ตอนที่แล้วบทที่ 58 พายุกำลังมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 60 เจ้าหญิงกับความฝัน

บทที่ 59 เปิดฉาก


เรื่องนี้จะมีตอนฟรีทั้งหมด 1-200 ตอน และ....ถ้ายอดกดไลก์เพิ่ม 100 ก็จะแถมให้ฟรี 20 ตอนครับ (ปล.เริ่มนับจาก 8700 นะ เช่นขึ้นไป 8800 ก็บวกให้ 20 ตอน ถ้ายอดมันขึ้นยันจบเรื่อง ก็เปิดให้ฟรีหมดอะ)

*ครบหมื่น แถม 100 ตอนไปอีก เอาเป็นว่าจำกัดวันด้วยแล้วกัน เพราะงี้ถ้าเกิดครบขึ้นมาแบบ 2 ปีต่อมาลืมแหง เอาถึง 1/4/2568 นะครับ ก็คือ 1 เมษายน*

แฟนเพจกดไลก์ได้ที่ ยักษาแปร | Facebook

บทที่ 59 เปิดฉาก

ฉู่อันฉิงมาด้วยเหรอ?

หลินเสวียนรู้สึกเหมือนกำลังจะได้เล่นไพ่กวนอูกับกลุ่มคนนี้เต็ม ๆ เลย

งานเลี้ยงเล็ก ๆ นี่ช่างมีคนมากมายหลายประเภทมารวมตัวกันจริง ๆ

ปกติแล้ว การที่ผู้ชายพาครอบครัวมาร่วมงานเลี้ยงถือเป็นมารยาทที่ดีที่สุด แสดงให้เห็นถึงความให้เกียรติงานเลี้ยงนี้

ฉู่ซานเหอพาลูกสาวมาด้วยก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกนะ ยกเว้น…

สายตาเหมือนยิ้มไม่ยิ้มของจ้าวอิงจวิ้น!

เห็นได้ชัดเลยว่า

ความเข้าใจผิดเรื่องภาพวาดเมื่อก่อนนั้น ยังไม่คลี่คลาย

“คุณจ้าวครับ”

หลินเสวียนรู้สึกว่าต้องพูดให้ชัดเจน ตรงไปตรงมา:

“ผมว่าเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดที่ไม่ควรเกิดขึ้นในอนาคต ผมควรจะพูดตรง ๆ เลยดีกว่าครับ”

“คุณพูดมาเลยค่ะ”

“ภาพวาดนั้นผมวาดเล่น ๆ นะครับ คุณบอกว่ามันคล้ายกับฉู่อันฉิง มันก็แค่บังเอิญจริง ๆ”

“แล้วก็อย่างนี้ครับ คุณฉู่ซานเหอเป็นคนยังไงเราก็รู้กันดี ลูกสาวเขายังเด็กขนาดนั้น…ผมก็ไม่ได้อยากตายเร็ว ๆ นี่นา ทำไมผมจะไปคิดอะไรอย่างนั้นล่ะครับ”

จ้าวอิงจวิ้นหัวเราะออกมาเพราะหลินเสวียน:

“พูดตรงไปตรงมาดีกว่า แม้จะหยาบคายหน่อย แต่ก็ถูกต้อง ไหน ๆ คุณก็พูดออกมาแล้ว งั้นคุณก็คงเข้าใจดีว่ามันอันตรายแค่ไหน ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอก แค่อยากให้คุณระวังอย่าไปสร้างปัญหาให้ตัวเองก็เท่านั้น”

“ฉู่ซานเหอไม่ใช่แค่ประธานหอการค้าธรรมดา ๆ นะ พลังอำนาจของเขา คุณค่อย ๆ รู้เองก็ได้ แต่นี่คือคนที่ห้ามยุ่งด้วยที่สุดในเมืองตงไห่เลยล่ะ”

“ส่วนเรื่องที่ฉู่อันฉิงกับภาพวาดของคุณเหมือนกันหรือเปล่า...พรุ่งนี้เย็น คุณเจอตัวเธอแล้วก็จะรู้เอง”

หลินเสวียนพยักหน้า เขาเองก็อยากรู้เรื่องนี้มากเช่นกัน คำตอบจะปรากฏในงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จพรุ่งนี้เย็น

ต่อมา...

