บทที่ 134: เดทกับพี่สาวบุญธรรมอีกครั้ง!
บทที่ 134: เดทกับพี่สาวบุญธรรมอีกครั้ง!
ช่วงกลางวัน เซียวซิงหยูเข้าเรียนตามปกติ…เเต่ตอนนี้บรรยากาศในทุกๆ ชั้นเรียนเต็มไปด้วยความตึงเครียด
นั่นเพราะการสอบกลางภาคใกล้เข้ามาเเล้ว นักเรียนทุกคนต่างก็รู้สึกกังวลอย่างมาก
อู๋เซิงโย่วคาบปลายดินสอ มือถือ "คู่มือการปราบอสูรร้าย" ด้วยหน้าตาที่บูดบึ้ง
"เฮ้อ สอบตกยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเอาชีวิตไปทิ้งในสนามสอบนี่สิเรื่องใหญ่กว่ามากเลย"
ขบวนรถไฟหมายเลข 13 คือสนามสอบกลางภาค
ในตอนนั้น รถไฟจะต้องผ่านเส้นทางอันตรายเเละจะมีอสูรร้ายมากมายมาโจมตีขบวนรถไฟ
ถ้ารถไฟตกราง ตกลงไปในหุบเขาหรือแม่น้ำ ทุกคนบนรถไฟจะต้องตาย
แม้ว่าโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุแบบนี้จะน้อยมาก แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
เเถมความกังวลของอู๋เซิงโย่ว ก็คือความกังวลของนักเรียนทุกคนในห้อง
ดังนั้น, ในช่วงเวลาเรียนรู้ด้วยตนเอง ทุกคนต่างพูดคุยกันเรื่อง "การเขียนพินัยกรรมล่วงหน้า"
…..
ตอนเย็นหลังเลิกเรียน
ซ่งหู่เดินมานั่งบนโต๊ะของเซียวซิงหยู พร้อมบัตรโรงอาหาร
"ซิงหยู ไปโรงอาหารกันไหม? วันนี้ฉันเลี้ยงเอง!"
"ขอบคุณที่อย่างเลี้ยงนะ แต่ฉันมีนัดแล้ว"
เซียวซิงหยูเก็บกระเป๋าเเล้วเดินออกจากห้องเรียน ทิ้งให้ซ่งหู่และอู๋เซิงโย่วยืนงงเป็นไก่ตาแตก
"อู๋เซิงโย่ว นายว่าวันนี้ซิงหยูมีนัดกับใคร?"
อู๋เซิงโย่ววิเคราะห์อย่างจริงจังเเล้วตอบอย่างไม่มั่นใจ
"ตอนนี้ซิงหยูเป็นคนดังที่สุดในวิทยาลัยชิงหลง คงจะมีสาวๆเข้าหาเขามากมายแน่ๆ"
"อย่างไรก็ดี คนที่กล้าเข้าหาเเบบจริงๆจังๆคงเป็นพวกดาวโรงเรียน, เเละดาวโรงเรียนของวิทยาลัยชิงหลงก็มีเเค่ พี่เย่ซวงหนิง มู่หรงซินซิน เฉินเข่อเหริน แล้วก็ยัยตาสองสีคนนั้นที่ชื่อ…ไป๋หวั่นเกอ"
"ใช่ๆ ไป๋หวั่นเกอ!"
คนที่อู๋เซิงโหย่วและซ่งหู่กำลังพูดถึง คือสี่ดาวโรงเรียนของวิทยาลัยชิงหลง
คนที่โด่งดังที่สุดคือเย่ซวงหนิง สาวน้อยอัจฉริยะในตำนาน
นอกจากเย่ซวงหนิงแล้ว ตอนนี้ความนิยมของมู่หรงซินซินก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นั่นเป็นเพราะมู่หรงซินซินมักจะอยู่ใกล้ๆเซียวซิงหยู เเถมทั้งสองยังเข้าร่วมการแข่งขันซูเปอร์โนว่ามาด้วยกัน
ตอนนี้, กระแสของเซียวซิงหยู สูงกว่าสี่ดาวโรงเรียนมาก
ดังนั้น ความนิยมของมู่หรงซินซินในสี่ดาวโรงเรียน จึงได้รับอิทธิพลมาจากเซียวซิงหยูด้วย
…..
หลังเลิกเรียน
อาคารเรียนก็เหมือนกับปลากระป๋องที่เพิ่งเปิดฝา ผู้คนทะลักออกมาจากประตูแคบๆ
คนที่โดดเด่นที่สุดในฝูงชนคือพี่น้องที่มีผมสีขาว
มู่หรงหยางซั่วและมู่หรงซินซินกำลังเดินเคียงข้างกัน
พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ พี่น้องทั้งสองจึงวางแผนที่จะกลับบ้าน
"น้องสาว ได้ยินว่าพ่อกลับมาแล้ว คืนนี้กลับบ้านไปต้องมีของอร่อยกินแน่ๆ!"
ถึงภายนอกของมู่หรงจินจะเป็นพลเรือเอกแห่งกองทัพเรือมังกร ที่ดูสง่างามและน่าเกรงขาม
แต่ที่บ้าน เขากลับเป็นหนึ่งในพ่อบ้านที่ทำอาหารได้เก่งกาจมาก
เเละนั่นก็เป็นเพราะภรรยาของเขาเสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่ม เขาจึงต้องเลี้ยงลูกสองคนมาเพียงลำพัง
ถึงแม้เขาจะไม่สามารถให้ความรักของแม่แก่ลูกๆได้ แต่หน้าที่ของแม่ เขาก็ทำเองได้ทั้งหมด
เเละเมื่อได้ยินคำพูดของพี่ชาย, ใบหน้าที่เย็นชาเหมือนน้ำแข็งของมู่หรงซินซินก็แสดงรอยยิ้มออกมาอย่างที่ไม่ค่อยจะได้เห็นนัก
"ฉันก็คิดถึงอาหารที่พ่อทำเหมือนกัน"
เเต่ทันใดนั้น มู่หรงหยางซั่วก็หยุดเดิน เเล้วหันไปมองด้านข้าง
"พี่ชาย มีอะไรเหรอ?"
"ดูคนนั้นสิ หน้าคุ้นๆไหม?"
มู่หรงซินซินมองตามสายตาของมู่หรงหยางซั่ว
"เซียวซิงหยู"
มู่หรงซินซินเห็นแค่เงารางๆ ในฝูงชน ก็จำเซียวซิงหยูได้ทันที
"เป็นหมอนั่นจริงๆ ด้วย!"
มู่หรงหยางซั่วจับแขนมู่หรงซินซิน วิ่งไปหาเซียวซิงหยู
"ซิงหยู!"
เซียวซิงหยูรู้สึกว่ามีคนมาตบบ่า ้ขาจึงหันไปมอง เเล้วก็ได้เห็นคนคุ้นเคยสองคน
"พี่หยางซั่ว ซินซิน บังเอิญจัง~"
"ซิงหยู ทำไมนายยิ้มหน้าบานขนาดนี้…เจอเรื่องอะไรดีๆมาเหรอ?"
วันนี้เซียวซิงหยูดูมีความสุขเป็นพิเศษ มู่หรงหยางซั่วจึงอดไม่ได้ที่จะเเสดงความอยากรู้อยากเห็นออกมา
"ก็เหมือนวันปกตินั่นแหละครับ แค่มีความสุขเฉยๆ~"
มู่หรงซินซินพูดแทรกขึ้นมา "เเต่วันนี้นายทำผมทรงใหม่ แถมยังใส่เสื้อผ้าใหม่ด้วย"
ปกติเซียวซิงหยูไม่ค่อยสนใจเรื่องรูปลักษณ์มากเท่าไหร่, เเต่วันนี้เขากลับแต่งตัวดูดีขึ้น ทำให้ใบหน้าที่หล่อเหลาอยู่เเล้วดูหล่อเหลามากขึ้นไปอีกขั้น
ทันใดนั้น, มู่หรงหยางซั่วก็โอบไหล่เซียวซิงหยู
"ซิงหยู คืนนี้ไปกับพวกเราสิ"
"ไปไหน?"
"ไปบ้านฉันไง!"
มู่หรงหยางซั่วเอ่ยปากชวนเซียวซิงหยูไปที่บ้าน
การไปเยี่ยมบ้านตระกูลมู่หรง ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างคอนเนคชั่นสำหรับใครหลายๆคน
ต้องรู้ว่าคนทั่วไปไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับตระกูลมู่หรง ตระกูลที่มีชื่อเสียงระดับนี้มักจะระมัดระวังตัวมาก
"พ่อฉันกลับมาบ้านวันนี้ มาทานข้าวที่บ้านฉันสิ…แล้วเราจะเเนะนำนายให้รู้จักกับท่าน!"
มู่หรงหยางซั่วเป็นเพื่อนที่ดี เขาอยากช่วยเซียวซิงหยูสร้างคอนเนคชั่น ให้เพื่อนของเขามีที่พึ่งพาหลายๆทางในอนาคต
เเต่สถานการณ์นี้ทำให้เซียวซิงหยูได้เเต่เกาหัวอย่างเขินอาย
เพราะเมื่อนึกถึงตัวเองในฐานะชายชุดดำที่ต่อสู้กับมู่หรงจินที่เกาะน้ำแข็งเพลิง เขาก็รู้สึกไม่กล้าไปบ้านมู่หรงขึ้นมทันที
"พี่หยางซั่ว ขอบคุณสำหรับคำเชิญนะ เเต่เอาไว้คราวหน้าแล้วกัน"
"ไม่เอาน่า ทำไมถึงปฏิเสธล่ะ?"
"วันนี้ผมมีนัดแล้ว"
คำพูดของเซียวซิงหยู ทำให้มู่หรงซินซินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
"นัดกับใครหรอ?" มู่หรงหยางซั่วถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“นัดกับพี่สาวครับ”
“เซียวรั่วเสวี่ย?”
“ไม่ใช่ครับ เป็นพี่สาวที่ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน”
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เเล้วเซียวซิงหยูก็รีบรับสาทันที
เสียงของฉินเยี่ยนหรันดังมาจากปลายสาย
“น้องซิงหยู พี่รออยู่ที่ประตูหลังโรงเรียนนะ~”
“พี่เยี่ยนหรัน ผมกำลังไปเดี๋ยวนี้”
หลังจากวางสาย เซียวซิงหยูก็โบกมือลาพี่น้องมู่หรง
“พี่หยางซั่ว ซินซิน ไว้โอกาสหน้าเจอกันนะ…เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง!”
มู่หรงหยางซั่วยืนนิ่ง เเล้วพึมพำกับตัวเองเบาๆ “พี่สาวที่ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน? นั่นมันหมายความว่ายังไง…”
“น้องสาว เราตามไปดูกันเถอะ!”
……
เมื่อพี่น้องมู่หรงมาถึงประตูหลังโรงเรียน พวกเขาก็เห็นรถสปอร์ตเปิดประทุนราคาแพงจอดอยู่ข้างทาง
บนเบาะคนขับมีสาวสวยรูปร่างสะโอดสะองนั่งอยู่ ออร่าของเธอแสดงออกถึงเสน่ห์ของสาวที่เติบโตแล้วอย่างชัดเจน
เเน่นนอนว่าเธอคือฉินเยี่ยนหรัน ลูกสาวของประธานกิลด์นภา
“พี่เยี่ยนหรัน!”
“ซิงหยู ไม่ได้เจอกันนานเลย…พี่สาวคิดถึงจะแย่แล้ว!”
หลังจากทักทายกันเล็กน้อย, พี่น้องมู่หรงก็เห็นเซียวซิงหยูนั่งบนเบาะข้างคนขับของฉินเยี่ยนหรัน จนกระทั่งรถหายไปจากหัวมุมถนน
“ผู้หญิงคนนั้นมันฉินเยี่ยนหรันแห่งกิลด์นภาไม่ใช่เหรอ?...เห้อ หุ่นดีจริงๆเเฮะ~”
เมื่อมู่หรงหยางซั่วพูดจบ, เขาก็รู้สึกได้ถึงจิตสังหารด้านหลัง
“เอ่อ…ถึงฉินเยี่ยนหรันจะหุ่นดี แต่เธอก็สู้ความสวยของน้องสาวฉันไม่ได้หรอก!”
มู่หรงซินซินจ้องพี่ชายเขม็ง จากนั้นเธอก็มองไปที่หัวมุมถนนอย่างเหม่อลอย…ตอนนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเด็กสาวคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่
เเละเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้, มู่หรงหยางซั่วก็ตบบ่ามู่หรงซินซินเบาๆ
“น้องสาว เธอก็เห็นแล้ว ผู้ชายที่มีทั้งพรสวรรค์และหน้าตาดีแบบเซียวซิงหยูเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆมากมายขนาดใหน”
"ถ้าอยากให้เซียวซิงหยูเป็นลูกเขยของตระกูลมู่หรง เธอก็ต้องรุกบ้างแล้ว!"
มู่หรงซินซินกระพริบตา ผมสีขาวบนหัวปลิวไสวไปตามสายลม
"หนูไม่รู้จะรุกยังไง"
"นั่นสินะ…เเถมเรื่องแบบนี้ ให้ผู้หญิงรุกก่อนก็ไม่ดี…"
มู่หรงหยางซั่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปิ๊งไอเดียบางอย่างขึ้นมา
"น้องสาว เอาอย่างนี้ดีกว่า รอสอบกลางภาคเสร็จ พี่จะหาโอกาสสร้างสถานการณ์ให้พวกเธอได้อยู่กันสองต่อสอง!"
หลังจากมู่หรงหยางซั่วพูดจบ, แผนการต่างๆก็ผุดขึ้นมาในหัวเขามากมาย
…………………