บทที่ 56 อันฉิง
เรื่องนี้จะมีตอนฟรีทั้งหมด 1-200 ตอน และ....ถ้ายอดกดไลก์เพิ่ม 100 ก็จะแถมให้ฟรี 20 ตอนครับ (ปล.เริ่มนับจาก 8700 นะ เช่นขึ้นไป 8800 ก็บวกให้ 20 ตอน ถ้ายอดมันขึ้นยันจบเรื่อง ก็เปิดให้ฟรีหมดอะ)
*ครบหมื่น แถม 100 ตอนไปอีก เอาเป็นว่าจำกัดวันด้วยแล้วกัน เพราะงี้ถ้าเกิดครบขึ้นมาแบบ 2 ปีต่อมาลืมแหง เอาถึง 1/4/2568 นะครับ ก็คือ 1 เมษายน*
แฟนเพจกดไลก์ได้ที่ ยักษาแปร | Facebook
บทที่ 56 อันชิง
เอาเรื่องอื่นไว้ก่อนเถอะ
แค่เรื่องผมยาวเครายาวอย่างเดียว หลินเสวียนก็รับไม่ได้แล้ว
“หรือว่าตู้เซฟใบนั้นจะไม่ใช่ของฉันกันแน่?”
หลินเสวียนยกมือขึ้นรองคางคิดหนัก……
หลังจากลองมาหลายรอบแล้ว เขาได้ลองใส่รหัส 8 หลักทุกตัวที่นึกออกไปหมดแล้ว
วันที่สำคัญ ๆ ฝันที่จำได้อย่าง 26240828, 0042 อะไรพวกนั้น…… ลองหมดแล้ว แม้กระทั่งลองพลิกกลับ ลองสลับตำแหน่งก็ลองแล้ว 【ในแง่ความเป็นไปได้ของวันที่ ไม่มีทางพลาดแน่นอน】
รหัสผ่านนี่นะ
ไม่มีใครจะตั้งรหัสที่ตัวเองจำไม่ได้หรอก
โดยเฉพาะรหัสที่เป็นตัวเลขล้วน ๆ ต้องมีความหมายพิเศษซ่อนอยู่แน่ ๆ
“ถ้าตู้เซฟใบนั้นไม่ใช่ของฉัน แต่เป็นของคนชื่อหลินเสวียนคนอื่นที่ชื่อซ้ำ ฉันคงไม่มีทางเดารหัสผ่านออกไปได้เลยในชีวิตนี้”
หลินเสวียนอ้าปากหวายอย่างเหนื่อยล้า
ช่วงนี้ทำงานหนักติดต่อกัน นอนดึก ความเหนื่อยล้าแบบนี้ไม่ใช่จะหายไปได้ด้วยการนอนแค่คืนสองคืน
เมื่อกี้หลินเสวียนยังพยายามนั่งตัวตรงเพื่อเรียบเรียงความคิดอยู่เลย
พอหยุดพักปุ๊บ ความง่วงก็ถาโถมเข้ามาเหมือนน้ำป่าไหลหลาก ตาหนักอึ้งจนลืมไม่ขึ้น:
“นอนก่อนดีกว่า”
“พรุ่งนี้ค่อยไปคิดต่อที่ทำงานก็ได้”
……
วันรุ่งขึ้น
ไปทำงานตามเวลา
ทั้งบริษัทอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุข เหมือนช่วงเทศกาลเลยทีเดียว
หลังจากงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของไรน์ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัท MX ก็เติบโตอย่างก้าวกระโดด เงินเดือนของทุกคนก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ บรรยากาศจึงรื่นเริงเบิกบาน เป็นภาพของความเจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริง
สองสามวันที่ผ่านมา พนักงานทุกคนต่างเบาใจ ต่างเฝ้ารอคอยงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ 【งานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ】ที่จะจัดขึ้นในคืนวันเสาร์ที่วิคตอเรียเฮาส์
วิคตอเรียเฮาส์เป็นหนึ่งในห้องจัดเลี้ยงหรูหราที่สุดของเมืองตงไห่ คำว่า “หนึ่งใน” นี่ไม่ธรรมดาเลยนะ เกือบจะติดอันดับสามได้แล้วล่ะ
จ้าวอิงจวิ้นจองห้องจัดเลี้ยงทั้งห้องเลยทีเดียว เพื่อเชิญพนักงานทุกคนของโครงการไรน์มาร่วมงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จสุดหรูหราในครั้งนี้
ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ นับว่าน่าชื่นชมจริง ๆ
แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
เพราะยอดขายล่วงหน้าของครีมบำรุงผิวรุ่นแรกของแบรนด์ไรน์ ทำให้บริษัท MX ทำยอดได้เกินเป้าของไตรมาสแรกปี 2023 ไปแล้ว……นี่ก็ยังไม่ถึงวันขึ้นปีใหม่เลยนะ กลับทำยอดไตรมาสแรกของปีหน้าได้เรียบร้อยแล้ว ต้องใช้คำว่า “โหด” จึงจะบรรยายได้ถูก
และหลินเสวียนที่ถูกขนานนามว่า “บิดาของแมวไรน์” ก็กลายเป็นคนดังในโลกออนไลน์ไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง
แต่ความสนใจนั้นก็ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเทียบกับแมวไรน์สุดน่ารัก หลินเสวียนเป็นใครก็ไม่สำคัญ ไม่มีใครสนใจหรอก เหมือนกับที่ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนออกแบบแมวคิตตี้นั่นแหละ
ขณะขึ้นลิฟต์
หลินเสวียนกดปุ่มชั้น 20
ฝ่ายสนับสนุนด้านหลังได้จัดห้องทำงานใหม่ของเขาเรียบร้อยแล้ว
ประตูลิฟต์เปิดออก
ชั้นนี้เงียบกว่าชั้น 17 เดิมมาก
โดยปกติจะมีเพียงพนักงานระดับล่างที่ขึ้นมาเพื่อรายงานงานให้กับรองผู้จัดการเท่านั้น
พอเดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง
มองดูข้าวของเครื่องใช้ตกแต่งและการจัดวางที่หรูหราต่าง ๆ
หลินเสวียนพอใจมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนาดพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้น มีการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการพบปะพูดคุยมากมาย เครื่องทำน้ำร้อน โต๊ะชงชา ต้นไม้ประดับ ฯลฯ จัดเตรียมไว้ครบครัน
ห้องพักผ่อนมีเตียงเพิ่มมาอีกหนึ่งเตียง พลาสติกหุ้มที่นอนอย่างดี ยังไม่ได้แกะออก ส่งกลิ่นคล้ายฟอร์มาลดีไฮด์ออกมา
“น่าจะเปิดระบายอากาศหน่อยนะ……”
หลินเสวียนเปิดหน้าต่างห้องพักผ่อนออกหมด แล้วปิดประตูห้อง นั่งลงบนเก้าอี้ผู้บริหารตัวใหม่ของตัวเอง
“สุดยอด”
เก้าอี้ผู้บริหารหนังแท้ นุ่มหลังกว่าเก้าอี้สรีระศาสตร์ที่เคยใช้เยอะเลย นอนลงไปนิดเดียวก็ง่วงแล้ว ของมันต้องมี
เมื่อคุ้นเคยกับของใหม่ ๆ แล้ว……
หลินเสวียนก็เอนตัวขึ้นตรง หมุนปากกา คิดถึงเรื่องในความฝันเมื่อคืน
บางครั้งเขาเองก็สงสัย
ตัวเองคิดมากไปหรือเปล่า?
ถ้าหากตู้เซฟนั้นจริง ๆ แล้วไม่ใช่ของตัวเอง ซีซีแค่เป็นโรคจิตเภทคิดไปเอง
งั้นก็
เรื่องพวกนี้อาจจะไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย เขาอาจจะเป็นแค่คนผ่านมาที่เข้ามาสร้างปัญหา
ถ้ามองจากเหตุผลแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แต่มีเบาะแสอย่างหนึ่งที่หลินเสวียนรู้สึกแปลก ๆ ไม่สามารถมองข้ามได้
“【เสียงของซีซี ฉันเคยได้ยินมาจากที่ไหนสักแห่งแน่ ๆ ;เสียงของฉัน ซีซีก็เคยได้ยินในความทรงจำเช่นกัน。】”
“สองเรื่องนี้เป็นเพียงความบังเอิญจริง ๆ เหรอ?”
หลินเสวียนไม่สามารถทำให้ตัวเองเชื่อได้
ถ้าแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่าเสียงคุ้น ๆ ก็ยังพอว่า แต่ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างรู้สึกว่าเสียงคุ้นเคย เรื่องนี้มันไม่ธรรมดาแน่ ๆ
จริง ๆ แล้วเรื่องของซีซีก็ยังดีอยู่ อย่างน้อยเธอก็รู้แน่ชัดว่า ผู้ชายวัยกลางคนเคราหนาที่เสียงเหมือนตัวเองหน้าตาเป็นยังไง
ส่วนตัวเอง……
แต่ฉันจำไม่ได้เลยว่าเคยได้ยินเสียงซีซีเมื่อไหร่ ที่ไหน และจากใคร
“ฉันได้ยินเสียงซีซีที่ไหนกันนะ……”
หลินเสวียนปิดตาลง ก่อนจะหยิบดินสอขึ้นมาหมุนเล่น
ภาพสุดท้ายในฝันเมื่อคืนลอยขึ้นมาในหัว ซีซีหันมามองแล้วยิ้มให้
เขาคิดว่านักฆ่าหญิงเย็นชาและโหดร้ายคนนี้จะไม่มีวันยิ้มให้ใคร
แต่ไม่คิดว่ายิ้มออกมาแล้วจะดูน่ารักขนาดนี้
ดวงตาเป็นประกายเหมือนพระจันทร์เสี้ยว น่ารักน่าเอ็นดู แถมยังมีรอยบุ๋มที่แก้มอีกสองข้าง เกินคาดจริง ๆ ถึงกับถูกใจหลินเสวียนเลยทีเดียว
ปลายนิ้วของหลินเสวียนหยุดหมุนดินสอ
ราวกับเป็นพรหมลิขิต……
เขาตั้งปลายดินสอขึ้น แล้วเริ่มวาดภาพร่างบนกระดาษ A4 บนโต๊ะ
แกร่ก แกร่ก……
แกร่ก แกร่ก……
เริ่มจากโครงหน้า กรามที่คมชัด ใบหน้ารูปไข่เล็กกลม เส้นผมที่อยู่ข้างหู ขนตาที่ยาว มุมปากที่ยิ้มแย้ม ดวงตาที่เป็นประกายเหมือนพระจันทร์เสี้ยว เต็มไปด้วยรอยยิ้ม รอยบุ๋มสองข้างที่แก้มปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน รายละเอียดต่าง ๆ บนภาพวาดค่อย ๆ สมบูรณ์ขึ้น ภาพซีซีหันมามองแล้วยิ้ม ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
หลินเสวียนวาดไปพลาง ก็ชมตัวเองไปพลางว่า ฝีมือยังไม่ตกเลยนะเนี่ย…ฝีมือการวาดภาพร่างยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเดิม
สมัยสอบเข้ามหาวิทยาลัย เขาเรียนสายศิลป์ ผลงานการวาดภาพร่างติดอันดับต้น ๆ ของทั้งจังหวัด
ก็ไม่รู้ว่าเพราะพรสวรรค์หรือความพยายามกันแน่
แต่ยังไงก็ตาม สมัยนั้นหลินเสวียนตั้งใจฝึกฝนการวาดภาพร่างอย่างหนัก กลางวันเรียนที่ห้องเรียนศิลปะ กลางคืนฝันถึงการวาดรูป ช่วงนั้นเขาแทบจะไม่ได้นอนเลย
แกร่ก แกร่ก
ภาพร่างของหลินเสวียนเสร็จสมบูรณ์แล้ว
หญิงสาวในภาพวาด ผมรวบเรียบม้วนไว้ด้านหลัง ศีรษะเล็กน่ารัก ดวงตาเรียวสวยราวเสี้ยวพระจันทร์ ใต้ดวงตาประดับด้วยกระฝ้าเล็ก ๆ ดูกลมกลืน ใบหน้าเล็กจิ๋ว ยิ้มหวานสดใส น่ารักจับใจจริง ๆ
หลินเสวียนวาดภาพสเก็ตช์นี้ได้อย่างประณีต เหมือนภาพถ่ายขาวดำ แต่กลับดูมีมิติมากกว่าภาพถ่ายเสียอีก
ปัง!
เสียงประตูห้องทำงานเปิดออกอย่างแรง
“คุณหลินเสวียน เอาบัตรเชิญงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จไปให้ศาสตราจารย์สวี่หยุนด้วย”
หลินเสวียนเงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง
เห็นจ้าวอิงจวิ้นยืนอยู่ตรงหน้า
ก็จริงอย่างที่คิด…ก็มีแต่เธอคนนี้แหละ ที่กล้าบุกเข้ามาในห้องทำงานของใครก็ได้โดยไม่ต้องเคาะประตู
“อ้อ ๆ ได้ครับ”
หลินเสวียนลุกขึ้นหยิบบัตรเชิญสีแดง
จ้าวอิงจวิ้นก้มลง
มองภาพสเก็ตช์บนโต๊ะ…แล้วพยักหน้า
“วาดได้สวยมากเลยนะคะ”
“ขอบคุณครับ”
“เหมือนกับตัวจริงแทบไม่ผิดเพี้ยนเลย”
???
หลินเสวียนถอยหลังไปก้าวหนึ่ง มองจ้าวอิงจวิ้น
“คุณรู้เหรอครับว่าผมวาดใคร”
จ้าวอิงจวิ้นเงยหน้าขึ้น
“คุณล้อเล่นใช่ไหมหลินเสวียน?”
“ในแวดวงธุรกิจเมืองตงไห่ ใครจะไม่รู้จักเธอ”
เธอยกนิ้วชี้ไปที่ภาพหญิงสาวน่ารักที่กำลังยิ้มหวานบนกระดาษ
“ที่คุณวาดอยู่นี่ก็คือลูกสาวของฉู่ซานเหอ…”
“เป็น ฉู่อันฉิงใช่ไหมล่ะ?”