หลินเสวียนก็ออกจากห้องทำงานของจ้าวอิงจวิ้น กลับไปทำงาน

……

หลังเลิกงานบ่าย

เขามาเจอเกาหยางที่ร้านอาหารเล็ก ๆ ที่ทั้งคู่ชอบไปประจำ

อีกฝ่ายถอดเสื้อกันหนาวออก มองหลินเสวียนด้วยสีหน้าคาดหวัง:

“จริงเหรอวะ เพื่อนรัก! แกจะชวนฉันไปกินมื้อเย็นที่วิคตอเรียคลับ? บุฟเฟ่ต์ที่นั่นก็หลักหมื่นเลยนะ!”

หลินเสวียนหัวเราะเบา ๆ

หยิบการ์ดเชิญสีแดงขึ้นมาโบกไปโบกมา

“เพื่อนรัก——”

เกาหยางคว้าการ์ดเชิญไปจากมือหลินเสวียนด้วยท่าทางคล่องแคล่ว เปิดออกดูแล้วก็ยิ้มแฉ่ง

พึมพำอยู่ไม่หยุดว่า ดีจัง ๆ ดีจัง ๆ

น้ำลายไหลย้อยลงมาจนเห็นได้ชัด:

“ฉันอยากรู้จริง ๆ …ว่าพวกคนชั้นสูงนี่ กินอะไรกันวะ ถึงได้กล้าคิดราคาแพงขนาดนี้!”

“ว่าแต่หลินเสวียน ช่วงนี้เราสองคนก็ยุ่งมาก ฉันเลยยังไม่ได้ถามเรื่องที่แกไปหาจิตแพทย์ครั้งนั้นเลย……”

เกาหยางหยิบซองเชิญใส่กระเป๋า แล้วหันไปมองหลินเสวียน

“หลังจากนั้นแกไปตรวจสอบแล้วใช่ไหม? ถอดหน้ากากผู้หญิงคนนั้นออกแล้วหรือยัง?”

หลินเสวียนวางตะเกียบลง พยักหน้า

“ตรวจสอบแล้ว หมอหลิวพูดถูก ความฝันของฉันน่ะแค่เรื่องแต่งล้วน ๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก”

“เรื่องนี้ฉันไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย ถ้าแกไม่เอ่ยขึ้นมาก่อน ฉันก็ลืมไปแล้ว”

เขาโกหก ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเกาหยาง แต่…

การยืนยันว่าความฝันคืออนาคตที่เป็นจริง ก็หมายความว่าสโมสรอัจฉริยะก็มีอยู่จริงเช่นกัน และมันแฝงตัวอยู่ในม่านหมอกแห่งประวัติศาสตร์ บางทีอาจอยู่ใกล้ตัวเขาก็ได้

เขาไม่อยากลากเกาหยางผู้บริสุทธิ์เข้าไปพัวพันกับเรื่องอันตราย

ดังนั้นการโกหกจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพื่อเขาจะได้ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป ปกติเขาก็เหนื่อยกับการทำงานขายรถอยู่แล้ว

“งั้นก็ดี ฮ่า ๆ ตกใจหมดเลย!”

เกาหยางยกแก้วขึ้น หัวเราะร่าแล้วชนแก้วกับหลินเสวียน ดื่มรวดเดียวหมดแก้ว

“เฮ้อ เสียดายจัง! เดิมทีฉันยังหวังว่าจะรวยจากความฝันของแกเลย!”

นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน ทั้งสองคนมีเรื่องมากมายที่อยากจะพูดคุย แน่นอนว่าคงไม่กินข้าวเสร็จแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน

หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้ว ทั้งคู่ก็ไปที่บาร์ประจำ นั่งเล่นกันอีกสองชั่วโมง จนถึงตีหนึ่งกว่าจึงกลับบ้าน

ยังไงพรุ่งนี้ก็วันเสาร์ นอนหลับได้จนเที่ยง แล้วค่อยตื่นมาเตรียมตัวไปงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จก็ได้

……

วันรุ่งขึ้น

อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว เกล็ดหิมะโปรยปรายลงมาเบาบาง ค่อย ๆ หนาขึ้น ปกคลุมเมืองหลวงนานาชาติแห่งนี้ด้วยความขาวโพลนราวกับหยก

วันที่ 31 ธันวาคม 2565 วันเสาร์

วันสุดท้ายของปี 2022 เมืองตงไห่ได้เห็นหิมะตกหนักเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

หิมะแรกของปีนี้ บรรจงนำพาความอุดมสมบูรณ์มาสู่ปีใหม่

แอ๊ด——

หลินเสวียนผลักบานหน้าต่างที่ไม่ได้เปิดมานานออก

ยื่นมือออกไปนอกหน้าต่างสัมผัสความเย็นยะเยือกของเกล็ดหิมะที่โปรยปรายลงบนปลายนิ้ว

เกล็ดหิมะเบาบางเหล่านั้น...

ดูเหมือนผลึกน้ำแข็งละลายเป็นหยดน้ำบนปลายนิ้วของหลินเสวียนอย่างช้า ๆ

เขาเงยหน้ามองเมืองที่ห่มด้วยหิมะขาวโพลน

“หิมะตกแล้ว”

ต่างจากทางเหนือ การที่หิมะตกในเมืองตงไห่นั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “หิมะตกหนัก” ในวันนี้

ที่เรียกว่าหิมะตกหนักก็แค่เทียบกับปีที่ผ่าน ๆ มาเท่านั้นแหละ

ความจริงแล้ว ถึงแม้จะตกตั้งแต่เช้าจนเย็น แต่ก็แค่สะสมบนพื้นเป็นชั้นบาง ๆ

พอเหยียบลงไปก็กลายเป็นโคลนน้ำแข็งสีเทาปนน้ำแข็งละลาย แล้วค่อย ๆ ละลายหายไปกับผู้คนและรถราบนท้องถนน

กลางวันในฤดูหนาวสั้นมาก

เมื่อหลินเสวียนเตรียมตัวแต่งตัวเสร็จและออกจากบ้านตอนประมาณหนึ่งทุ่มกว่า ๆ ท้องฟ้าข้างนอกก็มืดมิดเกือบสนิทแล้ว

เขามาถึงวิคตอเรียคลับ

พอเข้าไปข้างในก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาก

ในสายตาของหลินเสวียน คลับแห่งนี้ดูหรูหราอลังการกว่าคลับที่ฉู่ซานเหอจัดงานเลี้ยงครั้งก่อนเสียอีก

คลับนั้นดูเก่าไปหน่อย

แต่ความหรูหราล้ำค่ามันอธิบายยาก บางทีกลิ่นอายเก่า ๆ นั่นอาจเป็นเสน่ห์อันล้ำค่าในสายตาของคนชั้นสูงก็ได้

ตรงกลางห้องโถงมีเวทีขนาดเล็ก รอบนอกก็ยังเป็นโต๊ะและเก้าอี้สำหรับบุฟเฟ่ต์เหมือนเดิม เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่มีอาหารและเครื่องดื่ม

ถ้าจะพูดถึงของตกแต่งที่โดดเด่นที่สุดในห้องโถง... นั่นก็คือตุ๊กตาแมวไรน์ขนาดต่าง ๆ ที่วางอยู่ทั่วไปนี่แหละ

ตุ๊กตาแมวไรน์เต็มไปหมดทุกหนแห่ง ทั้งบนบันได มุมห้อง โต๊ะอาหาร และแม้แต่ที่วางของขวัญ

หลายตัวเป็นรุ่นใหม่ น่ารักน่าเอ็นดูเป็นพิเศษ

หลินเสวียนเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ

แปดโมงครึ่งแล้ว

งานเลี้ยงฉลองความสำเร็จวันนี้จึงเริ่มดึกขนาดนี้ก็เพราะเป็นวันที่พิเศษ คือวันสุดท้ายของปี 2022

พนักงานส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นวัยรุ่นที่ยังไม่แต่งงาน

จึงจัดงานเลี้ยงฉลองปีใหม่พร้อมกันไปเลยที่นี่

แขกที่มาร่วมงานวันนี้ตั้งใจจะรอเคาท์ดาวน์กันอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องทานอาหารกันเร็วเกินไป

“คุณหลิน ศาสตราจารย์สวี่หยุนกำลังจะมาแล้ว ไปรับที่ประตูกับฉันหน่อย”

จ้าวอิงจวิ้นเดินออกมาจากห้องด้านในแล้วเรียกหลินเสวียน

หลินเสวียนพยักหน้าแล้วเดินตามจ้าวอิงจวิ้นไป

วันนี้เธอยังคงดูสง่างามดุดันเช่นเดิม สวมชุดราตรีสีแดงเข้มตัดเย็บอย่างประณีต ดูสง่าราวกับแก้วไวน์แดงสูงเพรียว ต่างหูเพชรสีแดงระยิบระยับไปตามจังหวะการก้าวเดินด้วยรองเท้าส้นสูง สะท้อนแสงสีแดงสดใส

“ศาสตราจารย์สวี่หยุนมาด้วยวิธีไหนครับ?”

“เขามาเองโดยการเรียกรถแท็กซี่ค่ะ” จ้าวอิงจวิ้นตอบอย่างเหนื่อยอ่อน

“ฉันจัดรถไปรับท่านแล้ว แต่เขาไม่อยากให้ดูโอ้อวดมาก โดยเฉพาะที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยยังมีนักข่าวหลายคนเฝ้าอยู่ เขาเลยยืนยันจะนั่งแท็กซี่มาเอง”

“อืม เข้าใจได้ เป็นสไตล์ท่านจริง ๆ”

ทั้งสองเดินออกมาจากล็อบบี้ ยืนอยู่บนบันได อุณหภูมิลดฮวบลงอย่างรวดเร็ว

พนักงานเสิร์ฟมืออาชีพสองคนข้างกาย รีบกางร่มสีดำขึ้นทันที เพื่อบังหิมะที่โปรยปรายให้ทั้งคู่

จ้าวอิงจวิ้นเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ แล้วถูแขนไปมา:

“น่าจะถึงแล้วล่ะ ฉันโทรหาเขาไปแล้ว เขาแยกตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว”

เธอยิ้มมองหลินเสวียน:

“ที่เมืองตงไห่นี้ จะเชิญศาสตราจารย์สวี่หยุนมาร่วมงานเลี้ยงแบบนี้ได้ นอกจากฉู่ซานเหอแล้ว ก็คงมีคุณคนเดียวเท่านั้นแหละ”

“คุณหลิน ถึงฉันจะไม่รู้ว่าคุณช่วยศาสตราจารย์สวี่หยุนเรื่องอะไร หรือไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงให้เกียรติคุณขนาดนี้ แต่ฉันก็ต้องขอบคุณคุณจริง ๆ ที่ช่วยบริษัท MX ผ่านวิกฤตครั้งนี้มาได้”

หลินเสวียนส่ายหัว:

“ผมก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของบริษัท MX มันเป็นเรื่องที่ควรทำอยู่แล้วครับ”

รถแท็กซี่คันหนึ่งโผล่มาที่โค้งหน้าประตู ขับตรงมายังบันได น่าจะเป็นศาสตราจารย์สวี่หยุนมาถึงแล้ว

จ้าวอิงจวิ้นและหลินเสวียนเดินออกมาจากใต้ร่ม

เมื่อรถแท็กซี่จอดสนิท หลินเสวียนก็รีบเปิดประตูรถให้สวี่หยุน:

“อาจารย์สวี่ครับ คุณมาแล้ว”

สวี่หยุนหัวเราะเบา ๆ จับมือหลินเสวียนก่อนจะหันไปจับมือจ้าวอิงจวิ้น

“คุณจ้าว ขอบคุณมากนะครับสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น”

“ศาสตราจารย์พูดเกินไปแล้วค่ะ” จ้าวอิงจวิ้นยิ้มรับอย่างสุภาพ

“จริง ๆ แล้วพวกเราต่างหากที่ได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์”

“เชิญเข้ามาข้างในเลยครับศาสตราจารย์ ข้างนอกหนาวนะครับ เข้ามาข้างในกันเถอะ”

วันนี้ศาสตราจารย์สวี่หยุนอารมณ์ดีเป็นพิเศษ แต่งตัวดี สวมสูทเรียบร้อยดูดีทีเดียว

เขาเคาะรองเท้าเบา ๆ บนพรมสีแดง เขี่ยหิมะที่ติดอยู่ที่ขอบรองเท้าออก ก่อนเดินเข้าห้องจัดเลี้ยงพร้อมจ้าวอิงจวิ้น

หลินเสวียนเดินตามหลังทั้งสอง หันกลับไปมองรถแท็กซี่ที่แล่นหายไป และร่องรอยล้อรถที่กำลังค่อย ๆ ถูกหิมะกลบฝัง

เขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง

แต่บอกไม่ถูกว่ามันไม่ถูกต้องตรงไหน

“คุณหลิน?”

เขาหันกลับไป พบจ้าวอิงจวิ้นและสวี่หยุนหันมารออยู่แล้ว

“เข้ามาข้างในกันเถอะ”

จ้าวอิงจวิ้นยิ้มบาง ๆ ชี้ไปยังกลุ่มคนที่กำลังปรบมือและส่งเสียงโห่ร้องในห้องโถง

“งานเลี้ยง…

“จะเริ่มแล้ว”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด