ตอนที่แล้วบทที่ 134: เดทกับพี่สาวบุญ​ธรรมอีกครั้ง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 136: เจียงเสวี่ยโหรว!

บทที่ 135: หอเทียนจี!


บทที่ 135: หอเทียนจี!

ที่โต๊ะริมหน้าต่าง ณ ร้านอาหารเทียนไห่

“น้องซิงหยู นี่เป็นร้านอาหารที่อร่อยที่สุดในเมืองหลงอิ๋นเลยนะ น้องสั่งได้ตามสบายเลย พี่เลี้ยงเอง!” ฉินเยี่ยนหรันพูดด้วยรอยยิ้มสดใส

เซียวซิงหยูมองเมนูที่เต็มไปด้วยอาหารน่ากินมากมาย เเต่พอเห็นราคาตาของเขาก็แทบจะถลนออกมาทันที​

“ราคาแพงจังเลยนะครับ...”

“พี่ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินหรอกน่า สั่งเลยๆ” ฉินเยี่ยนหรันพูดอย่างใจกว้าง

เเต่เมื่อยังเห็นท่าทางเกร็งๆของเซียวซิงหยู ฉินเยี่ยนหรันจึงหยิบเมนูเเล้วมายื่นให้พนักงาน

“เอาของขึ้นชื่อมาให้หมดเลยค่ะ”

“รับทราบค่ะคุณฉิน กรุณารอสักครู่นะคะ”

“พี่เยี่ยนหรัน สิ้นเปลืองเกินไปแล้วนะครับ เรามีแค่สองคนเอง…กินกันไม่หมดหรอก”

“กินไม่หมดก็ห่อกลับไปสิ เดี๋ยวพี่เอาไปฝากเด็กๆในกิลด์กินเป็นมื้อดึก” ฉินเยี่ยนหรันตอบ

ถึงแม้จะยังอายุน้อย แต่ฉินเยี่ยนหรันก็มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะสืบทอดตำแหน่งประธานกิลด์ ขาดเเค่เพียงความแข็งแกร่งเท่านั้น

ในเมืองหลงอิ๋น ถ้าพูดถึงความแข็งแกร่งกิลด์​พายุ​ถือว่าเหนือกว่ากิลด์​นภา​เล็กน้อย พวกเขา​จึงได้ครอบครองอันดับหนึ่ง

แต่ถ้าพูดถึงสวัสดิการและผลประโยชน์ที่สมาชิกกิลด์ได้รับ กิลด์​นภา​ถือเป็นสถานที่ทำงานในฝันของใครหลายๆคน ดีกว่างานราชการที่มั่นคงเสียอีก

…..

เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ เซียวซิงหยูและฉินเยี่ยนหรันก็เริ่มชนแก้วกัน

พวกเขา​ ดื่มเหล้าอุ่นๆทานกับแกล้มรสเลิศ พร้อมชมวิวกลางคืนนอกหน้าต่าง

ชีวิตที่สงบสุขเช่นนี้ ถือเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดในยุคสมัยนี้

เพราะในเวลาเดียวกัน​นี้ มีกองทัพอสูรที่ชายแดนกำลังรอคอยโอกาสที่จะบุกเข้ามาตลอดเวลา​

ถ้าวันใดวันหนึ่ง อสูรสามารถฝ่าแนวป้องกันชายแดนทั้งสี่ทิศของประเทศมังกร​มาได้ ประเทศชาติคงถึงคราวล่มสลายในทันที​

เมื่อถึงเวลานั้น อย่าว่าแต่ได้นั่งกินเนื้อดื่มเหล้าเลย แม้แต่ผู้รอดชีวิตก็อาจต้องกินศพของเพื่อน หรือแม้แต่คนในครอบครัวเพื่อประทังชีวิต!

เซียวซิงหยูรู้ดีถึงความโหดร้ายของยุคสมัยนี้ เขาจึงยิ่งเห็นคุณค่าของความสุขในปัจจุบันอย่างมาก

“พี่เยี่ยนหรัน ขอบคุณนะครับที่เลี้ยงข้าวนะครับ” เซียว​ซิง​หยู​ขอบคุณ​ด้วยความจริงใจ

“อย่าเกรงใจ​ไปเลยน้องซิงหยู นี่คือการฉลองที่น้องนำพาวิทยาลัยชิงหลงคว้าแชมป์การแข่งขันซูเปอร์โ​นวา​!” ฉินเยี่ยนหรันตอบพร้อมรอยยิ้ม

ทั้งคู่ชนแก้วกันอีกครั้ง เเล้วหัวเราะอย่างร่าเริง

เเต่ทันใดนั้นเอง

เสียงสนทนาจากโต๊ะข้างๆก็ได้ดึงดูดความสนใจของเซียวซิงหยู

“เพื่อน! คืนนี้ไม่เมาไม่กลับ!”

“ไม่ได้ๆ ฉันต้องไปงานประมูลของหอเทียนจีแล้ว ต้องไปหาสมบัติมาให้อสูรคู่หูของฉันเลื่อนขั้น!”

“งั้นฉันก็ไม่กินแล้วเหมือนกัน ไปกันเถอะ!”

ไม่ใช่แค่โต๊ะข้างๆ ลูกค้าหลายคนในร้านต่างเริ่มทยอยออก ท่ามกลางบทสนทนาที่วนเวียนอยู่กับคำว่า "หอเทียนจี"

“น้องซิงหยู สนใจหอเทียนจีเหรอ?” ฉินเยี่ยนหรันมองออกได้ในทันที

“พี่เยี่ยนหรัน ทำไมทุกคนถึงรีบไปหอเทียนจีกันเหรอครับ?” เซียวซิงหยูถามด้วยความสงสัย

ฉินเยี่ยนหรันรินเหล้าให้เซียวซิงหยู แล้วอธิบายอย่างใจเย็น

“น้องซิงหยู เห็นอาคารโบราณที่เปิดไฟสว่างไสวฝั่งตรงข้ามไหม?”

เซียวซิงหยูหันไปมอง ก็เห็นอาคารโบราณสูงกว่า 200 เมตร เเละเปิดไฟสว่างไสวทุกชั้น, ด้านล่างอาคารมีผู้คนมากมายกำลังต่อแถวรอเข้าไป

“นั่นแหละหอเทียนจี สถานที่จัดงานประมูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลงอิ๋น”

“คืนนี้เป็นคืนที่หอเทียนจีเปิดให้เข้าร่วมงานประมูล ในงานประมูลจะมีสมบัติมากมายจัดแสดงกว่าร้อยชิ้น ทั้งของวิเศษ แกนอสูรหายาก กระดูกอสูรที่มีสรรพคุณทางยา รวมถึงลูกอสูรด้วย”

“แต่แน่นอนว่า งานประมูลระดับนี้ ไม่ใช่ใครก็เข้าร่วมได้ ต้องมีสถานะทางสังคมระดับหนึ่ง”

หลังจากอธิบายจบ ฉินเยี่ยนหรันก็มองเซียวซิงหยูด้วยสายตาเป็นประกาย

“น้องซิงหยู อยากไปงานประมูลที่หอเทียนจีหรือเปล่า?”

เซียวซิงหยูพยักหน้า งานประมูลเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการหาของดีราคาถูก…​เขาย่อมสนใจของเเบบนี่อยู่แล้ว

“งั้นไปกันเถอะ!” ฉินเยี่ยนหรันจับมือเซียวซิงหยูลุกขึ้นทันที

“พี่เยี่ยนหรันจะพาผมไปไหนเหรอครับ?”

“ไปหอเทียนจีไง”

“ห๊ะ?”

“ห๊ะอะไรล่ะ?”

“อย่างแรก พี่จะพาเธอไปเปิดหูเปิดตา อย่างที่สอง ถ้ามีสมบัติอะไรที่เธอชอบ พี่จะซื้อให้เป็นของขวัญฉลองที่เธอชนะเลิศการแข่งขันซูเปอร์โนว่า!”

การมีพี่สาวรวยๆเเบบเซียวซิงหยู นี่มันดีจริงๆเลย

“พนักงานคะ อาหารที่เหลือช่วยห่อกลับไปส่งที่กิลด์​นภา​ด้วยนะคะ”

“รับทราบค่ะ คุณฉิน”

ไม่นาน ฉินเยี่ยนหรันก็จูงมือเซียวซิงหยูมาถึงหน้าหอเทียนจี

ตอนนี้, หน้าประตูมีผู้คนมากมายกำลังต่อแถวรอเข้าไป

เเละเมื่อเซียวซิงหยูเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็เห็นทางเข้าสองทางที่มีป้ายต่างกัน

ทางเข้าที่มีคนต่อแถวยาวเหยียด เขียนว่า "ทางเข้าทั่วไป"

ส่วนอีกทางเข้าที่มีคนน้อยกว่ามากเเละมันเขียนว่า "ทางเข้าวีไอพี"

ฉินเยี่ยนหรันพาเซียวซิงหยูไปที่ทางเข้าวีไอพี แล้วนำตราสัญลักษณ์ของกิลด์​นภา​ออกมาแสดง

“เชิญครับ คุณฉิน” ยามรักษาการณ์โค้งคำนับในทันที

นี่คืออิทธิพลของกิลด์​นภา​ ในเมืองหลงอิ๋น พวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้

เมื่อเข้าไปในห้องโถงชั้นหนึ่งของหอเทียนจี เซียวซิงหยูก็เริ่มตื่นตาตื่นใจกับภาพที่เห็น, บนผนังของห้องโถงเต็มไปด้วยหัวกะโหลก หนัง และตัวอย่างสัตว์อสูรนานาชนิด

“ขนนกของเหยี่ยวพายุ ปลายหางของนาคาพายุน้ำแข็ง กะโหลกของคิงคองดำ...พวกนี้มันสมบัติหายากทั้งนั้นเลย!”

“น้องซิงหยู ของพวกนี้ไม่ได้มีไว้ขายนะ มันเป็นของสะสมส่วนตัวของเจ้าของหอเทียนจี”

“เจ้าของหอเทียนจี?” เซียวซิงหยูเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

“เจ้าของหอเทียนจีก็คือเจียงเสวี่ยโหรว หรือก็คือผู้นำของหอเทียนจีนั่นแหละ” ฉินเยี่ยนหรันตอบ

เซียวซิงหยูไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่เขาก็พอจะเดาพลังของอีกฝ่ายได้

“การที่สามารถเป็นเจ้าของหอเทียนจีที่เต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่าขนาดนี้ แถมยังมีสิทธิ์จัดงานประมูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลงอิ๋นได้ แสดงว่าเบื้องหลังของคนผู้นั้นต้องไม่ธรรมดาเเน่ๆ” เซียว​ซิง​หยู​พึมพำ​ในใจเงียบๆ

“หลบไป!”

“หลบไปให้หมด อย่ามาขวางทางคุณชายลี่!”

เเต่ทันใดนั้น, อยู่ๆมันก็เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นตรงทางเข้าห้องโถงชั้นหนึ่ง

เซียวซิงหยูหันไปมอง เขาก็เห็นแขกหลายคนนอนกองอยู่กับพื้น พร้อมรร่องรอย​อาการ​บาดเจ็บฟกช้ำดำเขียว

ผู้คนรอบข้างต่างถอยห่าง ถึงแม้พวกเขา​จะไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา

หลังจาก​นั้น, ชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดหรูหราก็เดินเข้ามาในห้องโถงพร้อมกับกลุ่มชายฉกรรจ์ชุดดำ

ชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้หล่อเหลาหรือรูปร่างสูงใหญ่ แต่ท่าทางของเขากลับเย่อหยิ่งจองหองจนดูน่ารังเกียจอย่างมาก

เเละสิ่งที่ทำให้ชายคนนี้แสดงกิริยาอวดดีได้ คงเป็นตราสัญลักษณ์สีม่วงที่ห้อยอยู่ที่เอวของเขา

บนตราสัญลักษณ์นี้…มันสลักเป็นรูปสัญลักษณ์ของกิลด์​พายุ​

“ดูท่าแล้ว คนๆนี้คงเป็นคุณชายหลี่หาน…จอมเอาแต่ใจของกิลด์​พายุ​สินะ” เซียวซิงหยูพึมพำกับตัวเอง

หลี่หานเคี้ยวหมากฝรั่งอยู่ในปาก เเละเริ่มพูดด้วยท่าทางก้าวร้าว

“พวกเเกมองอะไรกัน? คิดว่าฉันเป็นตัวตลกเหรอ? ถ้ายังกล้ามองอีก ฉันจะควักลูกตาพวกแกทิ้งซะ!”

ทุกคนต่างพากันหลบหน้า ไม่กล้ามีเรื่องกับลี่หาน

กิลด์​พายุ​เป็นกิลด์อันดับหนึ่งของเมืองหลงอิ๋น

ลี่หานเป็นลูกชายของประธานกิลด์​พายุ​ ลี่เจียงเหอ และเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลลี่

ด้วยเหตุนี้ ลี่หานจึงมักจะทำเรื่องเลวร้ายต่างๆในเมืองหลงอิ๋นได้อย่างสบายใจ​ โดยอาศัยชื่อเสียงของพ่อบังหน้า

เมื่อลี่หานเห็นฉินเยี่ยนหรัน เขาก็แสยะยิ้มอย่างหื่นกระหาย

“เยี่ยนหรัน เธออยู่นี่เอง บังเอิญจังเลย~”

“ลี่หาน ออกไปให้พ้น ฉันไม่อยากยุ่งกับนาย” ฉินเยี่ยนหรันพูดพร้อมสีหน้าเย็นชา

ณ เวลานี้…ลี่หานก็ได้สังเกตเห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆฉินเยี่ยนหรัน

ตอนนี้​เซียวซิงหยูยืนใกล้ชิดกับฉินเยี่ยนหรันมาก แถมฉินเยี่ยนหรันยังจับมือเขาอยู่อีกด้วย

ภาพที่เห็นทำให้สีหน้าของลี่หานเปลี่ยนไปในทันที

……………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด