมองกลับมาที่เขาแล้วยิ้ม “ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอกค่ะ ว่าแต่อาจารย์ค่ะ....วิกบนหัวอาจารย์กำลังจะหลุดน่ะค่ะ”
อาจารย์ประจำชั้น: "..."
อาจารย์สาว: "..."
.....
สโมสรต่อสู้แห่งหนึ่งภายในฮันกัง
"จ้างคู่ซ้อมมือใหม่ในสโมสรหนึ่งวัน ราคาเท่าไหร่คะ?"
"สวัสดีค่ะ! บริการคู่ซ้อมของเราคิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมง สำหรับระดับมือใหม่มีค่าใช้จ่าย 1,000 เหรียญพันธมิตรต่อชั่วโมง หากคุณเลือกจองทั้งวัน เราสามารถให้ส่วนลดได้ 2% ค่ะ" พนักงานต้อนรับกล่าวด้วยรอยยิ้ม
สโมสรต่อสู้สามารถจัดหาคู่ซ้อมที่แตกต่างกันได้ตามความต้องการของลูกค้า
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน สโมสรเหล่านี้ได้แพร่กระจายไปยังละแวกใกล้เคียงมีทั้งขนาดเล็กและใหญ่
ในสโมสรต่อสู้บางแห่ง คุณสามารถจ้างผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับ S มาเป็นคู่ซ้อมได้ แน่นอนว่าเงินต้องหนาพอไม่ก็ต้องมีคุณสมบัติตามเงื่อนไข แต่ก็มีสโมสรไม่กี่แห่งเท่านั้นที่สามารถให้บริการแบบนั้นได้
สโมสรต่อสู้ฮันกังเซียนเฉิงเป็นสโมสรที่ห้าแล้วที่เฉียวซางแวะเข้ามาถามรายละเอียด
เธอไปเยี่ยมชมสโมสรต่อสู้มากมายขนาดนี้ด้วยเหตุผลเดียว: เธอจน...
เฉียวซางแตะเงินที่มีอยู่น้อยนิดในกระเป๋า กอดสุนัขเขี้ยวเพลิง แล้วเดินออกไปอย่างเงียบ ๆ
เธอรู้สึกหลงทางไม่รู้จะไปทางไหนดี
ในตอนแรกเธอไม่ได้คิดมากเรื่องเข้าโรงเรียนเซินซุ่ย คิดแค่ว่าถ้าผ่านก็ดี ถ้าไม่ผ่านก็ยังมีโรงเรียนฝึกอสูรฮันกังที่ 6รองรับ
แต่ตอนนี้เธออยากเข้าโรงเรียนเซินซุ่ยจริงๆ
เหลืออีก 10 วัน การสอบคัดเลือกพิเศษของโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ยจะเริ่มต้นขึ้น
หากพิจารณาจากระดับในปัจจุบันของเธอ เธอไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าว่าเธอจะสามารถสอบผ่านเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำรึเปล่า
สำหรับเกณฑ์การรับสมัครแบบพิเศษ อันดับที่สองถึงห้าจะต้องมีคะแนนสูงกว่าคะแนนขั้นต่ำ 50 คะแนน และเฉียวซางก็ไม่มั่นใจในข้อนี้
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงจำเป็นต้องได้รับอันดับหนึ่งในการสอบพิเศษ เพื่อที่จะได้ใช้แค่คะแนนขั้นต่ำในการเข้าเรียน
เมื่อตัดสินใจเช่นนี้ เธอก็ตระหนักว่าเธอจำเป็นต้องเร่งการฝึกสุนัขเขี้ยวเพลิงของเธอ
แม้ว่าสุนัขเขี้ยวเพลิงจะเป็นสัตว์อสูรประเภทไฟที่มีพลังโจมตีที่แข็งแกร่ง แต่มันก็ยังเป็นเด็กน้อยที่แทบจะไม่มีประสบการณ์
การชนะครั้งก่อนเกิดจากการรุม 2 ต่อ 1 และปฏิกิริยาอันเชื่องช้าของคู่แข่ง
ด้วยความสามารถในตอนนี้การคว้าที่หนึ่งคงไม่ใช่เรื่องง่าย
เธอมีเวลาเหลือเพียง 10 วันเท่านั้น การอยู่ในโรงเรียนนับว่าไม่คุ้มค่ากับเวลาที่เสีย ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจจะอ่านหนังสือด้วยตัวเองและฝึกสุนัขเขี้ยวเพลิงไปด้วย
ด้วยสูตรโกงของเธอ เธอสามารถปรับระดับของสุนัขเขี้ยวเพลิงด้วยเวลาอันสั้น
แม้แผนที่วางไว้จะดูรัดกุม แต่พอนำมาปฎิบัติจริง เธอกลับหลงทาง
มีสนามประลองมากมาย แต่พวกมันล้วนกำหนดคุณสมบัติขั้นต่ำในการสมัครเข้าร่วม
สนามประลองมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างรายได้ผ่านจำนวนผู้ชมและการขายตั๋ว
โดยทั่วไปแล้วผู้ฝึกสัตว์อสูรมือใหม่จะมีสัตว์อสูรระดับเริ่มต้นเพียงตัวเดียว ดังนั้นการต่อสู้ของพวกเขาจึงคาดเดาได้ง่ายและไม่เร้าใจ
ถ้าไม่มีผู้ชม ผู้จัดงานก็ไม่มีกำไร
สนามประลองเดียวที่เฉียวซางพอจะเข้าร่วมได้คือสนามประลองผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับ F ซึ่งจะจัดงานในวัันที่ 30 มิถุนายน
นับเป็นเวลาที่เหมาะเหม็งสำหรับผู้จัด เพราะเป็นช่วงจบการศึกษาของนักเรียนมัธยมต้นปีที่ 3 พอดี และเป็นช่วงที่พวกเขาจะทำสัญญากับสัตว์อสูร
จะมีกลุ่มผู้ฝึกสัตว์อสูรมือใหม่มาเข้าร่วม แถมจะมีทั้งพ่อแม่พี่น้อง ญาติใกล้ชิด เพื่อนนักเรียน อาจารย์ในโรงเรียนเข้ามารับชม เรียกว่าหายห่วงเรื่องเรตติ้งและการขายบัตร